BOBBY | Love, Fall and Runaway รัก ล้ม และ หนีไป


มันอาจจะไม่ใช่ แต่ผมก็หวังให้มันเป็นเส้นทางที่ใช่
- unknown



Runaway เป็นเพลงที่เราชอบที่สุด แต่ก็ไม่ชอบที่สุดเช่นกัน
ในทางหนึ่งมันงดงาม เพราะมันเต็มไปด้วยคำสารภาพที่อ่อนแอแต่เข้มแข็ง
แต่ในทางหนึ่งมันก็เศร้ามาก เสียจนไม่อยากคิดว่า
ตอนนั้น ตอนที่แต่งเพลงนี้มันเศร้าและเหนื่อยมากแค่ไหน

เอ็มวีนี้ถูกเล่าผ่านการเป็น Storyteller ของคนแต่งเพลง ด้วยการรันเทปย้อนกลับไปยังตอนที่เขาตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต อย่างที่เราทราบ มันเป็นเรื่องของเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีความฝันในการเป็นศิลปินมาก่อน แต่มีความคิดง่ายๆแบบเด็กๆแค่ว่า “การเป็นศิลปินมันคงหาเงินได้เยอะ”แค่นั้น ก็ทำให้เขาตัดสินใจจากพ่อแม่มาเข้าร่วมออดิชั่นกับค่ายเพลง ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่มีความชอบด้านดนตรีเป็นพิเศษอะไรมากมาย สิ่งเดียวที่เขามีและอาจเป็นแรงผลักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ ความรักต่อครอบครัว

"พ่อแม่ผมทำงานหนักมากกันทั้งคู่เลย
ถ้าผมดังแล้วจะพาพวกเขากลับมาเกาหลีให้ได้
ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลยนะเนี่ย"

ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

แน่นอนว่า นายต้องได้เอาชีวิตเป็นเดิมพัน



การเป็นไอดอลไม่ใช่เรื่องง่าย การเป็นนักร้องต้องใช้มากกว่าความพยายาม และ การเป็นศิลปินไม่ได้อาศัยแค่เวลา ทุกคนต้องเสี่ยง ต้องเสียสละต้องทุ่มเทมากมาย มันไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายดายแม้แต่นิด มันทั้งเหนื่อยยาก กดดัน ไม่ใช่นายคนเดียวที่ต้องเสี่ยง แต่ทุกคนก็พร้อมเสี่ยงในเส้นทางนี้เพราะงั้นสิ่งต้องมีให้มากกว่าคนอื่นคือ ความพยายาม

นายเป็นนักสู้หรือเปล่า
เมื่อล้มลง แล้วนายจะลุกขึ้นมาอีกหรือเปล่า?


Mirror |

การตัดสินใจละทิ้ง “การไม่ต้องรับผิดชอบอะไร” ในฐานะเด็กคนหนึ่ง ในฐานะลูกชายคนเล็กของบ้านมาพยายามเป็นไอดอล เส้นทางไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ เจอทั้งความพ่ายแพ้ ทั้งการต้องเสียน้ำตา มันเหนื่อยมาก เหนื่อยจนบางครั้งเสียงหัวเราะรอบตัวไม่ได้ช่วยทำให้เขาหายเหนื่อยเลย

"มองดูในกระจกนั่นเหมือนไม่ใช่ฉันคนเดิมอีกต่อไป"

มันเหนื่อยจนอยากหนี
เด็กผู้ชายคนเดิม คนที่ออกจากบ้านมาเพื่อความหวังจะพาแม่กลับบ้าน
ทำไมมันเริ่มดูเลือนราง
เด็กคนนั้นกำลังจะหายไปแล้วหรือไง

ความฝันกับความรับผิดชอบ เหมือนมันอยู่กันบนคนละเส้นทาง
แต่เมื่อถึงจุดประสงค์แรกที่พาให้เขามาอยู่ตรงนี้ได้
เขาก็ต้องลุกขึ้นสู้ต่อ

เพราะ เอาชีวิตเป็นเดิมพันไว้แล้ว


Car |

"ผมอยากไปที่ไหนก็ได้ ที่ที่ไม่ว่าใครก็ตามหาผมไม่เจอ"

ตอนเก็บกระเป๋าออกจากบ้านมา เขายังเด็กมาก ตอนนี้ก็ไม่ต่างกัน ยังเด็กยังเด็กเกินไป และเหนื่อยล้าเกินไป ขอแค่สักชั่วครู่ แค่ไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องคิดอะไร ขับรถออกไป รถคันนั้นคันที่เคยพาเขาออกจากบ้านขอให้มันพาเขาออกไปจากตรงนี้แค่สักพัก แค่พักเดียว  แล้วจะกลับมาสู้ต่อ

ประตูบานนั้น เขาจะกลับไป กลับไปยังประตูนั้นที่เขารีรอเหลือเกินที่จะเปิดมัน
เพราะกลัวว่ามันจะไม่ใช่ประตูที่ถูก
กลัวว่ามันจะไม่ใช่
เขามาไกลมาก

และ เอาชีวิตเป็นเดิมพันไว้แล้ว




Shoe tossing |

"โปรดนำทางให้ผมคนที่ล้มลงตรงนี้"

ความคิดความฝัน เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ตอนนี้มันเหมือนจะไกลออกไป สิ่งเดียวที่ทำให้จำความรู้สึกนั้นได้คือ สัญลักษณ์ที่ทิ้งร่องรอยไว้ ไม่ว่าจะผ่านมาไกลแค่ไหน เขาก็จะยังกลับไปตรงนั้น ตรงที่เคยวิ่งจากมา ตรงที่ขว้างรองเท้าขึ้นไปแขวนไว้ ตรงที่เขาสามารถกลับไปหลบภัยไม่ต้องคิดถึงสิ่งใด ไม่มีใครในโลกจะมารบกวน หนีจากความวุ่นวายใดในโลกนี้  ได้โปรดนำทางผมกลับไป



Love & Faith |

เขาเริ่มต้นด้วยความรัก ถูกฉุดรั้งด้วยความเหนื่อยล้า และไขว้คว้าหาศรัทธาที่จะทำให้เขาสู้ต่อ
แค่บางอย่าง บางสิ่ง
อะไรก็ได้ ที่ให้ความมั่นใจ ว่าเส้นทางนี้  คือเส้นทางที่ถูกต้อง แม้มันจะเหนื่อย แต่มันจะเป็นเส้นทางที่ถูกต้องใช่ไหม ความรักของครอบครัวคือสิ่งที่ผลักดันและโอบอุ้มเขามาตั้งแต่ต้น จนถึงศรัทธาอันแรงกล้าที่เขามี และพาเขามาถึงที่นี่ ตรงนี้

นี่จะเป็นจะเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง
จะไม่ลังเลอีกต่อไป


Door |

โลกนี้ประกอบไปด้วยประตู
ประตูที่พาเราจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่ง
ประตูที่เชื่อมเราจากโลกแห่งความจริงและความฝัน




ประตูที่พาเราก้าวจากเด็กสู่โลกของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ประตูที่พาเราออกไปเผชิญโลกแห่งความจริง
เราไม่มีทางรู้ว่าประตูไหน คือประตูที่ใช่ จนกว่าจะเปิดมัน
อาจต้องอาศัยเวลา อาจต้องอาศัยความกล้า อาจต้องอาศัยพลังใจอย่างสูง



เพื่อเปิดมัน.. ประตูบานนั้น
และตอนที่เราเปิด
ทุกอย่างมันแค่เริ่มต้นเท่านั้น

...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่