สวัสดีค่ะ
ขออนุญาติก่อนว่า นี้ไม่ใช่ account ส่วนตัว ยืมของเพื่อนมา
อยากแชร์ประสบการณ์เชิงความล้มเหลวของตัวเอง ให้เป็นตัวอย่าง สิ่งไหนดี อ่านไว้เป็นความรู้ สิ่งไหนไม่ดีเอาไว้เตือนใจค่ะ
เราเป็น ญ อายุ เลข2x ปลายๆ อดีต เป็นเด็กคนนึงที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่ได้ร่ำรวยไฮโซ แต่อยู่ใน tier กลางๆ คุณแม่เป็นข้าราชกาi คุณพ่อมีธุรกิจ
เป็นลูกคนเดียว เรามีทุกอย่างที่อยากได้และจำเป็น มีคนรับใช้
จนเข้ามาเรียนมหาลัยในกทม. มาอยู่หอพักใกล้ๆมหาลัย คุณพ่อมีคอนโดใจกลางเมือง
มีรถ ใช้ของแพง ฟุ่มเฟือย ได้เงินทั้งสองทาง คือทั้งคุณพ่อ และคุณแม่ ก็มีเปย์แฟนบ้างพาแฟนไปเที่ยว ต่างประเทศ
เล่าอดีตนะคะมันคือความล้มเหลว
มีชีวิตแบบนี้ จนอายุ 21 ย่าง 22 เริ่มคือคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ต่อมา คุณพ่อธุรกิจมีปัญหาฆ่าตัวตาย (คุณพ่อกับคุณแม่เราอย่าร้างกันตั้งแต่เด็กๆ)
คุณพ่อเราอยู่ในกทม. ฆ่าตัวตายในกทม.ช่วงนั้นมีข่าว (ผ่านมา 4 ปีกว่าแล้วค่ะ)
คุณพ่อเสียไปสินทรัพย์อื่นๆที่มีคือขายไปหมด ใช้หนี้ไม่เหลืออะไรเลย รวมของเราด้วย
ตอนนั้นเราต้องทำทุกอย่างเองทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องคดีความ ชันสูตรศพ รวมถึงจัดงานศพให้คุณพ่อ
คุณแม่เรารักษามะเร็งตอนนั้นรักษาเป็นโครงการพิเศษก็ทำเคมีบำบัดแต่เป็นยาของต่างประเทศ คือมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก และส่วนใหญ่ออกเองไม่เกี่ยวกับสิทธิ์ข้าราชการ ทำให้มีหนี้สิน
การเงินไม่ดีเลย ไม่มีความรู้ในการบริหารกระแสเงินสด
หนี้สินท่วมหัว จัดการ การเงินกันไม่ดี ครอบครัวเรา ไม่มีการวางแผนการเงิน
ชีวิตคือแย่มากๆ ค่ะ ที่บ้านล้มเหลว คุณพ่อเสีย คุณแม่ป่วย เลิกกับแฟน(จริงๆเรื่องแฟนนี้ไม่ได้เป็นปัญหาในชีวิตเท่าไหร่หรอกคะ)
เสียใจมาก ถึงขั้นดอปเรียนไปด้วยความที่จิตใจไม่พร้อม และเรื่องเงินด้วย ทำให้ต้องไปทำงาน
( ขอเล่านอกรอบ แย่ขนาด ญาติของเพื่อน ที่เป็นพวกผู้ประกอบการมีตัง เสนอจะขอเลี้ยงดู แต่ไม่ได้ทำนะคะ ตอนนั้นคือรู้สึกแย่มาก ชีวิตมันแย่จนมาเจออะไรแบบนี้เลยหรอ)
มันก็เป็นการเปลี่ยนสังคม ไปอยู่อีกสังคมนึง มันมีความรู้สึก แรกๆ อายนะ
มีความรู้สึกเสียใจ เสียดายอะไรเดิม แต่เพราะเหตุการณ์นั้น ทำให้เราคิดได้ และกลายเป็นคนสู้ชีวิตขึ้นมา ทำงานไปด้วย จนเรียนจบ
เราเคยคิด เห็นเพื่อนเรียนจบ พ่อ แม่ ส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ เราอยากไปมากกก แต่แค่จะต่อโทในไทย เรายังไม่มีเงิน
