สวัสดีค่ะเพื่อนชาวพันทิป วันนี้มีเวลาว่างเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างแดนของเรา
เป็นช่วงเวลาประมาณ 3 เดือนสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นี่ก่อนย้ายกลับไทยค่ะ
โดยปีแรกเราอยู่กับโฮสบ้านแรกที่ รัฐเพนซิลเวเนีย (โฮสไปๆมาๆ 2 บ้านกับที่รัฐฟลอริด้า ซึ่งเราก็ต้องเดินทางไปๆมาๆกับเค้าด้วย)
เด็กแฝด 2 คน ชายหญิง โฮสทั้งคู่เป็นอเมริกัน
ปีที่ 2 เราย้ายมาอยู่กับโฮสบ้านที่ 2 ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ค่ะ
เด็ก 2 คน ชายหญิง โฮสมัมเป็นโคเรียน-อเมริกัน โฮสแด๊ดเป็นอิตาเลี่ยน-อเมริกัน
ก่อนอื่นขออธิบายก่อนนะคะว่าเรามาอยู่อเมริกาตั้งแต่พฤศจิกา 2015
มาด้วยโครงการ Au Pair ด้วยวีซ่านักเรียนแลกเปลี่ยน J-1
Au Pair คืออะไร?
เกริ่นคร่าวๆนะคะ ออแพร์ก็คือโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วยการเลี้ยงเด็ก (พี่เลี้ยงเด็กต่างแดน)
ที่สามารถทำงาน เรียน ท่องเที่ยวในอเมริกาตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโครงการ
โครงการนี้เป็นโครงการของกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา
ซึ่งทำให้เรามาอยู่อเมริกาอย่างถูกกฎหมาย
ขอไม่ลงลึกเกี่ยวกับรายละเอียดสำหรับโพสนี้นะคะ
โพสต์นี้ขอแชร์เป็นประสบการณ์ที่เรามาอยู่ก่อน
ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติมถามได้นะคะ
อันนี้คลิปเกี่ยวกับขั้นตอนก่อนมาเป็นออแพร์ของเราค่ะ
มีวีดีโอเกี่ยวกับออแพร์อื่นๆของเราเผื่อเพื่อนๆที่สนใจนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.youtube.com/channel/UCc3XOZ8gffjWs8GbLkv6IVQ
เริ่มจากเราทำงานธนาคารมาประมาณ 3 ปี ก็เริ่มนึกๆอยากเปลี่ยนแบงค์ หรือเปลี่ยนงานดูบ้าง
ระหว่างที่นึกก็มีโอกาสได้รู้จักคำว่า ออแพร์ จากรุ่นพี่ ว่าโครงการนี้น่าสนใจแล้วเราน่าจะชอบ เพราะชอบคลุกคลีกับเด็ก
เราก็เลยหาข้อมูลดูว่าคืออะไร รายละเอียดเป็นยังไง
และแน่นอนค่ะ มีคำถามจากคนรอบข้างมากมายว่า
"ทำงานแบงค์อยู่ดีๆจะไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเนี่ยนะ?"
"กลับมาจะหางานอะไรทำ?"
