“ภคมน” ซัด “นายกฯ” แก้ปัญหาอย่างเข้าใจคือการพิสูจน์ ไม่ใช่แต่งงานกับคนใต้
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9529966
“รองโฆษกปชน.” ถามประชาชนรู้สึกอย่างไร หลัง “นายกฯ” ตอบปมปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ ซัด แก้ปัญหาอย่างเข้าใจคือการพิสูจน์ ไม่ใช่บอกแต่งงานกับคนใต้เท่ากับรักประชาชนภาคใต้
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2567 น.ส.
ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค ถึงการให้สัมภาษณ์ของน.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า
พี่น้องรู้สึกพันพรือมั้งกับคำตอบนี้
ในฐานะนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหารประเทศและนักการเมืองมันมีวิธีการพิสูจน์ความจริงจังต่อความทุกข์ร้อนของประชาชนได้ง่ายมากๆ แต่คำตอบเพื่อพิสูจน์ความจริงใจต่อประชาชนชาวใต้ที่เผชิญกับปัญหาน้ำท่วมในรอบหลายสิบปี กลับเป็นคำตอบแบบนี้ในขณะที่ตอนนี้เส้นทางหลักระหว่างปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส และสงขลา ไม่สามารถสัญจรได้มา 4 วันแล้ว ประชาชนในพื้นที่ต้องการเสบียง ยารักษาโรค น้ำดื่ม
ไม่ต้องไม่เปรียบเทียบกับใครที่ไหนไกล เอาเพื่อนบ้านที่เจอภัยธรรมชาติครั้งเดียวกัน ทำไมมาเลเซียที่เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในประวัติศาสตร์เช่นกันเขาถึงจัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วกว่า
เขาสามารถเตรียมที่พักพิงชั่วคราว temporary relief centres (PPS) ให้ผู้ประสบภัยที่โยกย้ายออกจากพื้นที่น้ำท่วม ก่อนน้ำจะมา ในรัฐกลันตันที่มีพื้นที่ติดกับ จ.นราธิวาส มีประชากร 2.7 ล้านคน เขามีที่พักพิงรองรับคนได้ถึงแสนคน
ขณะที่ประเทศไทยเราไม่เห็นแม้แต่การตั้งกองอำนวยการระดับชาติโดยที่มีนายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะคอยติดตาม บัญชาการสถานการณ์ ทั้งๆ ที่ความรุนแรงและขอบเขตของปัญหามันลุกลามขยายผลกระทบไปในวงกว้างหลายจังหวัด
การแก้ปัญหาอย่างมีความเข้าใจสั่งการอย่างเป็นระบบในสถานการณ์วิกฤติและฉุกเฉินต่างหากคือการพิสูจน์ว่านายกรัฐมนตรีรักประชาชนแค่ไหนไม่ใช่การบอกว่าตนเองเป็นภรรยากับคนใต้ แต่งงานกับคนใต้เท่ากับรักประชาชนภาคใต้
เชื่อว่าประชาชนในประเทศไทยทุกคนเห็นความน่ารักความอบอุ่นของครอบครัวท่านนายกฯอยู่แล้วเพราะมีแพร่กระจายไปทุกช่องทาง แต่เรื่องราวเหล่านี้เก็บไว้ในบ้านท่านเถอะ ประชาชนไม่ได้คาดหวังจะเห็นสิ่งเหล่านี้เท่ากับการทำหน้าที่ต่อสาธารณะอย่างมืออาชีพเสียที
https://www.facebook.com/lisapukkamon/posts/510700765332946?ref=embed_post
‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ หยิกแรงถึงนายกฯอิ๊งค์ แจงปมละเลยภาคใต้ ลั่นตอบไม่เคยเกินชายคาบ้าน!
https://www.dailynews.co.th/news/4139993/
"เจี๊ยบ อมรัตน์" โพสต์หยิกแรงถึง "นายกฯอิ๊งค์" หลังชี้แจงดราม่าละเลยเหตุน้ำท่วมภาคใต้ไม่จริง ย้ำสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคงแต่งงานกับคนใต้ไม่ได้ จนทำเอาอดีต สส.คนดังลั่น คำตอบไม่เคยเกินชายคาบ้าน!
