เรื่องมีอยู่ว่า ปัจจุบันทำงานในตำแหน่งระดับจัดการ ด้านบริหารทรัพยากรบุคคลบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง
เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน ได้รับการติดต่อจากบริษัทจัดหางานเจ้าหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วยังไม่ได้คิดหางาน
ตอนนั้น จึงคิดว่าทำไมเราถึงไม่ลองคุยดูเสียหน่อย ว่าลักษณะงานเป็นอย่างไร น่าสนใจหรือไม่
มีอะไรที่เป็นโอกาสให้เราได้พัฒนาความรู้ความสามารถต่อยอด หรือมีอะไรที่เราจะใช้ความรู้และประสบการณ์ของเราให้เป็นประโยชน์
หรือเพื่อพัฒนาองค์กรนั้นได้หรือไม่
หลังจากได้คุยกันแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจเนื่องจากองค์กรใหม่เป็นองค์กรที่ถือว่ามีชื่อเสียงในกลุมผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและด้านสินค้าเภสัชกรรม
งานที่กำลังต้องการคนอยู่นั้น เป็นงานที่ตรงกับความรู้ความสามารถ มีการกำหนดเนื้องานชัดเจน หน้าที่ความรับผิดชอบก็ชัดเจน มีโอกาสที่จะได้พัฒนา
ตัวเราเองให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีงานบางอย่างที่เป็นงานตรงกับที่จบมา จึงตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์
หลังจากสัมภาษณ์ทั้งหมด 4 รอบ ผลเบื้องต้นคือน่าจะผ่านการสัมภาษณ์และเริ่มเข้าสู่กระบวนการเตรียมการจ้างงาน ซึ่งระบบที่ใช้ค่อนข้างดี มีความสะดวก
จัดการทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์ และใช้เวลารวมกันตั้งแต่การสัมภาษณ์ครั้งแรกจนถึงการเซ็นสัญญาทั้งสิ้นสามสัปดาห์
ในความคิด การลาออกคือการตัดสินใจที่สำคัญในชีวิต การย้ายงานไม่ใช่เรื่องเล็ก จึงไม่ได้แจ้งให้หัวหน้าทราบว่ามีความประสงค์จะลาออก
รอจนกว่าได้มีการเซ็นสัญญาแล้วจึงจะแจ้ง เพื่อไม่ต้องกังวลว่าเกิดลาออกไปแล้ว ทางบริษัทใหม่เกิดไม่จ้าง ก็จะกลายเป็นการลาออกที่หลักลอย
และการลาออก ก็ไม่ใช่การแสดงข้อเรียกร้องว่าบริษัทเดิมจะต้องให้อะไรตอบแทน ซึ่งจะกลายเป็นการข่มขู่ ไม่น่าจะเป็นการกระทำที่ดี ที่ใช้การลาออก
ของตัวเองเรียกร้องให้ได้ตำแหน่งให้ได้ค่าตอบแทนเพิ่มมากขึ้น จึงแจ้งลาออกตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม เพื่อให้มีผลในวันที่ 1 กันยายน เพราะจะได้มีเวลา
เตรียมการวางแผนงานและส่งต่องาน
ปรากฏว่าหัวหน้า ซึ่งเป็นชาวต่างชาติมีปฏิกิริยาและการแสดงออกที่แปลกไปหลีกเลี่ยงการสนทนา ยกเลิกการประชุมที่นัดหมายไว้ด้วยกัน
แม้แต่การประชุมเพื่อส่งต่องานหรือเตรียมมอบหมายงานให้ท่านอื่นเพื่อที่จะได้ดูแลรับผิดชอบต่อก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และมาทราบทีหลังว่า
เธอไม่พอใจ เธอหาว่าการไปเซ็นสัญญาก่อนแจ้งลาออกเป็นการไม่เคารพ (respect) เธอบอกรับไม่ได้ ไม่มีใครทำแบบนี้ กล่าวหาว่าทำงานไม่มืออาชีพ
ทำงานเพื่อนายเก่า ไม่ได้ทำงานเพื่อองค์กร (บังเอิญว่านายเก่าเพิ่งจะขอเกษียณอายุก่อนกำหนดไปเมื่อสองสามเดือนก่อน แต่ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจลาออก)
มาถึงจุดนี้รู้สึกแปลกใจมาก ว่าการเซ็นสัญญาก่อนแจ้งลาออกนี่ผิดตรงไหน กลับรู้สึกว่าดีแล้วที่ตัดสินใจลาออก
