สวัสดีครับขอแนะนำตัวก่อนนะครับ
พื้นเพผมเกิดที่บ้านเกิดแม่คือจังหวัดพิจิตร แต่มาโตที่กาญจนบุรีซึ่งเป็นบ้านพ่อ เคยคิดเอาไว้นานแล้วว่าอยากลองเขียนเรื่องจากประสบการณ์ลึกลับของตัวเองและคนรอบข้างแบบจริงจังสักครั้ง เพราะมีหลายเรื่องที่ประสบพบมาแล้วรู้สึกอยากแชร์ เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกผิดพลาดประการใดขออภัยครับ
เพื่อไม่ให้เสียเวลาเล่าเลยนะครับ 55 ตั้งแต่เด็กเวลาปิดเทอมพ่อแม่ผมมักจะส่งผมไปอยู่บ้านยายที่พิจิตรทุกๆปิดเทอมหน้าร้อนเกือบๆทุกปีและจะอยู่นานๆหลายสัปดาห์
ซึ่งสมาชิกเดิมในบ้านช่วงนั้นจะมี ตา ยาย ป้า น้องสาวที่เป็นลูกน้า(ซึ่งคนนี้เป็นเด็กมีเซ้นส์) ปัจจุบัน เหลือแค่ยายกับน้องสาว ตากับ ป้า เสียชีวิตไปแล้ว
บ้านยายเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวเป็นทรงยาว มีใต้ถุนเตี้ยๆ หลังบ้านเป็นแม่น้ำยม ถ้าหันหน้าเข้าบ้านทางด้านขวาเป็นบ้านแบบเดียวกันติดกันหลายหลัง ส่วนด้านซ้ายเป็นทางเดินแคบๆขนานกับตัวบ้านยายลงไปริมแม่น้ำ
ถัดไปก็เป็นบ้านแบบเดียวกันอีกหลายหลัง ทรงบ้านจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ พอเปิดประตูไม้หน้าบ้านที่เป็นแผ่นๆพับทั้งหมดออกจะเจอพื้นที่โล่งๆของบ้าน ถัดไปจะเป็นห้องนอน2ห้องติดกันชิดอยู่ทางด้านซ้ายในตัวบ้าน แต่ถ้าเดินเขยิบมาทางขวามือในบ้านก็จะสามารถเห็นทะลุไปถึงหลังบ้านได้เลย
บ้านลักษณะนี้จริงๆแล้วถือว่าแรง สามารถมองทะลุจากหน้าบ้านไปหลังบ้านได้ ซึ่งไม่ค่อยดี สมัยที่ตายังไม่เสีย ตาเคยเล่าให้น้องสาวที่เป็นลูกน้าฟังว่าบ้านหลังนี้มันเป็นทางผ่านขาจร (วิญญาณเร่ร่อน) บ้านมันทะลุหลังบ้านไปลงแม่น้ำยม ซึ่งแม่น้ำยมแถวนี้ขึ้นชื่อเรื่องลึกลับ....
สมัยก่อนก็มักมีคนเอาศพมาทิ้ง บางทีก็มีคนจมน้ำตายแบบแปลกๆ บางทีก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับนางเงือก(ไม่ใช่แบบลิตเติ้ลเทอร์เมดนะ เป็นแนวๆพรายน้ำกินคนมานั่งหวีผมริมน้ำมากกว่า แต่แถวนั้นเค้าเรียกกันว่าเงือก) ส่วนแม่ผมสมัยวัยรุ่นก็เคยเจอมือดึงจะให้จมตอนว่ายน้ำข้ามเล่นไปอีกฝั่ง ซึ่งแม่เล่าว่าพอขึ้นมาบนฝั่งแล้วเห็นที่ขาเป็นรอยมือคนชัดเจน ไม่กล้าลงไปว่ายอีกเลย เอาเป็นว่าแม่น้ำสมัยนั้นดูลึกลับและน่ากลัวไม่เหมือนในสมัยนี้นะครับ