"มันจะคุ้มหรอ?"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนนี้เรารู้แล้วว่าคุ้มมากๆและตัดสินใจไม่ผิดที่มาโครงการนี้ ยังคิดว่าช้าไปด้วยซ้ำ ออแพร์จากทางยุโรปส่วนใหญ่อายุ 18,19 กันเอง
จากที่ไม่เคยมีความคิดอยากไปอยู่ต่างประเทศมาก่อน ก็เริ่มสนใจขึ้นมา
แล้วจากที่ดูค่าใช้จ่ายของโครงการนี้ถือว่าไม่เยอะมากสำหรับคนมีเงิน(น้อย)อย่างเรา
ก็เลยเริ่มต้นสมัครโครงการโดยไปสัมภาษณ์กับเอเจนซี่หนึ่งเตรียมเอกสารและเริ่มเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็ก
โดยไปเก็บชั่วโมงที่เนอสเซอรี่แถวนานา จนครบตามที่เค้ากำหนด
ก็สามารถออนไลน์ประวัติเพื่อหาโฮสแฟมิลี่(ครอบครัวอเมริกันที่เราจะไปอยู่กับเค้า)
จนออนไลน์มาได้ซักพักมีโฮสบ้านหนึ่งมาดูประวัติเรา แต่ก็ยังไม่มีการสัมภาษณ์ใดๆ
เราก็รอต่อไปจนคิดว่าทำไมไม่ค่อยมีโฮสเข้ามาเลย เลยปรึกษาพี่ๆทางเอเจนซี่
เค้าก็ให้คำตอบว่า วีดีโอน้องดูไม่น่าสนใจ ควรแก้ใหม่ เราก็ถามว่าควรทำอย่างไรให้น่าสนใจคะ
เค้าก็บอกว่า น้องต้องลองดูเองว่าทำยังไงถึงน่าสนใจดึงดูดโฮสได้
เราก็แบบ มองบน กับคำตอบ
คุณคือเอเจนซี่ ถ้าไม่ให้คำแนะนำเราจะมีไว้เพื่ออะไรน๊อ
ตอนนั้นรู้สึกว่าทำไม่มันยุ่งยากจัง ไม่อยากไปละ แต่มีเพื่อนแนะนำว่ามีเอเจนซี่นึงชื่อ Cultural Care พี่ๆแนะนำว่าดีนะลองไปดูมั้ย
เราก็ เออเอาวะ ลองอีกซักที่นึง
เราก็โทรไปสอบถามว่าขั้นตอนสมัครต้องทำอะไรยังไง จนสัมภาษณ์กับพี่ๆแล้วเริ่มออนไลน์หาโฮส
อาทิตย์แรกมีเข้ามาเลย ซึ่งเร็วมาก และมีเข้ามาเรื่อยๆจนมาถึงโฮสบ้านที่ 7
เราแมชกับบ้านนี้เพราะดูน่าจะเข้ากันได้ดี มีเด็ก 2 คน ฝาแฝดชายหญิงอายุ ขวบกว่า น่ารักมาก
กำหนดเดินทาง 15 พ.ย. 2015 แล้วนั่นก็คือวันเริ่มต้นของการใช้ชีวิตต่างแดนของเราค่ะ
ซึ่งโค้งสุดท้ายสำหรับเราพอดี ออแพร์อเมริกาจำกัดอายุที่ 26 ตอนนั้นเรา 26 แล้วเลยได้มาอย่างเฉียดฉิว
วันเดินทางตื่นเต้นมาก ปกติไปต่างประเทศก็แค่ไปเที่ยวแค่ทีละอาทิตย์ สองอาทิตย์ ไม่เคยไปอยู่นานขนาดนี้
พ่อ แม่ พี่ๆ แฟน มาส่งที่สนามบิน เราก็มาเจอเพื่อนๆออแพร์ผู้ร่วมเดินทางไฟล์ทเดียวกับเราอีก 4-5 คนค่ะ
ไม่มีการร้องไห้ใดๆทั้งนั้นตอนจากครอบครัวมา เพราะยังตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆที่จะต้องเจอ
เราเดินทางด้วยสายการบิน Jet Airways ของอินเดีย ต่อเครื่อง 2 ที่คือ มุมไบ อินเดีย และ บรัสเซล เบลเยี่ยม