**** ขอบพระคุณมากๆ ในทุกความเห็นครับ
มาเพิ่มเติมข้อเท็จจริงเล็กน้อยครับ
1. จริงๆแล้วตั้งแต่ตอนเข้ามาเริ่มงาน ตำแหน่งงานก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คุยกันไว้ ซึ่งผมแจ้งไว้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์เข้างานแล้วว่า เป้าหมายของผมอยู่ที่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน HR Expertise ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องตำแหน่ง
2. ตำแหน่งที่ทำเป็นงานเชิงบริหาร คือใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเซ็นอนุมัติเอกสาร ไม่ได้สอดคล้องกับความรู้ความสามารถที่มี
3. ก่อนหน้าที่จะลาออก ได้เคยเปรยกับฝ่ายที่ดูแลเรื่องอาชีพโดยตรง ซึ่งเป็น HR ทีมหนึ่ง ด้วยกันว่าลักษณะงานที่ทำอยู่ ผมไม่ค่อยโอเค เพราะไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ไม่ค่อยตรงกับความรู้และประสบการณ์ที่มี และผมเองมีแผนที่จะเริ่มหางานใหม่ (ซึ่งจริงๆยังไม่ได้หา) และนายเก่าได้เคยเตือนให้ทราบแล้วว่า ผมมีโอกาสจะลาออก แต่ประโยคที่ผมได้รับคือ "ถ้าคุณคิดจะลาออก ก็ไม่มีใครรั้งคุณได้"
4. ความจริงผมไม่ต้องบอกก็ได้ว่า เซ็นสัญญากับที่ใหม่แล้ว แต่ที่บอกเพราะต้องการยืนยันว่า ผมไม่ได้ลาออกเพื่อเรียกร้องให้ต้องให้อะไรเพิ่มเติม และอธิบายถึงงานที่ใหม่ให้ฟังเรียบร้อยแล้ว
5. ถ้าผมไม่บอกว่าเซ็นสัญญาแล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่ายังไงก็ออกแน่ๆ แม้ว่าจะมีการเสนอตำแหน่งให้ (ซึ่งจริงๆ ก็เสนอ) แต่ผมยังเลือกจะไป จะเสียความรู้สึกกว่าไหม
หัวหน้ารับไม่ได้ ที่ไปเซ็นสัญญากับบริษัทใหม่ก่อนแจ้งลาออก(ล่วงหน้า40วัน) เธอบอก “you did not respect me”
เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน ได้รับการติดต่อจากบริษัทจัดหางานเจ้าหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วยังไม่ได้คิดหางาน
ตอนนั้น จึงคิดว่าทำไมเราถึงไม่ลองคุยดูเสียหน่อย ว่าลักษณะงานเป็นอย่างไร น่าสนใจหรือไม่
มีอะไรที่เป็นโอกาสให้เราได้พัฒนาความรู้ความสามารถต่อยอด หรือมีอะไรที่เราจะใช้ความรู้และประสบการณ์ของเราให้เป็นประโยชน์
หรือเพื่อพัฒนาองค์กรนั้นได้หรือไม่
หลังจากได้คุยกันแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจเนื่องจากองค์กรใหม่เป็นองค์กรที่ถือว่ามีชื่อเสียงในกลุมผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและด้านสินค้าเภสัชกรรม
งานที่กำลังต้องการคนอยู่นั้น เป็นงานที่ตรงกับความรู้ความสามารถ มีการกำหนดเนื้องานชัดเจน หน้าที่ความรับผิดชอบก็ชัดเจน มีโอกาสที่จะได้พัฒนา
ตัวเราเองให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีงานบางอย่างที่เป็นงานตรงกับที่จบมา จึงตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์
หลังจากสัมภาษณ์ทั้งหมด 4 รอบ ผลเบื้องต้นคือน่าจะผ่านการสัมภาษณ์และเริ่มเข้าสู่กระบวนการเตรียมการจ้างงาน ซึ่งระบบที่ใช้ค่อนข้างดี มีความสะดวก
จัดการทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์ และใช้เวลารวมกันตั้งแต่การสัมภาษณ์ครั้งแรกจนถึงการเซ็นสัญญาทั้งสิ้นสามสัปดาห์
