ตอนก่อนหน้า
https://ppantip.com/topic/36795162
https://ppantip.com/topic/36815263
https://ppantip.com/topic/36819926
https://ppantip.com/topic/36829151
เหยื่อ
โดย...ล. วิลิศมาหรา
หญิงผมดำหายลับไปทางด้านหลังอีกคน ทิ้งเอมิลี่ไว้กับหญิงสาวร่างผอมผิวขาวซีดเหมือนคนตาย ผมสีอ่อนหยิกฟูเต็มศีรษะ หล่อนปัดปอยผมออกจากหน้า ฉีกยิ้มเหมือนฝืนให้คนเจ็บ พูดปลอบอย่างระมัดระวังถ้อยคำว่า
“เธอไม่เป็นไรแล้วล่ะเอมิลี่ ทำตัวให้ผ่อนคลายนะ” หล่อนแตะหลังมือเธอเบาๆ แล้วรีบชักมือกลับ ทำท่าเหมือนไปโดนของร้อนเข้า หรือไม่ก็นึกแหยงที่จะทำแบบนั้น
“ขอบคุณค่ะ ฉันคิดว่าตัวเองยังพอไหว...เอ้อ เธอคือ...”
เอมิลี่บอกขอบคุณแม้แอบนึกพิศวงกับอาการของหล่อน แต่ช่างเถอะผู้คนที่นี่มักทำตัวไม่ปกติจนเธอคิดจะเลิกแปลกใจไปแล้ว ตอนนี้เธออยากรู้ว่าจีนคือคนไหนจะได้พอมีคนที่รู้จักบ้าง หญิงจากออลวีลรู้สึกเคว้งคว้างที่ต้องตกอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนแปลกหน้า ในขณะที่เธอช่วยเหลือตัวเองได้น้อยแบบนี้ จีนคงเป็นหนึ่งในผู้หญิงสามคนบนบ้านหลังนี้ หญิงสูงวัยร่างท้วมไม่น่าจะใช่ หล่อนดูแก่เกินกว่าจะเป็นภรรยาของพอล อาจเป็นสาวสวยผมดำหรือไม่ก็สาวร่างผอมคนนี้นี่แหละ
“ฉันชื่อเจสสิก้า ส่วนนี่คือสามีฉัน ทอม”
หล่อนหันไปทางผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างหนาใหญ่ข้างๆ ผู้ซึ่งกำลังยืนจ้องตาสีดำอมน้ำเงินของเขามายังตัวเธอเขม็ง เอมิลี่สะดุ้งน้อยๆ ต่อสายตาของเขา ถึงยังไงก็ทำใจให้ชินกับสายตาค้นหาของคนที่นี่ไม่ได้สักทีสิน่า หญิงสาวส่งยิ้มเฝื่อนฝาดให้คนทั้งคู่ ในเวลานี้คงต้องพยายามผูกมิตรกับคนรอบข้างเอาไว้ก่อน เพราะตัวเองยังต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาอีกมากจนกว่าจะหาลิซ่าเจอ
หล่อนคนนี้ยังไม่ใช่จีน ถ้างั้นก็เหลืออยู่คนเดียว
“สองคนนั้นคือเดวิดกับเควิน พี่น้องฝาแฝด”
เจสสิก้าบุ้ยใบ้เลยไปทางด้านหลังของทอม เอมิลี่มองตามก็เห็นผู้ชายวัยหนุ่มที่มีตกกระเต็มหน้า ตาและผมเป็นสีน้ำตาลเข้มเหมือนกันสองคนยืนอยู่ พวกเขายกมือขึ้นทักทายซึ่งเธอก็ยกตอบ ค่อยยังชั่วที่แม้ชายหนุ่มทั้งสองจะจ้องเธอตาเป๋ง แต่สายตาก็ไม่เขม็งเครียดเหมือนผู้ใหญ่คนอื่นๆ