ซึ่งน้องสาวลูกน้าที่โตที่บ้านนั้นจะเจออะไรบางอย่างมาตลอด ตาเค้าจะแนะนำให้ผมกับน้องสวดมนต์ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร555 ก็เจอกันมาเรื่อยๆตั้งแต่เด็กๆ โดยเฉพาะ "ในห้องนอนของป้า" เวลาที่ผมหรือน้องสาวนอนคนเดียวในห้องป้าตั้งแต่ตอนที่ป้ายังไม่เสียก็จะโดนผีอำบ่อยมาก โดยเฉพาะเวลากลางวันตอนที่ป้าไม่อยู่ สิ่งที่น้องเจอจะมีทั้งผู้หญิงและเด็กมาเดินอยู่ในห้อง มีเสียงพูดคุย เหมือนมากวน น้องผมมันเจอจนชิน บางทีก็ปล่อยไม่สนใจ บางทีก็โวยวายไล่เพราะมันจะนอน55 ผมเองก็เจออำทุกครั้งที่มานอนที่นี่
ตอนสมัยประถมที่มาบ้านยายครั้งหนึ่ง ช่วงบ่ายผมเกิดรู้สึกง่วงนอน แต่ด้วยความเป็นคนไม่ชอบนอนแผ่หน้าบ้าน เลยกะจะเข้ามางีบในห้องป้า วันนั้นก็มางีบเหมือนปกติเนี่ยแหละ ห้องนอนพอปิดประตูก็จะมืดสลัวๆ ห้องไม่มีหน้าต่างมีแค่ช่องแสงเล็กๆที่เป็นมุ้งลวดเป็นแถบอยู่ด้านบนเหนือประตูห้องยาวจนสุดผนังด้านนั้น
แต่ด้วยความที่มีฝุ่นหนาจับบนมุ้งลวดทำให้แสงส่องผ่านมาได้น้อยห้องจึงดูอึมครึมมาก แม้จะเป็นตอนกลางวัน บรรยากาศก็มืดน่ากลัวแต่ด้วยความง่วงจึงไม่สนใจอะไร ผมนอนตะแคงอยู่บนเตียงด้านที่ชิดกำแพง คือนอนหันหน้าเข้ากำแพงเลย ก็จะเหลือที่ว่างบนเตียงอีกฝั่งกว้างๆ พอกำลังจะหลับก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้องแต่ผมไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูอาจเพราะกำลังสลึมสลือ ด้วยความว่าตอนนั้นง่วงนอนมากเลยขี้เกียจหันไปดูก็เลยนอนต่อ
จนสักพักรู้สึกว่ามีคนนั่งทิ้งน้ำหนักลงมาบนเตียง
เพราะมันรู้สึกว่าอีกฝั่งมันยวบลงไปชัดเจน พอผ่านไปไม่นานคนที่นั่งอยู่ก็เหมือนล้มตัวลงนอน ทีนี้ชัดมากคือมีเสียงเตียงยุบด้วย ด้วยความง่วงมากและกำลังจะหลับผมเลยไม่สนใจอะไร คิดว่าถ้าไม่เป็นน้องสาวก็คงเป็นป้าที่มานอนงีบกลางวันด้วย ผมก็นอนไปจนตื่นอีกทีช่วงบ่ายแก่ๆ พอออกจากห้องก็ไปนั่งเล่นหน้าบ้านเจอน้องก็ถามน้องว่า เมื่อบ่ายไปนอนที่ห้องป้ามาหรอ มันก็บอกไม่ได้นอน มันเล่นกับเพื่อนอยู่นอกบ้าน ผมก็เลยไปถามป้า ก็โดนป้าเอ็ดกลับมาแบบหงุดหงิดว่าทำงานบ้านอยู่จะเอาเวลาไปนอนตอนไหน....
ทีนี้ผมก็สงสัยนะ แต่มันคงหาคำตอบไม่ได้ ผมเลยทำเป็นไม่สนใจ เพราะผมเคยเจอเรื่องแปลกๆมาตั้งแต่เด็ก และเป็นคุ้นชินกับการห้ามทักห้ามพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เพราะว่าเค้าอาจจะรู้ว่าเราพูดถึงเค้าอยู่ ควรจะทางใครทางมัน คนก็ส่วนคน ผีก็ส่วนผี ว่ามั้ยครับ?
