เพลง โศกเศร้าเกินฉันทนไหว 悲しくてやりきれない(คานาชิกูเตะ ยาริกิเรไน)
ต้นฉบับ The Folk Crusaders1968
เรียบเรียง โคโตริงโกะ(Kotringo)
ฉันเสียใจ จนเกินทนไหว
ประกายฟ้าเสียดแทงใจฉัน
เสียใจ โศกเศร้า เกินฉันทนไหว
จะมีใครรับฟังฉันถึงเรื่องเศร้านี้
หมู่เมฆขาว ลอยละล่องเคลื่อนคล้อย
วันนี้เป็นอีกครั้ง ที่ฝันของฉันมีแต่อุปสรรคและความร้อนใจ
เสียใจ โศกเศร้า เกินฉันทนไหว
ไม่มีความโล่งใจ จากสิ่งที่ยังไม่ยอมสิ้นสุด
สีเขียวของป่าลึกโอบกอดฉัน
วันนี้เป็นอีกครั้ง ที่ฉันทอดถอนใจกับลำนำจากสายลม
เสียใจ โศกเศร้า เกินฉันทนไหว
ความเดือดดาลเกรี้ยวกราดจะดำเนินถึงพรุ่งนี้ไหม
จะมีใครไหม ที่รับฟังเรื่องเศร้านี้จากฉัน
この世界の片隅に โคโนเซไก โนะ คาตาซูมิ นิ หรือ ในมุมนี้ของโลก In This Corner Of The World
จากมังงะ ยอดเยี่ยมในเทศกาลสื่อศิลปะญี่ปุ่นปี 2009 ความยาว 3 เล่มจบ
โดย อ.โคโนะ ฟุมิโยะ(1968) ชาวฮิโรชิมาโดยกำเนิด ได้ตระหนักว่า
ผู้คนนอกฮิโรชิมะแทบไม่รู้เลยว่า ระเบิดปรมาณูในวันนั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนอย่างไร
สู่ภาพยนตร์จอเงิน กำกับโดย คาตาบุจิ สุนาโอะ
ค.ศ.2015 ภาพยนตร์อนิเมะได้จากการระดมทุน โดยใช้เวลาเพียงสัปดาห์เศษ ผ่านเว็บไซต์ makuake
เป้าหมายอยู่ที่ 20 ล้านเยน(6 ล้านบาท) และได้เงินเกินเป้ามาถึง 39 ล้านเยน(12 ล้านบาท) จากผู้สนับสนุนกว่า 3,000 คน
คณะจัดทำเริ่มระดมทุนอีกครั้งหลังหนังเข้าฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว เพื่อหาทุน 10 ล้านเยน(3 ล้านบาท)
สำหรับส่งหนังไปฉายต่างประเทศทั่วโลก พร้อมผู้กำกับที่ต้องการเดินทางไปดูว่าคน ในแต่ละมุมของโลก
รู้สึกกับหนังต่างกันอย่างไร การระดมทุนสำเร็จตามเป้าในเวลาเพียง 1 วัน มีผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นถึง 32 ล้านเยน(10 ล้านบาท)
เพื่อเป็นการขอบคุณ หลังจบเอนด์เครดิตแรกซึ่งเป็นรายชื่อของทีมงานผู้สร้างแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีเอนด์เครดิตที่ 2 ซึ่งเป็นรายชื่อของผู้ที่ร่วมกันสนับสนุนจนเกิดเป็นผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาได้
และขอรับรองว่าคุณจะต้องนั่งดูจนจบอย่างแน่นอน เพราะหนังได้เล่าบทส่งท้าย ต่อจากเรื่องหลักให้ดูกันเพลินๆอีกด้วย
เกร็ดประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นซึ่งน้อยคนจะรู้ เช่น
การเปลี่ยนมาใช้เสียงผู้ประกาศหญิงในเสียงประกาศต่างๆจากทางการ
ในช่วงหลังญี่ปุ่นแพ้สงคราม เพื่อลดความหดหู่ของประชาชน