“ขอโทษด้วยถ้าเราเคยเจอกันแล้ว” พึมพำอย่างรู้สึกเสียใจกับความทรงจำที่ขาดหายไปอย่างไม่คาดฝันของตัวเองกับพวกเขา
“อ่ะแฮ่ม...คุณผู้หญิง” มีเสียงกระแอมกระไอดังขึ้นอีกทาง
“ผมอยากให้คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อย ค่ำมืดแบบนี้คุณออกไปข้างนอกทำไม แล้วคุณหายไปอยู่ไหนมา พอลกับลิซ่าออกไปพร้อมคุณด้วยใช่ไหม ทำไมไม่พาพวกเขากลับมากับคุณด้วยล่ะ จะได้จบเรื่องยุ่งยากนี้เสียที”
หญิงสาวหันมาตามเสียงพูดแหบต่ำของชายสูงอายุอีกคนที่เพิ่งลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเธอ เขามีรูปร่างอ้วนกลม เส้นผมสีขาวบนศีรษะมีอยู่หรอมแหรมแต่ว่าไว้หนวดเคราเฟิ้ม นึกไม่ชอบใจในน้ำเสียงซักไซร้เป็นชุดแบบนั้น เขาเริ่มต้นถามคำถามที่เธอไม่อาจตอบ
“คุณไรน์บอกว่าจำอะไรไม่ได้น่ะ เจสัน อย่าเพิ่งถามเธอเลย”
ดีหน่อยที่นายอำเภอแม็คตอบให้เสียก่อน เอมิลี่จึงเลือกที่จะเงียบเสีย เธอมองหน้าคนถามพร้อมกับขมวดหัวคิ้วเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว นึกแปลกใจต่อคำถามแรกพบหน้ากันของเขา ที่ดูเหมือนต้องการค้นหาความจริงมากกว่าจะเห็นใจเธอผู้อยู่ในสภาพบาดเจ็บ ชายที่ชื่อเจสันพยายามถามทั้งที่ดูก็น่าจะรู้ว่าหญิงสาวกำลังมึนงงสับสน
“อะไรกัน บ้านนี้มีแต่คนความจำเสื่อมหรือยังไง พอลหายไปเพราะเป็นโรคความจำเสื่อม เมียเก่าก็ความจำเสื่อม ลูกสาวของพวกคุณก็คงหายตัวไปเพราะความจำเสื่อมเหมือนกันสินะ”
คำพูดน่าเกลียดน่าชังไร้ศิลปะ ไม่น้อยไปกว่าสายตาค้นหาชนิดไม่เกรงใจกันของคนพูดดังขึ้นอีก หน้าซีดขาวจากความหนาวเย็นและทุกข์ทรมานกับการกระเสิกกระสน หาทางเอาชีวิตรอดอยู่ข้างนอกเป็นเวลานานของหญิงสาวแดงก่ำ อารมณ์โมโหเริ่มคุกรุ่นขึ้นทีละน้อยนอกเหนือจากความตื่นกลัวและประสาทเสียก่อนหน้านั้นแล้ว
“ฉันอยากไปโรงพยาบาลค่ะ นายอำเภอ ฉันต้องการหมอ ฉันคิดว่าหัวตัวเองคงไปชนกับอะไรเข้าจนความจำเลอะเลือน นึกอะไรไม่ออก สิ่งที่พวกคุณถาม ฉันจำอะไรไม่ได้เลย จำพวกคุณก็ไม่ได้ด้วย ไม่รู้ว่าเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าด้วยซ้ำ”
เมินไปเสียจากใบหน้าอวบอูมอย่างยอมเสียมารยาท หญิงสาวหันมาทางแม็คแทน ถึงแม้นายอำเภอคนนี้ดูจะไม่ค่อยอนาทรต่อทุกข์ร้อนของเธอจริงจังมากนัก แต่เขาก็ยังพูดจาดีกว่าเจสันมาก เอมิลี่ร้องขอต่อเขาโดยเพิกเฉยเสียงพึมพำสบถของชายร่างอ้วน ซึ่งคงหัวเสียจากเห็นเธอไม่สนใจจะโต้ตอบด้วย
