สวัสดีค่ะ เรากับแฟนเราคบกันมาปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 แล้วค่ะ ซึ่งเราก็พาแฟนเรามาเที่ยวที่บ้านบ่อยๆ
ซึ่งตอนนี้เราอาศัยอยู่ที่บ้านแฟนมาได้ปีนึงเพราะใกล้ที่ทำงาน บ้านแฟนเป็นครอบครัวใหญ่ แฟนเราเป็นลูกคนกลางมีพี่สาวและน้องสาว
ในบ้านมี เรากับแฟน พ่อ-แม่แฟน, ลูกพี่สาวแฟน 2 คน ,น้องสาวแฟน และสามีเค้าบวกลูกชายอีกหนึ่งคน
โดยที่เรากับแฟนออกค่าใช้จ่ายที่บ้านแฟนเกือบทุกอย่างตั้งแต่เรามาอยู่(แฟนบอกว่าก่อนมีเราพ่อแม่เป็นคนจัดการ) ซึ่งค่าใช้จ่ายมี ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าประกันชีวิตแม่แฟน ค่าอินเตอร์เน็ต แล้วแฟนเรายังต้องผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกสองสามอย่าง
แฟนเราเงินเดือนหมื่นต้นๆ แต่หนี้เยอะ ทั้งผ่อนรถ หนี้ กยศ และบัตรเครดิต 2 ใบ เงินเดือนแค่จ่ายหนี้ก็หมดแล้ว ค่าใช้จ่ายยิบย่อยต่างๆจึงตกมาที่เรา
ซื้อของเข้าบ้าน เติมน้ำมันรถ เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน จึงเป็นเงินของเรา แต่เราไม่คิดมากเรื่องนี้เท่าไหร่
พ่อแม่เรามีธุรกิจส่วนตัวจึงไม่เคยรบกวนเราเลยอละเราก็ไม่มีหนี้สินอะไร แม่ส่งเงินให้จนเรียนจบ
จนมีอยู่ครั้งหนึ่งแฟนเราจ่ายค่าต่างๆไม่ไหวจึงบอกแม่เขาให้ช่วย แต่เขาตอบกลับมาว่า"ต้องช่วยกูสิ ไม่ใช่กูช่วย"เราเหวอไปเลย จากนั้นก็ตามมาด้วยคำว่า "ลูกอี...ข้างบ้าน พาเมียมาอยู่บ้าน เมียมันต้องจ่ายค่ามาอยู่เดือนละ 1,200 กูเอาแค่นี้น้อยแล้วนะ"เราเริ่มคิดว่ามันไม่ใช่ละ แฟนเราตอบกลับไปว่า"ลูกข้างบ้านพ่อแม่เค้าให้เงินสินสอดเป็นแสนไปขอแฟนแต่งงาน แม่ไม่เห็นให้อะไรผมบ้างเลย เรียนหนังสือผมก็กู กยศ ทำงานส่งตัวเองเรียน แฟนผมแม่เขายังส่งจน ป.ตรี" (โยงมาหาเราจนได้55) แม่นางเลยบอกว่า "แม่เมียมีตังก็ไปยืมตังแม่เมียสิ ยืมมาให้กูด้วย" จบประโยคนี้เราคิดว่าเค้าพูดเล่นๆ สรุป พูดจริงค่ะ แม่แฟนเค้าจริงจังมากว่าอยากยืมเงินแม่เรา เราเลยพูดดักไปว่า แม่ให้ยืมไม่ได้หรอกต้องจ่ายค่ามัดจำของที่เอามาขายเยอะ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนคิดบวกเลยไม่เก็บมาคิดมาก
แม่เราชอบฝากของมาให้บ้านแฟนบ่อยๆ ทั้งของกิน ข้าวสารอาหารแห้ง ผักผลไม้ ฝากมาบ่อยมาก ส่วนบ้านแฟนเราไม่เคยฝากอะไรไปเลย
มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อแม่แฟนไปเที่ยวบ้านเรา พอไปถึงนางอยากได้ของในบ้านเราหลายอย่างมาก แม่เราก็ยกให้บ้างบางอย่าง พอเค้าจะกลับแม่ก็ให้ตังหลานๆของแฟนอีก แม่แฟนก็เลยบอกแฟนเราว่าบ้านแฟนนี่ดีเนาะไม่ขี้งกเหมือนบ้านแฟนเก่า เราเลยเริ่มคิดแล้วว่าที่เเฟนเลิกกับเเฟนเก่สเพราะเรื่องนี้
