ฮอจุนได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับการแพทย์อันลือชื่อของประเทศเกาหลี เป็นหมอใจพระของคนยาก มีความเอื้ออารีกับผู้ป่วย ซึ่งในซีรีย์
คนดีที่โลกรอ หมอโฮจุน ที่ออกอากาศทางช่อง 3 เมื่อปี 2549 ได้นำเสนอชีวิตของชายหนุ่มที่ชอบต่อยตี เป็นนักเลงหัวไม้ ทำมาหากินกับการค้าขายของเถื่อน ใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่กว่า 20 ปี กระทั่งโชคชะตานำพาให้เจอกับหมอเทวดาชื่อดังที่มีวิชาแพทย์ล้ำลึก ฮอจุนเกิดความเลื่อมใสจึงฝากตัวเป็นศิษย์ มุมานะบากบั่นศึกษาวิชาแพทย์ ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการจนสำเร็จวิชาแพทย์และก้าวสู่การเป็นหมอหลวงในที่สุด
ฮอจุนเกิดในปลายรัชสมัยพระเจ้าจุงจงที่มีแดจังกึมเป็นหมอหลวงหญิงคนแรกในราชสำนักเกาหลี ตามประวัตินั้น แม้จะเกิดในครอบครัวทหารฐานะดี แต่เพราะเป็นลูกนอกกฎหมายของขุนนางชั้นสูง แม่เป็นเพียงชนชั้นต่ำ ทำให้ฮอจุนไม่ได้รับการส่งเสริมจากฝั่งพ่อเท่าที่ควร ส่วนทักษะทางการแพทย์ของเขาเป็นที่ยอมรับกันมากตั้งแต่อยู่ในช่วงต้นวัย 30 แต่ก็ไม่มีบันทึกว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจเรียนแพทย์ มีเพียงเอกสารที่ระบุว่าฮอจุนให้การรักษาแก่ขุนนางโชซอนก่อนจะได้เข้าไปทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งให้การรักษาครอบครัวเชื้อพระวงศ์ กระทั่งได้เป็นหมอหลวงประจำพระองค์พระเจ้าซอนโจเมื่ออายุได้ 37 ปี ในปี 1590 (ก่อนเกิดสงครามอิมจิน 2 ปี) ขณะที่หมอคนอื่นๆ กลัวหัวกุดจนไม่กล้าเสี่ยงรักษาโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษให้กับองค์รัชทายาทควางแฮ แต่ฮอจุนกลับถวายการรักษาจนหายเป็นที่พอพระทัยมาก จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางระดับ 3 ต่อมาปี 1596 ฮอจุนก็ได้รับมอบหมายให้เขียนตำรา
Dongui Bogam ที่ปัจจุบันยูเนสโกยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม พร้อมกับได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขุนนางระดับ 2 กระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าแพทย์ประจำราชสำนักในปี 1600 อย่างไรก็ดี เมื่อพระเจ้าซอนโจสวรรคตในปี 1608 ฮอจุนกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ปลงพระชนม์เพราะใช้ยาไม่ถูกต้อง จึงต้องถูกเนรเทศไปยังเมืองอียูกู (義州) ช่วงนี้เองที่ฮอจุนได้เขียน
Dongui Bogam จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1610 และถูกเรียกตัวกลับเข้ารับใช้ราชสำนักอีกครั้งหลังจากองค์รัชทายาทควางแฮเสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา ขณะที่
Dongui Bogam ก็ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณะในปี 1613