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้หลายอย่างจำเป็นต้องถูกตัดออกไปจากภาพยนตร์ฉบับที่ฉายโรง ด้วยเวลาไม่อำนวย
แต่ผกก.อยากใส่ไว้ในตัวภาพยนตร์ฉบับเต็ม อาจเป็นในการฉายอีกรอบ หรือลงแผ่นที่จะวางขายในอนาคต
ฉาก ซึสึคุยกับริน ปรากฏในตย. แต่ตัดออกจากตัวหนัง
แม้เริ่มระดมทุนกันในช่วงปี 2015 และเข้าฉายในปี 2016
ความจริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มวางแผนกันเมื่อ 6 ปีก่อน คาตาบุจิเล่าว่า
ไม่ช้าไม่นานหลังจากเริ่มต้นขั้นตอนการผลิตภาพยนตร์
ค.ศ.2011 มีนาคม เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในภูมิภาคโทโฮคุ(ทางอีสานของเกาะฮอนชู)
เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำลายสุสานครอบครัวของโปรดิวเซอร์ มารุยามะ มาซาโอะ เขาจึงรู้สึกว่า
แม้ในปัจจุบัน คนญี่ปุ่นจะเหลือคนที่มีความทรงจำเกี่ยวกับสงครามไม่มากนัก
แต่พวกเขาล้วนแต่เคยผ่านประสบการณ์สูญเสียที่เจ็บปวดไม่แพ้สงคราม
ประสบการณ์ที่ทำให้ชีวิตปกติธรรมดาของพวกเขามีอันต้องพลิกผันไป
ประจวบเหมาะกับในระหว่างที่เขากำลังค้นคว้าข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในภาพยนตร์ เขาได้ทราบว่าในยุคนั้น
ผู้คนต่างช่วยเหลือกัน แบ่งปันอาหาร ที่พัก ที่หลบภัยให้แก่กัน
เขารู้สึกซาบซึ้งและตระหนักว่า สิ่งที่เราทำให้กันในวันนั้นเมื่อ 70 ปีก่อน
ไม่ต่างอะไรกับที่เราช่วยเหลือกันในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้
ปี 1945 ไม่ได้ห่างไกลจากเราอย่างที่คิด และมนุษยชาติยังคงมีความหวังในตัวของกันและกัน
แม้ในยามที่โลกที่ไม่น่าอยู่ เขาจึงอยากจะนำเสนอความรู้สึกนี้ออกมาผ่านทางภาพยนตร์
หนังสามารถคว้ารางวัลจากเวทีประกวดต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่นมาแล้วมากถึง 22 รางวัล
ตั้งแต่รางวัลภาพยนตร์เพื่อสันติภาพ จากเทศกาลภาพยนตร์ฮิโรชิมะ
รางวัลสาขานักแสดงนำหญิง ผู้กำกับ เพลงประกอบ และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากหลายเวที
ทั้งเทศกาลภาพยนตร์โยโกฮามะ, ไมนิจิฟิล์มอวอร์ด, โตเกียวสปอร์ตฟิล์มอวอร์ด,
เทศกาลโอซาก้าซีเนมา, อินเตอร์เน็ตฟิล์มอวอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย
ทำรายได้ไปแล้วกว่า 1,000 ล้านเยน
แผนที่ ย่านเอบะ อ.เมืองฮิโรชิมา บ้านเกิดซึสึ
แผนที่ อ.เมืองฮิโรชิมา ชั้นใน
แผนที่ อำเภอ คุเระ
แผนที่จังหวัด ฮิโรชิมา
ยูราโนะ ซึสึ สาวฮิโรชิมา ครอบครัวทำสาหร่ายแผ่น อยู่ย่านเอบะ อ.เมืองฮิโรชิมา