อีกครั้งหนึ่ง ตอนผมโตแล้วเข้าเรียนมหาลัย ตา กับ ป้า ผมก็เสีย และผมก็ไปค้างบ้านยายเป็นเวลานานๆน้อยลง อาจจะไปค้างแค่2-3วันกับแม่และก็กลับ ไม่ได้อยู่นานเหมือนสมัยก่อน ห้องป้ายังคงสภาพเดิมอยู่ถึงป้าจะเสียไปแล้ว เลยเหลือแค่น้องสาวที่นอนห้องนั้น
ป้าผมจะเป็นคนเก็บตัวหน่อยๆ แต่ก็เป็นคนไม่มีพิษมีภัยอะไร ผมแกจะดำละยาวมาก พอไปเล็มออกแล้วแกจะปวดหัวมาก ก็เลยไม่ตัดบ่อยนัก ปล่อยยาวถึงก้นเลย แกจะชอบนั่งดูทีวีหน้าบ้านตอนดึกๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครไม่ค่อยออกจากบ้าน วันนึงแกอาบน้ำเสร็จ แกเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็วูบหัวฝาดพื้นสลบไปเลย อยู่โรงบาลไม่กี่วันก็เสียชีวิต ช่วงนั้นน้องผมมันก็บอกว่าฝันเห็นป้าบ่อยๆ มันบอกว่าป้ามักจะมาแบบหน้าเขียวๆบวมๆหน่อย แต่มันไม่ค่อยกลัวเพราะมันคิดถึงป้า เวลาผมไปนอนห้องแกผมก็จะรู้สึกระแวงหน่อยๆ แต่ด้วยความว่าเราโตแล้วเราก็เป็นป้าเราด้วยจึงพยายามมองข้ามเรื่องความกลัวเหล่านั้นไป
จนถึงช่วงปี2มหาลัยปิดเทอมและไม่มีกิจกรรมอะไร ผมก็เลยได้ไปอยู่บ้านยายหลายวัน โดยที่แม่จะไปส่งแล้วค่อยมารับกลับ
ในวันที่ผมจะกลับแม่ผมจะมารับตอนบ่ายสาม ผมเลยนั่งรอแม่อยู่ตรงหน้าบ้านตั้งแต่เที่ยง นั่งเล่น คุยโน่นนี่กับน้องสาวลูกน้า
ด้วยความว่าผมสนิทกับน้องสาวคนนี้มาก ผมก็เลยมักจะคุยเรื่องลึกลับแปลกๆกันอยู่เสมอ วันนั้นผมเลยเผลอหลุดปากบอกน้องไปว่า
เออ ดีเนอะมาครั้งนี้ไม่เห็นเจอ "อะไร" เลย สงสัยเป็นเพราะพี่โตแล้วมั้ง55 ....
จริงๆแล้วผมพยายามเลี่ยงมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ผมจะไม่นอนคนเดียวในห้องป้า หรือบางทีก็เปิดไฟตลอดเวลา พอจะถึงเวลากลับบ้านแล้วก็เลยรู้สึกเหมือนเรากำลังจะก้าวข้ามผ่านจุดๆนี้ไปสักที ด้วยความสบายใจ พอรู้ตัวอีกทีก็ผ่อนคลาย แล้วก็เริ่มง่วงนอน....
ด้วยความผมง่วงๆ น้องมันก็เดินไปเล่นหน้าบ้าน แล้วผมก็รอแม่มารับ ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่มีอะไรทำ ผมเลยกะจะงีบแป๊บนึง แต่ตอนนั้นแทนที่ผมจะงีบตรงโซฟาหน้าบ้าน อยู่ๆผมก็เดินไปที่ห้องป้าเฉย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
เลยจากห้องป้าไปก็ไม่มีใครแล้ว ทุกคนดูพร้อมใจกันไปอยู่หน้าบ้านหมด บรรยากาศของบ้านไม้เงียบๆ ยามบ่ายคล้อย มองไปถึงหลังบ้านไกลๆเห็นแม่น้ำลิบๆ มีแสงแดดสีอุ่นสาดเข้ามาตามหน้าต่าง เวลาเดินจะมีเสียงพื้นไม้ที่เสียดสีดังเอี๊ยดอ๊าดตลอดเวลา พอหยุดเดินบรรยากาศก็เลยยิ่งเงียบลงไปอีก ชวนให้ผมง่วงเข้าไปใหญ่
ในขณะที่ผมอยู่หน้าห้องป้า ผมเปิดประตูและปล่อยค้างไว้อย่างนั้น ไม่ปิด ผมต้องการให้มีแสงส่องเข้ามาในห้องที่มืดๆบ้าง ถ้าปิดมันจะเหลือแค่แสงสลัวๆผ่านมุ้งลวดเล็กๆด้านบนเท่านั้น พอเปิดประตูทิ้งไว้ ทำให้แสงสีเหลืองๆส่องเข้ามากระทบกับละอองฝุ่น เกิดเป็นลำแสงตัดกับความมืดในห้องผาดลงบนพื้นไม้เป็นรูปกรอบประตูเบี้ยวๆ
ผมนอนลงบนเตียงมองฝุ่นละอองลอยคว้างตัดกับแสงที่เดี๋ยวสลัวเดี๋ยวสว่างจากเมฆด้านนอก มองไปเพลินๆสักพักก็รู้สึกงัวเงียและกำลังจะหลับ
แต่เห้ย ใครมายืนอยู่หน้าห้อง?!!
