เรื่องมีอยู่ว่า ตอนเราอยู่ป.4(อายุ10ปี)เราถูกเพื่อนแกล้งหนักมากติดต่อกันถึง3ปีและ2ในนั้นเป็นเพื่อนที่สนิทกันตั้งแต่ป.1 ตอนแรกๆก้คิดว่าพอพวกนั้นเบื่อคงจะหยุดแกล้งไปเอง เราอดทนจนขึ้นป.5 เราถูกแกล้งหนักขึ้น เราไม่รู้สาเหตุที่ถูกแกล้ง ถามแล้วแต่ไม่ได้คำตอบ จนช่วงนั้นเราเริ่มที่จะเป็นโรคซึมเศร้า
แรกๆเราก้คิดว่าไม่เป็นไร เราร้องไห้ทุกวัน นอนไม่หลับหรือไม่ก้นอนเยอะมาก(วันนึงนอกจากเวลาเรียนกับกิจกรรมที่พ่อแม่บังคับให้ทำก้นอนตลอด) ถ้าวันไหนไม่มีเรียนเราก้แค่นอนแล้วก้ตื่นมากินข้าวแล้วก้นอนต่อ(ประมาณวันละ18ชม.) และในช่วงป.5เทอม2เราเริ่มหมกมุ่นกับการฆ่าตัวตายมากขึ้นจนเรารู้สึกกังวลมากๆ เราเริ่มมองหาสิ่งรอบตัวที่สามารถฆ่าเราได้ เริ่มจาก กดหัวตัวเองลงในถังน้ำที่มีน้ำเต็มถัง ต่อด้วย กินน้ำยาล้างห้องน้ำ ผูกคอตาย โดดลงถนนให้รถชน โดดลงจากตึก4ชั้น ทิ้งตัวลงมาจากบันไดประมาณ30ขั้น ใช้มีดกรีดคอ เอากรรไกรคมๆปักตา แต่สิ่งที่เรามองหาถึงจะหาเจอแต่เรามีความคิดที่ว่า มาตายตรงนี้ก้ลำบากภารโรง ลำบากพ่อแม่ ลำบากอาจารย์ ช่วงนั้นเราเริ่มเหม่อและเริ่มไร้ความรู้สึก เหมือนรอบๆตัวมีควันมืดๆคลุมตลอดเวลา เราเริ่มไม่อยากจำอะไร เริ่มไม่พูดไม่แสดงความคิดเห็นไม่คุยกับใครแม้แต่พ่อแม่ และอาการหนักขึ้นอีกในช่วงปลายเทอม2 ช่วงนี้เราเริ่มไม่ไหวแต่พอถามพ่อแม่ไปว่าขอไปพบจิตแพทย์ได้มั้ย? ก้ได้คำตอบกลับมาว่า เปลืองเงินไม่ก้เดี๋ยวก้หายทุกๆครั้ง อาการของช่วงนี้เราต้องระวังไม่ให้เราเหม่อ เพราะทุกครั้งเวลาเราเหม่อเรามักจะเผลอทำร้ายตัวเองเสมอๆ เช่น แม้จะไม่มีของมีคมแต่เราก้ใช้เล็บเรากรีดที่ข้อมือจนเลือดไหลแต่เราก้ไม่ยอมบอกพ่อแม่เพราะกลัวจะลำบากพ่อแม่เพิ่มอีก
บางครั้งพอเราเหม่อ พอเราได้สติเราก้มาหยุดที่ริมถนนที่มีรถยนต์วิ่งผ่านซะแล้ว บางทีก้ได้สติตอนกำลังจ่อมีดที่ตาตัวเองอยู่ หรือแม้กระทั่งเอาหัวโขกกำแพงจนเป็นแผลถลอกเลือดไหล ในช่วงนี้เราต้องหาอะไรมาช่วยเยียวยาถึงจะไม่ค่อยได้ผลแต่ก้ต้องทำ ช่วงนี้เราเลยกินพวกของหวาน วาดรูป ถ่ายรูปเพื่อไม่ให้คิดเรื่องฆ่าตัวตายอีก แต่มันก้ไม่สำเร็จ...พอขึ้นป.6 เราเกือบเอาเข็บมาเย็บปิดตาตัวเองแล้วแต่ดันมีเสียงดังจากข้างๆบ้านพอดีเราเลยได้สติขึ้นมา และอื่นๆที่เกิดขึ้นอีกเยอะมากในการหาวิธีฆ่าตัวตาย พอออกมาจากโรงเรียนแล้วก้ค่อยๆดีขึ้นแต่ก้ยังมีคิดฆ่าตัวตายบ้าง(จากวันละเกือบ50ครั้ง มาเป็น 20 7ตามลำดับ)
ปล.ปกติตอนประถมอาการเราจะแย่ลงช่วงประมาณ11โมง ถึงประมาณตี1 แล้วกว่าเราจะสงบพอจะนอนได้ก้ตี1ครึ่งไปแล้ว(หรือไม่ก้แย่ลงตามสิ่งที่ได้เจอในแต่ละวัน บางทีอาการดิ่งทั้งวันก้มี)
ปล2.ขอโทษที่พิมพ์ยาวนะครับ
การเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่เด็กแปลกมั้ยครับ?
