เราไปประเทศมาลาวีมา ประเทศมาลาวีอยู่ในทวีปแอฟริกา ในโซนตะวันออกติดกับประเทศ Tanzania, Zambia และ Mozambique
เป็นประเทศเล็กๆไม่ติดทะเล แต่มีทะเลสาบน้ำจืด มีภูเขาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทวีปแอฟริกา
ได้รับอิสรภาพจากการตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมา 53 ปี(จากการฉลอง Independence Day July 2017 ที่ผ่านมา)
ไม่มีสงคราม สงบและน่าอยู่มาก พื้นที่ของมาลาวีส่วนใหญ่อยู่บนภูเขา เวลามองไปรอบๆก็จะเห็นถึงตรงโน้นนนนนนนน
ไม่เหมือนไทยที่เป็นที่ราบ หันซ้ายหันขวากลับหน้าเหลียวหลัง อ่อ มีแค่นั้นแหละ #ตึกเต็มเลย ^^
เสียค่าใช้จ่ายไปราวๆ 100,000 บาท ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 47,000 บาท
เตรียม(ค่า VISA ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่า Support มูลนิธิ) 720$ และที่เหลือก็เป็นค่าข้าวของเครื่องใช้ที่เราเตรียมไป
เราบินวันที่
18 สิงหาคม 2559(ถึงมาลาวีวันที่ 18/08/59) กลับไทยวันที่ 17 สิงหาคม 2560(ถึงไทยวันที่ 18/08/60) 1 ปีเต็ม
เราไปผ่านโครงการอาสาสมัครต่างประเทศของ
มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ( International Youth Fellowship : IYF )
ตัวมูลนิธินี้มีพื้นฐานมาจากองค์กรของคริสเตียน (ไม่เป็นคริสต์ก็ไปได้นะ #ต้องมีคนถามคำถามนี้ชัวร์)
การไปอาศัยอยู่ที่นั่นเราก็ไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์ของมูลนิธิ IYF ประจำประเทศมาลาวี ซึ่งมีโบสถ์ตั้งอยู่ด้วย
*เราไม่ได้หวังจะประชาสัมพันธ์โครงการของมูลนิธินะ เราอยากแชร์ประสบการณ์ที่เราผ่านมาตลอดระยะเวลา 1 ปี
แต่เผื่อบางคนอาจจะสงสัยว่าไปกับใคร ไปยังไง ถึงเสียแค่นี้กับ 1 ปี มันเป็นไปได้หรอ?
และมันก็เป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกของเรา #รูปคลิปเยอะในระดับนึงเลย
ด้วยความที่ตัวมูลนิธิ IYF มีสาขาใน 80 กว่าประเทศทั่วโลก และมาลาวีก็เป็น 1 ในนั้น
เราก็ไปใช้ชีวิต ไปกิน นอนอยู่ที่ศูนย์ที่นั่น ใช้ชีวิตร่วมกับอาสาสมัครต่างชาติ กับสมาชิกโบสถ์(เพราะมีโบสถ์ตั้งอยู่ตามที่บอกไปข้างบน)
กิจกรรมของแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป ของมาลาวีหลักๆก็จะมี
- ก่อสร้าง(แอฟริกา...ยังไงก็ไม่พ้น)
- สอนภาษา(ยิ่งรู้มาก ยิ่งได้สอน ถ้าไม่รู้ ภาษาอังกฤษก็ได้สอนเหมือนกัน มันเป็นการฝึกไปในตัว)
- สอนคอมฯ(แอฟริกาถือเป็นสิ่งใหม่)
- ทำการแสดง วัฒนธรรมม, เต้น, ละครเวที
- เข้าชุมชน(หูยยย... สนุกสนานนนน)
- ฯลฯ(มันเยอะจริงๆ)
เราไม่ได้เสีย
- ค่าอาหาร(กินด้วยกัน กินอาหารของเขานี่แหละ จะได้มีความเป็นคนมาลาวี 555)
- ค่าที่พัก(มีที่นอน)
เออ..ว่าเรื่องที่นอน ในใจนะพูดเลย! ในหัวอ้ะ ตอนได้ยินว่า Malawi อ้ะเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโครงการของ IYF
อื้อหืมณ์! ภาพนี่มาเลย! นอนพื้นแน่!!! หรูสุดก็มีเสื่ออ้ะ.
พอเจอเข้าจริง++ OMG!!!! นอนเตียงคร้าบคุณผู้ชม!! มีเบาะนิ่มๆ เตียง 2 ชั้นด้วยแหละ!
อยากนอนเตียง 2 ชั้นตั้งแต่เด็กๆ สมหวังเลยทีนี้
ทานอาหารที่นั่น เวลาต้องไปไหนมาไหน Pastor ก็จะบอกว่าไปยังไง เช่น...
