ใจดูเฉยๆ ใจเฉยๆ หรือรู้เฉยๆ เมื่อนำมาเป็นเป้าหมาย เป็นการเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนไปจากธรรม ที่มากมายในปัจจุบัน

ใจดูเฉยๆ   ใจเฉยๆ   หรือรู้เฉยๆ

เป็นการปฏิบัติธรรมที่ไม่ได้พัฒนา อะไรที่ยิ่งๆ ขึ้นไปเลย  

    การปฏิบัติธรรมให้ยิ่งยวด ใช้ทุกอย่างใน โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ต้งแต่ สติปัฏฐาน 4 อิทธิบาท 4 พละ 5 สัมมัปทาน 4 อินทรีย์ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8

     เพียงแค่ธรรมใน อิทธิบาท 4 พละ 5 เมื่อเทียบกับผู้ที่ปฏิบัติธรรมเพียง ใจดูเฉยๆ ใจเฉยๆ  หรือรู้เฉยๆ  ก็กลายเป็นการปฏิบัติธรรม ที่ไม่สามารถเจริญขึ้นสู่ธรรมเบื้องสูงได้เสียแล้ว

       ใจดูเฉยๆ   ใจเฉยๆ   หรือรู้เฉยๆ   ถ้ามีเป้าหมายเพียงเท่านี้นั้น ก็เพียงพยายามแต่ปรับให้ จิตใจ  จากที่ฟุ้งช้าน ไม่นิ่ง เพียงสงบลงเท่านั้น เหมือนสบายปลอดโปร่ง  แต่วิปัสสนาญาณ ไม่สามารถเจริญขึ้นสู่เบื้องสูงได้ เพื่อละกิเลสได้อย่างสิ้นเชิง ในมรรคญาณได้

      เพราะต้องปฏิบัติธรรมในสติปัฏฐาน 4 อย่างสมบูรณ์ยิ่งยิ่งยวด ด้วยธรรมอีก 33 ประการที่เหลือ จนเกิดโพธิปักขียธรรม 37 ประการสมบูรณ์สมดุลย์รวมกันเป็นหนึ่งได้ ที่ดำเนินไปตามเหตุที่ปฏิบัติธรรมอย่างยิ่งยวดนั้น แล้ว อนุโลมญาณ โคตรภูญาณ มรรคญาณ ผลญาณ ก็บังเกิดผลเป็นไปตามเหตุของการปฏิบัติธรรมที่ยิ่งยวดนั้น  ละอนุสัยกิเลส หรือสังโยชน์ เบื้องต่ำ 3 ประการได้

        ทำใจดูเฉยๆ ใจเฉยๆ หรือรู้เฉยๆ    เป็นการเพียงสอนปฏิบัติธรรมในเบื้องต้นเท่านั้น  แต่บางท่านบางกลุ่ม กลับเอามากลายเป็นที่สุดของการปฏิบัติธรรม เกิดการคลาดเคลื่อนกันอย่างมากมายใน ยุคปัจจุบัน   แต่เพียงแค่นี้ก็ยังดี ที่น้อมเข้ามาสู่การปฏิบัติธรรมมากขึ้น แต่ที่ไม่ดีคือการเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนกันมากมายนั้นเอง.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่