ผมเห็นเงาคนๆหนึ่งยืนอยู่ตรงประตูหน้าห้องหันเข้ามาทางผม
ด้วยข้างหลังประตูเป็นแสงส่องเข้ามา แสงเลยตัดกับเงาเป็นสีดำๆ (ประมาณภาพ silhouette ครับ55 ไม่รู้จะอธิบายยังไง) คือจะเห็นเป็นแค่เค้าโครง ไม่เห็นรายละเอียดหน้าตาชัดๆ แต่ด้วยผมยาวๆน่าจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคน นอกจากนี้ยังแปลกตรงที่ว่าเค้ายืนนิ่งและกางขากางมือหน่อยๆแบบไม่ธรรมชาติ มองแล้วเหมือนหุ่น เหมือนตุ๊กตาตัวแข็งๆ ผมก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าที่เห็นไม่ใช่คนในบ้านที่เรารู้จักแน่ๆ
พอเห็นเงาผู้หญิงคนนั้นแล้ว ผมก็ขยับตัวไม่ได้ เหมือนโดนอำ แต่ก็ยังหรี่ตามองผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอดเวลา
ตอนแรกคิดว่าเป็นป้าที่เสียไปแล้วมาทักทาย พอมองไปเรื่อยๆคิดว่าไม่น่าใช่แล้ว เพราะผู้หญิงคนนั้นผมยาวประบ่าแต่หยิกเป็นลอนเล็ก และฟูมากๆๆ(ส่วนป้าผมจะผมยาวตรง) เค้าใส่ต่างหูวงแหวนกลมใหญ่ แต่งตัวประหลาดเหมือนเอาผ้าแข็งๆลายเสือดาวมาพาดไปพาดมาจนหนาดูเป็นชุดหนาเทอะทะ เห็นลางๆว่าเค้าเอาพวกสร้อยเครื่องประดับพันไปพันมาที่ตัวแบบมั่วๆด้วยครับ
แว๊บแรกที่เห็นแบบนั้นเซ้นส์เราบอกว่า คนเนี้ย เหมือนผู้หญิงที่อยู่ในสมัยยุค80 คือไม่ใช่คนสมัยเนี่ย(ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน) และที่สำคัญคือ เค้าเป็นผู้หญิงที่สติไม่ดีครับ เค้าน่าจะเป็นบ้า!
ทันทีที่ผมคิดแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มขยับแค่หัวแต่ตัวยังคงกางแขนกางขาอยู่กับที่นิ่งๆ เค้าค่อยๆหันหน้าช้าๆไปทางขวาแล้วหยุด แล้วก็หันไปทางซ้ายช้าๆแล้วก็หยุด ลักษณะไม่ธรรมชาติเลยเหมือนหุ่นยนต์หันกึกกักๆ ตอนนั้นผมก็เริ่มใจไม่ดีแล้ว เพราะรู้สึกว่าคราวนี้เห็นเป็นตัวเป็นตนชัดมากเลย
พอเค้ารู้ว่าผมกลัวสักพักเค้าก็เริ่มหันหน้าซ้ายขวาไปมาแล้วหยุดกึก ไม่เป็นจังหวะ แต่เร็วขึ้นจนกลายเป็นเหมือนภาพวีดีโอที่เรากรอไปมาๆ และเร็วขึ้นๆ จนหัวสั่นรัวๆเหมือนหุ่นยนต์โดนไฟชอต
ผมตกใจมากจนร้องเห้ยออกมา(ปกติจะเงียบไม่ค่อยโวยวาย) ด้วยความช๊อคปนตกใจก็เลยเด้งจากเตียงเป็นสปริงแล้ววิ่งหลับหูหลับตาทะลุประตูออกมา วิ่งแจ้นไปหน้าบ้านเลย
พอถึงหน้าบ้านน้องสาวเห็นผมมันก็ดูงงๆ แล้วถามว่าเป็นไร ผมก็ตอบไปว่าไม่มีอะไรเพราะว่ากลัวเสียฟอร์ม55 อีกสักพักแม่ก็มารับพอดี ช่างจังหวะพอดีอะไรเช่นนี้
