วันนี้เบาๆ มาศาลเจ้า สุมิโยชิ ไทฉะ ,,,ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ (Sumiyoshi Taisha) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 211 โดยเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าสามองค์ที่คุ้มครองการเดินทางทางทะเล ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวประมงและชาวเรือ
ศาลเจ้าแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบซูมิโยชิ-ซูคุริ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศาลเจ้าสุมิโยชิทั่วประเทศ โดยมีลักษณะเด่นคือหลังคาทรงหน้าจั่วที่ลาดชันและเสาที่เรียงรายเป็นระเบียบ
และนอกจากนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ การเก็บหินอีกด้วย ถ้าเก็บหินที่มีตัวอักษรสามตัว แล้วไปซื้อถุงจากที่วัดมาใส่จะเป็นสิริมงคลด้วยละ แต่ว่าสิริมงคลอะ ต้องเสียเงินด้วยนะ บอกเลย
เอาละเดินไปเดินมาผมก็พบว่ารองเท้าผมขาด และมันถูกใช้งานมานาน ซื้อมาจากไต้หวัน แล้วมาตายที่ญี่ปุ่น ผมเลยต้องรีบไปหารองเท้ามาด่วนเลย บอกเอาไว้ก่อนเลยว่าผมเอาของมาที่ญี่ปุ่นน้อยมากๆ เอามาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นและรองเท้า ผมก็เอามาแค่คู่เดียวคือคู่ที่พังนี้เหลาะ
ก่อนขึ้นเครื่องบินผมก็ได้แวะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่มา และใช้เงินที่เหลือให้หมด (จริงๆ ก็ใกล้จะหมด ) และรีบไปแลกตั่วรถไฟของญี่ปุ่นคืนเพราะว่าถ้าไม่คืน เขาก็ไม่คืนมัดจำให้นะจ๊ะ สรุปได้เหรียญกลับมาหยอดตู้น้ำเพียบเลย
สำหรับ ทริป 7 วัน ใน โอซาก้า (และพื้นที่ใกล้เคียง) ก็จบลงเพียงเท่านี้มีโอกาสจะมาเยี่ยมเยือนใหม่แน่นอน (ขอเก็บเงินก่อน) ขากลับก็มีเรื่องให้ต้องเสียเงินนิดหน่อย ถ้าว่างมาเขียนเล่าให้ฟัง และอาจจะเล่าเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับทริปการเดินทาง สำหรับซีรี่ย์นี้ จบแล้ว สวัสดีครับ
สวัสดี โอซาก้า day 7 : วันสุดท้าย เดินให้รองเท้าพังไปเลย
ศาลเจ้าแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบซูมิโยชิ-ซูคุริ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศาลเจ้าสุมิโยชิทั่วประเทศ โดยมีลักษณะเด่นคือหลังคาทรงหน้าจั่วที่ลาดชันและเสาที่เรียงรายเป็นระเบียบ
และนอกจากนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ การเก็บหินอีกด้วย ถ้าเก็บหินที่มีตัวอักษรสามตัว แล้วไปซื้อถุงจากที่วัดมาใส่จะเป็นสิริมงคลด้วยละ แต่ว่าสิริมงคลอะ ต้องเสียเงินด้วยนะ บอกเลย
เอาละเดินไปเดินมาผมก็พบว่ารองเท้าผมขาด และมันถูกใช้งานมานาน ซื้อมาจากไต้หวัน แล้วมาตายที่ญี่ปุ่น ผมเลยต้องรีบไปหารองเท้ามาด่วนเลย บอกเอาไว้ก่อนเลยว่าผมเอาของมาที่ญี่ปุ่นน้อยมากๆ เอามาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นและรองเท้า ผมก็เอามาแค่คู่เดียวคือคู่ที่พังนี้เหลาะ
ก่อนขึ้นเครื่องบินผมก็ได้แวะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่มา และใช้เงินที่เหลือให้หมด (จริงๆ ก็ใกล้จะหมด ) และรีบไปแลกตั่วรถไฟของญี่ปุ่นคืนเพราะว่าถ้าไม่คืน เขาก็ไม่คืนมัดจำให้นะจ๊ะ สรุปได้เหรียญกลับมาหยอดตู้น้ำเพียบเลย
สำหรับ ทริป 7 วัน ใน โอซาก้า (และพื้นที่ใกล้เคียง) ก็จบลงเพียงเท่านี้มีโอกาสจะมาเยี่ยมเยือนใหม่แน่นอน (ขอเก็บเงินก่อน) ขากลับก็มีเรื่องให้ต้องเสียเงินนิดหน่อย ถ้าว่างมาเขียนเล่าให้ฟัง และอาจจะเล่าเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับทริปการเดินทาง สำหรับซีรี่ย์นี้ จบแล้ว สวัสดีครับ