แต่แล้วเธอก็ต้องผิดหวังต่อท่าทีของนายอำเภออีกครั้ง เมื่อเห็นแม็คยืนเท้าสะเอวนิ่ง ไม่ตอบคำขอร้องของเธอแต่ประการใด หญิงสาวเหลือบมองหน้าเขาอย่างฉงน ถามซ้ำเสียงดังกว่าเดิม
“นายอำเภอคะ คุณได้เรียกรถพยาบาลให้ฉันหรือยัง”
“คุณจะไปโรงพยาบาลตอนนี้เลยเหรอ”คราวนี้แม็คเลิกคิ้วถาม
“ใช่ค่ะ กรุณาเรียกรถพยาบาลมารับฉันด้วย”
ฉันอยากไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้สิวะ...เอมิลี่ร่ำร้องในใจ...ถ้าไม่ติดเพราะเป็นห่วงพอลกับลิซ่าซึ่งยังหาตัวไม่เจอ เธอก็อยากให้นายอำเภอซึ่งเป็นคนพาเธอมา ช่วยจัดการให้เธอตามต้องการเสียตั้งแต่แรกที่มาถึง ก่อนหน้านั้นเขาบอกกับเธอว่าจะเรียกรถพยาบาลมารับ แต่จนบัดนี้ก็ยังเห็นเขาเฉยๆ แม็คไม่ได้วิทยุสื่อสารแจ้งหน่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาล หรือแจ้งเรื่องนี้ให้ตำรวจคนอื่นในที่ทำงานของเขาทราบอย่างที่ควรทำ เธอเห็นเขาควักโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคนครั้งเดียวเท่านั้น ตรงถนนลูกรังนั่น...โทรศัพท์ ใช่สิ เธอควรใช้มันโทรหาลิซ่าเหมือนกัน ยังไงถ้าติดต่อลูกได้ค่อยบอกให้ลูกตามไปหาเธอที่โรงพยาบาลก็ได้
หญิงสาวไม่สบายใจกับบรรยากาศเปลี่ยวร้างกลางป่าของหมู่บ้านโดดเดี่ยวแห่งนี้เลย และไหนจะผู้คนท่าทางแปลกๆ พวกนี้อีก ที่ตัวเองร้องขอไปโรงพยาบาลนั้นไม่ใช่แค่ต้องการไปรักษาตัวอย่างเดียว แต่เธอยังคิดว่าอยู่ที่นั่นน่าจะปลอดภัยมากกว่าที่นี่
บอกเขาแล้วเหลียวมองไปรอบตัวอีกครั้ง รู้สึกอึดอัดต่อท่าทีของผู้คนในห้องนี้มากขึ้นทุกขณะ เพราะนอกจากท่าทีเฉยเมยต่อความเดือดร้อนของเธอจากแม็ค และคำถามชวนโมโหของเจสันแล้ว คนอื่นๆ ก็มีท่าทีคล้ายกัน พวกเขามองเธอด้วยสายตาเหมือนกำลังจ้องจับผิด
“แต่ก่อนไปโรงพยาบาลฉันอยากโทรหาลูกก่อน บางทีลิซ่าอาจเอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย ส่วนโทรศัพท์ของฉันคงอยู่ในห้องที่บ้านของจีน...ถ้าฉันอยู่ที่บ้านของเธอแล้วน่ะนะ ฉันอยากรู้ว่าคนไหนคือจีนคะ ฉันจำเธอไม่ได้ จำได้แค่ว่าตัวเองมาที่นี่เพราะเธอชวนฉันกับลูกให้มาเยี่ยมพอล”
คิดว่าควรคุยกับจีนจะได้เรื่องดีที่สุด เอมิลี่ถามถึงภรรยาของพอลพลางส่ายสายตามองหา
(มีต่อ)
