Samsung Galaxy S8+ เปลี่ยนเครื่อง 7 วันก็ไม่ได้-ลงซอฟแวร์ใหม่ก็เหมือนเดิม

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ อยากมาแชร์ประสบการณ์และความรู้สึก จากการเคลมประกันกับศูนย์ซัมซุงค่ะ
เราซื้อเครื่อง Galaxy S8+ มาจากศูนย์ Dtac เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ค่ะ ทางศูนย์ดีแทคแจ้งว่ามีประกันเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ภายใน 7 วัน หากเครื่องมีปัญหา โดยเราจะต้องนำเครื่องพร้อมใบเสร็จเข้าไปที่ศูนย์ซัมซุงก่อน เพื่อให้ทางซัมซุงแอพรูพการเปลี่ยนเครื่องใหม่ แล้วนำเอกสารนั้นมายื่นขอเปลี่ยนเครื่องกับทางดีแทคได้

เกริ่นก่อนนิดนึงนะคะ ส่วนตัวใช้มือถือซัมซุงมาตลอดสิบกว่าปีค่ะ ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ ซื้อทีก็ใช้นาน 2-3 ปี หรือจนกว่าจะพังกันไปข้างนึง แล้วก็ใช้กันทั้งบ้าน เพราะว่ามันทนและใช้งานง่าย คราวนี้ตัดสินใจซื้อรุ่นนี้เพราะตัวซอฟแวร์ และกล้องมันดีกว่าของเดิมมาก (รุ่นเก่าใช้ Galaxy S5 ค่ะ เป็นรุ่นแรกที่กันน้ำกันฝุ่นได้ของเจ้านี้) ก็เรียกได้ว่าไว้วางใจในคุณภาพของซัมซุงนะคะ ถึงได้ตัดสินใจควักเงินซื้อมา

แต่แล้ว....ปัญหาก็เกิดขึ้นค่ะ อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่มากมายเหมือนกันของท่านอื่นนะคะ แต่ประเด็นอยากให้มาดูวิธีการแก้ปัญหาของทางซัมซุงกันนะคะ ว่ามันเหมาะสมหรือไม่อย่างไร?

สรุปปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นขั้น ดังนี้ก่อนนะคะเผื่อใครไม่ชอบดราม่าจะได้ข้ามๆรายละเอียดไปได้ค่ะ  เครื่องร้อน-แอพลิชั่นไม่ตอบสนอง(ค้างและปิดไป)-เข้าศูนย์-ยังอยู่ในประกัน 7 วัน-ศูนย์ไม่ให้เปลี่ยน-ลงซอฟแวร์ใหม่-ใช้ต่ออีก 3 วันเกิดอาการเดิม เพิ่มเติมคือ แบคอัพข้อมูลขึ้นคราวด์ไม่ได้-แอพปิดเองบ้าง-เข้าศูนย์-เลยประกัน 7 วันแล้วเปลี่ยนเครื่องไม่ได้-ส่งเครื่องเข้าศูนย์ใหญ่-บริการ Butler ที่มีเฉพาะ S8/S8+ โฆษณาดีงาม ก็ไม่มีเครื่องสำรองให้-อยู่ในระหว่างผลจากศูนย์ใหญ่ภายใน 10 วัน

- ปัญหาแรก - หลังจากที่ซื้อเครื่องมาและใช้งานเข้าวันที่ 5 ตัวเครื่องร้อนค่ะ ตอนเที่ยงวัน ตอนนั้นอยู่ข้างนอก แอพลิเคชั่นเดียวที่เปิดอยู่คือ My samsung เปิดขึ้นมาเพื่อแชทปรึกษากับเจ้าหน้าเรื่องอาการเครื่องร้อนค่ะ จากนั้นภายใน 4 นาที แบตเตอรี่ก็ลดลงประมาณ 2-3% อันนี้สามารถเข้าใจได้ว่าอาจจะมีผลมาจากอุณหภูมิภายนอก หรือการเปิดใช้งานแอพลิเคชั่นพร้อมกันเยอะ ถือเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้กับมือถือยี่ห้อนี้ค่ะ ปกติแล้วที่ใช้รุ่นอื่นมาก็มีอาการแบบนี้เกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้มีผลเสียกับระบบในภายหลัง
เจ้าหน้าที่คนแรก แนะนำให้ตั้งค่าแอพทั้งหมดใหม่ ซึ่งไม่ได้ผลค่ะ
เจ้าหน้าที่คนที่สอง (คนนี้จำชื่อได้นะคะ) แจ้งว่า เรื่องแบตลดลงเร็ว คือเราไม่สามารถแจ้งได้นะครับว่าแอพลิเคชั่นไหนใช้แบตเตอรี่เท่าไหร่ (แล้วตอนนั้นก็เปิดอยู่แอพเดียวเพื่อแชทถามเจ้าหน้าที่) แล้วถามว่าต่อว่าแล้วอาการเครื่องร้อนโดยไม่ทราบสาเหตุแบบนี้มันปกติหรอคะ? , คือถ้ามีการใช้งานต่อเนื่องก็อาจร้อนได้ แต่ลูกค้าวางไว้เฉยๆไม่ได้ใช้งานแล้วมันร้อนอันนี้ผิดปกติครับ อันนี้เลยสรุปว่าก็ต้องออกจากการสนทนาไปค่ะ เพราะถามต่อก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เลยแก้ปัญหาโดย เดินเข้าห้างค่ะ รอประมาณ 30 -40 นาที เครื่องก็เย็นลง โอเคผ่านไป...

