คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 46
- คิดว่าบ้านผมเป็นคนเดียว
- แต่พ่อผมไม่ได้ออกเพราะเกษียณอายุราชการ แต่พ่อผมออกเพราะ เกมส์กดดันทางการเมืองทำให้คนดีอยู่ไม่ได้
- แม่ผมเป็นเหมือนกระทู้ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง หรืออาจจะหนักกว่า เพราะทำให้พ่อผม หนีออกจากบ้านไปทำสวน
- ปัจจุบันผม อธิบายให้แม่เข้าใจสถานการณ์ ทุกอย่าง
- ผมคงไม่บอกให้พ่อไปทำอะไร จะทำอะไรเรื่องของเขา เขาเหนื่อยมามากพอแล้วในมุมมองผม
- เราต้องเป็นคน เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
- ปัจจุบันผมทำให้ท่านมั่นใจว่าผมดูแลตัวเองได้ และในอนาคต จะกลับมารวมกันอีกครั้ง
สถานการณ์แบบนั้น คือ กังวล กลัว ลำบาก ต่อจากนี้จะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ ลูกๆอย่างเรา ต้องมีแผนเสมอ
ดูแลตัวเองให้ได้ อย่าเป็นภาระให้ใครอย่าสร้างปัญหาเพิ่ม
- ผมจะเป็น คน จน รุ่นสุดท้าย ใน ครอบครัว...นั่นคือเป้าหมาย
- ถ้ามีเงิน ทุกอย่างจะบรรเทา ผมรู้เลยว่า อะไรทำให้เกิดเรื่องทั้งหมด ถ้าเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ คุณก็ต้องเปลี่ยนตัวเอง ทำอนาคตตัวเองให้ดี เพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น
- ธรรมชาติคัดสรรผู้แข็งแกร่งเสมอ
- ให้อนาคตเป็นเครื่องพิสูจน์ บอกแม่คุณให้รู้ ว่ากำลังกระทำอะไร คนจะลุยไม่คุยให้เสียเวลา
- ทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อคุณประสบความสำเร็จในชีวิต
/// ทั้งหมดที่พิมพ์มา เป็นแนวทาง ความคิดของผมคนเดียว ไม่ได้พาดพิงใครแต่อย่างใด
- แต่พ่อผมไม่ได้ออกเพราะเกษียณอายุราชการ แต่พ่อผมออกเพราะ เกมส์กดดันทางการเมืองทำให้คนดีอยู่ไม่ได้
- แม่ผมเป็นเหมือนกระทู้ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง หรืออาจจะหนักกว่า เพราะทำให้พ่อผม หนีออกจากบ้านไปทำสวน
- ปัจจุบันผม อธิบายให้แม่เข้าใจสถานการณ์ ทุกอย่าง
- ผมคงไม่บอกให้พ่อไปทำอะไร จะทำอะไรเรื่องของเขา เขาเหนื่อยมามากพอแล้วในมุมมองผม
- เราต้องเป็นคน เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
- ปัจจุบันผมทำให้ท่านมั่นใจว่าผมดูแลตัวเองได้ และในอนาคต จะกลับมารวมกันอีกครั้ง
สถานการณ์แบบนั้น คือ กังวล กลัว ลำบาก ต่อจากนี้จะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ ลูกๆอย่างเรา ต้องมีแผนเสมอ
ดูแลตัวเองให้ได้ อย่าเป็นภาระให้ใครอย่าสร้างปัญหาเพิ่ม
- ผมจะเป็น คน จน รุ่นสุดท้าย ใน ครอบครัว...นั่นคือเป้าหมาย
- ถ้ามีเงิน ทุกอย่างจะบรรเทา ผมรู้เลยว่า อะไรทำให้เกิดเรื่องทั้งหมด ถ้าเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ คุณก็ต้องเปลี่ยนตัวเอง ทำอนาคตตัวเองให้ดี เพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น
- ธรรมชาติคัดสรรผู้แข็งแกร่งเสมอ
- ให้อนาคตเป็นเครื่องพิสูจน์ บอกแม่คุณให้รู้ ว่ากำลังกระทำอะไร คนจะลุยไม่คุยให้เสียเวลา
- ทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อคุณประสบความสำเร็จในชีวิต
/// ทั้งหมดที่พิมพ์มา เป็นแนวทาง ความคิดของผมคนเดียว ไม่ได้พาดพิงใครแต่อย่างใด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