รัศมีระเบิดปรมาณู ไม่ถึงบ้านซึสึ ที่เอบะ
มีพี่น้องสามคน
โยอิจิ คนโตพี่ชาย ถูกเกณฑ์ทหารไม่ได้กลับมา ซุมิว่าคงไปติดเกาะทางใต้(อินโดจีน)แล้วแต่งกับจระเข้
(สงสัยเปลี่ยนแซ่เป็น โกโบริ มาแต่งกับอังศุมาริน)
ซุมิ น้องสาวคนสุดท้อง รักชอบกับทหารเรือในที่ทำงาน แต่เสียชีวิตเพราะอาบกัมมันตรังสี ตอนตามหาแม่
พระนาง พบรักกันตั้งยังเด็ก แต่นางเอกจำไม่ได้ว่า พระเอกคือคนที่อยู่ในตะกร้าของยักษ์ และจำได้ว่านางเอกมีไฝ
มิซึฮาร่า เท็ตสึ ชอบพอกับ ซึสึ ตั้งแต่ยังเด็กแต่ไม่กล้าเผยความใน ภายหลังเป็นทหารเรือประจำเรือ อาโอบะ
มีเพียงภาพวาดจากซึสึ ที่วาดจากความรู้สึกถึงคลื่นทะเลเหมือนกระต่ายโดดของเท็ตสึ
ซึสึอายุ 18 ย่าง 19 โฮโจ ชูซาคุ พระเอกกับพ่อมาสู่ขอตามประเพณี ย้ายไปอยู่คุเระ อู่ต่อเรือสำคัญของญี่ปุ่น
เพราะแม่ที่บ้านโฮโจ ขาไม่ค่อยดี ทำงานบ้านลำบาก และพระเอกตัดใจจาก ริน นางโลมโคมแดง
ริน คือเด็กที่แอบบนเพดาน บ้านยายซึสึ โดยซึสึให้แตงโมและกิโมโนเป็นของขวัญ รินจำเรื่องนี้ได้ดี
เหตุการณ์ในหนังเล่าผ่านมุมมองของนางเอก ที่รักการวาดรูป ทำให้ความรุนแรงในเนื้อหาดูเบาลงไปมาก
ช่วงห้าปีจนถึงสิ้นสงคราม ชีวิตนางเอกเก่งบวกเฮง เพราะเตรียมตัวในทุกๆด้านเพื่ออยู่รอด
สมัยนั้นหญิงชายมีหน้าที่ต้องทำอย่างชัดเจน และฝึกตั้งแต่เล็กให้รับผิดชอบงานต่างๆได้
หญิงไม่เป็นงานบ้าน ร่างกายอ่อนแอ หากินไม่เป็น ยากที่จะมีคนมาสู่ขอ เพราะภาระแต่ละบ้านมีไม่น้อย
ย่อมต้องหาคนมาแบ่งเบาภาระ และเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพ ชายต้องทำงานหนักหรือถูกเกณฑ์ไปรบได้ทุกเมื่อ
ภาวะขาดแคลนอาหาร เพราะเกณฑ์คนไปผลิตยุทธปัจจัย ทำให้การถนอมอาหารจำเป็นอย่างมาก
ส่วนสินค้าในตลาดมืดจากไต้หวันอาณานิคมเก่า ผ่านทางริวกิว เป็นเส้นทางเดินเรือแต่โบราณ
แม้นางเอกต้องประสบเคราะซ้ำกรรมซัดคงท้อแท้ แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวทำให้ยืนหยัดได้อีกครั้ง
แม้แต่ตอนที่ฟังวิทยุยอมแพ้สงคราม นางเอกยังไม่อยากยอมรับ เพราะคนที่ตัดสินใจไม่ได้เป็นตัวแทนคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ
ยอมแพ้ได้ยังไงกัน ตรงนี้มีอยู่ตั้งห้าคนที่ยังสู้ได้
ในมุมมองของคนโดนกระทำน่าสงสารอย่างยิ่ง เพราะไม่ได้ก่อเหตุ
ฟ้าแลปตอนกลางวันที่คุเระ คือฟ้าถล่มที่ฮิโรชิมา คนรู้ว่ามีระเบิดรุ่นใหม่มาทิ้ง แต่ไม่คิดว่าจะร้ายแรงถึงเพียงนี้
ผู้คนสูญหายนับหมื่นนับแสนชั่วพริบตา ส่วนคนที่ออกตามหาต้องตายเพราะกัมมันตรังสี ภายในไม่กี่เดือน