บางทีก็นั่ง truck ไป บางทีก็รถตู้ แต่ส่วนใหญ่เราจะ Hitchhike ไป เราเรียกกันสั้นๆว่า “Hitch”
หรือที่คนไทยเรียกว่า "โบกรถ" (ถึงแม้มันจะขี้เกรงใจ แต่โบกไปมันก็สนุกนะ ถ้าไม่มีคนจอดก็หน้าชาไปเลย เอ๊ะ! รึเราน่ากลัวไป..)
การใช้ชีวิตอาสาสมัครผ่านโครงการของมูลนิธิ IYF ที่มาลาวี มีสิ่งสำคัญอยู่อย่างนึงคือ
“ไม่ใช้เงิน(ตัวเอง)กับโทรศัพท์”
Pastor บอกว่า “ถ้ามีมือถือ เราก็จะฟังเพลง ดูหนัง เล่นเน็ต ฯลฯ มันก็จะทำให้จิตใจของเธอไม่ได้อยู่กับที่นี่ บางทีก็คิดถึงบ้าน
แล้วการใช้ชีวิตของเธอที่นี่มันก็จะยากลำบากด้วย”
^^^^^
^^^
^
และโทรศัพท์ของเราก็ถูกเก็บไว้อย่างดีในตู้เซฟของ Pastor
นั่นแหละคือคำตอบที่เราอยากจะตอบเพื่อนๆของเราว่า
"ทำไมถึงติดต่อไม่ได้?" #ก็ไม่ได้ใช้ไง
(แต่เพื่อนคนนี้ยังมีชีวิตรอดอยู่นะ ซึ้งใจที่ทุกคนเป็นห่วง #กลับมาโดนเพื่อนด่ายับเลยอ้ะ
)
Area ที่เราอยู่เป็นเขตที่กำลังพัฒนา ซึ่งอยู่ในตัวเมือง Lilongwe นะ
คือ Area รอบๆเราอ้ะ มีบ้าน มีเสาไฟฟ้า มีน้ำ มีถนนลาดยาง มีตลาด #คือมีครบแหละ
แต่ Area ของเราเหมือน Area เมียน้อยอ้ะ ที่ยังเป็นพื้นที่เพาะปลูกเป็นส่วนใหญ่
บ้านก็กำลังก่อสร้าง เสาไฟฟ้าก็ไม่มี ท่อน้ำก็ไม่มี ถนนก็ดินแดง ฝุ่นก็เป็นพายุ
เวลาเราจะใช้น้ำ เราก็ต้องไปปั้มน้ำกัน แล้วก็ใช้เครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำมาใช้
ส่วนไฟฟ้า เราก็ใช้แผงโซล่าเซลล์ ถ้าจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าก็จะยก Generator ไปเปิด แล้วใส่น้ำมันเอา
นอกจากจะไม่ใช้เงินแล้ว โครงการนี้แตกต่างจากโครงการอื่นที่ไปแล้วตอนกลับคุณไม่ได้เงิน ไม่มีได้เบี้ยเลี้ยงกลับมานะ
ตอนที่เรากลับมาหลายคนบอกกับเราว่าไปทำไม ไปแล้วไม่ได้เงินกลับมา กลับมาเหมือนคนล้มละลาย
โดยส่วนตัวเราคิดอีกแบบนึง มันเหมือนเราไปเที่ยวเลยนะ เสียแค่ 1 แสน แต่อยู่ 1 ปี ถูกขนาดไหนเนี่ย
ค่า VISA ที่นั่นขยับจาก 50$ เป็น 70$ ต่อเดือน ค่าVAT 16.5% (สูงนะ)
ค่าเงินที่นั่นถ้าเทียบกับดอลล่าร์ 1$ = (ประมาณ) 700 MK (MALAWIKWACHA)
ถ้าเทียบกับเงินไทย 1 บาทจะประมาณ 20 MK เวลาก็จะช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง
ขอโทษสำหรับหลายคนด้วย บางทีอ่านๆไปแล้วคงสงสัย ไม่เห็นเล่าเรื่องสักที
เราขอเกริ่นคร่าวๆข้างบนก่อน เราจะเริ่มทยอยเล่าต่อจากนี้
แต่เราบอกไว้ก่อนว่า เราไม่สามารถเล่าจบภายในโพสเดียวได้ เราจะทยอยเล่า อาจจะลงวันละโพสสองโพส
บางโพสอาจจะรวมเรื่องราวในหนึ่งเดือน บางโพสอาจจะยิบย่อย ขึ้นอยู่กับภาพกับคลิปที่เราถ่ายกลับมา
เราลืมแนะนำตัว ผมชื่อ (เปา) วงศ์ธีรัช วงศ์คุณาฒัย ครับ อายุ 25 ปี
จบการศึกษาจากคณะประมง ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน (KU 70)
*GNC / GNCs ย่อมาจาก Good News Corps เป็นชื่อโครงการอาสาสมัครต่างประเทศ
เวลาเราเรียกอาสาสมัคร เรามักจะเรียกสั้นๆว่า “GNC”
เราจะทยอยอัพเรื่อยๆ~
ขอบคุณสำหรับความพยายามในการอ่านโพสยาวๆนี้