คุณบอกว่า ครอบครัวไม่มีเงินเก็บ แม่คุณจึงเป็นกังวลกับอนาคตอย่างหนักค่ะ
และด้วยความที่ตัวเองไม่ได้ทำงานมาทั้งชีวิต จึงผลักภาระทั้งปวงไปที่พ่อของคุณ
โดยลืมนึกถึงจิตใจของสามีและลูกๆอย่างสิ้นเชิง
ทางแก้ปัญหา คือ เตือนสติให้แม่คิดได้ก่อนว่า อะไรเป็นอะไร
ยิ่งแม่กังวล คนรอบข้างยิ่งทุกข์ คนอมทุกข์จะมีไอเดียที่ไหนไปหางาน หรือสร้างงานขึ้นมาได้
_ลองคุยกันตรงๆกับแม่คุณก่อน ดูว่าท่านพอจะเข้าใจเหตุผลตรงนี้ได้ไหม
บอกท่านให้เบาใจว่าเงินของคุณและน้องเพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัวแล้ว อยากให้พ่อได้พักบ้าง
_หากแม่ยังไม่หยุด ลองให้พ่อไปพักที่อื่น ถือโอกาสท่องเที่ยว เปิดหูเปิดตา บางทีอาจได้ไอเดียสร้างรายได้
ดีกว่าทนฟังแม่บ่นไม่รู้จบแบบนี้
แผนนี้ ถ้าจะใช้ยาแรง ให้คุณกับพ่อติดต่อกันโดยตรง พ่อต้องงดสื่อสารกับแม่สักระยะหนึ่ง
อาการย่ามใจที่มีพ่อหาเลี้ยงมาทั้งชีวิต จะเริ่มทุเลาลง แม่คุณจะเริ่มคิดได้
ว่า การกังวลบ่นด่า นอกจากจะ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ยังจะทำลายจิตใจคนรอบข้าง จนเขาไม่อยากอยู่ด้วย
แต่ระหว่างที่พ่อไม่อยู่ คุณต้องดูแลแม่อย่างใกล้ชิด (กันแม่คิดมาก) อาจต้องทนฟังท่านบ่นหนักขึ้นในช่วงแรกๆ
แล้วค่อยๆบอกเหตุผลว่าทำไมพ่อถึงไป โดยให้แม่คิดในมุมพ่อดูบ้าง...
ขอย้ำว่า... ขั้นตอนนี้ อย่าซ้ำเติมแม่ ในทำนองว่า ไม่มีใครอยากอยู่ด้วยแล้ว
แต่ให้พูดทำนองว่า คุณรักแม่และพ่อ อยากให้ท่านทั้งสองมีความสุข
บอกท่านว่า ครอบครัวจะเข้มแข็งเมื่อจับมือกันสู้ ... ให้กำลังใจกัน ไม่ใช่บั่นทอนกัน
และ "แม่คือกำลังใจที่ดีที่สุดของพ่อเสมอ" ซึ่งในทางตรงข้าม หากแม่เลือกที่จะใช้คำพูดบั่นทอน
พ่อจะไม่มีแรงใจไปทำอะไรได้เลย ....
เราเชื่อว่า แม่คุณจะใจเย็นลง (รู้สึกผิด) และเริ่มเปิดใจ ฟังความคิดเห็นคนรอบตัวบ้างค่ะ
ส่วนเรื่องอาชีพ .. ถ้าพ่อยังสุขภาพแข็งแรง เมื่อสภาพจิตใจเรื่องแม่ของคุณดีขึ้นแล้ว
ท่านน่าจะพบช่องทางหารายได้ในไม่ช้าค่ะ
และด้วยความที่ตัวเองไม่ได้ทำงานมาทั้งชีวิต จึงผลักภาระทั้งปวงไปที่พ่อของคุณ
โดยลืมนึกถึงจิตใจของสามีและลูกๆอย่างสิ้นเชิง
ทางแก้ปัญหา คือ เตือนสติให้แม่คิดได้ก่อนว่า อะไรเป็นอะไร
ยิ่งแม่กังวล คนรอบข้างยิ่งทุกข์ คนอมทุกข์จะมีไอเดียที่ไหนไปหางาน หรือสร้างงานขึ้นมาได้
_ลองคุยกันตรงๆกับแม่คุณก่อน ดูว่าท่านพอจะเข้าใจเหตุผลตรงนี้ได้ไหม
บอกท่านให้เบาใจว่าเงินของคุณและน้องเพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัวแล้ว อยากให้พ่อได้พักบ้าง
_หากแม่ยังไม่หยุด ลองให้พ่อไปพักที่อื่น ถือโอกาสท่องเที่ยว เปิดหูเปิดตา บางทีอาจได้ไอเดียสร้างรายได้
ดีกว่าทนฟังแม่บ่นไม่รู้จบแบบนี้
แผนนี้ ถ้าจะใช้ยาแรง ให้คุณกับพ่อติดต่อกันโดยตรง พ่อต้องงดสื่อสารกับแม่สักระยะหนึ่ง
อาการย่ามใจที่มีพ่อหาเลี้ยงมาทั้งชีวิต จะเริ่มทุเลาลง แม่คุณจะเริ่มคิดได้
ว่า การกังวลบ่นด่า นอกจากจะ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ยังจะทำลายจิตใจคนรอบข้าง จนเขาไม่อยากอยู่ด้วย
แต่ระหว่างที่พ่อไม่อยู่ คุณต้องดูแลแม่อย่างใกล้ชิด (กันแม่คิดมาก) อาจต้องทนฟังท่านบ่นหนักขึ้นในช่วงแรกๆ
แล้วค่อยๆบอกเหตุผลว่าทำไมพ่อถึงไป โดยให้แม่คิดในมุมพ่อดูบ้าง...
