พิศกับเพลินไปเรียนคุณหญิงชื่นว่าการที่ให้ตนไปแกล้งใช้งานทับทิมอย่างหนักนั้นไม่เป็นผล ด้วยทับทิมไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทำอะไรก็คล่องแคล่วว่องไวไปเสียหมด แถมยังถึกบึกบึนไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย อังกาบที่นั่งฟังอยู่จึงถามคุณหญิงชื่นว่าทับทิมไม่รู้ข่าวการหมั้นหมายของตนกับสิงห์หรือไร คุณหญิงชื่นหันมาถามพิศกับเพลิน สองบ่าวออกความเห็นว่า...
“น่าจะยังไม่รู้นะเจ้าคะ คุณสิงห์ต้องปิดบังไว้ไม่ให้แม่ทับทิมรู้เป็นแน่” พิศออกความเห็น
“หรือบางทีอาจจะรู้ แต่ทำหน้าหนาจะอยู่ต่อก็เป็นได้นะเจ้าคะคุณหญิงป้า” อังกาบออกความเห็น
“จริงสิแม่อังกาบ คนชาติไพร่ต่ำสกุลเช่นนั้นคงไม่ปล่อยพ่อสิงห์ไปโดยง่ายเป็นแน่ แล้วเราจะทำอย่างไรดี”
คุณหญิงชื่นกระวนกระวายใจเมื่อถูกยุยง อังกาบจึงบอกว่าตนมีแผน และแผนของอังกาบคือให้กิ่งบ่าวรับใช้และเพลินบ่าวของคุณหญิงชื่นไปพูดคุยเรื่องการหมั้นหมายของตนกับสิงห์ให้ทับทิมได้ยิน กิ่งกับเพลินไปสาธยายถึงความอลังการของงานหมั้นที่จะมาถึงอย่างยาวเหยียดให้บ่าวในเรือนฟัง พร้อมทั้งกล่าวยกยอปอปั้นว่าสิงห์กับอังกาบเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
ทับทิมที่กำลังผ่าฟืนอยู่ได้ยินเข้าก็เกิดโมโหจึงโยนท่อนฟืนเข้าไปกลางวงสนทนา ทำให้ทุกคนแตกตื่น ทับทิมเดินเข้ามาหากิ่งกับพิศด้วยท่าทีขึงขัง กิ่งกับพิศเห็นท่าไม่ดีก็เริ่มหวาดกลัว
“เมื่อครู่เอ็งบอกว่าใครจะหมั้นหมายกับใครรึ” ทับทิมถามเสียงแข็ง
“เขารู้กันทั้งเรือน นี่เอ็งไปมุดหัวอยู่ที่ใด ไม่รู้ข่าวคราวบ้างเลยรึ” กิ่งสวนขึ้นทันที ทับทิมยิ่งโมโหผลักกิ่งจนทรุดลง
“ข้าถามก็รีบบอกมา” ทับทิมควบคุมสติไม่อยู่จึงตะคอกใส่กิ่ง เพลินจึงรีบตอบแทนกิ่งที่กำลังหวาดกลัวทับทิมจนพูดไม่ออก
“งานหมั้นหมายของคุณสิงห์กับคุณอังกาบจะมีขึ้นเร็ววันนี้”
“ไม่จริง พวกเอ็งโกหก ปั้นน้ำเป็นตัว” ทับทิมไม่เชื่อสิ่งที่พิศบอก
“ข้าจะโกหกปั้นน้ำเพื่อกระไรเล่า ก็วันก่อนที่คุณหญิงจะไล่เอ็งจากเรือน คุณสิงห์จึงยอมตกลงหมั้นกับคุณหนูอังกาบเพื่อให้เอ็งได้อยู่ต่อ” ทับทิมนิ่งอึ้งไป เสียใจที่สิงห์ปิดเรื่อนี้ไม่ยอมบอกตน
“คุณสิงห์เธอคงอยากเก็บเอ็งไว้เป็นเมียบ่าวกระมัง ทำใจแล้วยอมแพ้เถิด เอ็งเป็นแค่สาวชาวบ้านจะเทียบกระไรกับคุณหนูอังกาบเธอได้” คำพูดตอกย้ำของเพลินยิ่งทำให้ทับทิมโมโหหนักขึ้น บ่าวทุกคนเมื่อเห็นทับทิมโกรธจนควันออกหูก็หวาดกลัว เกรงว่าจะโดนลูกหลงจากทับทิม แต่ทับทิมกลับเดินจ้ำอ้าวออกไปเก็บข้าวของของตนในทันที กิ่งกับเพลินรีบวิ่งแจ้นไปแจ้งข่าวให้นายของตนทราบ คุณหญิงชื่นกับอังกาบยิ้มพอใจที่สามารถกำจัดทับทิมออกไปพ้นเรือนได้เสียที
00000000
ทับทิมสะพายพ่อผ้าวิ่งหลบหนีพวกบุษย์และบ่าวคนอื่นที่สิงห์สั่งไว้ให้คอยเฝ้าดูตน แต่ทับทิมก็สามารถหลบหนีทุกคนแล้วลอบออกมาจากเรือนจนพ้น ทับทิมตรงดิ่งเร่งรีบมุ่งหน้าจะกลับวิเศษชัยชาย กึ่งวิ่งกึ่งเหลียวหลังด้วยความหวาดระแวงจนไปชนเข้าอย่างแรงกับชายหนุ่มกลางตลาด ทับทิมพยุงร่างของเขาขึ้น ก่อนจะทำตาโตอุทานทึ่งว่า...