เหยื่อ...ตอนที่ 5
https://ppantip.com/topic/36795162
https://ppantip.com/topic/36815263
https://ppantip.com/topic/36819926
https://ppantip.com/topic/36829151
โดย...ล. วิลิศมาหรา
หญิงผมดำหายลับไปทางด้านหลังอีกคน ทิ้งเอมิลี่ไว้กับหญิงสาวร่างผอมผิวขาวซีดเหมือนคนตาย ผมสีอ่อนหยิกฟูเต็มศีรษะ หล่อนปัดปอยผมออกจากหน้า ฉีกยิ้มเหมือนฝืนให้คนเจ็บ พูดปลอบอย่างระมัดระวังถ้อยคำว่า
“เธอไม่เป็นไรแล้วล่ะเอมิลี่ ทำตัวให้ผ่อนคลายนะ” หล่อนแตะหลังมือเธอเบาๆ แล้วรีบชักมือกลับ ทำท่าเหมือนไปโดนของร้อนเข้า หรือไม่ก็นึกแหยงที่จะทำแบบนั้น
“ขอบคุณค่ะ ฉันคิดว่าตัวเองยังพอไหว...เอ้อ เธอคือ...”
เอมิลี่บอกขอบคุณแม้แอบนึกพิศวงกับอาการของหล่อน แต่ช่างเถอะผู้คนที่นี่มักทำตัวไม่ปกติจนเธอคิดจะเลิกแปลกใจไปแล้ว ตอนนี้เธออยากรู้ว่าจีนคือคนไหนจะได้พอมีคนที่รู้จักบ้าง หญิงจากออลวีลรู้สึกเคว้งคว้างที่ต้องตกอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนแปลกหน้า ในขณะที่เธอช่วยเหลือตัวเองได้น้อยแบบนี้ จีนคงเป็นหนึ่งในผู้หญิงสามคนบนบ้านหลังนี้ หญิงสูงวัยร่างท้วมไม่น่าจะใช่ หล่อนดูแก่เกินกว่าจะเป็นภรรยาของพอล อาจเป็นสาวสวยผมดำหรือไม่ก็สาวร่างผอมคนนี้นี่แหละ
“ฉันชื่อเจสสิก้า ส่วนนี่คือสามีฉัน ทอม”
หล่อนหันไปทางผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างหนาใหญ่ข้างๆ ผู้ซึ่งกำลังยืนจ้องตาสีดำอมน้ำเงินของเขามายังตัวเธอเขม็ง เอมิลี่สะดุ้งน้อยๆ ต่อสายตาของเขา ถึงยังไงก็ทำใจให้ชินกับสายตาค้นหาของคนที่นี่ไม่ได้สักทีสิน่า หญิงสาวส่งยิ้มเฝื่อนฝาดให้คนทั้งคู่ ในเวลานี้คงต้องพยายามผูกมิตรกับคนรอบข้างเอาไว้ก่อน เพราะตัวเองยังต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาอีกมากจนกว่าจะหาลิซ่าเจอ
หล่อนคนนี้ยังไม่ใช่จีน ถ้างั้นก็เหลืออยู่คนเดียว
“สองคนนั้นคือเดวิดกับเควิน พี่น้องฝาแฝด”
เจสสิก้าบุ้ยใบ้เลยไปทางด้านหลังของทอม เอมิลี่มองตามก็เห็นผู้ชายวัยหนุ่มที่มีตกกระเต็มหน้า ตาและผมเป็นสีน้ำตาลเข้มเหมือนกันสองคนยืนอยู่ พวกเขายกมือขึ้นทักทายซึ่งเธอก็ยกตอบ ค่อยยังชั่วที่แม้ชายหนุ่มทั้งสองจะจ้องเธอตาเป๋ง แต่สายตาก็ไม่เขม็งเครียดเหมือนผู้ใหญ่คนอื่นๆ