- ปัญหาที่สอง - หลังจากเครื่องเย็นลงแล้ว ผ่านไปประมาณ 3-4 ชั่วโมง (โดยที่ไม่ได้ใช้งานต่อเนื่องนะคะ) เกิดอาการแอพลิเคชั่นไม่ตอบสนอง คือใช้งานอยู่แล้วแอพค้าง และขึ้นว่าให้ปิด,รอ,ส่งความเห็น แชทถามเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ตัวแอพลิเคชั่นทำงานผิดปกติมีผลมาจากตัวเครื่อง ลองลบแอพที่มีปัญหาและลบได้ แล้วลงใหม่ ใช้งานได้ปกติ แต่แอพที่ไม่สามารถลบได้ก็ยังคงค้างจุดเดิม

- วันที่ 25 ก.ย. วันที่ 7 หลังจากซื้อเครื่องมา เข้าไปที่ศูนย์ซัมซุงค่ะ เพราะสะดวกแค่วันนั้นจริงๆ (และเป็นวันสุดท้าย ใช่ค่ะ พอจะเดาเรื่องต่อได้ใช่มั้ยคะ)  ไปพร้อมเอกสารใบเสร็จ, ใบประกัน และทุกอย่างที่มี ก็ตั้งใจว่าจะมาขอเปลี่ยนเครื่องแหละค่ะ เพราะมันมีปัญหาจริงๆ แต่เจ้าหน้าแจ้งว่า ไม่สามารถเซ็นต์แอพรูฟให้เปลี่ยนเครื่องได้โดยที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขก่อน แล้วถ้าแก้ไม่ได้จริงๆถึงจะแอพรูฟให้ ซึ่งตรงนี้จริงๆไม่ได้ระบุในประกันส่วนไหนนะคะ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นปัญหาที่ซอฟแวร์ ถ้าลงซอฟแวร์ใหม่อาการก็จะหาย เราก็ถามกลับว่า แล้วประกันเปลี่ยนเครื่องได้ภายใน 7 วันจะมีใช้ได้ในกรณีไหน ในเมื่อคุณบอกว่าจะต้องมีการแก้ไขปัญหาก่อน ถ้าอย่างงี้ก็เหมือนกับประกันซ่อมปกติทั่วไปหรือเปล่า? เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่า ยังไงก็ต้องมีการพยามแก้ไขก่อน เราจึ่งย้ำว่าแล้วแต่คุณแก้แล้วแล้วมันไม่หาย ก็สามารถเปลี่ยนเครื่องได้ใช่มั้ย เจ้าหน้าที่ตอบว่า"ใช่ เปลี่ยนได้ครับ แต่ปกติลงซอฟแวร์ใหม่แล้วมันก็หายนะครั้บ" เราก็เลยโอเคงั้นก็ลงใหม่ค่ะ พวกบันทึกข้อความในเครื่อง ที่ใช้ทำงานก็หายหมดค่ะ อันนี้ทำใจยอมรับ เพราะหวังว่ามันจะหายตามที่เจ้าหน้าที่บอกค่ะ

- หลังจากที่ลงซอฟแวร์ใหม่แล้วใช้งานต่อไปอีก 3 วัน เกิดปัญหาเหมือนเดิมเป๊ะๆค่ะ ไม่ได้โหลดแอพผิดสำแดงอะไรนะคะ เป็นแอพพื้นฐานปกติที่มีในทั้ง Samsung apps และ Play store แต่มีเพิ่มเติมคือแบคอัพข้อมูลขึ้นคราวด์ไม่ได้ พอครบ 100% ก็เออเร่อตลอด และแอพก็ปิดเองบ้าง

