ช่วงเดือนสิงหาคนนี้ ที่ญี่ปุ่นอากาศร้อนๆ ขึ้นจริงๆ ทำให้อยากกินราเมงขึ้นมา ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นร้านที่อยู่แถวๆ สถานี Sendagaya สาย JR
ที่ผมบังเอิญเดินผ่านไปเจอตอนเดินกลับมาจากฮาระจุกุเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Sendagaya (เดินเพราะไม่อยากเปลืองค่ารถไฟฟ้าจากสถานี Harajuku 555) ในร้านเห็นเป็นเคาน์เตอร์ มีแต่ชายฉกรรจ์ยืนซ้วยราเมงกันเป็นแถวเลย ส่วนมากที่แอบเหลือบไปเห็นจะเป็น คนขับรถแท็กซี่บ้าง สิงห์สิบล้อบรรทุกบ้าง ช่างก่อสร้างบ้าง เป็นอะไรที่ดิบๆ มาก 555 ในความคิดตอนนั้นก็เลยทำให้นึกถึง เกี๋ยวเตี๋ยวจับกังอะไรประมาณนั้นขึ้นมาเลย แต่
เห็นท่าทางการกินของพวกพี่ๆ ทั้งหลายดูอร่อยมากๆ ก็เลยทำให้อยากจะมาลองซักครั้งเผื่อมีโอกาส และแล้วก็เป็นวันนี้นี่เองที่หัวหน้างานชวนผมไปร้านนี้
วิธีไป
พิกัดตามนี้เลยครับ
https://goo.gl/maps/eXVWbUNpbbt
เมื่อลงที่สถานี Sendagaya แล้วก็ให้เดินออกจากสถานีมุ่งไปทางTokyo Metropolitan Gymnasium (โตเกียวไทอิคุคัง) แล้วเดินทะลุออกไปยังถนน Gai-en nishidori ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินเรียบถนนเส้นนั้นไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นป้ายร้านแบบนี้นะครับ
ซื้อตั๋วราเมงหน้าร้านได้เลย
จริงๆ แล้วผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ค่อยนิยมไปทานราเมงกันเพราะว่าภาพลักษณ์มันดูเป็นอาหารผู้ชาย น้ำมันเยอะ และมีกลิ่นฉุนด้วย เลยทำให้ปกติถ้าเพื่อนๆ ได้มาที่ญี่ปุ่นลองสังเกตุดูได้ที่ร้านราเมงทั่วๆ ไปว่าจะไม่ค่อยเห็นท่านสาวๆ มานั่งทานเหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเลย
ว่าแล้วเราก็วกเข้าสู่ร้านราเมงที่เราจะไปลองกันวันนี้ดีกว่า ร้านนี้มีชื่อว่า "โฮปเคง" (ร้านแห่งความหวัง) (จะหวังอะไรกะร้านดี.....555) ตอนนั้นที่ผมไปถึงก็เกือบ 3 ทุ่มกว่าๆ เพราะไปตอนหลังเลิกงานกับหัวหน้างานคนญี่ปุ่น พอดีจังหวะนั้นก็เป็นจังหวะที่น่าจะมีคอนเสิร์ตAKB48อะไรแถวๆ นั้นด้วย เพราะเห็นคนเดินสวนเข้ามาในสถานีเต็มเลย พอไปถึงร้านราเมงที่หมายไว้ ก็ปรากฎว่ามีคนแวะกินราเมงกันเยอะเลย ทำให้ต้องซื้อตั๋วราเมงแล้วก็เข้าแถวรอหน้าร้านนิดหน่อย พอดีว่าวันนี้มีลูกค้าเยอะทางร้านเขาก็เปิดที่นั่งชั้น 3 ให้บริการด้วยปกติ เปิดเฉพาะชั้น 1 , 2 เท่านั้นถ้าปกติคนไม่เยอะเท่านี้ พอซักแป็ปพนักงานร้านก็เรียกแล้วก็นำไปที่โต๊ะชั้นสาม วันนี้ผมสั่ง "ราเมงชาชู" เพิ่มไข่ต้ม สั่งเมนูเดียวกับหัวหน้าผม หัวหน้าผมบอกว่า "มันหมูมันจะลอยเยอะหน่อย อันนี้เป็นทีเด็ดร้านนี้เลยล่ะ" ผมก็งงๆ ก็เลยถามว่า "มันไม่เลี่ยนไปเหรอครับ" หัวหน้าผมก็บอกว่า "นั่นแหละ ถ้ามันไม่แหวะมันไม่อร่อย!!??" ผมก็ยังไม่เก็ต แล้วหัวหน้าก็เสริมต่อว่า "ถ้าหากกินแล้ว จะรู้สึกว่าไม่อยากกินไปอีกระยะหนึ่งนะ รอซัก 3 เดือนก็อยากจะกินอีก" อื่มๆๆๆ พอจะเขาใจนิดๆ ละ มันคงเหมือนอารมย์ประมาณ กินหมูกะทะอิ่มๆ แล้วอิ่มมากไปจนต้องหยุดกินไปช่วงหนึ่งประมาณนั้นมั้ง หรือไม่ก็เหมือนกับกินอะไรที่มันน่าขยะแขยงหน่อยแต่ก็ยังอยากกิน เหมือนกินพวกปลาร้งปลาร้าอะไรทำนองนั้นมั้งอันนี้ผมก็ยังไม่เก็ตจนกว่าจะได้ลิ้มรสราเมงของ "โฮปเคง" ร้านนี้ และแล้วเวลาที่คอยก็มาถึงเมื่อพนักงานนำราเมงที่พวกเราสั่งมาให้ อื่มหน้าตาก็ประมาณนี้ครับ
อ้อลืมบอกไปอีกเรื่องหนึ่งที่นี่ เขาจะให้ต้นหอมซอยมาเป็นถ้วยเลยเติมฟรีใครที่ชอบต้นหอมก็ใส่ได้ไม่อั้นเลย
นี่ครับคือไข่ที่สั่งเพิ่มครับ อร่อยดีมีรสชาติ
พอมาถึงผมก็ถ่ายรูปเสร็จก็ก้มหน้าก้มตากินเพื่ออยากรู้ว่าความรู้สึกที่หัวหน้าบอกนั้นมันเป็นยังไงนะ มันจะแหวะอย่างที่เขาออกมะ? ผมนี่ก็ผ่านอาหารแหวะๆ มาก็เยอะนะผมมั่นใจเลยว่ากินได้ทุกอย่าง ที่ผ่านมากผมก็เคยกิน แมลงหลายชนิด งู กบ ถั่วหมักญี่ปุ่น อะไรต่อมิอะไรมาเยอะ แค่ราเมงอย่างนี้ไม่น่าจะแหวะได้นะ
พอผมกิไปได้ซักพัก มันก็อร่อยดีนิ รสชาติก็ไม่เข้มข้นมาก เนื้อตุ๋นก็อร่อย ไข่ต้มก็อร่อย เส้นก็เหนียวนุ่มดี ใช้ได้เลย ผมก็เลยบอกกับหัวหน้าว่า "มันก็อร่อยดีนิครับ ไม่เห็นว่ามันจะน่าแหวะเลย" หัวหน้าก็บอกว่า "วันนี้น่าจะผิดหวังนิดหน่อย เพราะรู้สึกว่าคนมันเยอะเขาก็เลยเติมน้ำซุปเพิ่มลงไปทำให้มันหมูมันไม่เข้มข้น มันเลยไม่แหวะอะดิ" อ้าว เป็นอย่างนั้นเองเหรอ ก็น่าจะจริง ขนาดผมว่ารสชาติพอดีแล้วหัวหน้ายังบอกว่ามันจืดไปวันนี้ แสดงว่ามันต้องข้น และเหม็นกว่านี้อีกเป็นแน่ เพราะว่าเวลาเขาต้มกระดูกหมูมันจะเคี่ยวหลายวัน ทำให้กลิ่นมันหมักเข้มข้น แบบอย่างที่หัวหน้าจินตนาการเป็นแน่ หัวหน้าก็เลยบอกว่า "วันนี้ผิดหวังจริงๆ แบบนี้ต้องมาใหม่อีก" โอ้วว วันนี้อุตส่าห์มาแถวนี้ได้ ก็ไม่ได้สัมผัสประสบการณ์แหวะที่หัวหน้าโฆษณาไว้เป็นนักเป็นหนาก็น่าเสียดายมาก
ผมก็ไม่รู้ว่าที่รีวิวนี้จะเป็นการแนะนำร้านราเมง หรือ ให้ระวังร้านราเมงนี้ดี 555
ส่วนตัวแล้วผมยังอยากจะมาสัมผัสประสบการณ์แหวะที่ยังไม่ได้สัมผัสให้ได้ในคราวหน้าอยู่ครับ
