คนที่ลดน้ำหนักแล้วเป็นนักมังสวิรัติด้วยแล้ว ไม่เพียงแค่จะช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่กินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พัฒนากระบวนการเผาผลาญอาหารจากการลดความอ้วนด้วย งานวิจัยใหม่นี้ได้มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร Journal Of The American College Of Nutrition
การลดความอ้วนจะช่วยบำรุงกลูโคสและช่วยให้กระบวนการเผาผลาญอาหารทำงานดีขึ้น ซึ่งพบได้จากคนที่เป็นโรคอ้วนลงพุงกับโรคเบาหวานประเภท 2 ทางด้านผู้นำวิจัยโดย Dr.Hana Kahleova ซึ่งเป็นผู้อำนวยการวิจัยการแพทย์ในกรุงวอชิงตันกล่าว
มีหัวข้อเกี่ยวกับโรคเบาหวานประเภท 2 ถึง 74 หัวข้อด้วยกัน โดยมีการทำตัวอย่างสุ่มไม่ว่าจะเป็นนักมังสวิรัติหรือคนที่กำลังทำการรักษาโรคเบาหวาน ซึ่งนักมังสวิรัติก็ได้กินผักชนิดต่างๆ ธัญพืช ถั่ว ผลไม้ชนิดต่างๆและผลไม้แห้ง พร้อมกับมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์เล็กน้อยอย่างการกินนมเปรี้ยวต่อวัน โดยคนที่เป็นโรคเบาหวานจะมีการแนะนำอย่างเป็นทางการจาก EASD ว่า จะต้องทำการควบคุมแคลอรี่ให้ได้ประมาณ 500 แคลอรี่ต่อวันเมื่อเทียบกับแต่ละคนที่ต้องการแคลอรี่ต่อวัน
นักมังสวิรัติพบว่าตัวเองสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 2 เท่า โดยพวกเขาสามารถลดน้ำหนักโดยเฉลี่ยได้ถึง 6.2 กิโลเทียบกับคนที่ทำการลดความอ้วนปกติที่ลดได้เฉลี่ย 3.2 กิโล
จากภาพที่ได้เห็นนั้น ทำให้ Dr.Kahleova กับคณะก็ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับไขมัน (ที่ทำให้เกิดความอ้วน) ในบริเวณต้นขาอ่อนไปจนถึงการเปรียบเทียบความแตกต่างในการลดน้ำหนักบริเวณใต้ผิวหนัง ใต้ผิวหน้าและก็ไขมันในมัดกล้ามเนื้อ (ไขมันใต้ผิวหน้า บริเวณกล้ามเนื้อและในกล้ามเนื้อ)
พวกเขาพบว่าผู้ที่ลดน้ำหนัก 2 คนสามารถลดความอ้วนบริเวณใต้ผิวหน้าได้อย่างคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตามไขมันใต้ผิวหน้าก็ลดได้ดีเพียงแค่นักมังสวิรัติเท่านั้น และไขมันในมัดกล้าเนื้อก็จะลดได้ดีกับนักมังสวิรัติด้วยเช่นกัน
นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญมากกับคนไข้โรคเบาหวานประเภท 2 ที่จะต้องได้รับอินซูลินในการแก้โรคเบาหวาน ในการลดน้ำหนักนั้น ก็จะได้ประโยชน์จากกระบวนการเผาผลาญอาหารในส่วนของกลูโคส นอกจากนั้นแล้วการลดไขมันในมัดกล้ามเนื้อก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน
Dr.Kaglevoa กล่าวว่า “นักมังสวิรัติที่ลดน้ำหนักก็พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตามพวกเราก็ได้อธิบายว่า นักมังสวิรัติสามารถลดไขมันกล้ามเนื้อได้ดีมาก ด้วยเหตุนี้ก็ช่วยในเรื่องของกระบวนการเผาผลาญอาหารด้วย การค้นพบนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้คนที่ต้องการลดน้ำหนัก ซึ่งรวมไปถึงคนที่เป็นโรคอ้วนลงพุงและ/หรือโรคเบาหวานประเภท 2 แต่เช่นกันเรื่องนี้ก็เหมาะสำหรับทุกๆคนที่อยากบริหารจัดการน้ำหนักอย่างจริงจังและต้องการมีรูปร่างผอมและมีสุขภาพ”
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com