“ไอ้จุก!”
“พี่ทับทิมของไอ้จุก"
แล้วทั้งคู่ก็โผเข้ากอดกันอย่างดีอกดีใจที่ได้มาพบเจอกัน ทับทิมถามไถ่ว่าจุกมาทำอะไรที่นี่...
“ฉันก็มาตามหาพี่อย่างไรเล่า ไอ้จุกอยู่วิเศษชัยชาญไม่มีพี่ทับทิม มันเหงาสุดขั้วหัวใจฉันนัก ฉันก็เลยพายเรือมากรุงศรีฯ เพิ่งถึงเมื่อรุ่งสางนี้เอง”
“ถึงรุ่งสาง แล้วเหตุใดเพิ่งมาอยู่ตรงนี้ นี่มันสายจนพระจะฉันเพลอยู่แล้ว”
“ฉันก็ถามทางมาหาพี่นี่แหละ ไม่มีใครรู้จักเรือนไอ้สิงห์เลย ฉันเดินหาจนทั่วแล้ว เมืองกรุงมันกว้างใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะเลยเนอะพี่ ฉันเดินจนล้าไปหมดแล้ว ดีนักที่ได้มาเจอพี่ทับทิมที่นี่” จุกพูดไม่หยุดด้วยความดีใจ และจุกก็ยังไม่รู้ว่าสิงห์เป็นถึงบุตรชายของจมื่นสรรเพชญ์ภักดี มิใช่ลูกพ่อค้าธรรมดาอย่างที่สิงห์เคยบอกไว้
“เรือเอ็งจอดอยู่ที่ใด”
“ฉันผูกเรือไว้ที่ท่าน้ำตรงโน้น พี่ถามทำไมรึ” จุกสงสัยที่ทับทิมถามหาเรือ
“ข้าจะกลับวิเศษชัยชาญ ไป! เอ็งไปกับข้า” ทับทิมจูงแขนจุกเดินจ้ำอ้าวไปอย่างเร่งรีบ
“ประเดี๋ยวก่อนพี่ทับทิม ฉันพึ่งพายเรือมาถึง จะไม่ให้พักเลยรึ”
จุกบ่นน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน พลันสิงห์ก็วิ่งตามทับทิมมาจนเจอ จุกเห็นสิงห์ก็ร้องทักทาย ทับทิมตกใจที่เห็นสิงห์ จึงปล่อยมือจุกแล้วรีบวิ่งหนีสิงห์ไป จุกงงว่าสองคนเล่นอะไรกัน พลันสิงห์ก็ตะโกนบอกให้จุกจับตัวทับทิมไว้ จุกจึงรีบวิ่งตามทับทิมไปแบบงงๆ ทับทิมวิ่งไปถึงเรือรีบปลดสมอเรือออกแต่จุกก็มาคว้าเรือไว้ได้ทัน จุกรีบคว้าไม้พายขึ้นมา ทับทิมโวยวายให้จุกคืนไม้พายให้ตน พลันสิงห์ก็มาถึง ทับทิมร้องไล่สิงห์ไม่ให้เข้ามาใกล้ตน เหตุการณ์ชุลมุน เรือโยกเยกโคลงเคลงจนทับทิมพลัดตกน้ำไป
จุกกับสิงห์ช่วยดึงทับทิมขึ้นมา สิงห์รีบขอโทษทับทิมและให้คำมั่นว่าตนจะแค่หมั้นหมายแต่ไม่ยอมแต่งกับอังกาบเป็นอันขาด ตนแค่หลอกให้คุณหญิงแม่ตายใจ ขอให้ทับทิมจงเชื่อมั่นว่าตนไม่อาจแต่งงานกับหญิงคนใดได้ ถ้าหญิงผู้นั้นไม่ใช่คนที่อยู่ตรงหน้านี้ ทับทิมจึงโต้กลับมาว่าแม้แต่แม่บังเกิดเกล้าสิงห์ยังหลอกได้ แล้วจะให้ตนเชื่อได้อย่างไร สิงห์จึงกล่าวสัตย์สาบานออกมาอย่างจริงจัง ทับทิมจึงยอมกลับไปกับสิงห์อีกครั้ง แต่คราวนี้จุกอาสาอยู่ช่วยทับทิมสู้รบปรบมือกับพวกคุณหญิงชื่นและอังกาบ สิงห์ก็อนุญาตให้จุกอยู่ ตนจะได้เบาใจว่าทับทิมจะไม่ว้าเหว่เหมือนที่ผ่านมา เมื่อจุกเห็นบ้านเรือนของสิงห์ก็อ้าปากค้างเพราะเห็นว่ากว้างขวางใหญ่โตนัก แต่เมื่อเห็นเรือนพักของทับทิมก็มองค้อนสิงห์ว่าเหตุใดให้พี่ตนมาอยู่เรือนบ่าวเยี่ยงนี้ ส่วนจุกก็ได้ไปพักอยู่เรือนเดียวกับบุษย์บ่าวคนสนิทของสิงห์
