การปรากฏตัวของชายหนุ่มที่ค่อยๆ ก้าวเท้าเปลือยเปล่าโผล่จากมุมมืดภายในถ้ำยามค่ำคืน หน้าตาเพิ่งตื่นนอนดูไม่ยี่หระต่อโลก แต่กลับขยิบตาให้กับฮวารังหนุ่มน้อยที่เพิ่งพบกันครั้งแรกพร้อมจังหวะดนตรีที่ดูลึกลับอลังการ นับเป็น “เซอร์ไพร้ส” สำหรับคนดูที่ไม่คิดว่าตัวละครที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงแทบจะกลางเรื่อง (EP21, #06) ของ ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (The Great Queen Seondeok) นี้ จะกลายเป็นตัวละครสำคัญที่แทบจะทำคนดูซึ่งกำลังลุ้นไปกับความรักของพระ-นางตามท้องเรื่องที่ดำเนินมาเกือบครึ่งเรื่อง ต้องมาตั้งลำทำความเข้าใจใหม่ว่าตกลงใครเป็นพระเอกกันแน่...คิมยูซิน-แม่ทัพผู้จงรักภักดี หรือ พีดาม-กบฏแผ่นดิน?

พีดาม...บุตรพระเจ้าจินจีและพระสนมมีซิล-สตรีที่ทรงอำนาจน่ากลัวที่สุดของชิลลา เขาเติบโตขึ้นมาเหมือนคนโดดเดี่ยว เพราะถูกผู้ให้กำเนิดทอดทิ้งอย่างไร้ค่าตั้งแต่ยังเป็นทารกแบเบาะ อาจารย์ที่เปรียบเสมือนพ่อก็ไม่ได้ให้ความรักความอบอุ่นเพียงพอเท่าที่เด็กกำพร้าคนหนึ่งควรจะได้รับ พีดามจึงโหยหาความรักมาตั้งแต่เล็กจนโต กระทั่งเขาพบ “ต๊อกมาน” (อีโยวอน 49 Days, Horse Doctor) เพื่อนใหม่ในชุดฮวารังหนุ่มน้อยที่ทำให้พีดามเริ่มมีเป้าหมายในชีวิตซึ่งก็คือการให้ความช่วยเหลือและทำทุกอย่างเพื่อให้ฮวารังผู้นี้ได้คืนสู่ฐานันดรศักดิ์ “องค์หญิง” จนก้าวสู่บัลลังก์ “ราชินี” แห่งชิลลา

จากเพื่อนสู่ความรู้สึกใหม่ที่ลึกซึ้ง แม้พีดามจะเคยพาต๊อกมานไปขายให้กับฝ่ายที่ตามล่าตัวเธอ แต่คำกล่าว “ขอบคุณ” จากต๊อกมานที่เขายังไม่เคยได้รับจากใคร ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ก่อเกิดเป็นความรักที่พีดามยอมแลกได้กับทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบัลลังก์ที่เขาเองก็มีสิทธิ์ การมีชื่อบันทึกในประวัติศาสตร์ในฐานะวีรบุรุษผู้รวบรวมสามอาณาจักรให้เป็นหนึ่งเดียว และการยกหนังสือแผนที่ที่เขาหวงนักหวงหนาให้กับคู่แข่งหัวใจอย่างคิมยูซิน เพื่อให้ได้สิ่งเดียวที่เขาปรารถนาครอบครองในชีวิตนั่นก็คือหัวใจขององค์ราชินีแห่งชิลลา ขณะที่ต๊อกมานก็เลือกที่จะทิ้งรักแรก-คิมยูซินเพื่อจะก้าวสู่ตำแหน่งราชินี ยอมสละแม้กระทั่งบัลลังก์เพียงเพื่อจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับชายที่เป็นทั้งหอกข้างแคร่และเสี้ยนหนามราชวงศ์อย่างพีดาม

