[UN] FORGOTTEN รับลม ชมวิว นั่งชิล ริมคลอง | ท่าคา-อัมพวา-บางน้อย | จ.สมุทรสงคราม


แม้ว่าจันทร์-ศุกร์จะต้องง่วนกับงานแค่ไหน เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ใช่วันที่เราจะต้องนอนตื่นสายโด่ง นอนงุดงู้อยู่กับบ้านเหมือนใครหลายๆคน

‘ยิ่งเที่ยว ยิ่งมีพลัง ยิ่งได้ออกเดินทาง ยิ่งรู้สึกสดใส’
ครั้งนี้เราอยากหาที่ที่เราสามารถหายใจทิ้งได้ชิลๆ ใช้ชีวิตลอยๆ ปล่อยเวลาเดินไปเนิบๆ ซึ่งนั่นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราผ่อนคลายโดยไม่ต้องนอนเซ็งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเดิมๆ

หลังจากวิเคราะห์กันแล้วว่า..
การเที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แค่ 2 วัน โดยที่จะไม่ทำให้เสียพลังงานมากเกินไป ก็คือ ไปที่ไหนก็ได้ใกล้ๆกรุงเทพ!

แล้วก็จบลงที่นี่ "สมุทรสงคราม"
จังหวัดซึ่งมีแม่น้ำแม่กลองเป็นแม่น้ำสายหลัก มีตลาด มีคูคลองให้เดินเลาะเล่น จังหวัดใกล้กรุงที่เต็มไปด้วย กุ้ง หอย ปู ปลา และความเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์การเดินทางครั้งนี้ของเราได้ ....

ไปค่ะ .... ตระเวนเที่ยวตลาดน้ำ เดินเล่นลอยไปลอยมา กินอาหารธรรมดาที่แสนพิเศษกัน.. จบปิ๊ง!

| ม า ช้ า ยั ง ดี ก ว่ า ไ ม่ ม า |
ตลาดน้ำท่าคา” อยู่ในอำเภออัมพวาค่ะ เราเลือกที่นี่เป็นเป้าหมายแรก เพราะรู้มาว่าเป็นตลาดที่ต้องไปแต่เช้า ตลาดนี้เป็นตลาดน้ำเล็กๆที่เราได้ยินเพื่อนพูดถึงอยู่ไม่บ่อยนัก ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตลาดน้ำที่ตั้งอยู่ใน จ.สมุทรสงคราม .. แต่เอ้า!! วันนี้ดันติดภารกิจทำให้ต้องออกจากกรุงเทพสาย มองนาฬิกาก็ปาเข้าไปจะ 10 โมง.. เหยียบสิคะ จะรออะไร >_<  

พอมาถึงตลาดก็ 11 โมงกว่า ชาวบ้านเริ่มทยอยเก็บร้านแล้ว จริงๆถ้ามาช่วงเช้าเลยเราว่า เรือคงเต็มตลาดแน่ๆ เสียดายจัง.....

เมื่อก่อนตลาดน้ำท่าคาจะเปิดเฉพาะในวันขึ้น หรือแรม 2 ค่ำ, 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ ในช่วงเช้าเป็นต้นไป ต่างจากตลาดน้ำอื่นที่ส่วนใหญ่จะขายตอนกลางวันและวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่ปัจจุบัน ตลาดน้ำท่าคาขยายวันเป็นเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสบรรยากาศของตลาดได้เต็มที่ อย่างวันที่เราไปก็มีฝรั่งหลายกลุ่มเดินเล่น เดินดูของที่ชาวบ้านพายเรือเอามาขาย (ฝรั่งเค้ายังชอบเลย เรานี่อยากให้คนไทยเที่ยวไทยเยอะๆแบบนี้)  
  
ที่นี่เป็นตลาดน้ำเล็กๆที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านสมัยก่อน พ่อค้า แม่ค้า ใส่เสื้อแขนยาว นุ่งผ้าถุง ใส่งอบ พายเรือเอาของจากบ้านสวนตัวเองออกมาขาย

ส่วนใหญ่ของที่เอามาขายจะเป็น กล้วยน้ำว้า มะนาว รากบัว สายบัว ฟักทอง พริก กระเทียม หรือผลผลิตทางเกษตรอื่น