รวมทั้งคนที่รีบกลับมาเยี่ยมญาติที่ฮิโรชิมา อยู่ได้ไม่กี่ปี แต่บางคนอยู่ได้เป็นสิบปี
จนชั่วคนที่สี่ คนฮิโรชิมา ถึงไม่มีพิษตกค้างจากกัมมันตรังสี เป็นความเจ็บแค้นของคนพื้นที่ที่คนนอกยากจะเข้าใจ
ศูนย์แสดงสินค้าฮิโระชิมะ หรือ โดมปรมาณู ก่อนโดนระเบิด
ฮิโรชิมา กับคุเระ เป็นเมืองแม่ของกองทัพเรือญี่ปุ่น การไม่จมคุเระ อาจเพราะต้องการเก็บไว้เป็นอู่ต่อเรือ
เพราะยังมีศึกเกาหลี โซเวียตรออยู่ การสั่งสอนจากลุงแซมทำให้ฮิโรฮิโตะยอมจำนนเป็นพันธมิตร ยอมอยู่ทัพหน้า
เหมือนที่ทำกับเกาหลี จีนแดง ไต้หวัน ที่ให้ไปรับกระสุนแทนคนญี่ปุ่น อย่างที่ขึ้นบกชุมพรเป็นต้น
หลังจากทัพเรือปลดประจำการ เป็นกองกำลังป้องกันตนเอง พระเอกกับนางเอกตั้งใจเริ่มชีวิตใหม่ที่คุเระ
เมืองที่ขุนเขาทั้งเก้าปกป้อง พร้อมกับอุปการะเด็กกำพร้าจากฮิโรชิมา
ผ่านไปไม่นาน นางเอกกับสาวน้อย ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตามอัตภาพ
เพราะได้หมอแบล็ดแจ็ค สุดยอดศัลยแพทย์จากโลกมืด มารักษาและมอบไซโคกันให้นางเอก
จากนี้ไปถ้ามีศัตรูมาแหยมคุเระ หรือ ฮิโรชิมาอีก ซึสึต้องปกป้องได้แน่
ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ
In This Corner Of The World ณ มุมเล็กๆของโลกที่เราอยู่ด้วยกัน
เพลง โศกเศร้าเกินฉันทนไหว 悲しくてやりきれない(คานาชิกูเตะ ยาริกิเรไน)
ต้นฉบับ The Folk Crusaders1968
เรียบเรียง โคโตริงโกะ(Kotringo)
ฉันเสียใจ จนเกินทนไหว
ประกายฟ้าเสียดแทงใจฉัน
เสียใจ โศกเศร้า เกินฉันทนไหว
จะมีใครรับฟังฉันถึงเรื่องเศร้านี้
หมู่เมฆขาว ลอยละล่องเคลื่อนคล้อย
วันนี้เป็นอีกครั้ง ที่ฝันของฉันมีแต่อุปสรรคและความร้อนใจ
เสียใจ โศกเศร้า เกินฉันทนไหว
ไม่มีความโล่งใจ จากสิ่งที่ยังไม่ยอมสิ้นสุด
สีเขียวของป่าลึกโอบกอดฉัน
วันนี้เป็นอีกครั้ง ที่ฉันทอดถอนใจกับลำนำจากสายลม
เสียใจ โศกเศร้า เกินฉันทนไหว
ความเดือดดาลเกรี้ยวกราดจะดำเนินถึงพรุ่งนี้ไหม
จะมีใครไหม ที่รับฟังเรื่องเศร้านี้จากฉัน
この世界の片隅に โคโนเซไก โนะ คาตาซูมิ นิ หรือ ในมุมนี้ของโลก In This Corner Of The World
จากมังงะ ยอดเยี่ยมในเทศกาลสื่อศิลปะญี่ปุ่นปี 2009 ความยาว 3 เล่มจบ
โดย อ.โคโนะ ฟุมิโยะ(1968) ชาวฮิโรชิมาโดยกำเนิด ได้ตระหนักว่า
ผู้คนนอกฮิโรชิมะแทบไม่รู้เลยว่า ระเบิดปรมาณูในวันนั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนอย่างไร
สู่ภาพยนตร์จอเงิน กำกับโดย คาตาบุจิ สุนาโอะ
ค.ศ.2015 ภาพยนตร์อนิเมะได้จากการระดมทุน โดยใช้เวลาเพียงสัปดาห์เศษ ผ่านเว็บไซต์ makuake