จากกรณี น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกระแสข่าวโจมตีละเลยคนใต้จากเหตุการณ์น้ำท่วม ยันถ้าละเลยคงไม่แต่งงานกับคนใต้ บอกอยากไปทุกจังหวัด แต่ความช่วยเหลือต้องถึงก่อน กร้าวรักษาคำสัญญา เป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ พร้อมย้ำว่า
“สามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ หรือไม่รักคนใต้ คงแต่งงานกับคนใต้ไม่ได้” จนเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์
โดยหนึ่งในนั้นคือ นาง
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ
“เจี๊ยบ” อดีตสส.ก้าวไกล ที่ได้แสดงความเห็นล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ผ่านเฟซบุ๊ก
@Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล โดยเป็นภาพข่าวส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์ของนายกฯ พร้อมทั้งแสดงความเห็น ระบุว่า
“
คำตอบไม่เคยเกินชายคาบ้าน เฉิ่มทุกครั้งที่อ้าปาก แนวคิดคนที่เอาตัวเองเป็นแกนกลางของจักรวาล โลกทั้งใบหมุนรอบตัวฉัน”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
@Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02mRqw1rVWEWqXpSNYC3SiyVcmkteg9NvpHMS4MfBCb9nsrXENepCUbCeyuYtjmm2tl&id=100054162881442
การเมืองร้อนฉ่า! ไพศาล” แนะจับตา 3 เรื่อง “สะเทือนระดับแผ่นดินไหว” ช่วง 1-10 ธ.ค.นี้
https://siamrath.co.th/n/584427
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นาย
ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า...
ด่วน
จับตาแผ่นดินไหวช่วง 1-10 ธ.ค.นี้
มีแหล่งข่าวยืนยันชัดเจนว่าช่วงวันที่ 1-10 ธันวาคมนี้ ให้จับตาดูเหตุการณ์ที่จะมีแผ่นดินไหว 3 เรื่อง
1. ในวันพุธ ที่จะถึงนี้ คณะกรรมการตรวจสอบไต่สวนของป.ป.ช. ที่มีนายเอกวิทย์ อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นตัวแทนของศาลฎีกา เป็นประธาน จะส่งรายงาน การตรวจสอบไต่สวน ต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ เกี่ยวกับการป่วยทิพย์ ของนักโทษเทวดา ชั้น 14 เพื่อเสนอให้ลงมติชี้มูลความผิด และดำเนินคดีอาญา กับรัฐมนตรี คนสำคัญและข้าราชการสองหน่วยงานกราวกรูด ในข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ
และถ้าหากมีกรรมการป.ป.ช.คนใด เข้าแทรกแซง เพื่อบังคับให้เปลี่ยนผลการตรวจสอบไต่สวนก็ดี หรือ ซุกรายงานการตรวจสอบไต่สวน ไม่เสนอต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ก็ดี ก็จะมีการไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกรรมการป.ป.ช.โม่งคนนั้นในทันที
2. ก่อนวันที่ 10 ธันวาคม นายวีระ สมความคิด จะไปยื่นคำแถลงการณ์เปิดคดีในชั้น รับคำฟ้อง ต่อศาลอาญาทุจริตภาคที่ 1 ในคดีฟ้องกล่าวหา คณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งชุด ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบปกปิดรายงานการตรวจสอบทรัพย์สินของพลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ โดยไม่ยอมเปิดเผยต่อ ผู้ร้อง ตามคำสั่งของ คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติ ตามคำบังคับของศาลปกครองกลางและการบังคับคดีของศาลปกครองกลางแม้กระทั่งได้ชำระค่าปรับ ฐานขัดคำบังคับของศาลคนละ 5,000 บาทแล้วก็ยังไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โดยเอกสารพยานหลักฐานทั้งหมดมีครบถ้วนบริบูรณ์ ในสำนวนคดีของศาลปกครองกลางซึ่งได้อ้างมาเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ซึ่งศาลจะพิจารณา มีคำสั่งในวันที่ 10 ธันวาคมศกนี้