“ขอโทษด้วยถ้าเราเคยเจอกันแล้ว” พึมพำอย่างรู้สึกเสียใจกับความทรงจำที่ขาดหายไปอย่างไม่คาดฝันของตัวเองกับพวกเขา
“อ่ะแฮ่ม...คุณผู้หญิง” มีเสียงกระแอมกระไอดังขึ้นอีกทาง
“ผมอยากให้คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อย ค่ำมืดแบบนี้คุณออกไปข้างนอกทำไม แล้วคุณหายไปอยู่ไหนมา พอลกับลิซ่าออกไปพร้อมคุณด้วยใช่ไหม ทำไมไม่พาพวกเขากลับมากับคุณด้วยล่ะ จะได้จบเรื่องยุ่งยากนี้เสียที”
หญิงสาวหันมาตามเสียงพูดแหบต่ำของชายสูงอายุอีกคนที่เพิ่งลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเธอ เขามีรูปร่างอ้วนกลม เส้นผมสีขาวบนศีรษะมีอยู่หรอมแหรมแต่ว่าไว้หนวดเคราเฟิ้ม นึกไม่ชอบใจในน้ำเสียงซักไซร้เป็นชุดแบบนั้น เขาเริ่มต้นถามคำถามที่เธอไม่อาจตอบ
“คุณไรน์บอกว่าจำอะไรไม่ได้น่ะ เจสัน อย่าเพิ่งถามเธอเลย”
ดีหน่อยที่นายอำเภอแม็คตอบให้เสียก่อน เอมิลี่จึงเลือกที่จะเงียบเสีย เธอมองหน้าคนถามพร้อมกับขมวดหัวคิ้วเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว นึกแปลกใจต่อคำถามแรกพบหน้ากันของเขา ที่ดูเหมือนต้องการค้นหาความจริงมากกว่าจะเห็นใจเธอผู้อยู่ในสภาพบาดเจ็บ ชายที่ชื่อเจสันพยายามถามทั้งที่ดูก็น่าจะรู้ว่าหญิงสาวกำลังมึนงงสับสน
“อะไรกัน บ้านนี้มีแต่คนความจำเสื่อมหรือยังไง พอลหายไปเพราะเป็นโรคความจำเสื่อม เมียเก่าก็ความจำเสื่อม ลูกสาวของพวกคุณก็คงหายตัวไปเพราะความจำเสื่อมเหมือนกันสินะ”
คำพูดน่าเกลียดน่าชังไร้ศิลปะ ไม่น้อยไปกว่าสายตาค้นหาชนิดไม่เกรงใจกันของคนพูดดังขึ้นอีก หน้าซีดขาวจากความหนาวเย็นและทุกข์ทรมานกับการกระเสิกกระสน หาทางเอาชีวิตรอดอยู่ข้างนอกเป็นเวลานานของหญิงสาวแดงก่ำ อารมณ์โมโหเริ่มคุกรุ่นขึ้นทีละน้อยนอกเหนือจากความตื่นกลัวและประสาทเสียก่อนหน้านั้นแล้ว
“ฉันอยากไปโรงพยาบาลค่ะ นายอำเภอ ฉันต้องการหมอ ฉันคิดว่าหัวตัวเองคงไปชนกับอะไรเข้าจนความจำเลอะเลือน นึกอะไรไม่ออก สิ่งที่พวกคุณถาม ฉันจำอะไรไม่ได้เลย จำพวกคุณก็ไม่ได้ด้วย ไม่รู้ว่าเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าด้วยซ้ำ”
เมินไปเสียจากใบหน้าอวบอูมอย่างยอมเสียมารยาท หญิงสาวหันมาทางแม็คแทน ถึงแม้นายอำเภอคนนี้ดูจะไม่ค่อยอนาทรต่อทุกข์ร้อนของเธอจริงจังมากนัก แต่เขาก็ยังพูดจาดีกว่าเจสันมาก เอมิลี่ร้องขอต่อเขาโดยเพิกเฉยเสียงพึมพำสบถของชายร่างอ้วน ซึ่งคงหัวเสียจากเห็นเธอไม่สนใจจะโต้ตอบด้วย