ส่วนฮออิมตามประวัติศาสตร์ก็เป็นหมอเซเลบไม่แพ้กัน เพียงแต่ถูกชื่อเสียงฮอจุนบดบังรัศมี ทั้งด้วยเรื่องราวของฮอจุนที่ถูกนำมาสร้างมากมาย พิพิธภัณฑ์โฮจุน (Heojun Museum) ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติให้กับเเพทย์ผู้นี้ก็มี แถมปัจจุบันใครเป็นหมอเก่งๆ ก็มักถูกเปรียบเปรยว่าเป็นฮอจุนกลับชาติมาเกิด ทำให้ฮออิมดังอยู่เงียบๆ แค่ในวงการแพทย์แผนตะวันออก ไม่เคยถูกหยิบยกมานำเสนอในภาคหนังหรือละครอย่างฮอจุน กระทั่งชื่อฮออิมถูกนำมาเป็นตัวละครหลักในซีรีย์
Live up to Your Name, Dr. Heo จึงทำให้เกิดการรับรู้ถึงการมีอยู่ของอัจฉริยบุคคลในยุคทองของวงการแพทย์เกาหลีอีกท่านหนึ่ง
แม้ไม่มีข้อมูลว่าฮอจุนและฮออิมในประวัติศาสตร์มีความสัมพันธ์กันอย่างไร แต่โดยส่วนตัวชอบไอเดียที่
Live up to Your Name, Dr. Heo จับสองหมอผู้ยิ่งใหญ่ร่วมยุคเดียวกันมาปรากฏตัวในจอทีวีร่วมกัน แถมนักแสดงทั้งคู่ยังเคยเป็นคู่แค้นข้ามชาติกันมาก่อนใน
The Great Queen Seondeok รวมถึงชอบที่ผู้เขียนบทดีไซน์ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เป็นไปในแบบเด็กเกรียนยุคโบราณที่กล้าท้าทายผู้ใหญ่ซึ่งเป็นถึงหมอหลวงมีบรรดาศักดิ์สูงในราชสำนัก แถมฮอจุนยังเป็นผู้บริหารหน่วยแพทย์ชุมชนแฮมินซอที่ฮออิมสังกัดอยู่
ฮอจุนเป็นหมอเก่ง หมอดี มือสะอาด เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ฮออิมยอมรับ แต่จะให้บอกว่าความสามารถฮอจุนเหนือกว่าตัวเองนั้น หัวเด็ดตีนขาดฮออิมไม่ยอมเด็ดขาด ถึงฮอจุนจะเป็นรุ่นพ่อรุ่นลุงก็เถอะ
ฮออิมกล้าต่อปากต่อคำฮอจุนอย่างคนทะนงในฝีมือของตน ไม่เกรงกลัวว่าฮอจุนจะคิดกับเขาอย่างไร ถึงฮอจุนจะรู้ว่าเขาหากินกับขุนนางในตอนกลางคืนฮออิมก็ไอด้อนแคร์ เขาให้เกียรติฮอจุนในฐานะผู้อาวุโสกว่า แต่แสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจที่ฮอจุนไม่ยอมโปรโมทส่งเสริมให้เขาเข้าไปทำงานในวัง ทำให้เขาติดแหง็กแค่ตำแหน่งชัมบงของแฮมินซอนนานถึง 10 ปี จนเป็นประเด็นบาดหมางใจกับฮอจุนเรื่อยมา และออกอาการหมั่นไส้เมื่อฮอจุนเป็นที่ชื่นชมของคนรุ่นหลัง (แถมยังมีงอนเด็ก อิจฉาฮอจุนเล็กๆ ที่แม้แต่ยอนอียังวิ่งโผเข้าไปกอดทันทีที่เห็นโดยไม่ยอมฟังฮออิมพูดจนจบ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนรักษาให้หายจากอาการป่วย)
ส่วนความแตกต่างระหว่างฮอจุนและฮออิมในฐานะหมอนั้น ฮอจุนเชี่ยวชาญการรักษาโรคด้วยสมุนไพร ขณะที่ฮออิมโดดเด่นเรื่องฝังเข็ม แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ซีรีย์
Live up to Your Name, Dr. Heo นำเสนอ ก็คือทัศนคติและคุณค่าของการเป็นหมอที่แท้จริง
ในซีรีย์
คนดีที่โลกรอ หมอโฮจุน บอกเล่าถึงชีวิตก่อนจะได้เป็นหมอหลวงของฮอจุนว่า ในช่วงที่กำลังจะถึงเวลาสอบแพทย์หลวง ระหว่างนั้นมีคนป่วยผู้ยากไร้ใกล้ตายมาขอให้ฮอจุนช่วยรักษา ซึ่งทำให้เขาต้องเลือกระหว่างการสอบที่จะทำให้เป็นหมอหลวง กับการรักษาผู้ป่วยตรงหน้าที่ต้องตายแน่นอนหากไม่ได้รับการรักษาทันการ แล้วฮอจุนก็เลือกรักษาคนป่วย ยินดีแลกโอกาสของตัวเองเพื่อช่วยให้อีกชีวิตได้ต่อลมหายใจยืนยาวออกไป