สรุปสุดท้ายผมก็โดนจนได้ด้วยความปากดี แต่ทุกวันนี้ก็ยังคาใจอยู่ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร หรือว่าจะเป็นพวกขาจรแบบที่ตาเคยบอกรึเปล่า เพราะว่าเค้าดูประหลาดพิศดารเหมือนคนบ้า และอีกอย่างคือ เจอแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวแล้วไม่เจออีกเลยครับ (แต่ก็ไม่อยากเจอละนะ55)
ขอบคุณที่อ่านและติดตามนะครับ
ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องอื่นๆเพิ่มครับผม ยังมีอีกเยอะเลย 55 ^ ^
เจอผีคนบ้าที่บ้านยาย
พื้นเพผมเกิดที่บ้านเกิดแม่คือจังหวัดพิจิตร แต่มาโตที่กาญจนบุรีซึ่งเป็นบ้านพ่อ เคยคิดเอาไว้นานแล้วว่าอยากลองเขียนเรื่องจากประสบการณ์ลึกลับของตัวเองและคนรอบข้างแบบจริงจังสักครั้ง เพราะมีหลายเรื่องที่ประสบพบมาแล้วรู้สึกอยากแชร์ เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกผิดพลาดประการใดขออภัยครับ
เพื่อไม่ให้เสียเวลาเล่าเลยนะครับ 55 ตั้งแต่เด็กเวลาปิดเทอมพ่อแม่ผมมักจะส่งผมไปอยู่บ้านยายที่พิจิตรทุกๆปิดเทอมหน้าร้อนเกือบๆทุกปีและจะอยู่นานๆหลายสัปดาห์
ซึ่งสมาชิกเดิมในบ้านช่วงนั้นจะมี ตา ยาย ป้า น้องสาวที่เป็นลูกน้า(ซึ่งคนนี้เป็นเด็กมีเซ้นส์) ปัจจุบัน เหลือแค่ยายกับน้องสาว ตากับ ป้า เสียชีวิตไปแล้ว
บ้านยายเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวเป็นทรงยาว มีใต้ถุนเตี้ยๆ หลังบ้านเป็นแม่น้ำยม ถ้าหันหน้าเข้าบ้านทางด้านขวาเป็นบ้านแบบเดียวกันติดกันหลายหลัง ส่วนด้านซ้ายเป็นทางเดินแคบๆขนานกับตัวบ้านยายลงไปริมแม่น้ำ
ถัดไปก็เป็นบ้านแบบเดียวกันอีกหลายหลัง ทรงบ้านจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ พอเปิดประตูไม้หน้าบ้านที่เป็นแผ่นๆพับทั้งหมดออกจะเจอพื้นที่โล่งๆของบ้าน ถัดไปจะเป็นห้องนอน2ห้องติดกันชิดอยู่ทางด้านซ้ายในตัวบ้าน แต่ถ้าเดินเขยิบมาทางขวามือในบ้านก็จะสามารถเห็นทะลุไปถึงหลังบ้านได้เลย
บ้านลักษณะนี้จริงๆแล้วถือว่าแรง สามารถมองทะลุจากหน้าบ้านไปหลังบ้านได้ ซึ่งไม่ค่อยดี สมัยที่ตายังไม่เสีย ตาเคยเล่าให้น้องสาวที่เป็นลูกน้าฟังว่าบ้านหลังนี้มันเป็นทางผ่านขาจร (วิญญาณเร่ร่อน) บ้านมันทะลุหลังบ้านไปลงแม่น้ำยม ซึ่งแม่น้ำยมแถวนี้ขึ้นชื่อเรื่องลึกลับ....
สมัยก่อนก็มักมีคนเอาศพมาทิ้ง บางทีก็มีคนจมน้ำตายแบบแปลกๆ บางทีก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับนางเงือก(ไม่ใช่แบบลิตเติ้ลเทอร์เมดนะ เป็นแนวๆพรายน้ำกินคนมานั่งหวีผมริมน้ำมากกว่า แต่แถวนั้นเค้าเรียกกันว่าเงือก) ส่วนแม่ผมสมัยวัยรุ่นก็เคยเจอมือดึงจะให้จมตอนว่ายน้ำข้ามเล่นไปอีกฝั่ง ซึ่งแม่เล่าว่าพอขึ้นมาบนฝั่งแล้วเห็นที่ขาเป็นรอยมือคนชัดเจน ไม่กล้าลงไปว่ายอีกเลย เอาเป็นว่าแม่น้ำสมัยนั้นดูลึกลับและน่ากลัวไม่เหมือนในสมัยนี้นะครับ