แต่แล้วเธอก็ต้องผิดหวังต่อท่าทีของนายอำเภออีกครั้ง เมื่อเห็นแม็คยืนเท้าสะเอวนิ่ง ไม่ตอบคำขอร้องของเธอแต่ประการใด หญิงสาวเหลือบมองหน้าเขาอย่างฉงน ถามซ้ำเสียงดังกว่าเดิม
“นายอำเภอคะ คุณได้เรียกรถพยาบาลให้ฉันหรือยัง”
“คุณจะไปโรงพยาบาลตอนนี้เลยเหรอ”คราวนี้แม็คเลิกคิ้วถาม
“ใช่ค่ะ กรุณาเรียกรถพยาบาลมารับฉันด้วย”
ฉันอยากไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้สิวะ...เอมิลี่ร่ำร้องในใจ...ถ้าไม่ติดเพราะเป็นห่วงพอลกับลิซ่าซึ่งยังหาตัวไม่เจอ เธอก็อยากให้นายอำเภอซึ่งเป็นคนพาเธอมา ช่วยจัดการให้เธอตามต้องการเสียตั้งแต่แรกที่มาถึง ก่อนหน้านั้นเขาบอกกับเธอว่าจะเรียกรถพยาบาลมารับ แต่จนบัดนี้ก็ยังเห็นเขาเฉยๆ แม็คไม่ได้วิทยุสื่อสารแจ้งหน่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาล หรือแจ้งเรื่องนี้ให้ตำรวจคนอื่นในที่ทำงานของเขาทราบอย่างที่ควรทำ เธอเห็นเขาควักโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคนครั้งเดียวเท่านั้น ตรงถนนลูกรังนั่น...โทรศัพท์ ใช่สิ เธอควรใช้มันโทรหาลิซ่าเหมือนกัน ยังไงถ้าติดต่อลูกได้ค่อยบอกให้ลูกตามไปหาเธอที่โรงพยาบาลก็ได้
หญิงสาวไม่สบายใจกับบรรยากาศเปลี่ยวร้างกลางป่าของหมู่บ้านโดดเดี่ยวแห่งนี้เลย และไหนจะผู้คนท่าทางแปลกๆ พวกนี้อีก ที่ตัวเองร้องขอไปโรงพยาบาลนั้นไม่ใช่แค่ต้องการไปรักษาตัวอย่างเดียว แต่เธอยังคิดว่าอยู่ที่นั่นน่าจะปลอดภัยมากกว่าที่นี่
บอกเขาแล้วเหลียวมองไปรอบตัวอีกครั้ง รู้สึกอึดอัดต่อท่าทีของผู้คนในห้องนี้มากขึ้นทุกขณะ เพราะนอกจากท่าทีเฉยเมยต่อความเดือดร้อนของเธอจากแม็ค และคำถามชวนโมโหของเจสันแล้ว คนอื่นๆ ก็มีท่าทีคล้ายกัน พวกเขามองเธอด้วยสายตาเหมือนกำลังจ้องจับผิด
“แต่ก่อนไปโรงพยาบาลฉันอยากโทรหาลูกก่อน บางทีลิซ่าอาจเอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย ส่วนโทรศัพท์ของฉันคงอยู่ในห้องที่บ้านของจีน...ถ้าฉันอยู่ที่บ้านของเธอแล้วน่ะนะ ฉันอยากรู้ว่าคนไหนคือจีนคะ ฉันจำเธอไม่ได้ จำได้แค่ว่าตัวเองมาที่นี่เพราะเธอชวนฉันกับลูกให้มาเยี่ยมพอล”
คิดว่าควรคุยกับจีนจะได้เรื่องดีที่สุด เอมิลี่ถามถึงภรรยาของพอลพลางส่ายสายตามองหา
(มีต่อ)