คุณหญิงชื่นกับอังกาบเห็นทับทิมเดินหน้าชื่นกลับมาที่เรือนพร้อมสิงห์ แถมยังมีชายหนุ่มทรงผมมัดจุกเดินเข้ามาทำหน้าแป้นแล้น ก็ไม่พอใจที่แผนการกำจัดทับทิมไม่ได้ผล คุณหญิงชื่นเข้าไปต่อว่าลูกชายว่าพาคนทำผมทรงประหลาดเข้ามาในเรือน นึกอยากจะพาใครเข้าเรือนก็พามาตามใจชอบ ไม่เห็นหัวแม่แล้วหรือ หรือว่าเป็นผู้มีพระคุณอีกคน แล้วพูดประชดสิงห์ว่าคราวหน้าก็ขนผู้มีพระคุณมาให้หมดทีเดียวเสียเลย ก่อนจะเดินหนีขึ้นเรือนไป
ส่วนอังกาบยังคงวางแผนกลั่นแกล้งทับทิม โดยใช้กิ่ง พิศและเพลินไปหาเรื่องทับทิมอีกตามเคย แต่คราวนี้จุกรับมือกับคนที่จะมาหาเรื่องทับทิมได้ และฝ่ายหาเรื่องเป็นฝ่ายโดนจุกเล่นงานเพื่อปกป้องทับทิมเสียเอง ทำให้อังกาบยิ่งชังน้ำหน้าทับทิมกับจุกมากขึ้น
00000000
เช้าวันนี้ คุณหญิงชื่นจัดเตรียมข้าวของจะไปถวายหลวงพ่อที่วัด และตั้งใจหาฤกษ์หมั้นหมายให้ลูกชาย อังกาบมาดักรอที่ท่าน้ำแต่เช้าตรู่ คุณหญิงคิดจะกลั่นแกล้งทับทิมจึงให้บ่าวไปเรียกมาพายเรือให้ตนกับอังกาบนั่ง จุกจะไปด้วยแต่โดนกิ่งกับเพลินกันท่าไว้ ระหว่างทางคุณหญิงก็ชื่นชมอังกาบว่าเหมาะสมจะเป็นศรีสะใภ้และพูดเหน็บแนมทับทิม โดยมีพิศกับกิ่งคอยทำตัวเป็นนายว่าขี้ข้าพลอย ทับทิมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ตั้งหน้าตั้งตาเร่งพายเรือให้ถึงวัดโดยเร็ว
หลวงพ่อนั่งเขียนกระดานหาฤกษ์ยามให้คุณหญิงชื่นสีหน้าเคร่ง ก่อนจะบอกกับคุณหญิงชื่นว่าฤกษ์งามยามดีในช่วงนี้ไม่มี ฤกษ์เร็วที่สุดที่คุณหญิงต้องการ ก็ต้องรอไปอีกสามปี คุณหญิงชื่นหน้าหงิกกับคำตอบของหลวงพ่อ อังกาบยิ่งไม่พอใจมากที่ฤกษ์ยามของหลวงพ่อไม่ได้ดังใจตนนัก คุณหญิงชื่นเห็นอังกาบทำหน้านิ่วจึงปลอบว่าอย่ากังวล ตนจะหาฤกษ์สะดวกหมั้นหมายเดือนหน้าเสียเลย ทำให้อังกาบยิ้มออก และชวนคุณหญิงชื่นแวะดูผ้าแพรที่ตลาด คุณหญิงชื่นจึงตามใจว่าที่ศรีสะใภ้และเรียกทับทิมไปคอยถือของให้
00000000
อังกาบเลือกซื้อผ้าแต่ไม่ถูกใจ จึงสั่งให้แม่ค้าเอาผ้าที่ใหม่ที่สุด แพงที่สุดมาให้ตนดู อวดอ้างว่าตนร่ำรวยแพงแค่ไหนก็ซื้อได้ โจรสองคนที่กำลังเลือกเหยื่อได้ยินเข้าจึงสบตากันและถือมีดเข้าจี้ปล้นอังกาบและคุณหญิงชื่นทันที ทั้งสองตกใจจนสติหลุด ร้องขอความช่วยเหลือจนเสียงหลง โจรจึงตวาดบอกให้หุบปาก
“เอ็งต้องการอัฐใช่ไหม เอาไปเลย เอาไปให้หมดเลย แต่อย่าทำกระไรฉันเลยนะ ปล่อยฉันไป อยากได้กระไรฉันให้หมดเลย” อังกาบโยนถุงเงินให้โจรและถอดสร้อย แหวน กำไลมือ และต่างหูให้โจรจนหมด โจรยิ้มพอใจและปล่อยอังกาบออกไปเพื่อเก็บของมีค่าใส่ถุงย่ามของตน
คุณหญิงชื่นเห็นโจรยอมปล่อยอังกาบ จึงโยนเงินให้โจรบ้างและบอกให้โจรปล่อยตนไป แต่โจรขู่ให้ถอดสร้อยพระออกด้วย คุณหญิงชื่นเสียดาย ไม่ยอมถอดเพราะเป็นของเก่าแก่ประจำตระกูล คุณหญิงชื่นร้องขอให้อังกาบช่วยตน
“ช่วยตนเองเถิดเจ้าค่ะคุณหญิงป้า ถอดๆให้มันไปเถิดเจ้าค่ะ”
