สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์เคล็ดลับในการจัดการกับความเครียด จากประสบการณ์ตรงที่ปฏิบัติมาค่ะ ซึ่งทำให้มองเห็นปัญหาและแนวทางการจัดการได้ดีค่ะ
กุญแจที่ช่วยในการจัดกาารกับความเครียดให้ได้ผลสำเร็จก็คือ การหาความสมดุลอันเหมาะสำหรับความเครียด ทุกคนมีระบบ "เตือนภัยและตอบสนอง" ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเครียดนั่นเอง แต่มีกฎพื้นๆ อยู่ 20 ข้อที่เราสามารถเรียนรู้เพื่อมองความเครียดในลักษณ์ที่ถูกต้อง เป็นจริงยิ่งขึ้น และนำไปใช้ประโยชน์กับคุณได้ดังต่อไปนี้
1. เรียนรู้ที่จะมองเห็นและเข้าถึงคุณค่าของความเครียด ซึ่งเป็นแรงจูงใจและเหตุผลในสิ่งที่เราทำอยู่ ซึ่งทุกคนต่างต้องการสิ่งนี้ในการใช้ชีวิต เหมือนกับการมองเห็นข้อดีของความเครียด จะทำให้รู้สึกดีกว่าการคิดในด้านลบ
2. เรียนรู้และเข้าใจตัวเองว่าบุคลิกภาพของเราเป็นแบบไหน ซึ่งจะทำให้เรารู้จักในการจัดการและปรับตัว เมื่อยู่ในสภาวะเครียด
3. คิดไว้ว่าความเครียดนั้นเกิดจากสาเหตุไหน และจะจัดการได้ดีที่สุดจากภายในสาเหตุนั้นๆ
4. รู้ว่าระดับความเครียดของตนเอง อยู่ที่ระดับไหน
5. เรียนรู้ที่จะแยกแยะให้ออกว่า ความเครียดที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เกิดมาจากสาเหตุต่างๆ ซึ่งเป็นอะไรบ้าง
6. รู้ว่าปฎิกิริยาของเราที่แสดงออก เมื่อเจอแหล่งที่มาต่างๆของความเครียดนั้นเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้รับรู้อารมณ์ของตนเองในตอนนั้น ซึ่งทำให้เรามีความคิดรอบครอบในสิ่งที่จะพูด จะทำ และจะได้ไม่ต้องแปลกใจกับสิ่งเหล่านั้นมากเกินไป
7. หลีกเลี่ยงความคิดที่ว่าทุกอย่างจะต้องถูกต้องสมบูรณ์ดีเลิศ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น มันหมายถึงการคาดหวังจากตนเองและคนอื่นมากเกินไป เมื่อไม่ได้ดั่งความคิดของเรา จะทำให้รู้สึกผิดหวังกับสิ่งนั้นและไม่กล้าที่จะทำต่อไปอีก
8. หลีกเลี่ยงสถารณ์ยั่วยุต่อความเครียดและความโกรธ ที่ไม่จำเป็นเท่าที่จะเป็นได้
9. หลีกเลี่ยงการทำร้ายจิตใจตนเอง โดยการพูดให้กำลังใจตัวเองในด้านที่ดีพยายามอย่าทับถมคำพูดในทางที่แย่ให้กับตนเอง และเรียนรู้ว่าเมื่อไรควรจะพูดคำว่า "ไม่" โดยไม่รู้สึกผิด
10. หลีกเลี่ยงการแยกความคิดออกเป็นส่วนๆ ซึ่งมักเกิดจากการที่พยายามจะทำสิ่งต่างๆ หลายอย่างในเวลาเดียวกัน
11. รู้ว่าทำอย่างไรจึงไม่ไปสร้างความเครียดให้ผู้อื่น ซึ่งจะทำให้เราสบายใจและไม่ต้องเครียดในเรื่องที่กระทำลงไปในทางที่ผิด
12. ระวังเรื่องวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น โดยคำนึงถึงหลักความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ และผลกระทบที่ตามมามากหรือน้อย
13. เรียนรู้คุณค่าในการคิดในแง่บวก การคิดในแง่บวกเป็นการจัดการความเครียดที่เร็วที่สุด ซึ่งเหมือนกับการเปลี่ยนทัศนคติและอารมณ์ในเวลานั้นๆ การมองเห็นคุณค่าของการคิดแง่บวกว่ามีข้อดีอย่างไร