ส่วนพระเอกฮออิมของเราในซีรีย์
Live up to Your Name, Dr. Heo กลับเลือกไปรักษาพระราชาเพื่อโอกาสได้เป็นหมอหลวง แทนการรักษาเด็กน้อยที่อาการร่อแร่ตรงหน้า เลยต้องถูกกล่องเข็มสั่งสอนเพื่อให้เรียนรู้ถึงการเป็นแพทย์ที่แท้จริงว่า ฝีมืออันเหมือนพรสวรรค์ที่ฟ้าประทานให้นั้นมีไว้เพื่อช่วยเหลือคนอื่นไม่ใช่เพื่อตัวเอง โดยมีฮอจุนช่วยหนุนส่งฮออิมไปไกลๆ ผ่านลูกธนู 2 ดอกของลูกน้อง หลังรู้ว่าฮออิมมีกล่องเข็มไว้ในครอบครอง และรู้ถึงพลังวิเศษของกล่องเข็มนั้น
เมื่อทั้งคู่พบกันอีกครั้งขณะติดคุก ฮอจุนได้พูดอย่างรู้ทันความคิดฮออิมถึงความพออกพอใจกับโลกใหม่จนไม่อยากกลับมาอยู่ในโลกเก่า และพยายามดึงสติฮออิมให้มองเห็นความผิดพลาดของตัวเองในการมีทัศนคติที่ผิดเพี้ยน ขณะที่ฮออิมก็อยากพิสูจน์ให้ดูว่าโลกใหม่ใบนั้นจะพาเขาหลุดพ้นจากความโสมมของสังคมที่ตีค่าความเป็นคนที่ชนชั้น และไม่สามารถให้อะไรกับเขาได้เลยแม้จะมีความสามารถมากเพียงใดก็ตาม แต่หลังจากได้รู้ซึ้งถึงความสุขของการเป็นหมอที่แท้จริง และเข้าใจถึงสิ่งที่ฮอจุนพยายามให้เขามองเห็นถึงคุณค่าและความภาคภูมิใจของหมอที่ได้ใช้ทักษะวิชาชีพในการช่วยเหลือผู้คนไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัว แถมยังเป็นฮอจุนที่ถวายความมั่นใจให้กับฝ่าบาทที่จะให้ฮออิมรักษาพระอาการหูอื้อ ฮออิมก็ไร้อคติกับฮอจุนอย่างสิ้นเชิง แต่ยังไม่วายบลัฟกันไปมาถึงความเก่งของตัวเอง ซึ่งโดยส่วนตัวชื่นชอบการต่อปากต่อคำระหว่าง “เจ้าหมอนั่น” กับ “ตาแก่นั่น” ที่นอกจากยังคงไม่มีการอ่อนข้อให้แก่กัน แต่การใช้ศัพท์แสงยังสะท้อนถึงวัยที่อยู่กันคนละเจเนอเรชัน แถมมีจิกกัดเรื่องระบบการให้รางวัลซึ่งยังคงให้ความสำคัญกับชนชั้นอีกด้วย
ฮออิม: วันนี้ข้าได้เลื่อนตำแหน่งไปถึง 6 ขั้น พวกเขาอยากให้ข้าไปทำงานในวัง
ฮอจุน: แล้วไยเจ้าต้องมีสีหน้าเช่นนั้นเล่า เจ้าอยากประสบความสำเร็จและทำงานที่นี่มาตลอด
ฮออิม: พวกเขาให้ตำแหน่งนี้แก่ข้า เพียงเพราะข้ารักษาอาการประชวรเพียงน้อยนิดให้ฝ่าบาท ไม่ใช่เพราะข้าช่วยชีวิตคนในสงคราม
ฮอจุน: เจ้าน่าจะถูกโบยเสียหน่อย แค่อาการประชวรเล็กน้อยงั้นรึ
ฮออิม: แล้วทำไมไม่บอกพวกเขาไปล่ะ
ฮอจุน: รางวัลอันสำคัญไม่ควรจะนำมามอบให้อย่างเสียเปล่า ของขวัญอันแสนวิเศษเดินทางมาหาเจ้าในยามที่เจ้าต้องการมันเป็นอย่างยิ่ง นั่นแหละเรียกว่ารางวัลที่ยิ่งใหญ่
ฮออิม: แต่ว่า...อีกหน่อยข้าก็ตามท่านทันแล้วนะ
ฮอจุน: ข้ายังมีตำแหน่งสูงกว่าเจ้าอีก 3 ขั้น เจ้ายังคงไม่รู้ ลูกหลานของเราในยุคหลังนับถือข้าเป็นที่สุด พวกเขากล่าวว่าข้านั้นเยี่ยมยอดที่สุด ข้าคือหมออันดับหนึ่ง
ฮออิม : แหม...ท่านน่ะเชยไปแล้ว พวกเขาใช้คำว่า "สุดยอด เจ๋งโคตร ยกนิ้วให้เลย"
ฮอจุน: อะไรนะ?