อังกาบหวาดกลัวจนไม่กล้ายื่นมือเข้าช่วย พอดีมีคนของหลวงมาเดินตรวจตราดูความเรียบร้อยและเห็นโจรกำลังปล้น โจรตกใจจึงรีบเผ่นหนีไปโดยพาคุณหญิงชื่นไปเป็นตัวประกันด้วย ทับทิมที่แอบหนีไปเดินดูของในตลาด เมื่อเดินกลับมาก็เห็นคุณหญิงชื่นตกอยู่ในอันตรายจึงรีบวิ่งตามไป ทับทิมเห็นว่ามีทางลัด จึงวิ่งไปดักหน้าโจรไว้ โจรตกใจหันมีดไปทางทับทิม
“พวกเอ็งหนีไม่รอดแน่ ทหารหลวงกำลังจะตามมาจับกุมพวกเอ็ง”
“หลบไป ไม่งั้นนังคุณหญิงนี่ตาย” โจรขู่ให้ทับทิมหลบให้พ้นทาง คุณหญิงชื่นร้องโวยวายเมื่อโจรเอามีดมาจ่อคอตน
“ที่พวกแกล่าช้าก็เพราะป้าแกเป็นตัวถ่วงไม่ใช่รึ ปล่อยป้าแกไป เอาฉันไปแทน ฉันวิ่งเร็วจนมาดักหน้าพวกแกได้ เห็นอยู่ไม่ใช่รึ”
เสียงฝีเท้าทหารหลวงกำลังกรูกันมา...
“มัวรีรอกระไรเล่า เขาจะมาจับพวกแกอยู่แล้ว” ทับทิมค่อยๆย่องเข้าไปใกล้โจร โจรเซ่อจึงผลักคุณหญิงชื่นออกไปจนล้ม แล้วคว้าทับทิมมาเป็นตัวประกันแทน
เมื่อทับทิมได้เข้าใกล้ตัวโจร ทับทิมก็จัดการจนโจรเซ่อสองคนต้องสะบักสะบอมลงไปกองกันกับพื้น ทหารหลวงมาถึงพอดีจึงจับกุมตัวโจรสองคนไป ก่อนไปทหารหลวงได้กล่าวชื่นชมทับทิมยกใหญ่
ทับทิมรีบหันกลับไปจะพยุงคุณหญิงชื่นให้ลุกขึ้นยืน แต่ก็ไม่กล้าจะแตะตัวคุณหญิงชื่นเท่าใด เพราะรู้ว่าตนเป็นที่รังเกียจอยู่ คุณหญิงชื่นเองก็ทำตัวไม่ถูกที่ศัตรูมาช่วยเหลือตนเอาไว้ อังกาบ กิ่งและพิศวิ่งมาถึงพอดี อังกาบรีบผลักทับทิมออกจากคุณหญิงชื่น แต่คุณหญิงชื่นปรามไว้ และกล่าวขอบใจทับทิม ทับทิมดีใจที่คุณหญิงพูดดีกับตน ส่วนอังกาบเริ่มกังวลว่าคุณหญิงชื่นจะปลาบปลื้มทับทิมจนยอมใจอ่อน เพราะเริ่มสัมผัสได้ว่าคุณหญิงชื่นไม่เอาใจตนเหมือนเมื่อก่อน
00000000
คุณหญิงชื่นเริ่มใจอ่อนกับทับทิมเหมือนที่อังกาบหวาดกลัว เมื่อพิศกับเพลินพูดให้ร้ายทับทิมเหมือนเคยก็โดนดุ ทำให้บ่าวเริ่มสับสนเพราะเมื่อก่อนนายของตนยังเห็นดีเห็นงามให้เกลียดทับทิมอยู่เลย คุณหญิงชื่นให้บุษย์ไปเรียกตัวทับทิมมา และเริ่มชวนคุยว่าทำไมถึงเก่งมวยและปลาบปลื้มเมื่อรู้ว่าทับทิมเป็นหนึ่งในคนที่สอนมวยให้สิงห์
“เป็นหญิงแต่รักการเรียนวิชาต่อสู้ ปกป้องตนเองได้ แถมยังช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก” คุณหญิงชื่นกล่าวชื่นชม จุกที่ติดตามมาด้วยก็ยิ่งโม้อวดว่าพี่สาวตนเก่งมวยที่สุดในวิเศษชัยชาญ คุณหญิงชื่นจึงถามว่าแล้วการบ้านการเรือนทำเป็นไหม ทับทิมยิ้มหน้าเจื่อน คุณหญิงชื่นจึงให้พิศคอยสอนทับทิมหุงหาอาหาร เริ่มจากทำของโปรดของสิงห์ ความชุลมุนเกิดขึ้นในครัวอย่างหรรษา จุกที่คอยชิมอาหารให้ทับทิมแทบอยากจะหนีเพราะพี่สาวตนเก่งแต่หมัดมวย แต่หุงหาข้าวปลาไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
สิงห์เห็นผู้เป็นแม่เริ่มเมตตาทับทิมก็ดีใจเป็นอย่างมาก ด้วยตนเริ่มมีหวังจะได้สมหวังกับหญิงที่ตนรักแล้ว ส่วนอังกาบเมื่อเห็นคุณหญิงชื่นเปลี่ยนไปก็เริ่มระแวงจึงคิดหาแผนการจะกำจัดทับทิมให้พ้นทาง...