แรกๆเราก้คิดว่าไม่เป็นไร เราร้องไห้ทุกวัน นอนไม่หลับหรือไม่ก้นอนเยอะมาก(วันนึงนอกจากเวลาเรียนกับกิจกรรมที่พ่อแม่บังคับให้ทำก้นอนตลอด) ถ้าวันไหนไม่มีเรียนเราก้แค่นอนแล้วก้ตื่นมากินข้าวแล้วก้นอนต่อ(ประมาณวันละ18ชม.) และในช่วงป.5เทอม2เราเริ่มหมกมุ่นกับการฆ่าตัวตายมากขึ้นจนเรารู้สึกกังวลมากๆ เราเริ่มมองหาสิ่งรอบตัวที่สามารถฆ่าเราได้ เริ่มจาก กดหัวตัวเองลงในถังน้ำที่มีน้ำเต็มถัง ต่อด้วย กินน้ำยาล้างห้องน้ำ ผูกคอตาย โดดลงถนนให้รถชน โดดลงจากตึก4ชั้น ทิ้งตัวลงมาจากบันไดประมาณ30ขั้น ใช้มีดกรีดคอ เอากรรไกรคมๆปักตา แต่สิ่งที่เรามองหาถึงจะหาเจอแต่เรามีความคิดที่ว่า มาตายตรงนี้ก้ลำบากภารโรง ลำบากพ่อแม่ ลำบากอาจารย์ ช่วงนั้นเราเริ่มเหม่อและเริ่มไร้ความรู้สึก เหมือนรอบๆตัวมีควันมืดๆคลุมตลอดเวลา เราเริ่มไม่อยากจำอะไร เริ่มไม่พูดไม่แสดงความคิดเห็นไม่คุยกับใครแม้แต่พ่อแม่ และอาการหนักขึ้นอีกในช่วงปลายเทอม2 ช่วงนี้เราเริ่มไม่ไหวแต่พอถามพ่อแม่ไปว่าขอไปพบจิตแพทย์ได้มั้ย? ก้ได้คำตอบกลับมาว่า เปลืองเงินไม่ก้เดี๋ยวก้หายทุกๆครั้ง อาการของช่วงนี้เราต้องระวังไม่ให้เราเหม่อ เพราะทุกครั้งเวลาเราเหม่อเรามักจะเผลอทำร้ายตัวเองเสมอๆ เช่น แม้จะไม่มีของมีคมแต่เราก้ใช้เล็บเรากรีดที่ข้อมือจนเลือดไหลแต่เราก้ไม่ยอมบอกพ่อแม่เพราะกลัวจะลำบากพ่อแม่เพิ่มอีก
บางครั้งพอเราเหม่อ พอเราได้สติเราก้มาหยุดที่ริมถนนที่มีรถยนต์วิ่งผ่านซะแล้ว บางทีก้ได้สติตอนกำลังจ่อมีดที่ตาตัวเองอยู่ หรือแม้กระทั่งเอาหัวโขกกำแพงจนเป็นแผลถลอกเลือดไหล ในช่วงนี้เราต้องหาอะไรมาช่วยเยียวยาถึงจะไม่ค่อยได้ผลแต่ก้ต้องทำ ช่วงนี้เราเลยกินพวกของหวาน วาดรูป ถ่ายรูปเพื่อไม่ให้คิดเรื่องฆ่าตัวตายอีก แต่มันก้ไม่สำเร็จ...พอขึ้นป.6 เราเกือบเอาเข็บมาเย็บปิดตาตัวเองแล้วแต่ดันมีเสียงดังจากข้างๆบ้านพอดีเราเลยได้สติขึ้นมา และอื่นๆที่เกิดขึ้นอีกเยอะมากในการหาวิธีฆ่าตัวตาย พอออกมาจากโรงเรียนแล้วก้ค่อยๆดีขึ้นแต่ก้ยังมีคิดฆ่าตัวตายบ้าง(จากวันละเกือบ50ครั้ง มาเป็น 20 7ตามลำดับ)
ปล.ปกติตอนประถมอาการเราจะแย่ลงช่วงประมาณ11โมง ถึงประมาณตี1 แล้วกว่าเราจะสงบพอจะนอนได้ก้ตี1ครึ่งไปแล้ว(หรือไม่ก้แย่ลงตามสิ่งที่ได้เจอในแต่ละวัน บางทีอาการดิ่งทั้งวันก้มี)
ปล2.ขอโทษที่พิมพ์ยาวนะครับ