เป้าหมายอยู่ที่ 20 ล้านเยน(6 ล้านบาท) และได้เงินเกินเป้ามาถึง 39 ล้านเยน(12 ล้านบาท) จากผู้สนับสนุนกว่า 3,000 คน
คณะจัดทำเริ่มระดมทุนอีกครั้งหลังหนังเข้าฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว เพื่อหาทุน 10 ล้านเยน(3 ล้านบาท)
สำหรับส่งหนังไปฉายต่างประเทศทั่วโลก พร้อมผู้กำกับที่ต้องการเดินทางไปดูว่าคน ในแต่ละมุมของโลก
รู้สึกกับหนังต่างกันอย่างไร การระดมทุนสำเร็จตามเป้าในเวลาเพียง 1 วัน มีผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นถึง 32 ล้านเยน(10 ล้านบาท)
เพื่อเป็นการขอบคุณ หลังจบเอนด์เครดิตแรกซึ่งเป็นรายชื่อของทีมงานผู้สร้างแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีเอนด์เครดิตที่ 2 ซึ่งเป็นรายชื่อของผู้ที่ร่วมกันสนับสนุนจนเกิดเป็นผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาได้
และขอรับรองว่าคุณจะต้องนั่งดูจนจบอย่างแน่นอน เพราะหนังได้เล่าบทส่งท้าย ต่อจากเรื่องหลักให้ดูกันเพลินๆอีกด้วย
เกร็ดประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นซึ่งน้อยคนจะรู้ เช่น
การเปลี่ยนมาใช้เสียงผู้ประกาศหญิงในเสียงประกาศต่างๆจากทางการ
ในช่วงหลังญี่ปุ่นแพ้สงคราม เพื่อลดความหดหู่ของประชาชน
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้หลายอย่างจำเป็นต้องถูกตัดออกไปจากภาพยนตร์ฉบับที่ฉายโรง ด้วยเวลาไม่อำนวย
แต่ผกก.อยากใส่ไว้ในตัวภาพยนตร์ฉบับเต็ม อาจเป็นในการฉายอีกรอบ หรือลงแผ่นที่จะวางขายในอนาคต
ฉาก ซึสึคุยกับริน ปรากฏในตย. แต่ตัดออกจากตัวหนัง
แม้เริ่มระดมทุนกันในช่วงปี 2015 และเข้าฉายในปี 2016
ความจริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มวางแผนกันเมื่อ 6 ปีก่อน คาตาบุจิเล่าว่า
ไม่ช้าไม่นานหลังจากเริ่มต้นขั้นตอนการผลิตภาพยนตร์
ค.ศ.2011 มีนาคม เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในภูมิภาคโทโฮคุ(ทางอีสานของเกาะฮอนชู)
เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำลายสุสานครอบครัวของโปรดิวเซอร์ มารุยามะ มาซาโอะ เขาจึงรู้สึกว่า
แม้ในปัจจุบัน คนญี่ปุ่นจะเหลือคนที่มีความทรงจำเกี่ยวกับสงครามไม่มากนัก
แต่พวกเขาล้วนแต่เคยผ่านประสบการณ์สูญเสียที่เจ็บปวดไม่แพ้สงคราม
ประสบการณ์ที่ทำให้ชีวิตปกติธรรมดาของพวกเขามีอันต้องพลิกผันไป
ประจวบเหมาะกับในระหว่างที่เขากำลังค้นคว้าข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในภาพยนตร์ เขาได้ทราบว่าในยุคนั้น