ซึ่งน้องสาวลูกน้าที่โตที่บ้านนั้นจะเจออะไรบางอย่างมาตลอด ตาเค้าจะแนะนำให้ผมกับน้องสวดมนต์ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร555 ก็เจอกันมาเรื่อยๆตั้งแต่เด็กๆ โดยเฉพาะ "ในห้องนอนของป้า" เวลาที่ผมหรือน้องสาวนอนคนเดียวในห้องป้าตั้งแต่ตอนที่ป้ายังไม่เสียก็จะโดนผีอำบ่อยมาก โดยเฉพาะเวลากลางวันตอนที่ป้าไม่อยู่ สิ่งที่น้องเจอจะมีทั้งผู้หญิงและเด็กมาเดินอยู่ในห้อง มีเสียงพูดคุย เหมือนมากวน น้องผมมันเจอจนชิน บางทีก็ปล่อยไม่สนใจ บางทีก็โวยวายไล่เพราะมันจะนอน55 ผมเองก็เจออำทุกครั้งที่มานอนที่นี่
ตอนสมัยประถมที่มาบ้านยายครั้งหนึ่ง ช่วงบ่ายผมเกิดรู้สึกง่วงนอน แต่ด้วยความเป็นคนไม่ชอบนอนแผ่หน้าบ้าน เลยกะจะเข้ามางีบในห้องป้า วันนั้นก็มางีบเหมือนปกติเนี่ยแหละ ห้องนอนพอปิดประตูก็จะมืดสลัวๆ ห้องไม่มีหน้าต่างมีแค่ช่องแสงเล็กๆที่เป็นมุ้งลวดเป็นแถบอยู่ด้านบนเหนือประตูห้องยาวจนสุดผนังด้านนั้น
แต่ด้วยความที่มีฝุ่นหนาจับบนมุ้งลวดทำให้แสงส่องผ่านมาได้น้อยห้องจึงดูอึมครึมมาก แม้จะเป็นตอนกลางวัน บรรยากาศก็มืดน่ากลัวแต่ด้วยความง่วงจึงไม่สนใจอะไร ผมนอนตะแคงอยู่บนเตียงด้านที่ชิดกำแพง คือนอนหันหน้าเข้ากำแพงเลย ก็จะเหลือที่ว่างบนเตียงอีกฝั่งกว้างๆ พอกำลังจะหลับก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้องแต่ผมไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูอาจเพราะกำลังสลึมสลือ ด้วยความว่าตอนนั้นง่วงนอนมากเลยขี้เกียจหันไปดูก็เลยนอนต่อ
จนสักพักรู้สึกว่ามีคนนั่งทิ้งน้ำหนักลงมาบนเตียง
เพราะมันรู้สึกว่าอีกฝั่งมันยวบลงไปชัดเจน พอผ่านไปไม่นานคนที่นั่งอยู่ก็เหมือนล้มตัวลงนอน ทีนี้ชัดมากคือมีเสียงเตียงยุบด้วย ด้วยความง่วงมากและกำลังจะหลับผมเลยไม่สนใจอะไร คิดว่าถ้าไม่เป็นน้องสาวก็คงเป็นป้าที่มานอนงีบกลางวันด้วย ผมก็นอนไปจนตื่นอีกทีช่วงบ่ายแก่ๆ พอออกจากห้องก็ไปนั่งเล่นหน้าบ้านเจอน้องก็ถามน้องว่า เมื่อบ่ายไปนอนที่ห้องป้ามาหรอ มันก็บอกไม่ได้นอน มันเล่นกับเพื่อนอยู่นอกบ้าน ผมก็เลยไปถามป้า ก็โดนป้าเอ็ดกลับมาแบบหงุดหงิดว่าทำงานบ้านอยู่จะเอาเวลาไปนอนตอนไหน....
ทีนี้ผมก็สงสัยนะ แต่มันคงหาคำตอบไม่ได้ ผมเลยทำเป็นไม่สนใจ เพราะผมเคยเจอเรื่องแปลกๆมาตั้งแต่เด็ก และเป็นคุ้นชินกับการห้ามทักห้ามพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เพราะว่าเค้าอาจจะรู้ว่าเราพูดถึงเค้าอยู่ ควรจะทางใครทางมัน คนก็ส่วนคน ผีก็ส่วนผี ว่ามั้ยครับ?