เพื่อนๆ ละครับมีร้านราเมงแถวโตเกียวร้านไหนแนะนำผมบ้างรึเปล่า
[CR] ถ้าไม่แหวะ คงไม่ใช่ของจริง ราเมงซุปกระดูกหมูในตำนาน "โฮปเคง"
ที่ผมบังเอิญเดินผ่านไปเจอตอนเดินกลับมาจากฮาระจุกุเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Sendagaya (เดินเพราะไม่อยากเปลืองค่ารถไฟฟ้าจากสถานี Harajuku 555) ในร้านเห็นเป็นเคาน์เตอร์ มีแต่ชายฉกรรจ์ยืนซ้วยราเมงกันเป็นแถวเลย ส่วนมากที่แอบเหลือบไปเห็นจะเป็น คนขับรถแท็กซี่บ้าง สิงห์สิบล้อบรรทุกบ้าง ช่างก่อสร้างบ้าง เป็นอะไรที่ดิบๆ มาก 555 ในความคิดตอนนั้นก็เลยทำให้นึกถึง เกี๋ยวเตี๋ยวจับกังอะไรประมาณนั้นขึ้นมาเลย แต่
เห็นท่าทางการกินของพวกพี่ๆ ทั้งหลายดูอร่อยมากๆ ก็เลยทำให้อยากจะมาลองซักครั้งเผื่อมีโอกาส และแล้วก็เป็นวันนี้นี่เองที่หัวหน้างานชวนผมไปร้านนี้
วิธีไป
พิกัดตามนี้เลยครับ
https://goo.gl/maps/eXVWbUNpbbt
เมื่อลงที่สถานี Sendagaya แล้วก็ให้เดินออกจากสถานีมุ่งไปทางTokyo Metropolitan Gymnasium (โตเกียวไทอิคุคัง) แล้วเดินทะลุออกไปยังถนน Gai-en nishidori ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินเรียบถนนเส้นนั้นไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นป้ายร้านแบบนี้นะครับ
ซื้อตั๋วราเมงหน้าร้านได้เลย
จริงๆ แล้วผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ค่อยนิยมไปทานราเมงกันเพราะว่าภาพลักษณ์มันดูเป็นอาหารผู้ชาย น้ำมันเยอะ และมีกลิ่นฉุนด้วย เลยทำให้ปกติถ้าเพื่อนๆ ได้มาที่ญี่ปุ่นลองสังเกตุดูได้ที่ร้านราเมงทั่วๆ ไปว่าจะไม่ค่อยเห็นท่านสาวๆ มานั่งทานเหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเลย
ว่าแล้วเราก็วกเข้าสู่ร้านราเมงที่เราจะไปลองกันวันนี้ดีกว่า ร้านนี้มีชื่อว่า "โฮปเคง" (ร้านแห่งความหวัง) (จะหวังอะไรกะร้านดี.....555) ตอนนั้นที่ผมไปถึงก็เกือบ 3 ทุ่มกว่าๆ เพราะไปตอนหลังเลิกงานกับหัวหน้างานคนญี่ปุ่น พอดีจังหวะนั้นก็เป็นจังหวะที่น่าจะมีคอนเสิร์ตAKB48อะไรแถวๆ นั้นด้วย เพราะเห็นคนเดินสวนเข้ามาในสถานีเต็มเลย พอไปถึงร้านราเมงที่หมายไว้ ก็ปรากฎว่ามีคนแวะกินราเมงกันเยอะเลย ทำให้ต้องซื้อตั๋วราเมงแล้วก็เข้าแถวรอหน้าร้านนิดหน่อย พอดีว่าวันนี้มีลูกค้าเยอะทางร้านเขาก็เปิดที่นั่งชั้น 3 ให้บริการด้วยปกติ เปิดเฉพาะชั้น 1 , 2 เท่านั้นถ้าปกติคนไม่เยอะเท่านี้ พอซักแป็ปพนักงานร้านก็เรียกแล้วก็นำไปที่โต๊ะชั้นสาม วันนี้ผมสั่ง "ราเมงชาชู" เพิ่มไข่ต้ม สั่งเมนูเดียวกับหัวหน้าผม