00000000
ลูกไม้ลังเสริมมวยไทย ตอนที่ ๒๑ เมื่อกำลังเสริมมาถึง...
“น่าจะยังไม่รู้นะเจ้าคะ คุณสิงห์ต้องปิดบังไว้ไม่ให้แม่ทับทิมรู้เป็นแน่” พิศออกความเห็น
“หรือบางทีอาจจะรู้ แต่ทำหน้าหนาจะอยู่ต่อก็เป็นได้นะเจ้าคะคุณหญิงป้า” อังกาบออกความเห็น
“จริงสิแม่อังกาบ คนชาติไพร่ต่ำสกุลเช่นนั้นคงไม่ปล่อยพ่อสิงห์ไปโดยง่ายเป็นแน่ แล้วเราจะทำอย่างไรดี”
คุณหญิงชื่นกระวนกระวายใจเมื่อถูกยุยง อังกาบจึงบอกว่าตนมีแผน และแผนของอังกาบคือให้กิ่งบ่าวรับใช้และเพลินบ่าวของคุณหญิงชื่นไปพูดคุยเรื่องการหมั้นหมายของตนกับสิงห์ให้ทับทิมได้ยิน กิ่งกับเพลินไปสาธยายถึงความอลังการของงานหมั้นที่จะมาถึงอย่างยาวเหยียดให้บ่าวในเรือนฟัง พร้อมทั้งกล่าวยกยอปอปั้นว่าสิงห์กับอังกาบเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
ทับทิมที่กำลังผ่าฟืนอยู่ได้ยินเข้าก็เกิดโมโหจึงโยนท่อนฟืนเข้าไปกลางวงสนทนา ทำให้ทุกคนแตกตื่น ทับทิมเดินเข้ามาหากิ่งกับพิศด้วยท่าทีขึงขัง กิ่งกับพิศเห็นท่าไม่ดีก็เริ่มหวาดกลัว
“เมื่อครู่เอ็งบอกว่าใครจะหมั้นหมายกับใครรึ” ทับทิมถามเสียงแข็ง
“เขารู้กันทั้งเรือน นี่เอ็งไปมุดหัวอยู่ที่ใด ไม่รู้ข่าวคราวบ้างเลยรึ” กิ่งสวนขึ้นทันที ทับทิมยิ่งโมโหผลักกิ่งจนทรุดลง
“ข้าถามก็รีบบอกมา” ทับทิมควบคุมสติไม่อยู่จึงตะคอกใส่กิ่ง เพลินจึงรีบตอบแทนกิ่งที่กำลังหวาดกลัวทับทิมจนพูดไม่ออก
“งานหมั้นหมายของคุณสิงห์กับคุณอังกาบจะมีขึ้นเร็ววันนี้”
“ไม่จริง พวกเอ็งโกหก ปั้นน้ำเป็นตัว” ทับทิมไม่เชื่อสิ่งที่พิศบอก
“ข้าจะโกหกปั้นน้ำเพื่อกระไรเล่า ก็วันก่อนที่คุณหญิงจะไล่เอ็งจากเรือน คุณสิงห์จึงยอมตกลงหมั้นกับคุณหนูอังกาบเพื่อให้เอ็งได้อยู่ต่อ” ทับทิมนิ่งอึ้งไป เสียใจที่สิงห์ปิดเรื่อนี้ไม่ยอมบอกตน
“คุณสิงห์เธอคงอยากเก็บเอ็งไว้เป็นเมียบ่าวกระมัง ทำใจแล้วยอมแพ้เถิด เอ็งเป็นแค่สาวชาวบ้านจะเทียบกระไรกับคุณหนูอังกาบเธอได้” คำพูดตอกย้ำของเพลินยิ่งทำให้ทับทิมโมโหหนักขึ้น บ่าวทุกคนเมื่อเห็นทับทิมโกรธจนควันออกหูก็หวาดกลัว เกรงว่าจะโดนลูกหลงจากทับทิม แต่ทับทิมกลับเดินจ้ำอ้าวออกไปเก็บข้าวของของตนในทันที กิ่งกับเพลินรีบวิ่งแจ้นไปแจ้งข่าวให้นายของตนทราบ คุณหญิงชื่นกับอังกาบยิ้มพอใจที่สามารถกำจัดทับทิมออกไปพ้นเรือนได้เสียที
ทับทิมสะพายพ่อผ้าวิ่งหลบหนีพวกบุษย์และบ่าวคนอื่นที่สิงห์สั่งไว้ให้คอยเฝ้าดูตน แต่ทับทิมก็สามารถหลบหนีทุกคนแล้วลอบออกมาจากเรือนจนพ้น ทับทิมตรงดิ่งเร่งรีบมุ่งหน้าจะกลับวิเศษชัยชาย กึ่งวิ่งกึ่งเหลียวหลังด้วยความหวาดระแวงจนไปชนเข้าอย่างแรงกับชายหนุ่มกลางตลาด ทับทิมพยุงร่างของเขาขึ้น ก่อนจะทำตาโตอุทานทึ่งว่า...