เห็นเพื่อน พ่อแม่ซื้อรถให้ ตอนเรียนจบ เราอยากได้มาก ไม่ใช่เพราะเอามาขับโก้หรูแต่เพื่อการทำมาหากิน เราก็ไม่มีพ่อแม่ คอยซื้อให้
ชีวิตเราเหนื่อยมาก ภาระเยอะ จนไม่กล้าที่จะคิดเรื่องมีแฟน ไม่อยากเป็นภาระใคร
เงินทุกบาทที่หามาได้ ต้องใช้หนี้
เราทำงานเยอะมาก เราไม่มีวันหยุด ทำงานตั้งแต่ scale เล็ก ถึงใหญ่ เล็กๆก็เช่น
> ทุกเช้า เราจะรีบตื่นมาทำอาหารกล่อง ฝากวางขายที่ใต้คอนโด และเอาไปกินที่ทำงาน ,
> คอยรับ order ชา กาแฟ คนอื่น รวบรวมทีเดียวแล้วไปซื้อให้คนใน office เพื่อเอ่ค่าเดินที่จะได้จากร้านกาแฟที่เราไปซื้อ ,
> เรารับงานนอก ประหนึ่ง freelance ควบกับงานประจำ ทำงานไม่มีวันหยุด
> ขายของ onlineด้วย
> ใช้ความสามารถทางภาษาที่มี ติดต่องานอื่นๆ ทำงานเก็บเงิน จนมีเงินก้อนนึงครึ่งล้าน ( แต่ก็ยังใช้หนี้ให้ที่บ้านไม่หมดนะคะ)
ก็อยากรวย มีเงินใช้หนี้ ยกระดับฐานะตัวเอง ให้สบายขึ้น อยากให้คุณแม่มีชีวิตสบายเหมือนเดิม เลยเอาเงินเก็บ
ลงทุนกับหุ้นส่วน ผู้ใหญ่คนนึง ที่รู้จัก ทำสินค้าตัวนึงขึ้นมา แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กนะคะ ผู้ใหญ่คนนี้โกงไป ทำให้เราหมดตัว
เหตุการณ์์นี้พึ่งเกิดขึ้น 2-3 เดือนนี้เองค่ะ ทุขมากกก ต้องขายที่ดินเพื่อใช้หนี้ และเพื่อกินอยู่
ช่วงนั้นก็คิดสั้นเลยค่ะ แต่ไม่ทำจริงหรอก ก็คิดถึงคุณแม่ ตัวเรา อายุยังไม่มากเท่าไหร่ และอะไรร้ายๆกว่านี้ยังผ่านมาได้ ทำไมจะผ่านไม่ได้
ชีวิตตอนนี้ก็แค่วนกลับมาทำงานหนักเหมือนเดิม เชื่อว่าชีวิตคนเรา เราเป็นหนี้ได้เท่าที่กำลังเราจะสามารถใช้มัน
และชีวิต ถ้ามันเคยอยู่ในระดับไหน ถ้าเรายังสู้ เราจะมี drive ที่จะพาตัวเองไปอยู่ในระดับเดิม
ถ้าเราไม่ยอมแพ้ เราจะพาตัวเราเองไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
ก็มองว่า เราแย่ แต่มองคนที่แย่กว่าเป็นแรงผลักดัน และมองคนที่สูงกว่าไว้เป็นกำลังใจ
เรารักแม่ค่ะ มองคุณแม่เป็นกำลังใจ มองหาสิ่งดีๆในแบบที่เรามี อย่างน้อยเมื่อชีวิตผิดพลาด เราก็ไม่ได้จมอยู่กับมะโนภาพความฟุ้งเฟ้อเดิมๆ
ดีที่เราเปลี่ยนตัวเอง
สิ่งที่เราเห็น จากสิ่งที่เราเป็น
> ครอบครัว ไม่ได้จะมีหรือ support เราได้ เสมอ
> สิ่งที่ทำให้เราภูมิใจคือการที่เราหาได้เอง
> การไม่มีหนี้คือลาภอันประเสริฐ
> การไม่มีโรคประเสริฐยิ่งกว่า
> ชีวิตต้องวางแผนการเงินดีๆค่ะ
ใครแย่ๆอยู่ สู้ๆนะคะ ชีวิตมีขึ้น มันก็ต้องมีลง
มีลง มันก็ต้องขึ้นไปได้อีก ถ้าเราไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาเนอะ ^^