อีกครั้งหนึ่ง ตอนผมโตแล้วเข้าเรียนมหาลัย ตา กับ ป้า ผมก็เสีย และผมก็ไปค้างบ้านยายเป็นเวลานานๆน้อยลง อาจจะไปค้างแค่2-3วันกับแม่และก็กลับ ไม่ได้อยู่นานเหมือนสมัยก่อน ห้องป้ายังคงสภาพเดิมอยู่ถึงป้าจะเสียไปแล้ว เลยเหลือแค่น้องสาวที่นอนห้องนั้น
ป้าผมจะเป็นคนเก็บตัวหน่อยๆ แต่ก็เป็นคนไม่มีพิษมีภัยอะไร ผมแกจะดำละยาวมาก พอไปเล็มออกแล้วแกจะปวดหัวมาก ก็เลยไม่ตัดบ่อยนัก ปล่อยยาวถึงก้นเลย แกจะชอบนั่งดูทีวีหน้าบ้านตอนดึกๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครไม่ค่อยออกจากบ้าน วันนึงแกอาบน้ำเสร็จ แกเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็วูบหัวฝาดพื้นสลบไปเลย อยู่โรงบาลไม่กี่วันก็เสียชีวิต ช่วงนั้นน้องผมมันก็บอกว่าฝันเห็นป้าบ่อยๆ มันบอกว่าป้ามักจะมาแบบหน้าเขียวๆบวมๆหน่อย แต่มันไม่ค่อยกลัวเพราะมันคิดถึงป้า เวลาผมไปนอนห้องแกผมก็จะรู้สึกระแวงหน่อยๆ แต่ด้วยความว่าเราโตแล้วเราก็เป็นป้าเราด้วยจึงพยายามมองข้ามเรื่องความกลัวเหล่านั้นไป
จนถึงช่วงปี2มหาลัยปิดเทอมและไม่มีกิจกรรมอะไร ผมก็เลยได้ไปอยู่บ้านยายหลายวัน โดยที่แม่จะไปส่งแล้วค่อยมารับกลับ
ในวันที่ผมจะกลับแม่ผมจะมารับตอนบ่ายสาม ผมเลยนั่งรอแม่อยู่ตรงหน้าบ้านตั้งแต่เที่ยง นั่งเล่น คุยโน่นนี่กับน้องสาวลูกน้า
ด้วยความว่าผมสนิทกับน้องสาวคนนี้มาก ผมก็เลยมักจะคุยเรื่องลึกลับแปลกๆกันอยู่เสมอ วันนั้นผมเลยเผลอหลุดปากบอกน้องไปว่า
เออ ดีเนอะมาครั้งนี้ไม่เห็นเจอ "อะไร" เลย สงสัยเป็นเพราะพี่โตแล้วมั้ง55 ....
จริงๆแล้วผมพยายามเลี่ยงมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ผมจะไม่นอนคนเดียวในห้องป้า หรือบางทีก็เปิดไฟตลอดเวลา พอจะถึงเวลากลับบ้านแล้วก็เลยรู้สึกเหมือนเรากำลังจะก้าวข้ามผ่านจุดๆนี้ไปสักที ด้วยความสบายใจ พอรู้ตัวอีกทีก็ผ่อนคลาย แล้วก็เริ่มง่วงนอน....
ด้วยความผมง่วงๆ น้องมันก็เดินไปเล่นหน้าบ้าน แล้วผมก็รอแม่มารับ ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่มีอะไรทำ ผมเลยกะจะงีบแป๊บนึง แต่ตอนนั้นแทนที่ผมจะงีบตรงโซฟาหน้าบ้าน อยู่ๆผมก็เดินไปที่ห้องป้าเฉย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
เลยจากห้องป้าไปก็ไม่มีใครแล้ว ทุกคนดูพร้อมใจกันไปอยู่หน้าบ้านหมด บรรยากาศของบ้านไม้เงียบๆ ยามบ่ายคล้อย มองไปถึงหลังบ้านไกลๆเห็นแม่น้ำลิบๆ มีแสงแดดสีอุ่นสาดเข้ามาตามหน้าต่าง เวลาเดินจะมีเสียงพื้นไม้ที่เสียดสีดังเอี๊ยดอ๊าดตลอดเวลา พอหยุดเดินบรรยากาศก็เลยยิ่งเงียบลงไปอีก ชวนให้ผมง่วงเข้าไปใหญ่
ในขณะที่ผมอยู่หน้าห้องป้า ผมเปิดประตูและปล่อยค้างไว้อย่างนั้น ไม่ปิด ผมต้องการให้มีแสงส่องเข้ามาในห้องที่มืดๆบ้าง ถ้าปิดมันจะเหลือแค่แสงสลัวๆผ่านมุ้งลวดเล็กๆด้านบนเท่านั้น พอเปิดประตูทิ้งไว้ ทำให้แสงสีเหลืองๆส่องเข้ามากระทบกับละอองฝุ่น เกิดเป็นลำแสงตัดกับความมืดในห้องผาดลงบนพื้นไม้เป็นรูปกรอบประตูเบี้ยวๆ
ผมนอนลงบนเตียงมองฝุ่นละอองลอยคว้างตัดกับแสงที่เดี๋ยวสลัวเดี๋ยวสว่างจากเมฆด้านนอก มองไปเพลินๆสักพักก็รู้สึกงัวเงียและกำลังจะหลับ
แต่เห้ย ใครมายืนอยู่หน้าห้อง?!!