“ไอ้จุก!”
“พี่ทับทิมของไอ้จุก"
แล้วทั้งคู่ก็โผเข้ากอดกันอย่างดีอกดีใจที่ได้มาพบเจอกัน ทับทิมถามไถ่ว่าจุกมาทำอะไรที่นี่...
“ฉันก็มาตามหาพี่อย่างไรเล่า ไอ้จุกอยู่วิเศษชัยชาญไม่มีพี่ทับทิม มันเหงาสุดขั้วหัวใจฉันนัก ฉันก็เลยพายเรือมากรุงศรีฯ เพิ่งถึงเมื่อรุ่งสางนี้เอง”
“ถึงรุ่งสาง แล้วเหตุใดเพิ่งมาอยู่ตรงนี้ นี่มันสายจนพระจะฉันเพลอยู่แล้ว”
“ฉันก็ถามทางมาหาพี่นี่แหละ ไม่มีใครรู้จักเรือนไอ้สิงห์เลย ฉันเดินหาจนทั่วแล้ว เมืองกรุงมันกว้างใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะเลยเนอะพี่ ฉันเดินจนล้าไปหมดแล้ว ดีนักที่ได้มาเจอพี่ทับทิมที่นี่” จุกพูดไม่หยุดด้วยความดีใจ และจุกก็ยังไม่รู้ว่าสิงห์เป็นถึงบุตรชายของจมื่นสรรเพชญ์ภักดี มิใช่ลูกพ่อค้าธรรมดาอย่างที่สิงห์เคยบอกไว้
“เรือเอ็งจอดอยู่ที่ใด”
“ฉันผูกเรือไว้ที่ท่าน้ำตรงโน้น พี่ถามทำไมรึ” จุกสงสัยที่ทับทิมถามหาเรือ
“ข้าจะกลับวิเศษชัยชาญ ไป! เอ็งไปกับข้า” ทับทิมจูงแขนจุกเดินจ้ำอ้าวไปอย่างเร่งรีบ
“ประเดี๋ยวก่อนพี่ทับทิม ฉันพึ่งพายเรือมาถึง จะไม่ให้พักเลยรึ”
จุกบ่นน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน พลันสิงห์ก็วิ่งตามทับทิมมาจนเจอ จุกเห็นสิงห์ก็ร้องทักทาย ทับทิมตกใจที่เห็นสิงห์ จึงปล่อยมือจุกแล้วรีบวิ่งหนีสิงห์ไป จุกงงว่าสองคนเล่นอะไรกัน พลันสิงห์ก็ตะโกนบอกให้จุกจับตัวทับทิมไว้ จุกจึงรีบวิ่งตามทับทิมไปแบบงงๆ ทับทิมวิ่งไปถึงเรือรีบปลดสมอเรือออกแต่จุกก็มาคว้าเรือไว้ได้ทัน จุกรีบคว้าไม้พายขึ้นมา ทับทิมโวยวายให้จุกคืนไม้พายให้ตน พลันสิงห์ก็มาถึง ทับทิมร้องไล่สิงห์ไม่ให้เข้ามาใกล้ตน เหตุการณ์ชุลมุน เรือโยกเยกโคลงเคลงจนทับทิมพลัดตกน้ำไป
จุกกับสิงห์ช่วยดึงทับทิมขึ้นมา สิงห์รีบขอโทษทับทิมและให้คำมั่นว่าตนจะแค่หมั้นหมายแต่ไม่ยอมแต่งกับอังกาบเป็นอันขาด ตนแค่หลอกให้คุณหญิงแม่ตายใจ ขอให้ทับทิมจงเชื่อมั่นว่าตนไม่อาจแต่งงานกับหญิงคนใดได้ ถ้าหญิงผู้นั้นไม่ใช่คนที่อยู่ตรงหน้านี้ ทับทิมจึงโต้กลับมาว่าแม้แต่แม่บังเกิดเกล้าสิงห์ยังหลอกได้ แล้วจะให้ตนเชื่อได้อย่างไร สิงห์จึงกล่าวสัตย์สาบานออกมาอย่างจริงจัง ทับทิมจึงยอมกลับไปกับสิงห์อีกครั้ง แต่คราวนี้จุกอาสาอยู่ช่วยทับทิมสู้รบปรบมือกับพวกคุณหญิงชื่นและอังกาบ สิงห์ก็อนุญาตให้จุกอยู่ ตนจะได้เบาใจว่าทับทิมจะไม่ว้าเหว่เหมือนที่ผ่านมา เมื่อจุกเห็นบ้านเรือนของสิงห์ก็อ้าปากค้างเพราะเห็นว่ากว้างขวางใหญ่โตนัก แต่เมื่อเห็นเรือนพักของทับทิมก็มองค้อนสิงห์ว่าเหตุใดให้พี่ตนมาอยู่เรือนบ่าวเยี่ยงนี้ ส่วนจุกก็ได้ไปพักอยู่เรือนเดียวกับบุษย์บ่าวคนสนิทของสิงห์
คุณหญิงชื่นกับอังกาบเห็นทับทิมเดินหน้าชื่นกลับมาที่เรือนพร้อมสิงห์ แถมยังมีชายหนุ่มทรงผมมัดจุกเดินเข้ามาทำหน้าแป้นแล้น ก็ไม่พอใจที่แผนการกำจัดทับทิมไม่ได้ผล คุณหญิงชื่นเข้าไปต่อว่าลูกชายว่าพาคนทำผมทรงประหลาดเข้ามาในเรือน นึกอยากจะพาใครเข้าเรือนก็พามาตามใจชอบ ไม่เห็นหัวแม่แล้วหรือ หรือว่าเป็นผู้มีพระคุณอีกคน แล้วพูดประชดสิงห์ว่าคราวหน้าก็ขนผู้มีพระคุณมาให้หมดทีเดียวเสียเลย ก่อนจะเดินหนีขึ้นเรือนไป