ถ้าหากศาลอาญาคดีทุจริต ภาค 1 รับคำฟ้องคณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งคณะก็จะตกเป็นจำเลย และจะถูกร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่ง ให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ และถอดถอนป.ป.ช.ออกจากตำแหน่งต่อไป
3. ขบวนการนักร้องน้องรัก ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบ้านป่า ได้จองกฐิน เตรียมร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและป.ป.ช.ให้ทำการตรวจสอบไต่สวนนายกอุ๊งอิ๊งค์ ทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญให้เพิกถอน การดำรงตำแหน่งของนายกอุ๊งอิ๊งค์ ในข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ไม่ยอมมีคำสั่ง ให้กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้เพิกถอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ตามคำพิพากษาของศาล ฎีกา ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชนนักการเมือง แห่งสำนักเขากระโดง ทำให้เกิดความเสียหายแก่รับซึ่งจะเป็นความผิดอย่างเดียวกัน กับคดีจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เคยพิพากษาจำคุก ท่านนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมาแล้ว
ทั้ง 3 เรื่องนี้ จะเป็นเรื่องที่ มีอาการเหมือนเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน
https://web.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid02Z29eLGniH2SKNd1kL5cD1xoF9Uah5qm6ZgCvQLUDBEaG8i6i1p3ZqBe1sxsPCG14l
ภัตตาคารบ่นลำบาก คนไทยกินเที่ยวซึมกว่าคาด วอนรัฐหยอดงบหมื่นล้าน เติมเงินใช้จ่ายปีใหม่
https://www.matichon.co.th/economy/news_4930411
ภัตตาคารบ่นลำบาก คนไทยกินเที่ยวซึมกว่าคาด วอนรัฐหยอดงบหมื่นล้าน เติมเงินใช้จ่ายปีใหม่
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นาง
ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า การบริโภคอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะบริโภคตามภัตตาคารและร้านอาหารยังอยู่ในบรรยากาศซึม จำนวนคนและรายจ่ายต่อหัวอยู่ในระดับต่ำ จากการพูดคุยกับสมาชิกร้านอาหาร สะท้อนว่ากำลังซื้อตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงวันนี้ เงียบกว่า 1-2 เดือนก่อนหน้านั้น วิเคราะห์กันว่ามาจากหลายสาเหตุ ทั้งคนเป็นหนี้สินสูงขึ้น ไม่มีเงินเพียงพอการกินข้าวนอกบ้านเหมือนเคยทำปกติ อีกส่วนต้องการเก็บเงินเพื่อการใช้จ่ายเทศกาลปีใหม่และช่วงตรุษจีนปี 2568 ที่ตรงกับปลายปีเดือนมกราคม บางส่วนกังวลต่อรายได้และเศรษฐกิจในอนาคต รอดูสถานการณ์ทางธุรกิจ ทางเศรษฐกิจ และปัจจัยภายนอกประเทศ ซึ่งหลายฝ่ายยังมองว่ายังไม่ดีขึ้น ยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาดหวังไว้ สำหรับภาคท่องเที่ยวเจอปัญหาเดียวกัน โดยเฉพาะในจังหวัดรอง เมืองรอง ที่ไม่ใช่แหล่งเที่ยวหรือจังหวัดที่คนนิยมไปพักผ่อน โดยเฉพาะตอนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะได้จากต่างชาติเป็นหลัก คนไทยเที่ยวน้อยมาก และพื้นที่นักท่องเที่ยวนิยมเป็นแบบกระจุกตัว อย่างภูเก็ต พังงา กระบี่ แต่จังหวัดตรังเงียบเหงามาก ทำให้หลายร้านค้าต้องปิดบริการชั่วคราว เพราะไม่อาจแบกรับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและลดจ้างแรงงานรายวัน
“