ฮออิม: นี่แหละความแตกต่างของคนแต่ละรุ่น
Live up to Your name, Dr.Heo นับได้ว่าเป็นซีรีย์ที่มีคุณค่าเรื่องหนึ่งแห่งปี มีความน่าสนใจในพลอตที่ให้ตัวละครข้ามมิติไปมาได้มากกว่า 1 คน ความรักที่ไม่มีบทเง้างอนน่ารำคาญ มีการนำเสนอแก่นเรื่องผ่านการเชื่อมโยงมิติเก่าใหม่และวางบุคลิกตัวละครที่ดูได้อย่างสนุกสนาน มีประเด็นน่าขบคิด แม้จะมีดราม่าเข้มข้นในช่วงกลางเรื่อง แต่ตอนจบที่ให้อารมณ์ feel good ก็ทำให้ติ่งคิมนัมกิลวาดหวังว่าจะได้เห็นบทบาทดีๆ ของเขาในเรื่องอื่นๆ ต่อไป
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-ฮออิมในประวัติศาสตร์…ราชาหมอฝังเข็มแห่งโชซอน
https://ppantip.com/topic/36868286
----------------------------------------
ไหนๆ ก็กล่าวถึงคนในประวัติศาสตร์ จึงอยากเขียนถึงอีกสองคนที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ที่ตามมาหลังมีบทบาทใน
Live up to Your Name, Dr. Heo อีกเล็กน้อย
พระเจ้าซอนโจ (선조, ค.ศ.1567-1608)
กษัตริย์องค์ที่ 14 ของราชวงศ์โชซอน ในรัชสมัยของพระองค์ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของการแพทย์โชซอน เพราะมีทั้งฮอจุนและฮออิมที่นับเป็นอัจฉริยบุคคลของวงการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีวีรบุรุษกู้ชาติและผู้มีความสามารถมากมาย แต่พระเจ้าซอนโจไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจากกรณีที่หนีภัยสงคราม ละเลยหน้าที่ในฐานะผู้นำประเทศ สร้างความแค้นเคืองให้ชาวบ้านจนต้องเผาพระราชวังเคียงบก (EP 11) และยังถูกญี่ปุ่นเผาวังจนวอดวายในสงครามอิมจิน ต่อมาหลังเสด็จกลับฮันยาง พระองค์เสด็จไปประทับที่พระราชวังท็อกซู (องค์รัชทายาทควางแฮทรงสวมมงกุฎกษัตริย์ที่นี่ในปี 1608) ส่วนพระราชวังเคียงบกนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมและสร้างขึ้นใหม่ตามแบบฉบับเดิมในรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิโกจง (ค.ศ.1852-1919) ซึ่งเป็นปฐมจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเกาหลี แต่นักประวัติศาสตร์ถือพระองค์เป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายหลังจากจักรวรรดิญี่ปุ่นล้มล้างสถาบันกษัตริย์ของเกาหลีลงในปี 1910 และควบคุมเชื้อสายราชวงศ์ทั้งหมดไปญี่ปุน
แม่ทัพซายากะหรือคิมชุงซอน (김충선, ค.ศ.1571–1642)
“เราแค่ได้เลือกใช้ชีวิตที่เหมาะกับเรามากที่สุด” นั่นคือเหตุผลที่แม่ทัพซายากะแห่งกองทัพซามูไรของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ บอกกับฮออิมใน
Live up to Your Name, Dr. Heo (EP16) ถึงการตัดสินใจย้ายข้างมาอยู่ฝ่ายโชซอนระหว่างเกิดสงครามอิมจิน โดยซายากะตัวจริงในประวัติศาสตร์ได้เขียนหนังสือชื่อ
