ถึงแม้ว่าการขายสินค้าริมทาง เป็นสิ่งที่คุ้นตาสามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่ในวันนั้นสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจกลับรถไปไม่ใช่เพราะสินค้าที่สวยงามหรือโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ แต่ที่ผ่านตาเราไปนั้นคือภาพของชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างกองไม้กวาดหลากหลายแบบ และถัดไปอีกไม่ไกลนักเป็นชายสูงวัยที่นอนอยู่ข้างๆทางเท้า ในใจคิดว่า อากาศก็ร้อน ไม้กวาดก็หนัก เดินขายไม้กวาดกองโตกันทั้งวัน คงเหนื่อยน่าดู
พี่:" พี่อยากได้ไม้กวาด ไม้กวาดที่บ้านเราใช้ไม่ค่อยดีแล้วใช่มั้ย?"
น้อง : " เราซื้อที่ร้านก็ได้มั้งพี่ ซื้อที่ริมทางราคาอาจจะแพงนะ "
พี่ : " ไม้กวาดแบบนี้ปกติราคาเท่าไหร่ ?"
น้อง : " ประมาณ 40-50 บาท นะ "
ว่าแล้วก็ตัดสินใจกลับรถทันที...
เราไม่ใช่คนร่ำรวย และก็ไม่ได้โลกสวยจนขาดสติ แต่ที่เราจะช่วยได้เราก็อยากทำ ในใจตอนนั้นคืออยากจะช่วยอุดหนุนสินค้าของคนที่ทำมาหากินด้วยความสุจริต และสิ่งที่ได้มาคือไม้กวาดคุณภาพดี แถมด้วยร้อยยิ้มของพ่อค้าริมทาง
ภาพอาจจะเบลอ แต่ที่ชัดเจนคือรอยยิ้มของพ่อค้าริมทาง
แง่คิด....ของการ"ต่อราคา"
เป็นการพูดโต้ตอบ
ระหว่างคนซื้อมะพร้าวน้ำหอมกับคนขาย
คนขายบอก 30"
คนซื้อต่อเหลือ 15บาท แถมยังบอกว่าแพง....
คนขายบอก ขายให้ไม่ได้หรอก เพราะต้องปลูก และมายืนขายตากแดด ขายตั้งแต่เช้าต้นทุนมาก็มากกว่า15แล้ว.... ในมือคนต่อราคามะพร้าวถือกาแฟคาร์ปูชิโน่ คนขายถามว่า กาแฟที่ดื่มราคาเท่าไหร่ เขาตอบว่า....150 บาท
คนขายถามว่า แล้วคุณต่อราคาเขาไหม
คนซื้อบอกว่า....จะบ้าหรือนี่มันกาแฟมียี่ห้อ...เขาไม่ต่อกันหรอก
คนขายพูดว่า กับคนรวย คุณไม่ต่อซักบาทเดียว แต่พอกับคนจน คุณกับต่อราคาถึง15บาท
คนซื้ออึ้งไป.....!!!
ข้อคิด....ถามว่า....
เพราะอะไรเราจึงต่อราคากับพ่อค้าจนๆที่ต้องยืนขายของกลางแดดร้อน.....แต่กลับไม่เคยต่อราคากับผู้ค้าที่ร่ำรวยตามห้างฯหรือภัตตาคาร
ทำไม?
จึงต้องมาเอาเปรียบคนจนที่ต้องทำงานหนัก ยิ่งต่อได้....เอาเปรียบได้
ถ้าเราเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมเอาเปรียบคนจนอยู่...
เราใช้จ่ายในห้างเป็นพันๆตามห้างฯและร้านอาหารหรูๆแต่กับต่อราคากันบาทต่อบาทกับคนจน ซึ่งต้องทำงานหนักเลี้ยงตัวเองและครอบครัวของเขา....
#ฝากแง่คิดดีๆเพื่อเกื้อกูลคนที่ด้อยโอกาสทางสังคม...
Cr.
https://board.postjung.com/895754.html
ถ้าแทกผิดห้อง ต้องขออภัยด้วยนะคะ # มือใหม่หัดเขียน
เพราะต้นทุนชีวิตของคนเรา...ไม่เท่ากัน
พี่:" พี่อยากได้ไม้กวาด ไม้กวาดที่บ้านเราใช้ไม่ค่อยดีแล้วใช่มั้ย?"
น้อง : " เราซื้อที่ร้านก็ได้มั้งพี่ ซื้อที่ริมทางราคาอาจจะแพงนะ "
พี่ : " ไม้กวาดแบบนี้ปกติราคาเท่าไหร่ ?"
น้อง : " ประมาณ 40-50 บาท นะ "
ว่าแล้วก็ตัดสินใจกลับรถทันที...
เราไม่ใช่คนร่ำรวย และก็ไม่ได้โลกสวยจนขาดสติ แต่ที่เราจะช่วยได้เราก็อยากทำ ในใจตอนนั้นคืออยากจะช่วยอุดหนุนสินค้าของคนที่ทำมาหากินด้วยความสุจริต และสิ่งที่ได้มาคือไม้กวาดคุณภาพดี แถมด้วยร้อยยิ้มของพ่อค้าริมทาง
ภาพอาจจะเบลอ แต่ที่ชัดเจนคือรอยยิ้มของพ่อค้าริมทาง
แง่คิด....ของการ"ต่อราคา"
เป็นการพูดโต้ตอบ
ระหว่างคนซื้อมะพร้าวน้ำหอมกับคนขาย
คนขายบอก 30"
คนซื้อต่อเหลือ 15บาท แถมยังบอกว่าแพง....
คนขายบอก ขายให้ไม่ได้หรอก เพราะต้องปลูก และมายืนขายตากแดด ขายตั้งแต่เช้าต้นทุนมาก็มากกว่า15แล้ว.... ในมือคนต่อราคามะพร้าวถือกาแฟคาร์ปูชิโน่ คนขายถามว่า กาแฟที่ดื่มราคาเท่าไหร่ เขาตอบว่า....150 บาท
คนขายถามว่า แล้วคุณต่อราคาเขาไหม
คนซื้อบอกว่า....จะบ้าหรือนี่มันกาแฟมียี่ห้อ...เขาไม่ต่อกันหรอก
คนขายพูดว่า กับคนรวย คุณไม่ต่อซักบาทเดียว แต่พอกับคนจน คุณกับต่อราคาถึง15บาท
คนซื้ออึ้งไป.....!!!
ข้อคิด....ถามว่า....
เพราะอะไรเราจึงต่อราคากับพ่อค้าจนๆที่ต้องยืนขายของกลางแดดร้อน.....แต่กลับไม่เคยต่อราคากับผู้ค้าที่ร่ำรวยตามห้างฯหรือภัตตาคาร
ทำไม?
จึงต้องมาเอาเปรียบคนจนที่ต้องทำงานหนัก ยิ่งต่อได้....เอาเปรียบได้
ถ้าเราเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมเอาเปรียบคนจนอยู่...
เราใช้จ่ายในห้างเป็นพันๆตามห้างฯและร้านอาหารหรูๆแต่กับต่อราคากันบาทต่อบาทกับคนจน ซึ่งต้องทำงานหนักเลี้ยงตัวเองและครอบครัวของเขา....
#ฝากแง่คิดดีๆเพื่อเกื้อกูลคนที่ด้อยโอกาสทางสังคม...
Cr. https://board.postjung.com/895754.html
ถ้าแทกผิดห้อง ต้องขออภัยด้วยนะคะ # มือใหม่หัดเขียน