แต่เมื่อการเมืองและเกมแห่งอำนาจมิอาจยอมให้ทั้งคู่ได้สมปรารถนา คู่รักจึงกลับกลายเป็นศัตรูที่ต้องหันหน้าห้ำหั่นกันเองเพราะความเข้าใจผิด แหวนแทนใจที่เป็นตัวแทนความรักและเป็นดั่งคำมั่นสัญญาว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันที่องค์ราชินีมอบให้ พีดามกลับมองเห็นเป็นคำหลอกลวง เมื่อรวมกับความหวาดระแวงและขาดความเชื่อใจในตัวคนรัก จึงนำมาสู่จุดจบสุดสะเทือนใจในฉากอันถือเป็นไฮไลต์สุดพีคของเรื่อง (EP62, #05)...พีดามบุกค่ายทหารที่เต็มไปด้วยแม่ทัพนายกองยอดฝีมือ ค่อยๆ นับก้าวลุยเดี่ยวไปให้ถึงนางอันเป็นที่รัก ยอมเอาชีวิตมาทิ้งเพื่อให้ได้กล่าวคำๆ หนึ่งที่ราชินีแห่งชิลลาปรารถนาจะได้ยิน และมีเพียงกบฏอย่างเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะเอ่ยคำที่นางอยากฟังได้ ขณะที่องค์ราชินีก็ต้องใจแหลกสลายเมื่อเห็นคนรักล้มลงตายไปต่อหน้าต่อตาจากคำสั่งฆ่ากบฏแผ่นดินของตัวเอง (ยอดวิวในยูทูบซีนนี้ทะลุ 1,660,000 วิวไปแล้ว)

ตัวละครพีดาม (ซึ่งมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์) ที่นำเสนอโดยคิมนัมกิล นอกจากได้ครอบครองหัวใจของราชินีที่ก่อกำแพงใจแข็งแกร่งดั่งป้อมปราการอาณาจักร ยังได้กุมหัวใจสาวๆ กลุ่มใหญ่ให้เพ้อหาถึงพีดาม คาแรกเตอร์ซับซ้อนหลากหลายอารมณ์ของตัวละครที่กลบเกลื่อนความว้าเหว่อ้างว้างในจิตใจ ผ่านบุคลิกที่ฉลาดหลักแหลม ทะเล้น ขี้เล่น มีหัวใจเหมือนเด็กน้อยที่ชอบเล่นซุกซน และอยากออกผจญภัยในแบบวีรบุรุษผู้กล้า ขณะเดียวกันก็มีความทะเยอทยาน ทะนงตนสูง ไม่เชื่อใจใคร แถมยังฆ่าคนได้โดยไม่สนใจถูกผิด ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตนักแสดงของคิมนัมกิลจากดาราโนเนมแทบจะไม่เป็นที่รู้จักให้กลายเป็นนักแสดงดังชั่วข้ามคืน ความนิยมคิมนัมกิลพุ่งทะยานราวติดจรวด เขากลายเป็นนักแสดงที่มีรายรับสูงสุดในปี 2010 เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา 4-5 ชิ้นภายใน 1 ปี รวมถึงการได้รับรางวัล Best New Actor (TV) จากเวที 2010 (46^th) Baeksang Arts Awards และ Excellence Award, Actor จากเวที 2009 MBC Drama Awards ขณะที่ความรักของราชินีและกบฏที่เปรียบเหมือนคู่กรรมแห่งชิลลา ก็นำพาให้นักแสดงทั้งคู่ขึ้นรับรางวัล Best Couple Award ในเวทีเดียวกันด้วยคะแนนโหวตที่ทิ้งห่างเรื่องอื่นๆ ไม่เห็นฝุ่น

เสน่ห์ทางการแสดงของคิมนัมกิลได้ก่อให้เกิดกระแสความคลั่งไคล้ของแฟนคลับทั้งในและนอกเกาหลี เขาทำให้พีดามเป็นตัวสร้างสีสันให้กับเรื่อง สร้างความรู้สึกสงสารและเห็นใจให้กับคนดู พีดามยังอาจเป็นตัวละครไม่กี่ตัวที่ทีมผู้เขียนบทต้องปรับเปลี่ยนบทบาทจากกบฏผู้ชั่วร้ายให้กลายเป็นกบฏผู้โหยหาความรักจนคนดูต้องหลั่งน้ำตา และขับเน้นความรักของต๊อกมาน-พีดามเพื่อสนองตอบความนิยม รวมถึงการเพิ่มเติมบทบาทจากเดิมที่ถูกวางไว้เป็นตัวประกอบให้กลายเป็นตัวละครหลักที่แทบจะเป็นศูนย์กลางของเรื่องคู่กับตัวหลักต๊อกมานใน 10-15 EP หลังๆ (พระเอกตัวจริงอยู่ๆ ก็ถูกเทให้เป็นตัวรองเฉยเลย)