โมฮาทังซุลเลกา (모하당술회가) ที่เล่าเกี่ยวกับความผันแปรในชีวิตไว้ว่า ฮิเดโยชิได้จับสมาชิกครอบครัวของเขาขังไว้และขู่ให้เขามาร่วมทัพสงครามกับฝ่ายญี่ปุ่น เขาจึงจำยอมเข้าร่วม แต่สุดท้ายเขาก็โอนสัญชาติมาเป็นคนเกาหลีและได้ชื่อว่าคิมชุงซอน (มีความหมายว่า ความจงรักภักดี) ซายากะเดินทางถึงโชซอนในเดือนเมษายน 1592 (เดือนเดียวกับการเปิดฉากของซีรีย์) หลังสงครามอิมจินเขายังคงรับราชการทหารให้กับโชซอน และร่วมในศึกต่อต้านการรุกรานของแมนจูในปี 1636 เขายังได้คิดค้นทำดินระเบิดและปืนให้กับเกาหลีและเป็นช่างฝีมือที่มีชื่อเสียง ต่อมาเกษียณราชการโดยย้ายไปอยู่เมืองแทกู (대구) ปัจจุบันได้มีการสร้าง Nokdong Seowon (녹동서원) ที่แทกู เพื่อเป็นเกียรติแก่คิมชุงซอน และได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของคนญี่ปุ่นที่เดินทางไปเกาหลีอีกด้วย
เครดิตภาพ:
https://commons.wikimedia.org,
http://www.newsfreezone.co.kr
คำแปลภาษาไทย: อาจุมม่าอิง, TanTan, GwiPin
Deserving of the Name – ฮอจุน VS ฮออิม มวยคู่เอกบนสังเวียนแพทย์โชซอน [โรงหมอแฮมินซอ#08-สปอยล์หนักมาก]
ฮอจุนได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับการแพทย์อันลือชื่อของประเทศเกาหลี เป็นหมอใจพระของคนยาก มีความเอื้ออารีกับผู้ป่วย ซึ่งในซีรีย์ คนดีที่โลกรอ หมอโฮจุน ที่ออกอากาศทางช่อง 3 เมื่อปี 2549 ได้นำเสนอชีวิตของชายหนุ่มที่ชอบต่อยตี เป็นนักเลงหัวไม้ ทำมาหากินกับการค้าขายของเถื่อน ใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่กว่า 20 ปี กระทั่งโชคชะตานำพาให้เจอกับหมอเทวดาชื่อดังที่มีวิชาแพทย์ล้ำลึก ฮอจุนเกิดความเลื่อมใสจึงฝากตัวเป็นศิษย์ มุมานะบากบั่นศึกษาวิชาแพทย์ ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการจนสำเร็จวิชาแพทย์และก้าวสู่การเป็นหมอหลวงในที่สุด
ฮอจุนเกิดในปลายรัชสมัยพระเจ้าจุงจงที่มีแดจังกึมเป็นหมอหลวงหญิงคนแรกในราชสำนักเกาหลี ตามประวัตินั้น แม้จะเกิดในครอบครัวทหารฐานะดี แต่เพราะเป็นลูกนอกกฎหมายของขุนนางชั้นสูง แม่เป็นเพียงชนชั้นต่ำ ทำให้ฮอจุนไม่ได้รับการส่งเสริมจากฝั่งพ่อเท่าที่ควร ส่วนทักษะทางการแพทย์ของเขาเป็นที่ยอมรับกันมากตั้งแต่อยู่ในช่วงต้นวัย 30 แต่ก็ไม่มีบันทึกว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจเรียนแพทย์ มีเพียงเอกสารที่ระบุว่าฮอจุนให้การรักษาแก่ขุนนางโชซอนก่อนจะได้เข้าไปทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งให้การรักษาครอบครัวเชื้อพระวงศ์ กระทั่งได้เป็นหมอหลวงประจำพระองค์พระเจ้าซอนโจเมื่ออายุได้ 37 ปี ในปี 1590 (ก่อนเกิดสงครามอิมจิน 2 ปี) ขณะที่หมอคนอื่นๆ กลัวหัวกุดจนไม่กล้าเสี่ยงรักษาโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษให้กับองค์รัชทายาทควางแฮ แต่ฮอจุนกลับถวายการรักษาจนหายเป็นที่พอพระทัยมาก จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางระดับ 3 ต่อมาปี 1596 ฮอจุนก็ได้รับมอบหมายให้เขียนตำรา Dongui Bogam ที่ปัจจุบันยูเนสโกยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม พร้อมกับได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขุนนางระดับ 2 กระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าแพทย์ประจำราชสำนักในปี 1600 อย่างไรก็ดี เมื่อพระเจ้าซอนโจสวรรคตในปี 1608 ฮอจุนกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ปลงพระชนม์เพราะใช้ยาไม่ถูกต้อง จึงต้องถูกเนรเทศไปยังเมืองอียูกู (義州) ช่วงนี้เองที่ฮอจุนได้เขียน Dongui Bogam จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1610 และถูกเรียกตัวกลับเข้ารับใช้ราชสำนักอีกครั้งหลังจากองค์รัชทายาทควางแฮเสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา ขณะที่ Dongui Bogam ก็ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณะในปี 1613