หัวหน้าผมบอกว่า "มันหมูมันจะลอยเยอะหน่อย อันนี้เป็นทีเด็ดร้านนี้เลยล่ะ" ผมก็งงๆ ก็เลยถามว่า "มันไม่เลี่ยนไปเหรอครับ" หัวหน้าผมก็บอกว่า "นั่นแหละ ถ้ามันไม่แหวะมันไม่อร่อย!!??" ผมก็ยังไม่เก็ต แล้วหัวหน้าก็เสริมต่อว่า "ถ้าหากกินแล้ว จะรู้สึกว่าไม่อยากกินไปอีกระยะหนึ่งนะ รอซัก 3 เดือนก็อยากจะกินอีก" อื่มๆๆๆ พอจะเขาใจนิดๆ ละ มันคงเหมือนอารมย์ประมาณ กินหมูกะทะอิ่มๆ แล้วอิ่มมากไปจนต้องหยุดกินไปช่วงหนึ่งประมาณนั้นมั้ง หรือไม่ก็เหมือนกับกินอะไรที่มันน่าขยะแขยงหน่อยแต่ก็ยังอยากกิน เหมือนกินพวกปลาร้งปลาร้าอะไรทำนองนั้นมั้งอันนี้ผมก็ยังไม่เก็ตจนกว่าจะได้ลิ้มรสราเมงของ "โฮปเคง" ร้านนี้ และแล้วเวลาที่คอยก็มาถึงเมื่อพนักงานนำราเมงที่พวกเราสั่งมาให้ อื่มหน้าตาก็ประมาณนี้ครับ
อ้อลืมบอกไปอีกเรื่องหนึ่งที่นี่ เขาจะให้ต้นหอมซอยมาเป็นถ้วยเลยเติมฟรีใครที่ชอบต้นหอมก็ใส่ได้ไม่อั้นเลย
นี่ครับคือไข่ที่สั่งเพิ่มครับ อร่อยดีมีรสชาติ
พอมาถึงผมก็ถ่ายรูปเสร็จก็ก้มหน้าก้มตากินเพื่ออยากรู้ว่าความรู้สึกที่หัวหน้าบอกนั้นมันเป็นยังไงนะ มันจะแหวะอย่างที่เขาออกมะ? ผมนี่ก็ผ่านอาหารแหวะๆ มาก็เยอะนะผมมั่นใจเลยว่ากินได้ทุกอย่าง ที่ผ่านมากผมก็เคยกิน แมลงหลายชนิด งู กบ ถั่วหมักญี่ปุ่น อะไรต่อมิอะไรมาเยอะ แค่ราเมงอย่างนี้ไม่น่าจะแหวะได้นะ
พอผมกิไปได้ซักพัก มันก็อร่อยดีนิ รสชาติก็ไม่เข้มข้นมาก เนื้อตุ๋นก็อร่อย ไข่ต้มก็อร่อย เส้นก็เหนียวนุ่มดี ใช้ได้เลย ผมก็เลยบอกกับหัวหน้าว่า "มันก็อร่อยดีนิครับ ไม่เห็นว่ามันจะน่าแหวะเลย" หัวหน้าก็บอกว่า "วันนี้น่าจะผิดหวังนิดหน่อย เพราะรู้สึกว่าคนมันเยอะเขาก็เลยเติมน้ำซุปเพิ่มลงไปทำให้มันหมูมันไม่เข้มข้น มันเลยไม่แหวะอะดิ" อ้าว เป็นอย่างนั้นเองเหรอ ก็น่าจะจริง ขนาดผมว่ารสชาติพอดีแล้วหัวหน้ายังบอกว่ามันจืดไปวันนี้ แสดงว่ามันต้องข้น และเหม็นกว่านี้อีกเป็นแน่ เพราะว่าเวลาเขาต้มกระดูกหมูมันจะเคี่ยวหลายวัน ทำให้กลิ่นมันหมักเข้มข้น แบบอย่างที่หัวหน้าจินตนาการเป็นแน่ หัวหน้าก็เลยบอกว่า "วันนี้ผิดหวังจริงๆ แบบนี้ต้องมาใหม่อีก" โอ้วว วันนี้อุตส่าห์มาแถวนี้ได้ ก็ไม่ได้สัมผัสประสบการณ์แหวะที่หัวหน้าโฆษณาไว้เป็นนักเป็นหนาก็น่าเสียดายมาก
ผมก็ไม่รู้ว่าที่รีวิวนี้จะเป็นการแนะนำร้านราเมง หรือ ให้ระวังร้านราเมงนี้ดี 555
ส่วนตัวแล้วผมยังอยากจะมาสัมผัสประสบการณ์แหวะที่ยังไม่ได้สัมผัสให้ได้ในคราวหน้าอยู่ครับ
เพื่อนๆ ละครับมีร้านราเมงแถวโตเกียวร้านไหนแนะนำผมบ้างรึเปล่า