ผู้คนต่างช่วยเหลือกัน แบ่งปันอาหาร ที่พัก ที่หลบภัยให้แก่กัน
เขารู้สึกซาบซึ้งและตระหนักว่า สิ่งที่เราทำให้กันในวันนั้นเมื่อ 70 ปีก่อน
ไม่ต่างอะไรกับที่เราช่วยเหลือกันในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้
ปี 1945 ไม่ได้ห่างไกลจากเราอย่างที่คิด และมนุษยชาติยังคงมีความหวังในตัวของกันและกัน
แม้ในยามที่โลกที่ไม่น่าอยู่ เขาจึงอยากจะนำเสนอความรู้สึกนี้ออกมาผ่านทางภาพยนตร์
หนังสามารถคว้ารางวัลจากเวทีประกวดต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่นมาแล้วมากถึง 22 รางวัล
ตั้งแต่รางวัลภาพยนตร์เพื่อสันติภาพ จากเทศกาลภาพยนตร์ฮิโรชิมะ
รางวัลสาขานักแสดงนำหญิง ผู้กำกับ เพลงประกอบ และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากหลายเวที
ทั้งเทศกาลภาพยนตร์โยโกฮามะ, ไมนิจิฟิล์มอวอร์ด, โตเกียวสปอร์ตฟิล์มอวอร์ด,
เทศกาลโอซาก้าซีเนมา, อินเตอร์เน็ตฟิล์มอวอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย
ทำรายได้ไปแล้วกว่า 1,000 ล้านเยน
แผนที่ ย่านเอบะ อ.เมืองฮิโรชิมา บ้านเกิดซึสึ
แผนที่ อ.เมืองฮิโรชิมา ชั้นใน
แผนที่ อำเภอ คุเระ
แผนที่จังหวัด ฮิโรชิมา
ยูราโนะ ซึสึ สาวฮิโรชิมา ครอบครัวทำสาหร่ายแผ่น อยู่ย่านเอบะ อ.เมืองฮิโรชิมา
รัศมีระเบิดปรมาณู ไม่ถึงบ้านซึสึ ที่เอบะ
มีพี่น้องสามคน
โยอิจิ คนโตพี่ชาย ถูกเกณฑ์ทหารไม่ได้กลับมา ซุมิว่าคงไปติดเกาะทางใต้(อินโดจีน)แล้วแต่งกับจระเข้
(สงสัยเปลี่ยนแซ่เป็น โกโบริ มาแต่งกับอังศุมาริน)
ซุมิ น้องสาวคนสุดท้อง รักชอบกับทหารเรือในที่ทำงาน แต่เสียชีวิตเพราะอาบกัมมันตรังสี ตอนตามหาแม่
พระนาง พบรักกันตั้งยังเด็ก แต่นางเอกจำไม่ได้ว่า พระเอกคือคนที่อยู่ในตะกร้าของยักษ์ และจำได้ว่านางเอกมีไฝ
มิซึฮาร่า เท็ตสึ ชอบพอกับ ซึสึ ตั้งแต่ยังเด็กแต่ไม่กล้าเผยความใน ภายหลังเป็นทหารเรือประจำเรือ อาโอบะ
มีเพียงภาพวาดจากซึสึ ที่วาดจากความรู้สึกถึงคลื่นทะเลเหมือนกระต่ายโดดของเท็ตสึ
ซึสึอายุ 18 ย่าง 19 โฮโจ ชูซาคุ พระเอกกับพ่อมาสู่ขอตามประเพณี ย้ายไปอยู่คุเระ อู่ต่อเรือสำคัญของญี่ปุ่น
เพราะแม่ที่บ้านโฮโจ ขาไม่ค่อยดี ทำงานบ้านลำบาก และพระเอกตัดใจจาก ริน นางโลมโคมแดง
ริน คือเด็กที่แอบบนเพดาน บ้านยายซึสึ โดยซึสึให้แตงโมและกิโมโนเป็นของขวัญ รินจำเรื่องนี้ได้ดี
เหตุการณ์ในหนังเล่าผ่านมุมมองของนางเอก ที่รักการวาดรูป ทำให้ความรุนแรงในเนื้อหาดูเบาลงไปมาก
ช่วงห้าปีจนถึงสิ้นสงคราม ชีวิตนางเอกเก่งบวกเฮง เพราะเตรียมตัวในทุกๆด้านเพื่ออยู่รอด