คนทำอาชีพร้านอาหารลำบากมาก ดูเหมือนจะดีแต่ลึกๆ แล้วไม่ดี คนรระวังใช้จ่ายสูง ต้องกันเงินจ่ายหนี้ก่อนใช้จ่าย บางส่วนต้องเก็บเพื่อใช้จ่ายหน้าเทศกาล ครึ่งปีหลังนี้ถือว่าค้าขายอาจไม่ได้ดีนัก แม้ดูว่าจะดี อย่างเราผิดหวังกับการใช้จ่ายวันลอยกระทง น่าจะดีแต่กลับกินเที่ยวน้อยมาก ส่วนน้ำท่วมภาคใต้ ส่วนใหญ่เตรียมความพร้อม ได้ทำประกันภัยไว้แล้ว จึงทำให้ความเดือดร้อนอาจไม่เท่าภาคเหนือที่มีแบบกะทันหัน และไม่เคยเกิดขึ้นบ่อย แต่ใต้เขารู้ว่าฝนมากและน้ำแรง ก็มักจะประกันภัยอุบัติเหตุจากน้ำท่วมไว้ด้วย หลายร้านจึงถือโอกาสปิดร้านช่วงฝนหนัก และเดินทางออกมาเที่ยวในภาคอื่นแทน อาจมีบางส่วนที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน และเดือดร้อนจากที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้” นาง
ฐนิวรรณกล่าว
นาง
ฐนิวรรณกล่าวว่า สมาคมได้เสนอถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ขอให้รัฐบาลใช้วงเงินงบประมาณ 10,000 ล้านบาทเข้าระบบเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการช่วยเหลือภาระประชาชน โดยเฉพาะช่วยค่าเดินทาง ค่าขนส่ง ค่าที่พัก อาจให้ประชาชนจ่ายครึ่งรัฐจ่ายครึ่ง เป็นการหยอดเงินที่ตรงจุดที่สุดในตอนนี้ที่จะฟื้นการใช้จ่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง หากจะรอไปใช้มาตรการช่วงโลว์ซีซั่นอาจไม่ทันต่อสถานการณ์โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและการเดินทางจะเป็นช่วงวันหยุดมากกว่าช่วงวันธรรมดา เพราะคนยังติดในเรื่องเวลาการทำงานและวันหยุดต่อเนื่อง
“
หวังของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลจะประกาศในกลางเดือนธันวาคมนี้ จะมีเรื่องการลดค่าใช้จ่ายเดินทาง การขนส่ง ในช่วงคนเป็นหนี้มาก การลดค่าใช้จ่ายเดินทาง เงินที่มีอยู่ก็จะใช้กินและเที่ยวได้มากขึ้น ปกติเข้าธันวาคมบรรยากาศเตรียมของเพื่อขาย จองที่พัก หรือแผนเดินทางจะออกมาแล้ว แต่ปีนี้เงียบมาก เพราะคนไม่รู้ว่ารัฐจะออกมาตรการอะไรออกมามั้ย หรือจะเจออะไรอีก การสร้างอารมณ์จากแรงหนุนของภาครัฐเป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้ แค่รัฐประกาศว่าหยอดเงิน 1 หมื่นล้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ความคึกคักการเตรียมล่วงหน้าก็จะเกิดทันที” นาง
ฐนิวรรณกล่าว.
JJNY : 5in1 “ภคมน”ซัด“นายกฯ”│‘เจี๊ยบ อมรัตน์’หยิกแรง│ไพศาลแนะจับตา 3 เรื่อง│คนไทยกินเที่ยวซึม│‘ไล่ ชิงเต๋อ’เยือนฮาวาย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9529966
“รองโฆษกปชน.” ถามประชาชนรู้สึกอย่างไร หลัง “นายกฯ” ตอบปมปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ ซัด แก้ปัญหาอย่างเข้าใจคือการพิสูจน์ ไม่ใช่บอกแต่งงานกับคนใต้เท่ากับรักประชาชนภาคใต้
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2567 น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค ถึงการให้สัมภาษณ์ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า
พี่น้องรู้สึกพันพรือมั้งกับคำตอบนี้
ในฐานะนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหารประเทศและนักการเมืองมันมีวิธีการพิสูจน์ความจริงจังต่อความทุกข์ร้อนของประชาชนได้ง่ายมากๆ แต่คำตอบเพื่อพิสูจน์ความจริงใจต่อประชาชนชาวใต้ที่เผชิญกับปัญหาน้ำท่วมในรอบหลายสิบปี กลับเป็นคำตอบแบบนี้ในขณะที่ตอนนี้เส้นทางหลักระหว่างปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส และสงขลา ไม่สามารถสัญจรได้มา 4 วันแล้ว ประชาชนในพื้นที่ต้องการเสบียง ยารักษาโรค น้ำดื่ม