จากการวิจัยพบว่า นักมังสวิรัติสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 2 เท่า
คนที่ลดน้ำหนักแล้วเป็นนักมังสวิรัติด้วยแล้ว ไม่เพียงแค่จะช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่กินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พัฒนากระบวนการเผาผลาญอาหารจากการลดความอ้วนด้วย งานวิจัยใหม่นี้ได้มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร Journal Of The American College Of Nutrition
การลดความอ้วนจะช่วยบำรุงกลูโคสและช่วยให้กระบวนการเผาผลาญอาหารทำงานดีขึ้น ซึ่งพบได้จากคนที่เป็นโรคอ้วนลงพุงกับโรคเบาหวานประเภท 2 ทางด้านผู้นำวิจัยโดย Dr.Hana Kahleova ซึ่งเป็นผู้อำนวยการวิจัยการแพทย์ในกรุงวอชิงตันกล่าว
มีหัวข้อเกี่ยวกับโรคเบาหวานประเภท 2 ถึง 74 หัวข้อด้วยกัน โดยมีการทำตัวอย่างสุ่มไม่ว่าจะเป็นนักมังสวิรัติหรือคนที่กำลังทำการรักษาโรคเบาหวาน ซึ่งนักมังสวิรัติก็ได้กินผักชนิดต่างๆ ธัญพืช ถั่ว ผลไม้ชนิดต่างๆและผลไม้แห้ง พร้อมกับมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์เล็กน้อยอย่างการกินนมเปรี้ยวต่อวัน โดยคนที่เป็นโรคเบาหวานจะมีการแนะนำอย่างเป็นทางการจาก EASD ว่า จะต้องทำการควบคุมแคลอรี่ให้ได้ประมาณ 500 แคลอรี่ต่อวันเมื่อเทียบกับแต่ละคนที่ต้องการแคลอรี่ต่อวัน
นักมังสวิรัติพบว่าตัวเองสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 2 เท่า โดยพวกเขาสามารถลดน้ำหนักโดยเฉลี่ยได้ถึง 6.2 กิโลเทียบกับคนที่ทำการลดความอ้วนปกติที่ลดได้เฉลี่ย 3.2 กิโล
จากภาพที่ได้เห็นนั้น ทำให้ Dr.Kahleova กับคณะก็ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับไขมัน (ที่ทำให้เกิดความอ้วน) ในบริเวณต้นขาอ่อนไปจนถึงการเปรียบเทียบความแตกต่างในการลดน้ำหนักบริเวณใต้ผิวหนัง ใต้ผิวหน้าและก็ไขมันในมัดกล้ามเนื้อ (ไขมันใต้ผิวหน้า บริเวณกล้ามเนื้อและในกล้ามเนื้อ)
พวกเขาพบว่าผู้ที่ลดน้ำหนัก 2 คนสามารถลดความอ้วนบริเวณใต้ผิวหน้าได้อย่างคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตามไขมันใต้ผิวหน้าก็ลดได้ดีเพียงแค่นักมังสวิรัติเท่านั้น และไขมันในมัดกล้าเนื้อก็จะลดได้ดีกับนักมังสวิรัติด้วยเช่นกัน
นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญมากกับคนไข้โรคเบาหวานประเภท 2 ที่จะต้องได้รับอินซูลินในการแก้โรคเบาหวาน ในการลดน้ำหนักนั้น ก็จะได้ประโยชน์จากกระบวนการเผาผลาญอาหารในส่วนของกลูโคส นอกจากนั้นแล้วการลดไขมันในมัดกล้ามเนื้อก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน
Dr.Kaglevoa กล่าวว่า “นักมังสวิรัติที่ลดน้ำหนักก็พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตามพวกเราก็ได้อธิบายว่า นักมังสวิรัติสามารถลดไขมันกล้ามเนื้อได้ดีมาก ด้วยเหตุนี้ก็ช่วยในเรื่องของกระบวนการเผาผลาญอาหารด้วย การค้นพบนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้คนที่ต้องการลดน้ำหนัก ซึ่งรวมไปถึงคนที่เป็นโรคอ้วนลงพุงและ/หรือโรคเบาหวานประเภท 2 แต่เช่นกันเรื่องนี้ก็เหมาะสำหรับทุกๆคนที่อยากบริหารจัดการน้ำหนักอย่างจริงจังและต้องการมีรูปร่างผอมและมีสุขภาพ”
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com