หลังแจ้งเกิดเต็มตัวจากบทพีดามในปี 2009 คิมนัมกิลก็ได้รับบทนำในซีรีย์ที่มีคาแรกเตอร์ดาร์กๆ แนวแก้แค้นอีก 2 เรื่อง คือ Bad Guy (2010) และ Shark (2013) ก่อนจะห่างหายจากหน้าจอทีวีไปเล่นหนังใหญ่ 4 ปีกับผลงาน เช่น The Pirates, The Shameless, Pandora, One Day กระทั่งปีนี้ นอกจาก Memoir of a Murderer ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุด เขาก็กลับมามีผลงานทางทีวีอีกครั้งกับบทบาทของ “ฮออิม” หมอฝังเข็มผู้เป็นตำนานในประวัติศาสตร์ที่ข้ามเวลามายังโลกอนาคต 400 ปี

คิมนัมกิลซึ่งในอดีตใช้ชื่อทางการแสดงว่า “อีฮัน” แต่ได้กลับมาใช้ชื่อจริงของตัวเองตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง Public Enemy Returns (2008) ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงที่ใช้สีหน้า แววตา และน้ำเสียง แสดงความคิดความรู้สึกของตัวละครได้ยอดเยี่ยม ขยันเก็บดีเทลทุกเม็ดของคาแรกเตอร์ที่ได้รับ จนทำให้คนดูรู้สึกใกล้ชิดและเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง

การกลับมาหน้าจอทีวีในบทฮออิม หมอฝังเข็มที่มีพฤติกรรมเปิ่นๆ รั่วๆ เหมือนคนเพี้ยนๆ แต่มีความอ่อนโยน ใสซื่อ และมีบาดแผลอันเจ็บปวดจากชนชั้นที่ต่ำต้อย ทำให้คนดูรู้สึกฮากลิ้งขำกระจาย ไปพร้อมๆ กับอารมณ์เศร้า ซึ้ง กินใจ ไปกับทุกๆ เรื่องราวที่ฮออิมต้องเผชิญ...คิมนัมกิลเป็นฮออิมที่ทำให้โลกสนุกสนาน สดใส ฮออิมที่สร้างบรรยากาศหดหู่เศร้าหมอง ฮออิมที่ทำให้คนดูร้องไห้ยามเขาเผชิญความเจ็บปวด และเป็นฮออิมที่ทำให้คนดูเขินอายหนักมากชนิด ก.ไก่ ล้านตัว กับฉากที่ผู้ชมรู้สึกราวกับตัวเองกำลังถูกเข็มฝังตรงจุดซึงจางใน EP12

การแสดงอันพลิ้วไหวของคิมนัมกิลยังทำให้ “ฮออิม” หนึ่งในผู้นำด้านการแพทย์ในยุคทองของแพทย์แผนตะวันออกที่ถูกคนรุ่นใหม่ลบเลือนไป กลายเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์และช่วยปลุกจิตสำนึกถึงคุณค่าของตำรับแพทย์แผนโบราณให้กลับคืนมาอีกครั้ง คิมนัมกิลนำเสนอบทฮออิมได้มีชีวิตชีวา งัดเสน่ห์ทางการแสดงล้นเหลือออกมาใช้ราวกับ “องค์ลง” หลังหายหน้าหายตาจากจอทีวีไปนานนับปี นับเป็นการกลับมาที่คุ้มค่าการรอคอย ขณะที่เรตติ้งของ Live up to Your Name, Dr. Heo ก็ดีเกินความคาดหมาย เป็นหนึ่งในซีรีย์ที่ช่วยดึงความนิยมของช่องเคเบิล tvN ให้กลับคืนมาหลังซบเซาในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ Live up to Your Name, Dr. Heo จึงเป็นผลงานที่จะเป็นที่จดจำมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง และเป็นอีกหนึ่งมาสเตอร์พีซของคิมนัมกิลต่อจาก The Great Queen Seondeok เมื่อ 8 ปีก่อน...แทบัก!