ข้อดีและข้อเสียของกาแฟ คาเฟอีนในกาแฟทำงานอย่างไร

เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.pptvhd36.com/health/food/6812#


ข้อดีของกาแฟ

ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular disease; CVD) มีงานวิจัยยืนยันว่าการดื่มกาแฟดำในปริมาณที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ และยังสามารถลดการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้สูงถึง 21%

ฤทธิ์ต้านมะเร็ง กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การดื่มกาแฟสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด เช่น หากดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งตับได้ถึง 43% และลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้ถึง 52%

ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน การดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์กับการลดภาวะดื้อต่ออินสุลิน (Insulin Resistance) การดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานได้ 6% และมีส่วนช่วยในการลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน จากความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ

ช่วยลดโรคอ้วน กาแฟช่วยลดระดับฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ที่เกี่ยวข้องกับความหิว ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย โดยคาเฟอีนช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานของคนที่มีน้ำหนักตัวปกติ ได้ 29% และในคนอ้วนได้ 10%

ลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน มีงานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการเกิดโรคที่เกี่ยวกับสมองได้

เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย หากได้รับคาเฟอีน 3-6 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ช่วยเพิ่มสมรรถนะและความทนทานในการออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ ได้


ข้อเสียของกาแฟ หากกินในปริมาณมากเกินไป

ร่างกายคนเราตอบสนองต่อกาแฟแตกต่างกัน ความสามารถในการกำจัดคาเฟอีนได้เร็วหรือช้านั้นมีความแตกต่างกันขึ้นกับรหัสพันธุกรรม CYP1A2 และ AHR ผู้ที่กำจัดคาเฟอีนได้ช้าอาจเกิดผลข้างเคียงจากการดื่มกาแฟ เช่น วิตกกังวล นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย คลื่นไส้ ปวดหัว มือสั่น หัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น
กาแฟไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การดื่มกาแฟ ตั้งแต่ 2 แก้วขึ้นไป เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งได้ถึง 8% และหากเพิ่มเป็น 4-7 แก้วต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์เสียชีวิตหรือภาวะตายคลอด (Stillbirth) มากขึ้นถึง 80%

กาแฟเย็นมักมีพลังงานสูงมาก แม้ว่าภายในเมล็ดกาแฟจะมีสารต่าง ๆ ที่สามารถช่วยเรื่องโรคอ้วนและโรคเบาหวานได้ แต่หากดื่มกาแฟที่เต็มไปด้วยน้ำตาลและครีม จะยิ่งซ้ำเติมให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น จากรายงานของกรมอนามัยพบว่ากาแฟใส่นมขนาด 20 ออนซ์ จะมีพลังงานมากกว่า 200 กิโลแคลอรี และน้ำตาลมากถึง 8-9 ช้อนชา จึงแนะนำให้ดื่มเป็นกาแฟดำไม่เติมน้ำตาล

ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ตามที่รู้กันว่าการดื่มกาแฟช่วยลดอาการง่วงนอน กระตุ้นให้สมองตื่น แต่การดื่มมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ร่างกายกำจัดคาเฟอีนได้ช้า ส่งผลให้นอนหลับไม่สนิทหรืออาจนอนไม่หลับเลยก็เป็นได้

เพิ่มอาการทางจิตเวช แม้คาเฟอีนจะมีประโยชน์ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิให้ผู้ดื่มมากขึ้น แต่ควรระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีอาการตื่นตระหนกหรือโรคกลัวการเข้าสังคมอยู่เดิม เพราะการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปทำให้เกิดอาการคล้ายกับอาการผิดปกติทางจิตเวชได้ เช่น ความรู้สึกวิตกกังวล กระวนกระวายใจ และอาการทางจิต


คาเฟอีนในกาแฟ ทำงานอย่างไร?

อย่างที่ทราบกันดี ว่าหลายคนทานกาแฟก็เพื่อทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เพราะในกาแฟนั้นมีคาเฟอีนอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วการทำงานของคาเฟอีนที่ส่งผลต่อร่างกาย

ระบบการทำงานของคาเฟอีนนั้น คือการปิดกั้นการทำงานของอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้สมองผ่อนคลาย และทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้คุณไม่รู้สึกเหนื่อยล้า และทำงานต่อไปได้

คาเฟอีนช่วยเพิ่มระดับอะดรีนาลีน (Adrenaline) ในเส้นเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสองด้านการสื่อประสาท Dopamine และ Norepinephrine ส่งผลให้เกิดสภาวะการตื่นตัวของสมอง ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่านั่นเอง

ตัวช่วยของการลดน้ำหนัก ใครที่กำลังมองหาเครื่องดื่มที่ต้องการดื่มแทนน้ำหวาน หรือนมที่เติมแต่งรสหวานแล้วหละก็ กาแฟดำเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะกาแฟดำเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

มีกรดคลอโรเจนิก (Chlorogenic) ที่ซึ่งช่วยชะลอการผลิตกลูโคสในร่างกาย นั่นหมายความว่าหากคุณดื่มกาแฟดำหลังอาหาร ร่างกายของคุณจะผลิตน้ำตาลกลูโคสน้อยลงเช่นเดียวกับเซลล์ไขมัน

สารต้านอนุมูลอิสระ ที่อยู่ในกระบวนการของการลดน้ำหนัก

คาเฟอีนนั้นช่วยเรื่องของการเผาผลาญ และเพิ่มระดับของพลังงาน จึงทำให้คุณหิวได้ช้าลง หรือระงับความหิวได้ บางคนชอบดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกาย เพราะว่าคาเฟอีนในกาแฟนั้นทำให้ร่างกายของคุณเผาผลาญเร็วขึ้น ซึ่งนั้นทำให้การออกกำลังกายของคุณมีประโยชน์มาก

กาแฟก็เหมือนกับอาหารเครื่องดื่มชนิดอื่น ที่ให้คุณประโยชน์หากทานอย่างพอดี และให้โทษกับร่างกายได้หากรับประทานมากเกินไป ดังนั้นจึงควรดื่มอย่างเหมาะสม โดยเลือกรับประทานเป็นกาแฟดำ ไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน ลดการเติมครีมเทียมและน้ำตาล ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ใช้ชีวิตได้เต็มที่

ขอบคุณข้อมูลจาก : BDMS Wellness Clinic และ กปว.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่