14. ค้นหาถึงหน้าตาที่ดูสดชื่นแจ่มใสนั้น มีผลดีอย่างไรบ้าง
15. ค้นหาว่าแรงจูงใจและความสุขของตนเองคืออะไร และมั่นใจว่ามีความสุขกับแรงจูงใจเหล่านั้นจริง
16. สร้างนิสัยในการเลือกตัดสินทุกๆอย่าง ว่าสิ่งไหนสำคัญต่อตัวเองเป็นอันดับแรก
17. เรียนรู้ว่าการมอบหมายงานให้ผู้อื่นทำแทน อย่างมีเหตุผล และมีประสิทธิผล อย่าโทษตัวเองว่าทำไม่ได้เพราะสิ่งนั้นสิ่งนี้
18. สร้างนิสัยในการพูดคุยหรือระบายเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ออกมาให้หมด หรือให้มากกว่าที่สะสมไว้
19. อย่าลืมว่าการเป็นผู้รับฟัง ก็มีความสำคัญพอๆ กันกับการพูดสื่อสารที่ได้ผล
20. เรียนรู้ที่จะให้คุณค่าแก่ตัวเอง หรือให้คุณค่าของการออกกำลังกายและพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
ข้อสุดท้ายค่ะ รวบรวมคำตอบของทุกข้อ แล้วนำมาคิดตาม ผลสุดท้ายที่ได้คือการปล่อยว่างความเครียดที่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ที่ตัวเราค่ะ ว่าจะเลือกเดินไปทางไหน เป็นทางที่จะทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข หรือดำเนินชีวิตอย่างมีความทุกข์ ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราค่ะ ว่าจะเลือกตัดสินใจอย่างไร หรือลองนึกถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นและดำเนินต่อไปว่าคุณอยากให้เป็นแบบไหน สิ่งนี้แหละค่ะ จะเป็นเหมือนกำลังใจเล็กๆ ที่ทำให้คุณสามารถก้าวข้ามปัญหาความเครียดจากสิ่งต่างๆไปได้
เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆคนนะคะ สู้ๆค่ะ
แชร์วิธีการในการจัดการกับความเครียด
กุญแจที่ช่วยในการจัดกาารกับความเครียดให้ได้ผลสำเร็จก็คือ การหาความสมดุลอันเหมาะสำหรับความเครียด ทุกคนมีระบบ "เตือนภัยและตอบสนอง" ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเครียดนั่นเอง แต่มีกฎพื้นๆ อยู่ 20 ข้อที่เราสามารถเรียนรู้เพื่อมองความเครียดในลักษณ์ที่ถูกต้อง เป็นจริงยิ่งขึ้น และนำไปใช้ประโยชน์กับคุณได้ดังต่อไปนี้
1. เรียนรู้ที่จะมองเห็นและเข้าถึงคุณค่าของความเครียด ซึ่งเป็นแรงจูงใจและเหตุผลในสิ่งที่เราทำอยู่ ซึ่งทุกคนต่างต้องการสิ่งนี้ในการใช้ชีวิต เหมือนกับการมองเห็นข้อดีของความเครียด จะทำให้รู้สึกดีกว่าการคิดในด้านลบ
2. เรียนรู้และเข้าใจตัวเองว่าบุคลิกภาพของเราเป็นแบบไหน ซึ่งจะทำให้เรารู้จักในการจัดการและปรับตัว เมื่อยู่ในสภาวะเครียด
3. คิดไว้ว่าความเครียดนั้นเกิดจากสาเหตุไหน และจะจัดการได้ดีที่สุดจากภายในสาเหตุนั้นๆ
4. รู้ว่าระดับความเครียดของตนเอง อยู่ที่ระดับไหน
5. เรียนรู้ที่จะแยกแยะให้ออกว่า ความเครียดที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เกิดมาจากสาเหตุต่างๆ ซึ่งเป็นอะไรบ้าง
6. รู้ว่าปฎิกิริยาของเราที่แสดงออก เมื่อเจอแหล่งที่มาต่างๆของความเครียดนั้นเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้รับรู้อารมณ์ของตนเองในตอนนั้น ซึ่งทำให้เรามีความคิดรอบครอบในสิ่งที่จะพูด จะทำ และจะได้ไม่ต้องแปลกใจกับสิ่งเหล่านั้นมากเกินไป