ส่วนอังกาบยังคงวางแผนกลั่นแกล้งทับทิม โดยใช้กิ่ง พิศและเพลินไปหาเรื่องทับทิมอีกตามเคย แต่คราวนี้จุกรับมือกับคนที่จะมาหาเรื่องทับทิมได้ และฝ่ายหาเรื่องเป็นฝ่ายโดนจุกเล่นงานเพื่อปกป้องทับทิมเสียเอง ทำให้อังกาบยิ่งชังน้ำหน้าทับทิมกับจุกมากขึ้น
เช้าวันนี้ คุณหญิงชื่นจัดเตรียมข้าวของจะไปถวายหลวงพ่อที่วัด และตั้งใจหาฤกษ์หมั้นหมายให้ลูกชาย อังกาบมาดักรอที่ท่าน้ำแต่เช้าตรู่ คุณหญิงคิดจะกลั่นแกล้งทับทิมจึงให้บ่าวไปเรียกมาพายเรือให้ตนกับอังกาบนั่ง จุกจะไปด้วยแต่โดนกิ่งกับเพลินกันท่าไว้ ระหว่างทางคุณหญิงก็ชื่นชมอังกาบว่าเหมาะสมจะเป็นศรีสะใภ้และพูดเหน็บแนมทับทิม โดยมีพิศกับกิ่งคอยทำตัวเป็นนายว่าขี้ข้าพลอย ทับทิมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ตั้งหน้าตั้งตาเร่งพายเรือให้ถึงวัดโดยเร็ว
หลวงพ่อนั่งเขียนกระดานหาฤกษ์ยามให้คุณหญิงชื่นสีหน้าเคร่ง ก่อนจะบอกกับคุณหญิงชื่นว่าฤกษ์งามยามดีในช่วงนี้ไม่มี ฤกษ์เร็วที่สุดที่คุณหญิงต้องการ ก็ต้องรอไปอีกสามปี คุณหญิงชื่นหน้าหงิกกับคำตอบของหลวงพ่อ อังกาบยิ่งไม่พอใจมากที่ฤกษ์ยามของหลวงพ่อไม่ได้ดังใจตนนัก คุณหญิงชื่นเห็นอังกาบทำหน้านิ่วจึงปลอบว่าอย่ากังวล ตนจะหาฤกษ์สะดวกหมั้นหมายเดือนหน้าเสียเลย ทำให้อังกาบยิ้มออก และชวนคุณหญิงชื่นแวะดูผ้าแพรที่ตลาด คุณหญิงชื่นจึงตามใจว่าที่ศรีสะใภ้และเรียกทับทิมไปคอยถือของให้
อังกาบเลือกซื้อผ้าแต่ไม่ถูกใจ จึงสั่งให้แม่ค้าเอาผ้าที่ใหม่ที่สุด แพงที่สุดมาให้ตนดู อวดอ้างว่าตนร่ำรวยแพงแค่ไหนก็ซื้อได้ โจรสองคนที่กำลังเลือกเหยื่อได้ยินเข้าจึงสบตากันและถือมีดเข้าจี้ปล้นอังกาบและคุณหญิงชื่นทันที ทั้งสองตกใจจนสติหลุด ร้องขอความช่วยเหลือจนเสียงหลง โจรจึงตวาดบอกให้หุบปาก
“เอ็งต้องการอัฐใช่ไหม เอาไปเลย เอาไปให้หมดเลย แต่อย่าทำกระไรฉันเลยนะ ปล่อยฉันไป อยากได้กระไรฉันให้หมดเลย” อังกาบโยนถุงเงินให้โจรและถอดสร้อย แหวน กำไลมือ และต่างหูให้โจรจนหมด โจรยิ้มพอใจและปล่อยอังกาบออกไปเพื่อเก็บของมีค่าใส่ถุงย่ามของตน
คุณหญิงชื่นเห็นโจรยอมปล่อยอังกาบ จึงโยนเงินให้โจรบ้างและบอกให้โจรปล่อยตนไป แต่โจรขู่ให้ถอดสร้อยพระออกด้วย คุณหญิงชื่นเสียดาย ไม่ยอมถอดเพราะเป็นของเก่าแก่ประจำตระกูล คุณหญิงชื่นร้องขอให้อังกาบช่วยตน
“ช่วยตนเองเถิดเจ้าค่ะคุณหญิงป้า ถอดๆให้มันไปเถิดเจ้าค่ะ”
อังกาบหวาดกลัวจนไม่กล้ายื่นมือเข้าช่วย พอดีมีคนของหลวงมาเดินตรวจตราดูความเรียบร้อยและเห็นโจรกำลังปล้น โจรตกใจจึงรีบเผ่นหนีไปโดยพาคุณหญิงชื่นไปเป็นตัวประกันด้วย ทับทิมที่แอบหนีไปเดินดูของในตลาด เมื่อเดินกลับมาก็เห็นคุณหญิงชื่นตกอยู่ในอันตรายจึงรีบวิ่งตามไป ทับทิมเห็นว่ามีทางลัด จึงวิ่งไปดักหน้าโจรไว้ โจรตกใจหันมีดไปทางทับทิม
“พวกเอ็งหนีไม่รอดแน่ ทหารหลวงกำลังจะตามมาจับกุมพวกเอ็ง”
“หลบไป ไม่งั้นนังคุณหญิงนี่ตาย” โจรขู่ให้ทับทิมหลบให้พ้นทาง คุณหญิงชื่นร้องโวยวายเมื่อโจรเอามีดมาจ่อคอตน
“ที่พวกแกล่าช้าก็เพราะป้าแกเป็นตัวถ่วงไม่ใช่รึ ปล่อยป้าแกไป เอาฉันไปแทน ฉันวิ่งเร็วจนมาดักหน้าพวกแกได้ เห็นอยู่ไม่ใช่รึ”
เสียงฝีเท้าทหารหลวงกำลังกรูกันมา...