ผมเห็นเงาคนๆหนึ่งยืนอยู่ตรงประตูหน้าห้องหันเข้ามาทางผม
ด้วยข้างหลังประตูเป็นแสงส่องเข้ามา แสงเลยตัดกับเงาเป็นสีดำๆ (ประมาณภาพ silhouette ครับ55 ไม่รู้จะอธิบายยังไง) คือจะเห็นเป็นแค่เค้าโครง ไม่เห็นรายละเอียดหน้าตาชัดๆ แต่ด้วยผมยาวๆน่าจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคน นอกจากนี้ยังแปลกตรงที่ว่าเค้ายืนนิ่งและกางขากางมือหน่อยๆแบบไม่ธรรมชาติ มองแล้วเหมือนหุ่น เหมือนตุ๊กตาตัวแข็งๆ ผมก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าที่เห็นไม่ใช่คนในบ้านที่เรารู้จักแน่ๆ
พอเห็นเงาผู้หญิงคนนั้นแล้ว ผมก็ขยับตัวไม่ได้ เหมือนโดนอำ แต่ก็ยังหรี่ตามองผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอดเวลา
ตอนแรกคิดว่าเป็นป้าที่เสียไปแล้วมาทักทาย พอมองไปเรื่อยๆคิดว่าไม่น่าใช่แล้ว เพราะผู้หญิงคนนั้นผมยาวประบ่าแต่หยิกเป็นลอนเล็ก และฟูมากๆๆ(ส่วนป้าผมจะผมยาวตรง) เค้าใส่ต่างหูวงแหวนกลมใหญ่ แต่งตัวประหลาดเหมือนเอาผ้าแข็งๆลายเสือดาวมาพาดไปพาดมาจนหนาดูเป็นชุดหนาเทอะทะ เห็นลางๆว่าเค้าเอาพวกสร้อยเครื่องประดับพันไปพันมาที่ตัวแบบมั่วๆด้วยครับ
แว๊บแรกที่เห็นแบบนั้นเซ้นส์เราบอกว่า คนเนี้ย เหมือนผู้หญิงที่อยู่ในสมัยยุค80 คือไม่ใช่คนสมัยเนี่ย(ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน) และที่สำคัญคือ เค้าเป็นผู้หญิงที่สติไม่ดีครับ เค้าน่าจะเป็นบ้า!
ทันทีที่ผมคิดแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มขยับแค่หัวแต่ตัวยังคงกางแขนกางขาอยู่กับที่นิ่งๆ เค้าค่อยๆหันหน้าช้าๆไปทางขวาแล้วหยุด แล้วก็หันไปทางซ้ายช้าๆแล้วก็หยุด ลักษณะไม่ธรรมชาติเลยเหมือนหุ่นยนต์หันกึกกักๆ ตอนนั้นผมก็เริ่มใจไม่ดีแล้ว เพราะรู้สึกว่าคราวนี้เห็นเป็นตัวเป็นตนชัดมากเลย
พอเค้ารู้ว่าผมกลัวสักพักเค้าก็เริ่มหันหน้าซ้ายขวาไปมาแล้วหยุดกึก ไม่เป็นจังหวะ แต่เร็วขึ้นจนกลายเป็นเหมือนภาพวีดีโอที่เรากรอไปมาๆ และเร็วขึ้นๆ จนหัวสั่นรัวๆเหมือนหุ่นยนต์โดนไฟชอต
ผมตกใจมากจนร้องเห้ยออกมา(ปกติจะเงียบไม่ค่อยโวยวาย) ด้วยความช๊อคปนตกใจก็เลยเด้งจากเตียงเป็นสปริงแล้ววิ่งหลับหูหลับตาทะลุประตูออกมา วิ่งแจ้นไปหน้าบ้านเลย
พอถึงหน้าบ้านน้องสาวเห็นผมมันก็ดูงงๆ แล้วถามว่าเป็นไร ผมก็ตอบไปว่าไม่มีอะไรเพราะว่ากลัวเสียฟอร์ม55 อีกสักพักแม่ก็มารับพอดี ช่างจังหวะพอดีอะไรเช่นนี้
สรุปสุดท้ายผมก็โดนจนได้ด้วยความปากดี แต่ทุกวันนี้ก็ยังคาใจอยู่ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร หรือว่าจะเป็นพวกขาจรแบบที่ตาเคยบอกรึเปล่า เพราะว่าเค้าดูประหลาดพิศดารเหมือนคนบ้า และอีกอย่างคือ เจอแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวแล้วไม่เจออีกเลยครับ (แต่ก็ไม่อยากเจอละนะ55)
ขอบคุณที่อ่านและติดตามนะครับ
ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องอื่นๆเพิ่มครับผม ยังมีอีกเยอะเลย 55 ^ ^