7. หลีกเลี่ยงความคิดที่ว่าทุกอย่างจะต้องถูกต้องสมบูรณ์ดีเลิศ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น มันหมายถึงการคาดหวังจากตนเองและคนอื่นมากเกินไป เมื่อไม่ได้ดั่งความคิดของเรา จะทำให้รู้สึกผิดหวังกับสิ่งนั้นและไม่กล้าที่จะทำต่อไปอีก
8. หลีกเลี่ยงสถารณ์ยั่วยุต่อความเครียดและความโกรธ ที่ไม่จำเป็นเท่าที่จะเป็นได้
9. หลีกเลี่ยงการทำร้ายจิตใจตนเอง โดยการพูดให้กำลังใจตัวเองในด้านที่ดีพยายามอย่าทับถมคำพูดในทางที่แย่ให้กับตนเอง และเรียนรู้ว่าเมื่อไรควรจะพูดคำว่า "ไม่" โดยไม่รู้สึกผิด
10. หลีกเลี่ยงการแยกความคิดออกเป็นส่วนๆ ซึ่งมักเกิดจากการที่พยายามจะทำสิ่งต่างๆ หลายอย่างในเวลาเดียวกัน
11. รู้ว่าทำอย่างไรจึงไม่ไปสร้างความเครียดให้ผู้อื่น ซึ่งจะทำให้เราสบายใจและไม่ต้องเครียดในเรื่องที่กระทำลงไปในทางที่ผิด
12. ระวังเรื่องวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น โดยคำนึงถึงหลักความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ และผลกระทบที่ตามมามากหรือน้อย
13. เรียนรู้คุณค่าในการคิดในแง่บวก การคิดในแง่บวกเป็นการจัดการความเครียดที่เร็วที่สุด ซึ่งเหมือนกับการเปลี่ยนทัศนคติและอารมณ์ในเวลานั้นๆ การมองเห็นคุณค่าของการคิดแง่บวกว่ามีข้อดีอย่างไร
14. ค้นหาถึงหน้าตาที่ดูสดชื่นแจ่มใสนั้น มีผลดีอย่างไรบ้าง
15. ค้นหาว่าแรงจูงใจและความสุขของตนเองคืออะไร และมั่นใจว่ามีความสุขกับแรงจูงใจเหล่านั้นจริง
16. สร้างนิสัยในการเลือกตัดสินทุกๆอย่าง ว่าสิ่งไหนสำคัญต่อตัวเองเป็นอันดับแรก
17. เรียนรู้ว่าการมอบหมายงานให้ผู้อื่นทำแทน อย่างมีเหตุผล และมีประสิทธิผล อย่าโทษตัวเองว่าทำไม่ได้เพราะสิ่งนั้นสิ่งนี้
18. สร้างนิสัยในการพูดคุยหรือระบายเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ออกมาให้หมด หรือให้มากกว่าที่สะสมไว้
19. อย่าลืมว่าการเป็นผู้รับฟัง ก็มีความสำคัญพอๆ กันกับการพูดสื่อสารที่ได้ผล
20. เรียนรู้ที่จะให้คุณค่าแก่ตัวเอง หรือให้คุณค่าของการออกกำลังกายและพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
ข้อสุดท้ายค่ะ รวบรวมคำตอบของทุกข้อ แล้วนำมาคิดตาม ผลสุดท้ายที่ได้คือการปล่อยว่างความเครียดที่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ที่ตัวเราค่ะ ว่าจะเลือกเดินไปทางไหน เป็นทางที่จะทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข หรือดำเนินชีวิตอย่างมีความทุกข์ ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราค่ะ ว่าจะเลือกตัดสินใจอย่างไร หรือลองนึกถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นและดำเนินต่อไปว่าคุณอยากให้เป็นแบบไหน สิ่งนี้แหละค่ะ จะเป็นเหมือนกำลังใจเล็กๆ ที่ทำให้คุณสามารถก้าวข้ามปัญหาความเครียดจากสิ่งต่างๆไปได้
เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆคนนะคะ สู้ๆค่ะ