แชร์ความล้มเลวของชีวิตค่ะ จากอดีตที่สุขสบาย สู้เป็นหนี้หลายล้าน
ขออนุญาติก่อนว่า นี้ไม่ใช่ account ส่วนตัว ยืมของเพื่อนมา
อยากแชร์ประสบการณ์เชิงความล้มเหลวของตัวเอง ให้เป็นตัวอย่าง สิ่งไหนดี อ่านไว้เป็นความรู้ สิ่งไหนไม่ดีเอาไว้เตือนใจค่ะ
เราเป็น ญ อายุ เลข2x ปลายๆ อดีต เป็นเด็กคนนึงที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่ได้ร่ำรวยไฮโซ แต่อยู่ใน tier กลางๆ คุณแม่เป็นข้าราชกาi คุณพ่อมีธุรกิจ
เป็นลูกคนเดียว เรามีทุกอย่างที่อยากได้และจำเป็น มีคนรับใช้
จนเข้ามาเรียนมหาลัยในกทม. มาอยู่หอพักใกล้ๆมหาลัย คุณพ่อมีคอนโดใจกลางเมือง
มีรถ ใช้ของแพง ฟุ่มเฟือย ได้เงินทั้งสองทาง คือทั้งคุณพ่อ และคุณแม่ ก็มีเปย์แฟนบ้างพาแฟนไปเที่ยว ต่างประเทศ
เล่าอดีตนะคะมันคือความล้มเหลว
มีชีวิตแบบนี้ จนอายุ 21 ย่าง 22 เริ่มคือคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ต่อมา คุณพ่อธุรกิจมีปัญหาฆ่าตัวตาย (คุณพ่อกับคุณแม่เราอย่าร้างกันตั้งแต่เด็กๆ)
คุณพ่อเราอยู่ในกทม. ฆ่าตัวตายในกทม.ช่วงนั้นมีข่าว (ผ่านมา 4 ปีกว่าแล้วค่ะ)
คุณพ่อเสียไปสินทรัพย์อื่นๆที่มีคือขายไปหมด ใช้หนี้ไม่เหลืออะไรเลย รวมของเราด้วย
ตอนนั้นเราต้องทำทุกอย่างเองทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องคดีความ ชันสูตรศพ รวมถึงจัดงานศพให้คุณพ่อ
คุณแม่เรารักษามะเร็งตอนนั้นรักษาเป็นโครงการพิเศษก็ทำเคมีบำบัดแต่เป็นยาของต่างประเทศ คือมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก และส่วนใหญ่ออกเองไม่เกี่ยวกับสิทธิ์ข้าราชการ ทำให้มีหนี้สิน
การเงินไม่ดีเลย ไม่มีความรู้ในการบริหารกระแสเงินสด
หนี้สินท่วมหัว จัดการ การเงินกันไม่ดี ครอบครัวเรา ไม่มีการวางแผนการเงิน
ชีวิตคือแย่มากๆ ค่ะ ที่บ้านล้มเหลว คุณพ่อเสีย คุณแม่ป่วย เลิกกับแฟน(จริงๆเรื่องแฟนนี้ไม่ได้เป็นปัญหาในชีวิตเท่าไหร่หรอกคะ)
เสียใจมาก ถึงขั้นดอปเรียนไปด้วยความที่จิตใจไม่พร้อม และเรื่องเงินด้วย ทำให้ต้องไปทำงาน
( ขอเล่านอกรอบ แย่ขนาด ญาติของเพื่อน ที่เป็นพวกผู้ประกอบการมีตัง เสนอจะขอเลี้ยงดู แต่ไม่ได้ทำนะคะ ตอนนั้นคือรู้สึกแย่มาก ชีวิตมันแย่จนมาเจออะไรแบบนี้เลยหรอ)
มันก็เป็นการเปลี่ยนสังคม ไปอยู่อีกสังคมนึง มันมีความรู้สึก แรกๆ อายนะ
มีความรู้สึกเสียใจ เสียดายอะไรเดิม แต่เพราะเหตุการณ์นั้น ทำให้เราคิดได้ และกลายเป็นคนสู้ชีวิตขึ้นมา ทำงานไปด้วย จนเรียนจบ
เราเคยคิด เห็นเพื่อนเรียนจบ พ่อ แม่ ส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ เราอยากไปมากกก แต่แค่จะต่อโทในไทย เรายังไม่มีเงิน
