วันนี้ผมกับเพื่อนอีกสามคนได้มีโอกาสมาพบปะสังสรรค์กันนานๆทีที่สยามพารากอน พวกเราตัดสินใจจะทานร้าน Crab&Claw เพราะเห็นหน้าร้านมีโปรโมชั่นของ Wongnai restuarant week อยู่ จึงได้สอบถามพนักงานหน้าร้านว่า เราสามารถซื้อคูปองในappแล้วใช้ตอนนี้เลยได้มั้ย พนักงานบอกว่าได้ ไม่ต้องจองอะไรก่อน จากนั้นทุกคนก็กดมือถือชื้อคูปองราคา 999++ เพื่อจะทาน Lobster size S ย่างคนละตัว (ในเมนู999++จะมีให้เลือกระหว่าง Lobster ทั้งตัว/พาสต้า/แซนวิช) เสร็จแล้วพนักงานก็รับออเดอร์มี lobster size S รวม 4 ตัวไป
ผ่านไปประมาณ 10 นาที พนักงานอีกคนเดินกลับมาบอกว่า Lobster size S มีเหลือแค่ 2 ตัว อยากรบกวนให้เปลี่ยนเป็นพาสต้าหรือแซนวิชได้มั้ย
ผมกับเพื่อนได้ปรึกษากัน ทุกคนไม่มีใครอยากทานพาสต้าหรือแซนวิชสักคน เลยเสนอทางร้านให้คืนเงินมาแล้วเราจะไปหาร้านอื่นทานแทน แต่ทานร้านแจ้งว่าคืนไม่ได้เพราะ wongnai เป็นคนคิดเงิน พวกเราเลยเสนอว่า งั้นให้เปลี่ยนเป็น Lobster size M แทน (ซึ่งก็เห็นว่ายอยูเต็มตู้เป็นสิบๆตัว) แต่ก็ได้รับการปฏิเสธอีก เพราะบอกว่า size M ราคาแพงเกิน ไม่สามารถทดแทนได้ พอได้ยินแบบนั้นเพื่อนคนนึงก็ปรี้ดขึ้นมาแล้วบอกว่า ทำไมเราต้องทนกินอาหารที่ไม่อยากทานทั้งที่เสียเงินหลักพัน แถมขอเงินคืนก็ไม่ได้ หลังจากนั้นพนักงานคนเดิมเหมือนกับไปคุยกับผจก. แล้วเหมือนเขาจะเสนอให้เปลี่ยนเป็น Lobster size M 1 ตัว ส่วนอีก 1 ที่เป็นพาาสต้าหรือแซนวิชที่ไม่มีใครอยากกิน เวลาผ่านไปสักพักทุกคนรู้สึกเบื่อและไม่อยากfightกับร้านไปมากกว่านี้ เลยยอมสั่งพาสต้าแทนแล้วทนๆกินไป
ส่วนตัวรู้สึกว่าการแก้ปัญาของร้านระดับนี้ควรมีความ professional มากกว่านี้ ลูกค้าไม่ได้จ่ายเงินร้อยสองร้อยมาทาน แต่ละคนต้องจ่ายหลัก 1000up ทั้งนั้น แต่ต้องมาเจออะไรแย่ๆแบบนี้ การที่อาหารหมดแล้วไม่แจ้งลูกค้าก่อน แถมบังคับให้สั่งอาหารอย่างอื่นที่ไม่มีใครอยากทานแทน มันสมควรเกิดชึ้นหรือไม่กับร้านหรูระดับนี้? ทางร้านควรมีมาตราการแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ไหม เช่น อาจเสนอให้เปลี่ยน size S เป็น M ทั้งสองจาน (แต่คุณก็อาจจะเลือกsizeM ที่เล็กหน่อยเพื่อไม่ให้ขาดทุนมาก) หริอ คืนเงินลูกค้าเต็มจำนวน
อยากทราบว่าเพื่อนๆคิดเห็นกับว่าอย่างไรบ้างครับ
[Crab&Claw] ร้านอาหารหรูราคาหลักพัน แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ได้เรื่อง :((
ผ่านไปประมาณ 10 นาที พนักงานอีกคนเดินกลับมาบอกว่า Lobster size S มีเหลือแค่ 2 ตัว อยากรบกวนให้เปลี่ยนเป็นพาสต้าหรือแซนวิชได้มั้ย
ผมกับเพื่อนได้ปรึกษากัน ทุกคนไม่มีใครอยากทานพาสต้าหรือแซนวิชสักคน เลยเสนอทางร้านให้คืนเงินมาแล้วเราจะไปหาร้านอื่นทานแทน แต่ทานร้านแจ้งว่าคืนไม่ได้เพราะ wongnai เป็นคนคิดเงิน พวกเราเลยเสนอว่า งั้นให้เปลี่ยนเป็น Lobster size M แทน (ซึ่งก็เห็นว่ายอยูเต็มตู้เป็นสิบๆตัว) แต่ก็ได้รับการปฏิเสธอีก เพราะบอกว่า size M ราคาแพงเกิน ไม่สามารถทดแทนได้ พอได้ยินแบบนั้นเพื่อนคนนึงก็ปรี้ดขึ้นมาแล้วบอกว่า ทำไมเราต้องทนกินอาหารที่ไม่อยากทานทั้งที่เสียเงินหลักพัน แถมขอเงินคืนก็ไม่ได้ หลังจากนั้นพนักงานคนเดิมเหมือนกับไปคุยกับผจก. แล้วเหมือนเขาจะเสนอให้เปลี่ยนเป็น Lobster size M 1 ตัว ส่วนอีก 1 ที่เป็นพาาสต้าหรือแซนวิชที่ไม่มีใครอยากกิน เวลาผ่านไปสักพักทุกคนรู้สึกเบื่อและไม่อยากfightกับร้านไปมากกว่านี้ เลยยอมสั่งพาสต้าแทนแล้วทนๆกินไป
ส่วนตัวรู้สึกว่าการแก้ปัญาของร้านระดับนี้ควรมีความ professional มากกว่านี้ ลูกค้าไม่ได้จ่ายเงินร้อยสองร้อยมาทาน แต่ละคนต้องจ่ายหลัก 1000up ทั้งนั้น แต่ต้องมาเจออะไรแย่ๆแบบนี้ การที่อาหารหมดแล้วไม่แจ้งลูกค้าก่อน แถมบังคับให้สั่งอาหารอย่างอื่นที่ไม่มีใครอยากทานแทน มันสมควรเกิดชึ้นหรือไม่กับร้านหรูระดับนี้? ทางร้านควรมีมาตราการแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ไหม เช่น อาจเสนอให้เปลี่ยน size S เป็น M ทั้งสองจาน (แต่คุณก็อาจจะเลือกsizeM ที่เล็กหน่อยเพื่อไม่ให้ขาดทุนมาก) หริอ คืนเงินลูกค้าเต็มจำนวน
อยากทราบว่าเพื่อนๆคิดเห็นกับว่าอย่างไรบ้างครับ