ไม่ต้องไม่เปรียบเทียบกับใครที่ไหนไกล เอาเพื่อนบ้านที่เจอภัยธรรมชาติครั้งเดียวกัน ทำไมมาเลเซียที่เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในประวัติศาสตร์เช่นกันเขาถึงจัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วกว่า
เขาสามารถเตรียมที่พักพิงชั่วคราว temporary relief centres (PPS) ให้ผู้ประสบภัยที่โยกย้ายออกจากพื้นที่น้ำท่วม ก่อนน้ำจะมา ในรัฐกลันตันที่มีพื้นที่ติดกับ จ.นราธิวาส มีประชากร 2.7 ล้านคน เขามีที่พักพิงรองรับคนได้ถึงแสนคน
ขณะที่ประเทศไทยเราไม่เห็นแม้แต่การตั้งกองอำนวยการระดับชาติโดยที่มีนายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะคอยติดตาม บัญชาการสถานการณ์ ทั้งๆ ที่ความรุนแรงและขอบเขตของปัญหามันลุกลามขยายผลกระทบไปในวงกว้างหลายจังหวัด
การแก้ปัญหาอย่างมีความเข้าใจสั่งการอย่างเป็นระบบในสถานการณ์วิกฤติและฉุกเฉินต่างหากคือการพิสูจน์ว่านายกรัฐมนตรีรักประชาชนแค่ไหนไม่ใช่การบอกว่าตนเองเป็นภรรยากับคนใต้ แต่งงานกับคนใต้เท่ากับรักประชาชนภาคใต้
เชื่อว่าประชาชนในประเทศไทยทุกคนเห็นความน่ารักความอบอุ่นของครอบครัวท่านนายกฯอยู่แล้วเพราะมีแพร่กระจายไปทุกช่องทาง แต่เรื่องราวเหล่านี้เก็บไว้ในบ้านท่านเถอะ ประชาชนไม่ได้คาดหวังจะเห็นสิ่งเหล่านี้เท่ากับการทำหน้าที่ต่อสาธารณะอย่างมืออาชีพเสียที
https://www.facebook.com/lisapukkamon/posts/510700765332946?ref=embed_post
‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ หยิกแรงถึงนายกฯอิ๊งค์ แจงปมละเลยภาคใต้ ลั่นตอบไม่เคยเกินชายคาบ้าน!
https://www.dailynews.co.th/news/4139993/
"เจี๊ยบ อมรัตน์" โพสต์หยิกแรงถึง "นายกฯอิ๊งค์" หลังชี้แจงดราม่าละเลยเหตุน้ำท่วมภาคใต้ไม่จริง ย้ำสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคงแต่งงานกับคนใต้ไม่ได้ จนทำเอาอดีต สส.คนดังลั่น คำตอบไม่เคยเกินชายคาบ้าน!
จากกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกระแสข่าวโจมตีละเลยคนใต้จากเหตุการณ์น้ำท่วม ยันถ้าละเลยคงไม่แต่งงานกับคนใต้ บอกอยากไปทุกจังหวัด แต่ความช่วยเหลือต้องถึงก่อน กร้าวรักษาคำสัญญา เป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ พร้อมย้ำว่า
“สามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ หรือไม่รักคนใต้ คงแต่งงานกับคนใต้ไม่ได้” จนเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์
โดยหนึ่งในนั้นคือ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ “เจี๊ยบ” อดีตสส.ก้าวไกล ที่ได้แสดงความเห็นล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ผ่านเฟซบุ๊ก @Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล โดยเป็นภาพข่าวส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์ของนายกฯ พร้อมทั้งแสดงความเห็น ระบุว่า
“คำตอบไม่เคยเกินชายคาบ้าน เฉิ่มทุกครั้งที่อ้าปาก แนวคิดคนที่เอาตัวเองเป็นแกนกลางของจักรวาล โลกทั้งใบหมุนรอบตัวฉัน”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02mRqw1rVWEWqXpSNYC3SiyVcmkteg9NvpHMS4MfBCb9nsrXENepCUbCeyuYtjmm2tl&id=100054162881442
การเมืองร้อนฉ่า! ไพศาล” แนะจับตา 3 เรื่อง “สะเทือนระดับแผ่นดินไหว” ช่วง 1-10 ธ.ค.นี้
https://siamrath.co.th/n/584427
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า...