บันทึกการเดินทาง และ การใช้ชีวิตอาสาสมัคร 1 ปี ที่ประเทศมาลาวี Malawi, In the east of Africa
เป็นประเทศเล็กๆไม่ติดทะเล แต่มีทะเลสาบน้ำจืด มีภูเขาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทวีปแอฟริกา
ได้รับอิสรภาพจากการตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมา 53 ปี(จากการฉลอง Independence Day July 2017 ที่ผ่านมา)
ไม่มีสงคราม สงบและน่าอยู่มาก พื้นที่ของมาลาวีส่วนใหญ่อยู่บนภูเขา เวลามองไปรอบๆก็จะเห็นถึงตรงโน้นนนนนนนน
ไม่เหมือนไทยที่เป็นที่ราบ หันซ้ายหันขวากลับหน้าเหลียวหลัง อ่อ มีแค่นั้นแหละ #ตึกเต็มเลย ^^
เสียค่าใช้จ่ายไปราวๆ 100,000 บาท ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 47,000 บาท
เตรียม(ค่า VISA ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่า Support มูลนิธิ) 720$ และที่เหลือก็เป็นค่าข้าวของเครื่องใช้ที่เราเตรียมไป
เราบินวันที่ 18 สิงหาคม 2559(ถึงมาลาวีวันที่ 18/08/59) กลับไทยวันที่ 17 สิงหาคม 2560(ถึงไทยวันที่ 18/08/60) 1 ปีเต็ม
เราไปผ่านโครงการอาสาสมัครต่างประเทศของ มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ( International Youth Fellowship : IYF )
ตัวมูลนิธินี้มีพื้นฐานมาจากองค์กรของคริสเตียน (ไม่เป็นคริสต์ก็ไปได้นะ #ต้องมีคนถามคำถามนี้ชัวร์)
*เราไม่ได้หวังจะประชาสัมพันธ์โครงการของมูลนิธินะ เราอยากแชร์ประสบการณ์ที่เราผ่านมาตลอดระยะเวลา 1 ปี
แต่เผื่อบางคนอาจจะสงสัยว่าไปกับใคร ไปยังไง ถึงเสียแค่นี้กับ 1 ปี มันเป็นไปได้หรอ?
และมันก็เป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกของเรา #รูปคลิปเยอะในระดับนึงเลย
ด้วยความที่ตัวมูลนิธิ IYF มีสาขาใน 80 กว่าประเทศทั่วโลก และมาลาวีก็เป็น 1 ในนั้น
เราก็ไปใช้ชีวิต ไปกิน นอนอยู่ที่ศูนย์ที่นั่น ใช้ชีวิตร่วมกับอาสาสมัครต่างชาติ กับสมาชิกโบสถ์(เพราะมีโบสถ์ตั้งอยู่ตามที่บอกไปข้างบน)
กิจกรรมของแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป ของมาลาวีหลักๆก็จะมี
- ก่อสร้าง(แอฟริกา...ยังไงก็ไม่พ้น)
- สอนภาษา(ยิ่งรู้มาก ยิ่งได้สอน ถ้าไม่รู้ ภาษาอังกฤษก็ได้สอนเหมือนกัน มันเป็นการฝึกไปในตัว)
- สอนคอมฯ(แอฟริกาถือเป็นสิ่งใหม่)
- ทำการแสดง วัฒนธรรมม, เต้น, ละครเวที
- เข้าชุมชน(หูยยย... สนุกสนานนนน)
- ฯลฯ(มันเยอะจริงๆ)
- ค่าอาหาร(กินด้วยกัน กินอาหารของเขานี่แหละ จะได้มีความเป็นคนมาลาวี 555)
- ค่าที่พัก(มีที่นอน)
เออ..ว่าเรื่องที่นอน ในใจนะพูดเลย! ในหัวอ้ะ ตอนได้ยินว่า Malawi อ้ะเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโครงการของ IYF
อื้อหืมณ์! ภาพนี่มาเลย! นอนพื้นแน่!!! หรูสุดก็มีเสื่ออ้ะ.
พอเจอเข้าจริง++ OMG!!!! นอนเตียงคร้าบคุณผู้ชม!! มีเบาะนิ่มๆ เตียง 2 ชั้นด้วยแหละ!
อยากนอนเตียง 2 ชั้นตั้งแต่เด็กๆ สมหวังเลยทีนี้
ทานอาหารที่นั่น เวลาต้องไปไหนมาไหน Pastor ก็จะบอกว่าไปยังไง เช่น...
