ชีวิต ดี้ดี ซี้จุกสูญ คุก 2 ปี “ยงยุทธ”อดีต หน.เพื่อไทย ทุจริตเอื้อสนามกอล์ฟอัลไพน์

MGR Online - ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตฯ สั่งจำคุก 2 ปี “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สมัยเป็นรองปลัดฯ มหาดไทยสั่งยกเลิกคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดิน เอื้อประโยชน์สนามกอล์ฟอัลไพน์ ขัดเจตนารมณ์"ยายเนื่อม"ที่บริจาคที่ดินให้วัด
       
       ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤมิชอบกลาง วันนี้ (29 ส.ค.)เ วลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อท.38/2559 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา157
              โดยคดีนี้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องว่านายยงยุทธจำเลยขณะดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยซึ่งรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ในการพิจารณาอุทธรณ์และสั่งเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน โดยมีเจตนาช่วยเหลือ บริษัทอัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด, บริษัท กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด และผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในเวลาต่อมา ให้ได้รับประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฏหมาย
       
       ศาลพิเคราะห์ข้อเท็จจริงรับได้ว่า ก่อนนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ถึงแก่ความตายได้ทำพินัยกรรมยกที่ดิน 2 แปลง ดังกล่าวให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร ต่อมานางเนื่ิอมถึงแก่ความตาย มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในฐานะผู้จัดการมรดกของนามเนื่อม ได้โอนที่ดินดังกล่าวให้แก่มูลนิธิฯ และต่อมามูลนิธิฯ ได้ขายที่ดินนั้นให้กับบริษัทอัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด กับบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด ในราคา 142 ล้านบาท และในวันเดียวกัน บริษัททั้ง 2 ได้นำที่ดินดังกล่าวไปจดทะเบียนจำนองกับธนาคารจำนวน 220 ล้านบาท ต่อมากรมที่ดิน ก็มีคำสั่งให้อธิบดีกรมที่ดินเพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวตลอดจนรายการจดทะเบียนต่างๆ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการโอนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรวม 290 ราย ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว กรมที่ดินยืนยันตามคำสั่งเดิม และเสนอเรื่องดังกล่าวต่อกระทรวงมหาดไทย จำเลยซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล้วเห็นควรให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน
       
       ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า พินัยกรรมของนางเนื่อมระบุชัดเจนว่า นางเนื่อมได้ยกกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้ง 2 แปลง ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร เท่านั้น มิได้ยกกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยแต่อย่างใด ทั้งภายหลังจากนางเนื่อมถึงแก่ความตาย วัดธรรมิการามวรวิหารได้นำที่ดินทั้ง 2 แปลง ไปขึ้นทะเบียนที่ดินศาสนสมบัติวัดร้างจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่ธรณีสงฆ์ และนำที่ดินทั้ง 2 แปลงให้บุคคลอื่นเช่าทำนา แสดงให้เห็นว่าวัดธรรมิการามวรวิหาร ได้เข้าครอบครองและรับเอาประโยชน์จากที่ดินทุกแปลงแล้ว ถือได้ว่าที่ดินของนางเนื่อมที่แสดงเจตนาไว้ในพินัยกรรมยกให้แก่วัด ตกเป็นที่ธรณีสงฆ์ทันทีที่นางเนื่อมถึงแก่ความตาย แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์เป็นชื่อวัดก็ตาม อันสอดคล้องกับความเห็นของที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกา ที่กรมที่ดินนำมาพิจารณาประกอบการทำคำสั่งเพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดิน คำสั่งอธิบดีกรมที่ดินจึงเป็นคำสั่งที่ถูกต้อง การที่จำเลยพิจารณาอุทธรณ์ และมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน โดยจงใจละเลยข้อเท็จจริงต่างๆ ข้างต้น และยังจงใจตีความกฎหมายให้ผิดเพี้ยนไปจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2482 ที่ระบุให้กระทรวงถือปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ดังนั้นคำสั่งของจำเลยจึงเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบ ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแก่ผู้อื่น และก่อให้เกิดความเสียหายแก่วัดธรรมิการามวรวิหาร ทั้งยังทำลายศรัทธาของผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เช่นนางเนื่อม จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง พิพากษาจำคุก 2 ปี
       
       โดยในวันนี้นายยงยุทธ เดินทางมาศาลพร้อมผู้ติดตามที่มาร่วมเข้าฟังภายในห้องพิจารณาคดี ซึ่งภายหลังศาลอ่านคำพิพากาษาลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา นายยงยุทธ มีดวงตาแดงก่ำ ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องเงินหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ แต่นายยงยุทธ ปฏิเสธการตอบคำถาม ขณะนี้ศาลอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักทรัพย์ของจำเลยในการยี่นขอประกันเพื่อต่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย (อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย) ต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนาม ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมิชอบ
       
       กรณีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 6-3 เสียง ชี้มูลความผิดนายยงยุทธ กรณีมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนาม ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ ที่แบ่งแยกจากโฉนดที่ดิน 2 แปลง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยเห็นว่า มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา
       
       สำหรับต้นเหตุของคดีนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยกเหตุอันควรสงสัยกล่าวหานายเสนาะ เทียนทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน จ.ปทุมธานี สาขาธัญบุรี ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีจดทะเบียนโอนมรดก และโอนขายที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารโดยมิชอบ จำนวน 732 ไร่ และละเว้นไม่ดำเนินการเพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดิน
       
       โดยเมื่อปี 2553 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายเสนาะไปแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 148 แต่ความผิดตามมาตรา 157 ขาดอายุความตั้งแต่ปี 2548 จึงแค่ผิดตามมาตรา 148 ให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการต่อไป ต่อมา อสส. ส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ดีท้ายสุดศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษายกฟ้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่