ด่วน
จับตาแผ่นดินไหวช่วง 1-10 ธ.ค.นี้
มีแหล่งข่าวยืนยันชัดเจนว่าช่วงวันที่ 1-10 ธันวาคมนี้ ให้จับตาดูเหตุการณ์ที่จะมีแผ่นดินไหว 3 เรื่อง
1. ในวันพุธ ที่จะถึงนี้ คณะกรรมการตรวจสอบไต่สวนของป.ป.ช. ที่มีนายเอกวิทย์ อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นตัวแทนของศาลฎีกา เป็นประธาน จะส่งรายงาน การตรวจสอบไต่สวน ต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ เกี่ยวกับการป่วยทิพย์ ของนักโทษเทวดา ชั้น 14 เพื่อเสนอให้ลงมติชี้มูลความผิด และดำเนินคดีอาญา กับรัฐมนตรี คนสำคัญและข้าราชการสองหน่วยงานกราวกรูด ในข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ
และถ้าหากมีกรรมการป.ป.ช.คนใด เข้าแทรกแซง เพื่อบังคับให้เปลี่ยนผลการตรวจสอบไต่สวนก็ดี หรือ ซุกรายงานการตรวจสอบไต่สวน ไม่เสนอต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ก็ดี ก็จะมีการไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกรรมการป.ป.ช.โม่งคนนั้นในทันที
2. ก่อนวันที่ 10 ธันวาคม นายวีระ สมความคิด จะไปยื่นคำแถลงการณ์เปิดคดีในชั้น รับคำฟ้อง ต่อศาลอาญาทุจริตภาคที่ 1 ในคดีฟ้องกล่าวหา คณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งชุด ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบปกปิดรายงานการตรวจสอบทรัพย์สินของพลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ โดยไม่ยอมเปิดเผยต่อ ผู้ร้อง ตามคำสั่งของ คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติ ตามคำบังคับของศาลปกครองกลางและการบังคับคดีของศาลปกครองกลางแม้กระทั่งได้ชำระค่าปรับ ฐานขัดคำบังคับของศาลคนละ 5,000 บาทแล้วก็ยังไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โดยเอกสารพยานหลักฐานทั้งหมดมีครบถ้วนบริบูรณ์ ในสำนวนคดีของศาลปกครองกลางซึ่งได้อ้างมาเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ซึ่งศาลจะพิจารณา มีคำสั่งในวันที่ 10 ธันวาคมศกนี้
ถ้าหากศาลอาญาคดีทุจริต ภาค 1 รับคำฟ้องคณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งคณะก็จะตกเป็นจำเลย และจะถูกร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่ง ให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ และถอดถอนป.ป.ช.ออกจากตำแหน่งต่อไป
3. ขบวนการนักร้องน้องรัก ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบ้านป่า ได้จองกฐิน เตรียมร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและป.ป.ช.ให้ทำการตรวจสอบไต่สวนนายกอุ๊งอิ๊งค์ ทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญให้เพิกถอน การดำรงตำแหน่งของนายกอุ๊งอิ๊งค์ ในข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ไม่ยอมมีคำสั่ง ให้กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้เพิกถอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ตามคำพิพากษาของศาล ฎีกา ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชนนักการเมือง แห่งสำนักเขากระโดง ทำให้เกิดความเสียหายแก่รับซึ่งจะเป็นความผิดอย่างเดียวกัน กับคดีจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เคยพิพากษาจำคุก ท่านนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมาแล้ว
ทั้ง 3 เรื่องนี้ จะเป็นเรื่องที่ มีอาการเหมือนเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน
https://web.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid02Z29eLGniH2SKNd1kL5cD1xoF9Uah5qm6ZgCvQLUDBEaG8i6i1p3ZqBe1sxsPCG14l
ภัตตาคารบ่นลำบาก คนไทยกินเที่ยวซึมกว่าคาด วอนรัฐหยอดงบหมื่นล้าน เติมเงินใช้จ่ายปีใหม่
https://www.matichon.co.th/economy/news_4930411
ภัตตาคารบ่นลำบาก คนไทยกินเที่ยวซึมกว่าคาด วอนรัฐหยอดงบหมื่นล้าน เติมเงินใช้จ่ายปีใหม่