ส่วนฮออิมตามประวัติศาสตร์ก็เป็นหมอเซเลบไม่แพ้กัน เพียงแต่ถูกชื่อเสียงฮอจุนบดบังรัศมี ทั้งด้วยเรื่องราวของฮอจุนที่ถูกนำมาสร้างมากมาย พิพิธภัณฑ์โฮจุน (Heojun Museum) ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติให้กับเเพทย์ผู้นี้ก็มี แถมปัจจุบันใครเป็นหมอเก่งๆ ก็มักถูกเปรียบเปรยว่าเป็นฮอจุนกลับชาติมาเกิด ทำให้ฮออิมดังอยู่เงียบๆ แค่ในวงการแพทย์แผนตะวันออก ไม่เคยถูกหยิบยกมานำเสนอในภาคหนังหรือละครอย่างฮอจุน กระทั่งชื่อฮออิมถูกนำมาเป็นตัวละครหลักในซีรีย์ Live up to Your Name, Dr. Heo จึงทำให้เกิดการรับรู้ถึงการมีอยู่ของอัจฉริยบุคคลในยุคทองของวงการแพทย์เกาหลีอีกท่านหนึ่ง
แม้ไม่มีข้อมูลว่าฮอจุนและฮออิมในประวัติศาสตร์มีความสัมพันธ์กันอย่างไร แต่โดยส่วนตัวชอบไอเดียที่ Live up to Your Name, Dr. Heo จับสองหมอผู้ยิ่งใหญ่ร่วมยุคเดียวกันมาปรากฏตัวในจอทีวีร่วมกัน แถมนักแสดงทั้งคู่ยังเคยเป็นคู่แค้นข้ามชาติกันมาก่อนใน The Great Queen Seondeok รวมถึงชอบที่ผู้เขียนบทดีไซน์ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เป็นไปในแบบเด็กเกรียนยุคโบราณที่กล้าท้าทายผู้ใหญ่ซึ่งเป็นถึงหมอหลวงมีบรรดาศักดิ์สูงในราชสำนัก แถมฮอจุนยังเป็นผู้บริหารหน่วยแพทย์ชุมชนแฮมินซอที่ฮออิมสังกัดอยู่
ฮอจุนเป็นหมอเก่ง หมอดี มือสะอาด เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ฮออิมยอมรับ แต่จะให้บอกว่าความสามารถฮอจุนเหนือกว่าตัวเองนั้น หัวเด็ดตีนขาดฮออิมไม่ยอมเด็ดขาด ถึงฮอจุนจะเป็นรุ่นพ่อรุ่นลุงก็เถอะ
ฮออิมกล้าต่อปากต่อคำฮอจุนอย่างคนทะนงในฝีมือของตน ไม่เกรงกลัวว่าฮอจุนจะคิดกับเขาอย่างไร ถึงฮอจุนจะรู้ว่าเขาหากินกับขุนนางในตอนกลางคืนฮออิมก็ไอด้อนแคร์ เขาให้เกียรติฮอจุนในฐานะผู้อาวุโสกว่า แต่แสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจที่ฮอจุนไม่ยอมโปรโมทส่งเสริมให้เขาเข้าไปทำงานในวัง ทำให้เขาติดแหง็กแค่ตำแหน่งชัมบงของแฮมินซอนนานถึง 10 ปี จนเป็นประเด็นบาดหมางใจกับฮอจุนเรื่อยมา และออกอาการหมั่นไส้เมื่อฮอจุนเป็นที่ชื่นชมของคนรุ่นหลัง (แถมยังมีงอนเด็ก อิจฉาฮอจุนเล็กๆ ที่แม้แต่ยอนอียังวิ่งโผเข้าไปกอดทันทีที่เห็นโดยไม่ยอมฟังฮออิมพูดจนจบ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนรักษาให้หายจากอาการป่วย)
ส่วนความแตกต่างระหว่างฮอจุนและฮออิมในฐานะหมอนั้น ฮอจุนเชี่ยวชาญการรักษาโรคด้วยสมุนไพร ขณะที่ฮออิมโดดเด่นเรื่องฝังเข็ม แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ซีรีย์ Live up to Your Name, Dr. Heo นำเสนอ ก็คือทัศนคติและคุณค่าของการเป็นหมอที่แท้จริง