ขอย้ำว่า... ขั้นตอนนี้ อย่าซ้ำเติมแม่ ในทำนองว่า ไม่มีใครอยากอยู่ด้วยแล้ว
แต่ให้พูดทำนองว่า คุณรักแม่และพ่อ อยากให้ท่านทั้งสองมีความสุข
บอกท่านว่า ครอบครัวจะเข้มแข็งเมื่อจับมือกันสู้ ... ให้กำลังใจกัน ไม่ใช่บั่นทอนกัน
และ "แม่คือกำลังใจที่ดีที่สุดของพ่อเสมอ" ซึ่งในทางตรงข้าม หากแม่เลือกที่จะใช้คำพูดบั่นทอน
พ่อจะไม่มีแรงใจไปทำอะไรได้เลย ....
เราเชื่อว่า แม่คุณจะใจเย็นลง (รู้สึกผิด) และเริ่มเปิดใจ ฟังความคิดเห็นคนรอบตัวบ้างค่ะ
ส่วนเรื่องอาชีพ .. ถ้าพ่อยังสุขภาพแข็งแรง เมื่อสภาพจิตใจเรื่องแม่ของคุณดีขึ้นแล้ว
ท่านน่าจะพบช่องทางหารายได้ในไม่ช้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เมื่อพ่อเกษียณรอายุแล้ว ไม่ใช่ข้าราชการ ทำอะไรกันต่อหรือคะ ? แนะนำเราหน่อยได้ไหม แม่เราไล่ให้พ่อไปหางานทุกวันเลย ปวดหัว
แม่เราเป็นแม่บ้าน เค้าเป็นคน คิดมาก ช่วงนี้พ่อไม่ได้ทำงานแล้ว แม่เราด่าพ่อทุกวันเลย
พ่อเราจับมือถือ นิดหน่อยแม่ก็ว่า ..หาว่าพ่อเราไม่ รู้จักหางาน มัวแต่นั่งกดมือถือ พ่อเราก็เครียด
สงสารพ่อมาก คือเรากับน้องก็ทำงานหาเงินอยู่ แต่แม่ก็เหมือนรับไม่ได้ที่พ่อ ไม่ได้ทำงาน
.
ไม่รู้จะมีใครเป็นแบบบ้านเราไหม ? แม่เรายึดติดว่าพ่อต้องเป็นคนหาเงิน ไม่อยากได้เงินจากลูก
เราก็ให้เค้าอยู่นะ เค้าก็รับเงินปกติ แต่เค้าจะด่าพ่อยู่แบบนี้ทุกวัน ย้ำคิด ย้ำทำ เราปวดหัวมาก สงสารพ่อด้วย
.
เราจะทำยังไงดีคะ พ่อเราอายุ 63 ปี เราจะหาอะไรให้พ่อทำดี เพื่อไม่ให้พ่อต้องเจอเรื่องเดิมๆ เช้า - ยันเย็นแบบนี้ทุกวัน
เฮ้อ เราก็เหนื่อยใจ เค้าทะเลาะกันทุกวัน เราทำๆงานอยู่ เค้าโทรมา ตะค่อกๆ แล้วก็วาง ปวดดหัวไมเกรนขึ้น - - '' อะ
จะเอาพ่อไปทำงานที่ไหนดี งานเบาๆ งานเกี่ยวกับร้านเบเกอรี่ ? เเล้วช่วงระหว่างนี้จะทำยังไงดี เฮ้อ TT เรื่องเดิมๆ ที่เบื่อหน่ายมากเลย
.
ใครมีไอเดียบ้างนะ..
เเนะนำเราทีค่ะ...