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า การบริโภคอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะบริโภคตามภัตตาคารและร้านอาหารยังอยู่ในบรรยากาศซึม จำนวนคนและรายจ่ายต่อหัวอยู่ในระดับต่ำ จากการพูดคุยกับสมาชิกร้านอาหาร สะท้อนว่ากำลังซื้อตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงวันนี้ เงียบกว่า 1-2 เดือนก่อนหน้านั้น วิเคราะห์กันว่ามาจากหลายสาเหตุ ทั้งคนเป็นหนี้สินสูงขึ้น ไม่มีเงินเพียงพอการกินข้าวนอกบ้านเหมือนเคยทำปกติ อีกส่วนต้องการเก็บเงินเพื่อการใช้จ่ายเทศกาลปีใหม่และช่วงตรุษจีนปี 2568 ที่ตรงกับปลายปีเดือนมกราคม บางส่วนกังวลต่อรายได้และเศรษฐกิจในอนาคต รอดูสถานการณ์ทางธุรกิจ ทางเศรษฐกิจ และปัจจัยภายนอกประเทศ ซึ่งหลายฝ่ายยังมองว่ายังไม่ดีขึ้น ยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาดหวังไว้ สำหรับภาคท่องเที่ยวเจอปัญหาเดียวกัน โดยเฉพาะในจังหวัดรอง เมืองรอง ที่ไม่ใช่แหล่งเที่ยวหรือจังหวัดที่คนนิยมไปพักผ่อน โดยเฉพาะตอนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะได้จากต่างชาติเป็นหลัก คนไทยเที่ยวน้อยมาก และพื้นที่นักท่องเที่ยวนิยมเป็นแบบกระจุกตัว อย่างภูเก็ต พังงา กระบี่ แต่จังหวัดตรังเงียบเหงามาก ทำให้หลายร้านค้าต้องปิดบริการชั่วคราว เพราะไม่อาจแบกรับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและลดจ้างแรงงานรายวัน
“คนทำอาชีพร้านอาหารลำบากมาก ดูเหมือนจะดีแต่ลึกๆ แล้วไม่ดี คนรระวังใช้จ่ายสูง ต้องกันเงินจ่ายหนี้ก่อนใช้จ่าย บางส่วนต้องเก็บเพื่อใช้จ่ายหน้าเทศกาล ครึ่งปีหลังนี้ถือว่าค้าขายอาจไม่ได้ดีนัก แม้ดูว่าจะดี อย่างเราผิดหวังกับการใช้จ่ายวันลอยกระทง น่าจะดีแต่กลับกินเที่ยวน้อยมาก ส่วนน้ำท่วมภาคใต้ ส่วนใหญ่เตรียมความพร้อม ได้ทำประกันภัยไว้แล้ว จึงทำให้ความเดือดร้อนอาจไม่เท่าภาคเหนือที่มีแบบกะทันหัน และไม่เคยเกิดขึ้นบ่อย แต่ใต้เขารู้ว่าฝนมากและน้ำแรง ก็มักจะประกันภัยอุบัติเหตุจากน้ำท่วมไว้ด้วย หลายร้านจึงถือโอกาสปิดร้านช่วงฝนหนัก และเดินทางออกมาเที่ยวในภาคอื่นแทน อาจมีบางส่วนที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน และเดือดร้อนจากที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้” นางฐนิวรรณกล่าว
นางฐนิวรรณกล่าวว่า สมาคมได้เสนอถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ขอให้รัฐบาลใช้วงเงินงบประมาณ 10,000 ล้านบาทเข้าระบบเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการช่วยเหลือภาระประชาชน โดยเฉพาะช่วยค่าเดินทาง ค่าขนส่ง ค่าที่พัก อาจให้ประชาชนจ่ายครึ่งรัฐจ่ายครึ่ง เป็นการหยอดเงินที่ตรงจุดที่สุดในตอนนี้ที่จะฟื้นการใช้จ่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง หากจะรอไปใช้มาตรการช่วงโลว์ซีซั่นอาจไม่ทันต่อสถานการณ์โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและการเดินทางจะเป็นช่วงวันหยุดมากกว่าช่วงวันธรรมดา เพราะคนยังติดในเรื่องเวลาการทำงานและวันหยุดต่อเนื่อง
“หวังของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลจะประกาศในกลางเดือนธันวาคมนี้ จะมีเรื่องการลดค่าใช้จ่ายเดินทาง การขนส่ง ในช่วงคนเป็นหนี้มาก การลดค่าใช้จ่ายเดินทาง เงินที่มีอยู่ก็จะใช้กินและเที่ยวได้มากขึ้น ปกติเข้าธันวาคมบรรยากาศเตรียมของเพื่อขาย จองที่พัก หรือแผนเดินทางจะออกมาแล้ว แต่ปีนี้เงียบมาก เพราะคนไม่รู้ว่ารัฐจะออกมาตรการอะไรออกมามั้ย หรือจะเจออะไรอีก การสร้างอารมณ์จากแรงหนุนของภาครัฐเป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้ แค่รัฐประกาศว่าหยอดเงิน 1 หมื่นล้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ความคึกคักการเตรียมล่วงหน้าก็จะเกิดทันที” นางฐนิวรรณกล่าว.