“มัวรีรอกระไรเล่า เขาจะมาจับพวกแกอยู่แล้ว” ทับทิมค่อยๆย่องเข้าไปใกล้โจร โจรเซ่อจึงผลักคุณหญิงชื่นออกไปจนล้ม แล้วคว้าทับทิมมาเป็นตัวประกันแทน
เมื่อทับทิมได้เข้าใกล้ตัวโจร ทับทิมก็จัดการจนโจรเซ่อสองคนต้องสะบักสะบอมลงไปกองกันกับพื้น ทหารหลวงมาถึงพอดีจึงจับกุมตัวโจรสองคนไป ก่อนไปทหารหลวงได้กล่าวชื่นชมทับทิมยกใหญ่
ทับทิมรีบหันกลับไปจะพยุงคุณหญิงชื่นให้ลุกขึ้นยืน แต่ก็ไม่กล้าจะแตะตัวคุณหญิงชื่นเท่าใด เพราะรู้ว่าตนเป็นที่รังเกียจอยู่ คุณหญิงชื่นเองก็ทำตัวไม่ถูกที่ศัตรูมาช่วยเหลือตนเอาไว้ อังกาบ กิ่งและพิศวิ่งมาถึงพอดี อังกาบรีบผลักทับทิมออกจากคุณหญิงชื่น แต่คุณหญิงชื่นปรามไว้ และกล่าวขอบใจทับทิม ทับทิมดีใจที่คุณหญิงพูดดีกับตน ส่วนอังกาบเริ่มกังวลว่าคุณหญิงชื่นจะปลาบปลื้มทับทิมจนยอมใจอ่อน เพราะเริ่มสัมผัสได้ว่าคุณหญิงชื่นไม่เอาใจตนเหมือนเมื่อก่อน
คุณหญิงชื่นเริ่มใจอ่อนกับทับทิมเหมือนที่อังกาบหวาดกลัว เมื่อพิศกับเพลินพูดให้ร้ายทับทิมเหมือนเคยก็โดนดุ ทำให้บ่าวเริ่มสับสนเพราะเมื่อก่อนนายของตนยังเห็นดีเห็นงามให้เกลียดทับทิมอยู่เลย คุณหญิงชื่นให้บุษย์ไปเรียกตัวทับทิมมา และเริ่มชวนคุยว่าทำไมถึงเก่งมวยและปลาบปลื้มเมื่อรู้ว่าทับทิมเป็นหนึ่งในคนที่สอนมวยให้สิงห์
“เป็นหญิงแต่รักการเรียนวิชาต่อสู้ ปกป้องตนเองได้ แถมยังช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก” คุณหญิงชื่นกล่าวชื่นชม จุกที่ติดตามมาด้วยก็ยิ่งโม้อวดว่าพี่สาวตนเก่งมวยที่สุดในวิเศษชัยชาญ คุณหญิงชื่นจึงถามว่าแล้วการบ้านการเรือนทำเป็นไหม ทับทิมยิ้มหน้าเจื่อน คุณหญิงชื่นจึงให้พิศคอยสอนทับทิมหุงหาอาหาร เริ่มจากทำของโปรดของสิงห์ ความชุลมุนเกิดขึ้นในครัวอย่างหรรษา จุกที่คอยชิมอาหารให้ทับทิมแทบอยากจะหนีเพราะพี่สาวตนเก่งแต่หมัดมวย แต่หุงหาข้าวปลาไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
สิงห์เห็นผู้เป็นแม่เริ่มเมตตาทับทิมก็ดีใจเป็นอย่างมาก ด้วยตนเริ่มมีหวังจะได้สมหวังกับหญิงที่ตนรักแล้ว ส่วนอังกาบเมื่อเห็นคุณหญิงชื่นเปลี่ยนไปก็เริ่มระแวงจึงคิดหาแผนการจะกำจัดทับทิมให้พ้นทาง...