เห็นเพื่อน พ่อแม่ซื้อรถให้ ตอนเรียนจบ เราอยากได้มาก ไม่ใช่เพราะเอามาขับโก้หรูแต่เพื่อการทำมาหากิน เราก็ไม่มีพ่อแม่ คอยซื้อให้
ชีวิตเราเหนื่อยมาก ภาระเยอะ จนไม่กล้าที่จะคิดเรื่องมีแฟน ไม่อยากเป็นภาระใคร
เงินทุกบาทที่หามาได้ ต้องใช้หนี้
เราทำงานเยอะมาก เราไม่มีวันหยุด ทำงานตั้งแต่ scale เล็ก ถึงใหญ่ เล็กๆก็เช่น
> ทุกเช้า เราจะรีบตื่นมาทำอาหารกล่อง ฝากวางขายที่ใต้คอนโด และเอาไปกินที่ทำงาน ,
> คอยรับ order ชา กาแฟ คนอื่น รวบรวมทีเดียวแล้วไปซื้อให้คนใน office เพื่อเอ่ค่าเดินที่จะได้จากร้านกาแฟที่เราไปซื้อ ,
> เรารับงานนอก ประหนึ่ง freelance ควบกับงานประจำ ทำงานไม่มีวันหยุด
> ขายของ onlineด้วย
> ใช้ความสามารถทางภาษาที่มี ติดต่องานอื่นๆ ทำงานเก็บเงิน จนมีเงินก้อนนึงครึ่งล้าน ( แต่ก็ยังใช้หนี้ให้ที่บ้านไม่หมดนะคะ)
ก็อยากรวย มีเงินใช้หนี้ ยกระดับฐานะตัวเอง ให้สบายขึ้น อยากให้คุณแม่มีชีวิตสบายเหมือนเดิม เลยเอาเงินเก็บ
ลงทุนกับหุ้นส่วน ผู้ใหญ่คนนึง ที่รู้จัก ทำสินค้าตัวนึงขึ้นมา แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กนะคะ ผู้ใหญ่คนนี้โกงไป ทำให้เราหมดตัว
เหตุการณ์์นี้พึ่งเกิดขึ้น 2-3 เดือนนี้เองค่ะ ทุขมากกก ต้องขายที่ดินเพื่อใช้หนี้ และเพื่อกินอยู่
ช่วงนั้นก็คิดสั้นเลยค่ะ แต่ไม่ทำจริงหรอก ก็คิดถึงคุณแม่ ตัวเรา อายุยังไม่มากเท่าไหร่ และอะไรร้ายๆกว่านี้ยังผ่านมาได้ ทำไมจะผ่านไม่ได้
ชีวิตตอนนี้ก็แค่วนกลับมาทำงานหนักเหมือนเดิม เชื่อว่าชีวิตคนเรา เราเป็นหนี้ได้เท่าที่กำลังเราจะสามารถใช้มัน
และชีวิต ถ้ามันเคยอยู่ในระดับไหน ถ้าเรายังสู้ เราจะมี drive ที่จะพาตัวเองไปอยู่ในระดับเดิม
ถ้าเราไม่ยอมแพ้ เราจะพาตัวเราเองไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
ก็มองว่า เราแย่ แต่มองคนที่แย่กว่าเป็นแรงผลักดัน และมองคนที่สูงกว่าไว้เป็นกำลังใจ
เรารักแม่ค่ะ มองคุณแม่เป็นกำลังใจ มองหาสิ่งดีๆในแบบที่เรามี อย่างน้อยเมื่อชีวิตผิดพลาด เราก็ไม่ได้จมอยู่กับมะโนภาพความฟุ้งเฟ้อเดิมๆ
ดีที่เราเปลี่ยนตัวเอง
สิ่งที่เราเห็น จากสิ่งที่เราเป็น
> ครอบครัว ไม่ได้จะมีหรือ support เราได้ เสมอ
> สิ่งที่ทำให้เราภูมิใจคือการที่เราหาได้เอง
> การไม่มีหนี้คือลาภอันประเสริฐ
> การไม่มีโรคประเสริฐยิ่งกว่า
> ชีวิตต้องวางแผนการเงินดีๆค่ะ
ใครแย่ๆอยู่ สู้ๆนะคะ ชีวิตมีขึ้น มันก็ต้องมีลง
มีลง มันก็ต้องขึ้นไปได้อีก ถ้าเราไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาเนอะ ^^