สมัยนั้นหญิงชายมีหน้าที่ต้องทำอย่างชัดเจน และฝึกตั้งแต่เล็กให้รับผิดชอบงานต่างๆได้
หญิงไม่เป็นงานบ้าน ร่างกายอ่อนแอ หากินไม่เป็น ยากที่จะมีคนมาสู่ขอ เพราะภาระแต่ละบ้านมีไม่น้อย
ย่อมต้องหาคนมาแบ่งเบาภาระ และเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพ ชายต้องทำงานหนักหรือถูกเกณฑ์ไปรบได้ทุกเมื่อ
ภาวะขาดแคลนอาหาร เพราะเกณฑ์คนไปผลิตยุทธปัจจัย ทำให้การถนอมอาหารจำเป็นอย่างมาก
ส่วนสินค้าในตลาดมืดจากไต้หวันอาณานิคมเก่า ผ่านทางริวกิว เป็นเส้นทางเดินเรือแต่โบราณ
แม้นางเอกต้องประสบเคราะซ้ำกรรมซัดคงท้อแท้ แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวทำให้ยืนหยัดได้อีกครั้ง
แม้แต่ตอนที่ฟังวิทยุยอมแพ้สงคราม นางเอกยังไม่อยากยอมรับ เพราะคนที่ตัดสินใจไม่ได้เป็นตัวแทนคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ
ยอมแพ้ได้ยังไงกัน ตรงนี้มีอยู่ตั้งห้าคนที่ยังสู้ได้
ในมุมมองของคนโดนกระทำน่าสงสารอย่างยิ่ง เพราะไม่ได้ก่อเหตุ
ฟ้าแลปตอนกลางวันที่คุเระ คือฟ้าถล่มที่ฮิโรชิมา คนรู้ว่ามีระเบิดรุ่นใหม่มาทิ้ง แต่ไม่คิดว่าจะร้ายแรงถึงเพียงนี้
ผู้คนสูญหายนับหมื่นนับแสนชั่วพริบตา ส่วนคนที่ออกตามหาต้องตายเพราะกัมมันตรังสี ภายในไม่กี่เดือน
รวมทั้งคนที่รีบกลับมาเยี่ยมญาติที่ฮิโรชิมา อยู่ได้ไม่กี่ปี แต่บางคนอยู่ได้เป็นสิบปี
จนชั่วคนที่สี่ คนฮิโรชิมา ถึงไม่มีพิษตกค้างจากกัมมันตรังสี เป็นความเจ็บแค้นของคนพื้นที่ที่คนนอกยากจะเข้าใจ
ศูนย์แสดงสินค้าฮิโระชิมะ หรือ โดมปรมาณู ก่อนโดนระเบิด
ฮิโรชิมา กับคุเระ เป็นเมืองแม่ของกองทัพเรือญี่ปุ่น การไม่จมคุเระ อาจเพราะต้องการเก็บไว้เป็นอู่ต่อเรือ
เพราะยังมีศึกเกาหลี โซเวียตรออยู่ การสั่งสอนจากลุงแซมทำให้ฮิโรฮิโตะยอมจำนนเป็นพันธมิตร ยอมอยู่ทัพหน้า
เหมือนที่ทำกับเกาหลี จีนแดง ไต้หวัน ที่ให้ไปรับกระสุนแทนคนญี่ปุ่น อย่างที่ขึ้นบกชุมพรเป็นต้น
หลังจากทัพเรือปลดประจำการ เป็นกองกำลังป้องกันตนเอง พระเอกกับนางเอกตั้งใจเริ่มชีวิตใหม่ที่คุเระ
เมืองที่ขุนเขาทั้งเก้าปกป้อง พร้อมกับอุปการะเด็กกำพร้าจากฮิโรชิมา
ผ่านไปไม่นาน นางเอกกับสาวน้อย ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตามอัตภาพ
เพราะได้หมอแบล็ดแจ็ค สุดยอดศัลยแพทย์จากโลกมืด มารักษาและมอบไซโคกันให้นางเอก
จากนี้ไปถ้ามีศัตรูมาแหยมคุเระ หรือ ฮิโรชิมาอีก ซึสึต้องปกป้องได้แน่
ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