- วันที่ 28 ก.ย. เข้าไปที่ศูนย์ครั้งที่ 2 คราวนี้เจ้าหน้าที่ก็บอกเลยว่ามันเปลี่ยนเครื่องใหม่ไม่ได้แล้วนะครับ เพราะมันเลย 7 วันแล้ว ใช่ค่ะ อันนี้เข้าใจเลยว่าต้องพูดอย่างงี้แน่นอน แต่ ณ วันที่ 7 ที่เราเข้าไปต้องการที่จะใช้สิทธิ์เปลี่ยนเครื่อง คุณเสนอที่จะซ่อมก่อน แต่คุณก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้นะคะ แล้วสิทธิ์นั้นเราก็เสียไปเพราะการล้มเหลวในการซ่อมของคุณ แล้วเราก็ต้องมายอมรับแค่ประกันซ่อมศูนย์หรอคะ? ถามว่าทีนี้จะแก้ไขยังไงต่อคะ ในเมื่อการแก้ไขปัญหาครั้งก่อนมันล้มเหลว เจ้าหน้าที่ยื่นข้อเสนอมาว่า มีเครื่อง S8 ธรรมดาอยากให้ลองเอาไปใช้ก่อนว่ามันจะเกิดปัญหาเหมือนกันมั้ย เพราะจะได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุว่าเป็นที่ระบบ, แอพ หรือการใช้งาน ซึ่งเราปฏิเสธไปค่ะ เพราะเราจ่ายเงินนะคะ เราเป็นลูกค้าค่ะ เราไม่จำเป็นต้องทดลองใช้อะไร คือจ่ายเงินแล้วต้องได้สินค้าใช่มั้ยคะ ลูกค้าไม่ได้มีหน้าที่มาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอะไรกับคุณนะคะ คุณต้องไปแก้กันเอง แล้วเอาสินค้าที่ผลิตออกมาได้มาตรฐาน มาให้ลูกค้าค่ะ

ทีนี้คุณเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า แล้วสมมติว่าถ้าลูกค้าได้เปลี่ยนเครื่องใหม่จริงๆ แล้วเอาไปใช้งานแล้วเกิดปัญหาเดิมอีก แล้วคุณลูกค้าจะทำยังไงครับ? เราถามกลับว่า แล้วถ้าคุณคิดว่าสินค้าของคุณมันจะมีปัญหาทุกตัว แล้วคุณผลิตออกมาขายทำไมคะ? เรียกคืนทุกเครื่องเลยดีมั้ยคะ?

ทีนี้คุณเจ้าหน้าที่ก็โยงไปเรื่องว่าเหตุจากซอฟแวร์ ไม่ใช่ความผิดพลาดจากการผลิต เราแจ้งกลับว่าเวลาเราซื้อเครื่อง เราก็ซื้อทั้งหมดนะคะ เราไม่ได้ซื้อแยกซอฟแวร์หรือฮาร์ดแวร์ คุณรวมทั้งหมดมาแล้วคุณก็เอามาขายใช่มั้ยคะ ไม่ว่าคุณจะไปจ้างใครผลิตอะไร ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดของส่วนไหน มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรา เพราะเราซื้อทั้งหมดที่รวมเป็นมือถือออกมาขาย แล้วอีกอย่างคือ ประกัน ก็ไม่ได้ระบุว่าแยกเคลมได้เฉพาะ ฮาร์ดแวร์หรือซอฟแวร์นะคะ คุณเขียนแค่ว่าอะไรบ้างที่เราไม่สามารถเคลมได้ และสิ่งที่เคลมได้ก็คือที่เกิดจากความผิดพลาดจากการผลิตค่ะ

สรุปคือเจ้าหน้าที่รับเครื่องและส่งเรื่องเข้าศูนย์ใหญ่ และจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10 วันถึงจะได้คำตอบค่ะ รับไว้เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ตอนนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการค่ะ



อีกเรื่องหนึ่งคือบริการ Galaxy Butler ตอนแรกคือรู้สึกอุ่นใจมากเมื่อเห็นโบรชัวร์นี้ค่ะ แต่พอต้องส่งเครื่องเข้าศูนย์จริงๆ ปรากฏว่า ไม่มีเครื่องสำรองให้ใช้ค่ะ จบข่าว สรุปคือตอนนี้ใช้มือถืออีกเครื่องที่มีอยู่คือ Galaxy J7 (6) ค่ะ โชคดีที่มี 2 ซิม เพราะทำงานที่ไม่สามารถพลาดการติดต่อได้เลย มือถือเลยเป็นเครื่องมือจำเป็นมากๆค่ะ

ส่วนตัวไม่ได้อยากจะให้ปัญหานี้เกิดขึ้นนะคะ ซื้อของมาก็อยากได้ของที่มันดี มีมาตรฐาน ไม่มีตำหนิ ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนเครื่องใหม่บ่อยๆ เพราะเปลี่ยนโทรศัพท์ครั้งหนึ่งมันก็ยุ่งยากมาก ทั้งข้อมูลทางการเงิน, งาน, บันทึกข้อความ, การโทร ฯลฯ อีกมากมายก็อยู่ในโทรศัพท์ เปลี่ยนเครื่องทีก็เรื่องใหญ่มาก เราไม่ได้อยากจะให้เครื่องมีปัญหาอยู่แล้วค่ะ ชีวิตไม่ได้แสวงหาเรื่องดราม่านะคะ มีการมีงานทำค่ะ

ตอนนี้ก็หวังว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหาที่ได้ผล สมเหตุสมผล และเป็นที่พอใจค่ะ

ขอบคุณค่ะ

อัพเดทนะคะ วันนี้ วันที่ 9 ต.ค. 2017 ยังไม่ได้เครื่องคืน และบริการ Bulter ก็ยังคงไม่มีเครื่องสำรองเพียงพอให้ใช้ค่ะ จะรอนะ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่