ในซีรีย์ คนดีที่โลกรอ หมอโฮจุน บอกเล่าถึงชีวิตก่อนจะได้เป็นหมอหลวงของฮอจุนว่า ในช่วงที่กำลังจะถึงเวลาสอบแพทย์หลวง ระหว่างนั้นมีคนป่วยผู้ยากไร้ใกล้ตายมาขอให้ฮอจุนช่วยรักษา ซึ่งทำให้เขาต้องเลือกระหว่างการสอบที่จะทำให้เป็นหมอหลวง กับการรักษาผู้ป่วยตรงหน้าที่ต้องตายแน่นอนหากไม่ได้รับการรักษาทันการ แล้วฮอจุนก็เลือกรักษาคนป่วย ยินดีแลกโอกาสของตัวเองเพื่อช่วยให้อีกชีวิตได้ต่อลมหายใจยืนยาวออกไป
ส่วนพระเอกฮออิมของเราในซีรีย์ Live up to Your Name, Dr. Heo กลับเลือกไปรักษาพระราชาเพื่อโอกาสได้เป็นหมอหลวง แทนการรักษาเด็กน้อยที่อาการร่อแร่ตรงหน้า เลยต้องถูกกล่องเข็มสั่งสอนเพื่อให้เรียนรู้ถึงการเป็นแพทย์ที่แท้จริงว่า ฝีมืออันเหมือนพรสวรรค์ที่ฟ้าประทานให้นั้นมีไว้เพื่อช่วยเหลือคนอื่นไม่ใช่เพื่อตัวเอง โดยมีฮอจุนช่วยหนุนส่งฮออิมไปไกลๆ ผ่านลูกธนู 2 ดอกของลูกน้อง หลังรู้ว่าฮออิมมีกล่องเข็มไว้ในครอบครอง และรู้ถึงพลังวิเศษของกล่องเข็มนั้น
เมื่อทั้งคู่พบกันอีกครั้งขณะติดคุก ฮอจุนได้พูดอย่างรู้ทันความคิดฮออิมถึงความพออกพอใจกับโลกใหม่จนไม่อยากกลับมาอยู่ในโลกเก่า และพยายามดึงสติฮออิมให้มองเห็นความผิดพลาดของตัวเองในการมีทัศนคติที่ผิดเพี้ยน ขณะที่ฮออิมก็อยากพิสูจน์ให้ดูว่าโลกใหม่ใบนั้นจะพาเขาหลุดพ้นจากความโสมมของสังคมที่ตีค่าความเป็นคนที่ชนชั้น และไม่สามารถให้อะไรกับเขาได้เลยแม้จะมีความสามารถมากเพียงใดก็ตาม แต่หลังจากได้รู้ซึ้งถึงความสุขของการเป็นหมอที่แท้จริง และเข้าใจถึงสิ่งที่ฮอจุนพยายามให้เขามองเห็นถึงคุณค่าและความภาคภูมิใจของหมอที่ได้ใช้ทักษะวิชาชีพในการช่วยเหลือผู้คนไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัว แถมยังเป็นฮอจุนที่ถวายความมั่นใจให้กับฝ่าบาทที่จะให้ฮออิมรักษาพระอาการหูอื้อ ฮออิมก็ไร้อคติกับฮอจุนอย่างสิ้นเชิง แต่ยังไม่วายบลัฟกันไปมาถึงความเก่งของตัวเอง ซึ่งโดยส่วนตัวชื่นชอบการต่อปากต่อคำระหว่าง “เจ้าหมอนั่น” กับ “ตาแก่นั่น” ที่นอกจากยังคงไม่มีการอ่อนข้อให้แก่กัน แต่การใช้ศัพท์แสงยังสะท้อนถึงวัยที่อยู่กันคนละเจเนอเรชัน แถมมีจิกกัดเรื่องระบบการให้รางวัลซึ่งยังคงให้ความสำคัญกับชนชั้นอีกด้วย
ฮออิม: วันนี้ข้าได้เลื่อนตำแหน่งไปถึง 6 ขั้น พวกเขาอยากให้ข้าไปทำงานในวัง
ฮอจุน: แล้วไยเจ้าต้องมีสีหน้าเช่นนั้นเล่า เจ้าอยากประสบความสำเร็จและทำงานที่นี่มาตลอด
ฮออิม: พวกเขาให้ตำแหน่งนี้แก่ข้า เพียงเพราะข้ารักษาอาการประชวรเพียงน้อยนิดให้ฝ่าบาท ไม่ใช่เพราะข้าช่วยชีวิตคนในสงคราม
ฮอจุน: เจ้าน่าจะถูกโบยเสียหน่อย แค่อาการประชวรเล็กน้อยงั้นรึ
ฮออิม: แล้วทำไมไม่บอกพวกเขาไปล่ะ
ฮอจุน: รางวัลอันสำคัญไม่ควรจะนำมามอบให้อย่างเสียเปล่า ของขวัญอันแสนวิเศษเดินทางมาหาเจ้าในยามที่เจ้าต้องการมันเป็นอย่างยิ่ง นั่นแหละเรียกว่ารางวัลที่ยิ่งใหญ่
ฮออิม: แต่ว่า...อีกหน่อยข้าก็ตามท่านทันแล้วนะ
ฮอจุน: ข้ายังมีตำแหน่งสูงกว่าเจ้าอีก 3 ขั้น เจ้ายังคงไม่รู้ ลูกหลานของเราในยุคหลังนับถือข้าเป็นที่สุด พวกเขากล่าวว่าข้านั้นเยี่ยมยอดที่สุด ข้าคือหมออันดับหนึ่ง
ฮออิม : แหม...ท่านน่ะเชยไปแล้ว พวกเขาใช้คำว่า "สุดยอด เจ๋งโคตร ยกนิ้วให้เลย"
ฮอจุน: อะไรนะ?
