[>_<]เล่าชีวิตอาสาสมัครที่ญี่ปุ่น กับทุนของ IYF world camp แจกใบปลิว ไปบ้านพักคนชรา ได้ภาษาแบบไม่เข้าห้องเรียน

สวัสดีค่ะ ชาว Pantip ทุกคนน  เราชื่อ อาย นะคะ ปกติไม่ได้เข้ามาพันทิพในฐานะคนเล่าเรื่องเลย จะเน้นหาเข้ามาอ่านเวลาหาข้อมูลนั่นนี่ในพันทิพมากกว่า แต่เนื่องในโอกาสที่จบโครงการแล้วก็กลับมาจากญี่ปุ่นได้ 5 เดือนแล้ว ก็เลยเขียนประสบการณ์ดีๆงามๆ (จริงๆแบบไม่ดีงามก็มี อิอิ)ที่ได้เจอที่ญี่ปุ่นสักหน่อย เผื่อวันไหนคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ จะได้เข้ามาอ่าน


    แต่เนื้อหาข้อมูลอาจจะขาดตกไปบ้างนะคะ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะเขียนรีวิวแต่แรก เลยไม่ได้เตรียมตัวถ่ายภาพตั๋วเครื่องบิน หรืออะไรไว้เป็นขั้นเป็นตอนเท่าไร จะเล่าเท่าที่จำได้เด้อค่ะ




    เราเรียนจบจากม.ราชภัฏในจังหวัดหนึ่ง ตั้งใจว่าจบมาจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษค่ะ ช่วงที่ยังเรียนปี 1  ได้เจอกับโครงการนี้ที่มอ มีคนพี่ๆเขามาประชาสัมพันธ์ค่าย เราก็ตัดสินใจสมัครไปเลยเพราะคิดว่าเป็นแคมป์ภาษาอังกฤษ 55555 เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบภาษา แล้วก็เรียนเอกภาษาด้วย มันเป็นค่ายที่ชื่อว่า “World Camp” ตอนนั้นปี 2012 จัดที่พัทยาค่ะ ตอนนั้นคนต่างชาติเยอะดี แคมป์ใหญ่ และวุ่นวายมากกกกก


   เรามารู้ทีหลังว่าคนที่มาค่ายนี้จะได้ “สิทธิ์ไปเป็นอาสาสมัครที่ต่างประเทศด้วย”
และนี่คือที่เราอยากจะแนะนำเป็นอันดับแรกเลย
-     ชื่อของค่ายคือ World Camp เจ้าของที่จัดคือ IYF เป็นของคริสเตียน
-    เขาจะมีโครงการชื่อ Good News Corps ให้เด็กไปเป็นอาสาสมัครที่ต่างประเทศ ไปกินอยู่ที่นั่นและทำงานอาสากับเขา 1 ปี
คนที่จะได้เป็นอาสาสมัครที่ต่างประเทศ ไม่ต้องมีความสามารถด้านภาษา
ไม่ต้องแข่งชิงทุน แต่จะต้องเข้าค่าย World Camp กับเขาเป็นพอ
แล้วก็ตัดสินใจเองเลยว่าจะใช้สิทธิ์เมื่อไร คือพร้อมจะไปเมื่อไรก็ไปรายงานตัวใช้สิทธิ์กับเขา จบ!
ซึ่งมันกลายเป็นว่าเราไปค่ายแล้วก็ได้สิทธิ์ที่ว่านั่นไปโดยปริยาย
แต่แล้วไง? ในเมื่อเราไม่ใช้อ่ะ!       เพี้ยนขำหนักมาก





หายไป 5 ปี จนเรียนครูจบ……….
(ตอนเรียนจบอยากทำอะไร หรือแผนอะไรแล้วสุดท้ายมา IYFได้ไง)
มันก็หนีไม่พ้นนึกถึงการไปต่างประเทศขึ้นมา แล้วมันก็หนีไม่พ้น IYF
ตอนนั้นเราหาข้อมูลแล้วก็สุดท้ายไปเข้า “World Camp” อีกครั้ง
เพื่อไปฟังประสบการณ์จากรุ่นพี่ที่เขาเคยไปมาก่อนเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่โดนหลอกไปขาย
อีกอย่างจะได้มีข้อมูลมาบอกพ่อแม่ด้วย



เล่าเรื่อง World Camp สักหน่อย
    เอาจริงเลยนะตอนแรกที่เข้าค่ายก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาจะสื่ออะไร
อะไรคือ เมนหลักของค่ายนี้กันแน่ เพราะกิจกรรมมันมีเยอะมาก คนเยอะมาก กิจกรรมหลากหลายมาก (มารู้ทีหลังตอนเป็นอาสาสมัครที่ญี่ปุ่นแล้วว่าชั่วโมงบรรยาย “Mind Training” คือ เมนของการเข้าแคมป์ เพราะในแคมป์จริงๆ กิจกรรมมันเยอะ แล้วก็ในแคมป์เราได้เจอคนที่เคยไปเป็นอาสาสมัครมาแล้วแบบที่เราหวังไว้ด้วย  ค่ายตอนนั้นจัดที่ม.รัฐบาลแถวรังสิตคือว่าแคมป์ที่เคยเข้าตอนปี 1 มันใหญ่แล้วนะ อันนี้คือ ใหญ่กว่า ตื่นตาตื่นใจมาก

        การแสดงบนเวทีก็จะเป็นเต้นวัฒนธรรม มีคนเกาหลีมารำพัด มีชั่วโมงเรียนนั่นนี่ ตอนนั้นเราเข้า อะคาเดมี่ทำขนมเค้ก แล้วก็มีเรียนภาษาด้วย ที่พักก็พอไปวัดได้ ของกินอร่อย แต่ห้องน้ำต้องต่อแถววว  ช่วงที่เขาปล่อยให้ไปเข้าบูธของประเทศต่างๆเราสนใจ แอฟริกา!! กับอินเดีย! สุด ได้ภาษาอังกฤษด้วย



เอาเป็นว่าดูเงื่อนไขนั่นนี่แล้วมันก็โอเคสำหรับเรา พอจบค่ายก็ตัดสินใจเลยว่าจะไปปีนี้แหละ!!!

       กลับไปถึงบ้านปุ๊บเปืดประตูบ้านเข้าไปบอกแม่เลยว่า “แม่หนูจะไปอินเดีย ไม่ก็แอฟริกา”
แล้วแม่ก็บอกมาเลยว่า “ไม่ให้ไป”
อ้าว!?

".........แต่ว่าถ้าจะไป….ช่วยไปประเทศที่แม่อุ่นใจนิดนึงได้ไหมลูก ที่มันไม่ใช่แอฟริกา"  ตอนนั้นดีใจมากกกกกกกกกกกก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่