และที่ขาดไม่ได้คือ “มะพร้าว” เย้!  
เราเป็นคนชอบกินมะพร้าวมาก ตอนเด็กๆพ่อเฉาะให้กินแทบทุกวัน พอไปอยู่กรุงเทพก็อดไม่ได้ กลั้นใจซื้อน้ำมะพร้าวแก้วละ 35 บาทกินบ่อยๆ เราว่ามันแพงนะ แต่ก็คิดซะว่าอยู่กรุงเทพพ่อค้าแม่ค้าต้องมีค่าขนส่ง .. พยายามจะเข้าใจได้ ทีนี้พอมาเจอมะพร้าวอ่อนตามสวนของชาวบ้าน ยิ่งที่นีมะพร้าวเพียบขายลูกละ 15 บาท เรานี่รีบวิ่งเข้าใส่เลย มะพร้าวอ่อนๆทั้งนั้น ดูสิ บางลูกนี่อ่อนจนแทบไม่มีเนื้อเลย กินกันจนพุงป่อง

บรรยากาศของตลาดน้ำท่าคา มีสะพานให้เดินเล่นชมวิวข้ามไปมา แล้วก็มีร้านกาแฟเล็กๆชื่อ “นิทานกาแฟ” ร้านกาแฟที่ใช้ไม้ไผ่ฉลุทั้งร้านเป็นเรือนไม้ไผ่เลยก็ว่าได้ มีโต๊ะไม้ และเก้าอี้ที่ทำมาจากแคร่ให้นั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศริมคลอง วิวดีใช้ได้เลย    


แก้วนี้เป็นอเมริกาโน่ร้อนค่ะ  40 บาทไม่ขาดไม่เกิน กาแฟดริปเพรียวๆ จัดชุดเท่ๆเลย แต่ส่วนตัวเราไม่ดื่ม คนที่ดื่มบอกว่ารสชาติดีใช้ได้ ว่าแต่เห็นเซ็ททีเค้าให้มาแล้วคิดถึงอะไรน๊า อ๊อออออ ไม้อันนี้เหมือนที่เคยเห็นเพื่อนเอามาใส่ก้อนหินยิงเล่นกันสมัยก่อนเลยนี่นา ไม้ง่ามใช่มั้ย ใช่สิ ใช่จริงๆด้วย !

แถมค่ะ ในร้านมีขนมกระจุ๊กกระจิ๊ก รวมถึงมีอันนี้ด้วยนะ น้ำพริกชื่อ นิทานพริกเผ็ดค่ะ ชื่อน่ารักเชียว

หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศร้านกาแฟมามากพอ ท้องก็ร้องจ้อกๆเรียกร้องความสนใจ หิ้วท้องออกจากร้านไปเดินหาของกินดีกว่า แล้วก็มาเจอร้านอาหารตามสั่งคุณป้า

นี่ค่ะ มีผัดไทเข่งปลาทูด้วยนะ สนนราคาที่จานละ 40 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) เส้นเหนียวแน่นหนึ่บ แบบบีบมะนาวกลีบนึงก็อร่อยเข้าลิ้นเลย พูดละหิว  

จานนี้เป็นหอยทอดค่ะ แป้งจะไม่กรอบมากคล้ายๆออส่วน แต่ใส่ด้วยหอยแมงภู่ตัวไม่โตมากนัก แต่เราว่าแป้งกรอบๆอร่อยกว่าค่ะ ลองดูเนอะ  


หลังจากที่ท้องอิ่ม มีแรงละค่ะ เราเลยเริ่มออกเดินทางอีกคร้ั้งจากตลาดน้ำท่าคาไปตลาดน้ำคลองบางน้อยค่ะ ได้ยินมาว่าตลาดนี้มีเสน่ห์พอตัวเลยทีเดียว

| รั ก น้ อ ย น้ อ ย แ ต่ รั ก น า น น า น |
สมัยก่อนคนไทยใช้แม่น้ำลำคลองเป็นหลักในการสัญจรไปมาหาสู่ และใช้เป็นเส้นทางการค้าที่ทำให้ชาวไร่ชาวสวนได้ขนสินค้าออกมาค้าขายแลกเปลี่ยนกันกับคนต่างถิ่น ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันเมื่อความเจริญเข้าถึง เราก็จะเห็นถนนคอนกรีตหรือลาดยางตัดผ่านเรือกสวนไร่นาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน จนทำให้บางครั้งเราก็หลงลืมความสำคัญของแม่น้ำลำคลองเหล่านี้ไป