ฮออิม: นี่แหละความแตกต่างของคนแต่ละรุ่น
Live up to Your name, Dr.Heo นับได้ว่าเป็นซีรีย์ที่มีคุณค่าเรื่องหนึ่งแห่งปี มีความน่าสนใจในพลอตที่ให้ตัวละครข้ามมิติไปมาได้มากกว่า 1 คน ความรักที่ไม่มีบทเง้างอนน่ารำคาญ มีการนำเสนอแก่นเรื่องผ่านการเชื่อมโยงมิติเก่าใหม่และวางบุคลิกตัวละครที่ดูได้อย่างสนุกสนาน มีประเด็นน่าขบคิด แม้จะมีดราม่าเข้มข้นในช่วงกลางเรื่อง แต่ตอนจบที่ให้อารมณ์ feel good ก็ทำให้ติ่งคิมนัมกิลวาดหวังว่าจะได้เห็นบทบาทดีๆ ของเขาในเรื่องอื่นๆ ต่อไป
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-ฮออิมในประวัติศาสตร์…ราชาหมอฝังเข็มแห่งโชซอน
https://ppantip.com/topic/36868286
----------------------------------------
ไหนๆ ก็กล่าวถึงคนในประวัติศาสตร์ จึงอยากเขียนถึงอีกสองคนที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ที่ตามมาหลังมีบทบาทใน Live up to Your Name, Dr. Heo อีกเล็กน้อย
กษัตริย์องค์ที่ 14 ของราชวงศ์โชซอน ในรัชสมัยของพระองค์ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของการแพทย์โชซอน เพราะมีทั้งฮอจุนและฮออิมที่นับเป็นอัจฉริยบุคคลของวงการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีวีรบุรุษกู้ชาติและผู้มีความสามารถมากมาย แต่พระเจ้าซอนโจไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจากกรณีที่หนีภัยสงคราม ละเลยหน้าที่ในฐานะผู้นำประเทศ สร้างความแค้นเคืองให้ชาวบ้านจนต้องเผาพระราชวังเคียงบก (EP 11) และยังถูกญี่ปุ่นเผาวังจนวอดวายในสงครามอิมจิน ต่อมาหลังเสด็จกลับฮันยาง พระองค์เสด็จไปประทับที่พระราชวังท็อกซู (องค์รัชทายาทควางแฮทรงสวมมงกุฎกษัตริย์ที่นี่ในปี 1608) ส่วนพระราชวังเคียงบกนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมและสร้างขึ้นใหม่ตามแบบฉบับเดิมในรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิโกจง (ค.ศ.1852-1919) ซึ่งเป็นปฐมจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเกาหลี แต่นักประวัติศาสตร์ถือพระองค์เป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายหลังจากจักรวรรดิญี่ปุ่นล้มล้างสถาบันกษัตริย์ของเกาหลีลงในปี 1910 และควบคุมเชื้อสายราชวงศ์ทั้งหมดไปญี่ปุน
“เราแค่ได้เลือกใช้ชีวิตที่เหมาะกับเรามากที่สุด” นั่นคือเหตุผลที่แม่ทัพซายากะแห่งกองทัพซามูไรของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ บอกกับฮออิมใน Live up to Your Name, Dr. Heo (EP16) ถึงการตัดสินใจย้ายข้างมาอยู่ฝ่ายโชซอนระหว่างเกิดสงครามอิมจิน โดยซายากะตัวจริงในประวัติศาสตร์ได้เขียนหนังสือชื่อ โมฮาทังซุลเลกา (모하당술회가) ที่เล่าเกี่ยวกับความผันแปรในชีวิตไว้ว่า ฮิเดโยชิได้จับสมาชิกครอบครัวของเขาขังไว้และขู่ให้เขามาร่วมทัพสงครามกับฝ่ายญี่ปุ่น เขาจึงจำยอมเข้าร่วม แต่สุดท้ายเขาก็โอนสัญชาติมาเป็นคนเกาหลีและได้ชื่อว่าคิมชุงซอน (มีความหมายว่า ความจงรักภักดี) ซายากะเดินทางถึงโชซอนในเดือนเมษายน 1592 (เดือนเดียวกับการเปิดฉากของซีรีย์) หลังสงครามอิมจินเขายังคงรับราชการทหารให้กับโชซอน และร่วมในศึกต่อต้านการรุกรานของแมนจูในปี 1636 เขายังได้คิดค้นทำดินระเบิดและปืนให้กับเกาหลีและเป็นช่างฝีมือที่มีชื่อเสียง ต่อมาเกษียณราชการโดยย้ายไปอยู่เมืองแทกู (대구) ปัจจุบันได้มีการสร้าง Nokdong Seowon (녹동서원) ที่แทกู เพื่อเป็นเกียรติแก่คิมชุงซอน และได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของคนญี่ปุ่นที่เดินทางไปเกาหลีอีกด้วย
เครดิตภาพ: https://commons.wikimedia.org, http://www.newsfreezone.co.kr
คำแปลภาษาไทย: อาจุมม่าอิง, TanTan, GwiPin