หลังจากจบเรื่องนี้เราก็พาแฟนเก่าไปเที่ยวที่บ้านต่างจังหวัด ซึ่งมีฃุงกับป้าอยู่ พอไปถึงท่านก็หาของกินดีๆให้กิน ดูแลอย่างดีนอนค้างหนึ่งคืนแต่แฟนเราต้องกลับไปทำงานก่อน ก่อนจะกลับนางก็ขอนั่นขอนี่กลับบ้านลุงกับป้าก็ไม่ได้ว่าอะไรให้ไป พอไปส่งแฟนขึ้นรถลุงก็ซื้อของฝากให้ไปด้วยเเฟนเราก็รับทุกอย่าง ส่วนเราก็ไม่คิดว่ามีอะไรเลยลากันเเล้วกับบ้าน พอถึงลุงกับป้าก็มาคุยด้วยบอกว่า แฟนเรานี่ขี้งกเนาะ ที่บ้านเค้าก็ด้วยเห็นแม่บอกเอาอะไรให้ก็เอาทุกอย่างไม่เคยให้อะไรกลับมาบ้างเลย โทรมาขอบใจก็ไม่มี เห็นอะไรก็อยากได้ แฟนเราก็ด้วยมาบ้านเรามาหาแต่ของกิน หาแต่ของกลับบ้าน ถ้าเป็นไปได้ตีตัวออกห่างซะ คบกันไปก็ฉุดเราลงอย่างเดียวเลิกได้ก็ดี พอกลับบ้าน แม่เราก็คุยเรื่องเดียวกัน บอกว่าบ้านเรากับบ้านเค้ามันต่างกันอยู่กันไม่ได้หรอก เขาจ้องแต่เอาเปรียบ เราก็รู้นะแต่เราก็รักแฟนเราไม่อยากทิ้งเค้าแต่ถ้าไม่เลิกก็คงเป็นเเบที่แม่บอกจริง
ดิฉันอยากสอบถามท่านใดมีประสบการณ์เรื่องนี้บ้าง ขอคำปรึกษาหน่อยคะ ว่าควรแก้ปัญหายังไงดี ควรเลิกกับแฟนมั้ย ถ้าไม่เลิกจะมีวิธีใดที่ทำให้พ่อแม่ไม่ทุกข์ใจบ้างมั้ยคะ
แม่อยากให้เลิกกับแฟน เนื่องจากที่บ้านไม่ชอบครอบครัวแฟนเพราะขี้งก
ซึ่งตอนนี้เราอาศัยอยู่ที่บ้านแฟนมาได้ปีนึงเพราะใกล้ที่ทำงาน บ้านแฟนเป็นครอบครัวใหญ่ แฟนเราเป็นลูกคนกลางมีพี่สาวและน้องสาว
ในบ้านมี เรากับแฟน พ่อ-แม่แฟน, ลูกพี่สาวแฟน 2 คน ,น้องสาวแฟน และสามีเค้าบวกลูกชายอีกหนึ่งคน
โดยที่เรากับแฟนออกค่าใช้จ่ายที่บ้านแฟนเกือบทุกอย่างตั้งแต่เรามาอยู่(แฟนบอกว่าก่อนมีเราพ่อแม่เป็นคนจัดการ) ซึ่งค่าใช้จ่ายมี ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าประกันชีวิตแม่แฟน ค่าอินเตอร์เน็ต แล้วแฟนเรายังต้องผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกสองสามอย่าง
แฟนเราเงินเดือนหมื่นต้นๆ แต่หนี้เยอะ ทั้งผ่อนรถ หนี้ กยศ และบัตรเครดิต 2 ใบ เงินเดือนแค่จ่ายหนี้ก็หมดแล้ว ค่าใช้จ่ายยิบย่อยต่างๆจึงตกมาที่เรา
ซื้อของเข้าบ้าน เติมน้ำมันรถ เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน จึงเป็นเงินของเรา แต่เราไม่คิดมากเรื่องนี้เท่าไหร่
พ่อแม่เรามีธุรกิจส่วนตัวจึงไม่เคยรบกวนเราเลยอละเราก็ไม่มีหนี้สินอะไร แม่ส่งเงินให้จนเรียนจบ
