เคยได้ยินมาว่าถ้าอยากรู้ว่าชีวิตช่วงนี้สุขหรือทุกข์มากกว่ากัน ให้สังเกตุชีวิตตัวเองว่าตอนนี้มีความสุขหรือความทุกข์มากกว่ากัน ถ้าสุขมากกว่าทุกข์ไม่เป็นไร แสดงว่าบุญที่เคยทําไว้ยังส่งผลอยู่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ทุกข์มากกว่าสุข นั้นอาจเป็นเพราะกรรมเก่าในอดีตที่เคยทําไว้จากเจ้ากรรมนายเวรมาตามส่งผลมาตามทวงหนี้กรรมที่เราเคยทําไว้กับเขา เหมือนเราไปยืมเงินเขามาแล้วไม่ได้คืนเจ้าหนี้ก็ไม่พอใจตามมาทวงคืนทําให้เกิดทุกข์ เกิดปัญหาในที่นี้เจ้าหนี้หมายถึงเจ้ากรรมนายเวรของเรา เราต้องหาเงินในที่นี้หมายถึงบุญกุศลที่เราสร้างไปใช้คืนจนครบจํานวนที่ยืมมา จนเจ้าหนี้ได้ครบพอใจปล่อยเราไปไม่ทําอะไรอีก ความทุกข์และปัญหาจะเบาบางลงไป

    พระพุทธองค์จึงตรัสว่า ให้รีบละชั่วเร่งทําความดี เพื่อความดีจะได้แทนนํ้าไปชะล้างเกลือที่แทนกรรมเก่าให้เบาบางลง พระพุทธศานาเป็นเรื่องของความเชื่อครับ ความเชื่อจะเปลี่ยนเป็นความศรัทธา ไม่มีใครเคยเห็นพระพุทธองค์พระองค์จริงมาก่อน แล้วเชื่อได้อย่างไรว่าท่านเคยมีอยู่จริงๆ นั่นเพราะเราเลือกที่จะเชื่อครับ เลือกที่จะเชื่อว่าทําดีแล้วต้องได้ดี เชื่อในพระธรรมคําสอนของพระองค์ที่เป็นแก่นแท้ของศนาจริงๆ วัดวาอาราม วัตถุมงคลต่างๆล้วนเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้นครับ ความว่างคือพุทธะ ความว่างคือตัวธรรมมะ ความว่างคือจิตเดิมๆหรือจิตแท้ๆ อันนี้คือหัวใจหลักของพระพุทธศนาอย่างแท้จริงครับ