บางทีก็นั่ง truck ไป บางทีก็รถตู้ แต่ส่วนใหญ่เราจะ Hitchhike ไป เราเรียกกันสั้นๆว่า “Hitch”
หรือที่คนไทยเรียกว่า "โบกรถ" (ถึงแม้มันจะขี้เกรงใจ แต่โบกไปมันก็สนุกนะ ถ้าไม่มีคนจอดก็หน้าชาไปเลย เอ๊ะ! รึเราน่ากลัวไป..)
การใช้ชีวิตอาสาสมัครผ่านโครงการของมูลนิธิ IYF ที่มาลาวี มีสิ่งสำคัญอยู่อย่างนึงคือ “ไม่ใช้เงิน(ตัวเอง)กับโทรศัพท์”
Pastor บอกว่า “ถ้ามีมือถือ เราก็จะฟังเพลง ดูหนัง เล่นเน็ต ฯลฯ มันก็จะทำให้จิตใจของเธอไม่ได้อยู่กับที่นี่ บางทีก็คิดถึงบ้าน
แล้วการใช้ชีวิตของเธอที่นี่มันก็จะยากลำบากด้วย”
^^^
^
และโทรศัพท์ของเราก็ถูกเก็บไว้อย่างดีในตู้เซฟของ Pastor
นั่นแหละคือคำตอบที่เราอยากจะตอบเพื่อนๆของเราว่า
"ทำไมถึงติดต่อไม่ได้?" #ก็ไม่ได้ใช้ไง
(แต่เพื่อนคนนี้ยังมีชีวิตรอดอยู่นะ ซึ้งใจที่ทุกคนเป็นห่วง #กลับมาโดนเพื่อนด่ายับเลยอ้ะ )
Area ที่เราอยู่เป็นเขตที่กำลังพัฒนา ซึ่งอยู่ในตัวเมือง Lilongwe นะ
คือ Area รอบๆเราอ้ะ มีบ้าน มีเสาไฟฟ้า มีน้ำ มีถนนลาดยาง มีตลาด #คือมีครบแหละ
แต่ Area ของเราเหมือน Area เมียน้อยอ้ะ ที่ยังเป็นพื้นที่เพาะปลูกเป็นส่วนใหญ่
บ้านก็กำลังก่อสร้าง เสาไฟฟ้าก็ไม่มี ท่อน้ำก็ไม่มี ถนนก็ดินแดง ฝุ่นก็เป็นพายุ
เวลาเราจะใช้น้ำ เราก็ต้องไปปั้มน้ำกัน แล้วก็ใช้เครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำมาใช้
ส่วนไฟฟ้า เราก็ใช้แผงโซล่าเซลล์ ถ้าจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าก็จะยก Generator ไปเปิด แล้วใส่น้ำมันเอา
ตอนที่เรากลับมาหลายคนบอกกับเราว่าไปทำไม ไปแล้วไม่ได้เงินกลับมา กลับมาเหมือนคนล้มละลาย
โดยส่วนตัวเราคิดอีกแบบนึง มันเหมือนเราไปเที่ยวเลยนะ เสียแค่ 1 แสน แต่อยู่ 1 ปี ถูกขนาดไหนเนี่ย
ค่า VISA ที่นั่นขยับจาก 50$ เป็น 70$ ต่อเดือน ค่าVAT 16.5% (สูงนะ)
ค่าเงินที่นั่นถ้าเทียบกับดอลล่าร์ 1$ = (ประมาณ) 700 MK (MALAWIKWACHA)
ถ้าเทียบกับเงินไทย 1 บาทจะประมาณ 20 MK เวลาก็จะช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง
ขอโทษสำหรับหลายคนด้วย บางทีอ่านๆไปแล้วคงสงสัย ไม่เห็นเล่าเรื่องสักที
เราขอเกริ่นคร่าวๆข้างบนก่อน เราจะเริ่มทยอยเล่าต่อจากนี้
แต่เราบอกไว้ก่อนว่า เราไม่สามารถเล่าจบภายในโพสเดียวได้ เราจะทยอยเล่า อาจจะลงวันละโพสสองโพส
บางโพสอาจจะรวมเรื่องราวในหนึ่งเดือน บางโพสอาจจะยิบย่อย ขึ้นอยู่กับภาพกับคลิปที่เราถ่ายกลับมา
เราลืมแนะนำตัว ผมชื่อ (เปา) วงศ์ธีรัช วงศ์คุณาฒัย ครับ อายุ 25 ปี
จบการศึกษาจากคณะประมง ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน (KU 70)
เวลาเราเรียกอาสาสมัคร เรามักจะเรียกสั้นๆว่า “GNC”
เราจะทยอยอัพเรื่อยๆ~
ขอบคุณสำหรับความพยายามในการอ่านโพสยาวๆนี้