จนมีอยู่ครั้งหนึ่งแฟนเราจ่ายค่าต่างๆไม่ไหวจึงบอกแม่เขาให้ช่วย แต่เขาตอบกลับมาว่า"ต้องช่วยกูสิ ไม่ใช่กูช่วย"เราเหวอไปเลย จากนั้นก็ตามมาด้วยคำว่า "ลูกอี...ข้างบ้าน พาเมียมาอยู่บ้าน เมียมันต้องจ่ายค่ามาอยู่เดือนละ 1,200 กูเอาแค่นี้น้อยแล้วนะ"เราเริ่มคิดว่ามันไม่ใช่ละ แฟนเราตอบกลับไปว่า"ลูกข้างบ้านพ่อแม่เค้าให้เงินสินสอดเป็นแสนไปขอแฟนแต่งงาน แม่ไม่เห็นให้อะไรผมบ้างเลย เรียนหนังสือผมก็กู กยศ ทำงานส่งตัวเองเรียน แฟนผมแม่เขายังส่งจน ป.ตรี" (โยงมาหาเราจนได้55) แม่นางเลยบอกว่า "แม่เมียมีตังก็ไปยืมตังแม่เมียสิ ยืมมาให้กูด้วย" จบประโยคนี้เราคิดว่าเค้าพูดเล่นๆ สรุป พูดจริงค่ะ แม่แฟนเค้าจริงจังมากว่าอยากยืมเงินแม่เรา เราเลยพูดดักไปว่า แม่ให้ยืมไม่ได้หรอกต้องจ่ายค่ามัดจำของที่เอามาขายเยอะ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนคิดบวกเลยไม่เก็บมาคิดมาก
แม่เราชอบฝากของมาให้บ้านแฟนบ่อยๆ ทั้งของกิน ข้าวสารอาหารแห้ง ผักผลไม้ ฝากมาบ่อยมาก ส่วนบ้านแฟนเราไม่เคยฝากอะไรไปเลย
มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อแม่แฟนไปเที่ยวบ้านเรา พอไปถึงนางอยากได้ของในบ้านเราหลายอย่างมาก แม่เราก็ยกให้บ้างบางอย่าง พอเค้าจะกลับแม่ก็ให้ตังหลานๆของแฟนอีก แม่แฟนก็เลยบอกแฟนเราว่าบ้านแฟนนี่ดีเนาะไม่ขี้งกเหมือนบ้านแฟนเก่า เราเลยเริ่มคิดแล้วว่าที่เเฟนเลิกกับเเฟนเก่สเพราะเรื่องนี้
หลังจากจบเรื่องนี้เราก็พาแฟนเก่าไปเที่ยวที่บ้านต่างจังหวัด ซึ่งมีฃุงกับป้าอยู่ พอไปถึงท่านก็หาของกินดีๆให้กิน ดูแลอย่างดีนอนค้างหนึ่งคืนแต่แฟนเราต้องกลับไปทำงานก่อน ก่อนจะกลับนางก็ขอนั่นขอนี่กลับบ้านลุงกับป้าก็ไม่ได้ว่าอะไรให้ไป พอไปส่งแฟนขึ้นรถลุงก็ซื้อของฝากให้ไปด้วยเเฟนเราก็รับทุกอย่าง ส่วนเราก็ไม่คิดว่ามีอะไรเลยลากันเเล้วกับบ้าน พอถึงลุงกับป้าก็มาคุยด้วยบอกว่า แฟนเรานี่ขี้งกเนาะ ที่บ้านเค้าก็ด้วยเห็นแม่บอกเอาอะไรให้ก็เอาทุกอย่างไม่เคยให้อะไรกลับมาบ้างเลย โทรมาขอบใจก็ไม่มี เห็นอะไรก็อยากได้ แฟนเราก็ด้วยมาบ้านเรามาหาแต่ของกิน หาแต่ของกลับบ้าน ถ้าเป็นไปได้ตีตัวออกห่างซะ คบกันไปก็ฉุดเราลงอย่างเดียวเลิกได้ก็ดี พอกลับบ้าน แม่เราก็คุยเรื่องเดียวกัน บอกว่าบ้านเรากับบ้านเค้ามันต่างกันอยู่กันไม่ได้หรอก เขาจ้องแต่เอาเปรียบ เราก็รู้นะแต่เราก็รักแฟนเราไม่อยากทิ้งเค้าแต่ถ้าไม่เลิกก็คงเป็นเเบที่แม่บอกจริง
ดิฉันอยากสอบถามท่านใดมีประสบการณ์เรื่องนี้บ้าง ขอคำปรึกษาหน่อยคะ ว่าควรแก้ปัญหายังไงดี ควรเลิกกับแฟนมั้ย ถ้าไม่เลิกจะมีวิธีใดที่ทำให้พ่อแม่ไม่ทุกข์ใจบ้างมั้ยคะ