ในความคิด การลาออกคือการตัดสินใจที่สำคัญในชีวิต การย้ายงานไม่ใช่เรื่องเล็ก จึงไม่ได้แจ้งให้หัวหน้าทราบว่ามีความประสงค์จะลาออก
รอจนกว่าได้มีการเซ็นสัญญาแล้วจึงจะแจ้ง เพื่อไม่ต้องกังวลว่าเกิดลาออกไปแล้ว ทางบริษัทใหม่เกิดไม่จ้าง ก็จะกลายเป็นการลาออกที่หลักลอย
และการลาออก ก็ไม่ใช่การแสดงข้อเรียกร้องว่าบริษัทเดิมจะต้องให้อะไรตอบแทน ซึ่งจะกลายเป็นการข่มขู่ ไม่น่าจะเป็นการกระทำที่ดี ที่ใช้การลาออก
ของตัวเองเรียกร้องให้ได้ตำแหน่งให้ได้ค่าตอบแทนเพิ่มมากขึ้น จึงแจ้งลาออกตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม เพื่อให้มีผลในวันที่ 1 กันยายน เพราะจะได้มีเวลา
เตรียมการวางแผนงานและส่งต่องาน
ปรากฏว่าหัวหน้า ซึ่งเป็นชาวต่างชาติมีปฏิกิริยาและการแสดงออกที่แปลกไปหลีกเลี่ยงการสนทนา ยกเลิกการประชุมที่นัดหมายไว้ด้วยกัน
แม้แต่การประชุมเพื่อส่งต่องานหรือเตรียมมอบหมายงานให้ท่านอื่นเพื่อที่จะได้ดูแลรับผิดชอบต่อก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และมาทราบทีหลังว่า
เธอไม่พอใจ เธอหาว่าการไปเซ็นสัญญาก่อนแจ้งลาออกเป็นการไม่เคารพ (respect) เธอบอกรับไม่ได้ ไม่มีใครทำแบบนี้ กล่าวหาว่าทำงานไม่มืออาชีพ
ทำงานเพื่อนายเก่า ไม่ได้ทำงานเพื่อองค์กร (บังเอิญว่านายเก่าเพิ่งจะขอเกษียณอายุก่อนกำหนดไปเมื่อสองสามเดือนก่อน แต่ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจลาออก)
มาถึงจุดนี้รู้สึกแปลกใจมาก ว่าการเซ็นสัญญาก่อนแจ้งลาออกนี่ผิดตรงไหน กลับรู้สึกว่าดีแล้วที่ตัดสินใจลาออก
**** ขอบพระคุณมากๆ ในทุกความเห็นครับ
มาเพิ่มเติมข้อเท็จจริงเล็กน้อยครับ
1. จริงๆแล้วตั้งแต่ตอนเข้ามาเริ่มงาน ตำแหน่งงานก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คุยกันไว้ ซึ่งผมแจ้งไว้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์เข้างานแล้วว่า เป้าหมายของผมอยู่ที่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน HR Expertise ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องตำแหน่ง
2. ตำแหน่งที่ทำเป็นงานเชิงบริหาร คือใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเซ็นอนุมัติเอกสาร ไม่ได้สอดคล้องกับความรู้ความสามารถที่มี
3. ก่อนหน้าที่จะลาออก ได้เคยเปรยกับฝ่ายที่ดูแลเรื่องอาชีพโดยตรง ซึ่งเป็น HR ทีมหนึ่ง ด้วยกันว่าลักษณะงานที่ทำอยู่ ผมไม่ค่อยโอเค เพราะไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ไม่ค่อยตรงกับความรู้และประสบการณ์ที่มี และผมเองมีแผนที่จะเริ่มหางานใหม่ (ซึ่งจริงๆยังไม่ได้หา) และนายเก่าได้เคยเตือนให้ทราบแล้วว่า ผมมีโอกาสจะลาออก แต่ประโยคที่ผมได้รับคือ "ถ้าคุณคิดจะลาออก ก็ไม่มีใครรั้งคุณได้"
4. ความจริงผมไม่ต้องบอกก็ได้ว่า เซ็นสัญญากับที่ใหม่แล้ว แต่ที่บอกเพราะต้องการยืนยันว่า ผมไม่ได้ลาออกเพื่อเรียกร้องให้ต้องให้อะไรเพิ่มเติม และอธิบายถึงงานที่ใหม่ให้ฟังเรียบร้อยแล้ว
5. ถ้าผมไม่บอกว่าเซ็นสัญญาแล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่ายังไงก็ออกแน่ๆ แม้ว่าจะมีการเสนอตำแหน่งให้ (ซึ่งจริงๆ ก็เสนอ) แต่ผมยังเลือกจะไป จะเสียความรู้สึกกว่าไหม