แต่ยังมีบางสถานที่เหลือพอให้เห็นว่า ชาวบ้านยังคงใช้ลำคลองในการสัญจร ค้าขาย ซึ่งในปัจจุบันถูกแปรเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปตามยุคตามสมัย..ที่นี่ก็เช่นกัน

"ตลาดน้ำคลองบางน้อย" อำเภอบางคนที อยู่ห่างจากอุทยาน ร.2 อำเภออัมพวา ประมาณ 5 กม. ที่นี่เปิดให้เที่ยวเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 9โมง-บ่ายสาม โดยประมาณ


ได้ยินว่าสมัยก่อน ชุมชนปากคลองบางน้อยเคยเป็นย่านการค้าทางน้ำที่สำคัญมากในลุ่มน้ำแม่กลอง สินค้าที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นพวกผลไม้จากชาวสวน ทั้งลิ้นจี่ มะม่วง ส้มโอ ชมพู่ กล้วย รวมทั้งกะปิคลองโคลน และมะนาวดอง โดยเรือค้าจะมียาวตั้งแต่วัดเกาะแก้วยาวไปจนถึงวัดไทรเลยทีเดียวค่ะ

และแม้ว่าปัจจุบันชุมชนบางน้อยจะเปลี่ยนจากย่านการค้าเป็นเพียงชุมชนที่อยู่อาศัยกันอย่างที่เงียบสงบ แต่คนในชุมชนก็ยังรักษามรดกทางวัฒนธรรมดั้งเดิมเป็นอย่างดี แม่ค้าที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนที่เคยอาศัยย่านนี้แล้วไปทำงานที่อื่น พอเสาร์อาทิตย์ค่อยกลับมาขายของ

แนะนำให้คนที่ชอบเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำสงบๆไม่อึดอัดมาก คนที่ชอบสภาพแวดล้อมของคลองและสวนผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ต้องมาเลยค่ะ

เราเลือกที่จะใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอสมควร เพราะรู้สึกว่าทุกคนในชุมชนนี้ใจดี แดดก็ไม่ร้อนมาก คนไม่พลุกพล่าน แถมของกินก็เยอะ ที่ให้ถ่ายรูปชมวิวเพียบ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรก็เดินเพลินๆท่ามกลางบรรยากาศดีๆของที่นี่ไปเรื่อยๆ ลองดูบรรยากาศรอบๆตลาดกันค่ะ


ข้าวเกรียบปากหม้อ


เดินเลาะสะพานข้ามไปดูอีกฝั่งกันดีกว่า



ร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำ บรรยากาศดี๊ดี ไม่ได้กินแต่แม่ค้าใจดีให้เข้ามานั่งเอาบรรยากาศ

สำหรับคนชอบนวดแนะนำที่นี่เลยค่ะ นวดบนศาลากลางน้ำ แต่ที่นี่จะรับแต่นวดเท้า ไม่มีนวดตัวนะคะ สงสัยกลัวศาลาเอน

แล้วก็มาเจอร้านกาแฟโบราณน่ากินมากค่ะ เห็นราคาเเล้วตกใจ แก้วละ 10 บาท จัดโอเลี้ยงกับน้ำบ๊วยของโปรด 2 แก้วเลยเเล้วกัน รสชาติกลมกล่อมสุดๆให้สิบเต็ม ผ่าน ผ่าน ผ่าน!  


ตรงนี้เป็นสภากาแฟนะคะ คนในชุมชนจะมานั่งคุยรวมตัวกันอยู่ตรงนี้ คุยสพเพเหระ เราก็เลยคุยไปจิบน้ำไป ได้อรรถรสหัวเราะ

บางคนร้องคาราโอเกะ (ซึ่งเค้าตั้งเป็นชมรมเลยทีเดียว) พี่ๆเสียงดีกันทุกคน



ตลาดบางน้อยมีแต่คนน่ารัก
แม่ค้าใจดีชวนคุยเล่นแทบทุกร้าน และพูดตบท้ายเป็นเสียงเดียวกันว่า "แล้วมาเที่ยวที่นี่อีกนะลูก" .......
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่