เดินทางประมาณ 25-26 ชั่วโมง เรียกได้ว่ารากงอกเลยทีเดียว
ส่วนอาหารบนเครื่องทั้ง 4 มื้อหลัก เราแทบไม่ได้กินอะไรเลย กินเฉพาะโยเกิร์ตกับผลไม้ที่มีมาให้
จนกระทั่งมาถึงสนามบินที่นิวยอร์ก ก็มีรถจากศูนย์ฝึกอบรมของทาง Cultural Care มารับไปโรงเรียนอบรมออแพร์
แล้วนี่ก็คือมื้อแรกในอเมริกาของเราที่โรงเรียนค่ะ
เราต้องอยู่ที่ศูนย์นี้ 4 วัน ก็จะมีการอบรมเบื้องต้นเกี่ยวกับเด็ก, การทำ CPR, การใช้ชีวิตในอเมริกาสำหรับออแพร์
ห้องนอนที่เราได้มีรูมเมทอีก 2 คน มาจากMexico กับ South Africa ทั้งคู่น่ารักมาก เราก็แลกขนมจากประเทศตัวเองกัน
ก่อนแยกย้ายหลักอบรมวันสุดท้ายก็แลกเงินสกุลจากประเทศตัวเองกันพอเป็นพิธี เราก็ควักเลยค่ะ แบงค์ 20
แชะภาพกับเพื่อนๆออแพร์จากทั่วโลกในรอบที่อบรมพร้อมเราค่ะ
วันสุดท้ายก่อนออแพร์แต่ละคนจะแยกย้ายกันไปบ้านของโฮสจากทั่วอเมริกา เค้าก็จะมีพาทัวร์ Manhattan New York วันนึง
ซึ่งโฮสเราซื้อแพคเกจไว้ให้แล้วเป็นตั๋วขึ้นชมวิวนิวยอร์กจากตึก Rockefeller Center ถ้าคนไหนโฮสไม่ได้ซื้อแพคเกจก็สามารถซื้อเองได้
แต่ถ้าใครไม่อยากขึ้นไปชมก็เดินเล่นในเมืองเฉยๆได้ค่ะพอถึงเวลาก็ไปขึ้นรถกลับโรงเรียน
โฮสเราซื้อแพคเกจทัวร์พร้อมกระเป๋าสีชมพูบ้านเย็นไว้ให้ค่ะ
เราก็เข้าไปทัวร์นิวยอร์กซึ่งเป็นโอกาสที่เหมาะซะไม่มี ฝนตกหนักเลยจ้า
ก็เดินๆแวะดูตามจุดที่ละหน่อย แล้วเข้าไปในตึก Rockefeller Center เพื่อขึ้นไปชมวิว
ซึ่งแน่นอน มองไม่เห็นอะไรเลยค่ะนอกจากเมฆ เพราะฝนยังตกอยู่และเมฆเยอะมาก ถึงเวลาก็ขึ้นบัสกลับที่พัก
วันถัดไปเช้าตื่นนอนเก็บของไปสนามบิน โฮสบ้านปีแรกของเรามีบ้านอยู่ 2 รัฐ คือ เพนซิลเวเนีย และ ฟลอริด้า
และจะไปๆมาๆทั้ง 2 หลังตลอดปี แต่บ้านหลักคือเพนซิลเวเนีย แต่วันที่เรามาถึงเค้าอยู่บ้านที่ฟลอริด้ากันค่ะ
เราเลยบินไปลง Orlando ฟลอริด้า แล้วโฮสมัมกับแด๊ดก็มารอรับที่สนามบิน ตอนก่อนเจอตื่นเต้นมาก
พอเจอเค้าก็เข้ามาช่วยถือของไปที่รถแล้วขับไปบ้านซึ่งไกลจากสนามบินชั่วโมงกว่า
พอถึงบ้านก็เจอเด็กๆอยู่กับยาย ยายมาดูน้องๆให้ช่วงที่โฮสมัมกับแด๊ดไปรับเราที่สนามบิน
เค้าก็แนะนำตัวกับเด็กๆซึ่งน้องๆยังพูดกันไม่ได้ แค่ยิ้มๆแล้วเดินวนไปวนมา
แล้วโฮสก็พาเอาของไปเก็บที่ห้องนอนเรา ห้องนอน ห้องน้ำของเราโฮสเตรียมไว้ให้น่ารักมากค่ะ
เป็นห้องที่มี 2 เตียง โฮสบอกชวนเพื่อนมาค้างได้
เดี๋ยวมาต่อนะคะ*
จากสาวแบงค์ สู่ชีวิตออแพร์ (Au Pair) 2 ปีในอเมริกา
เป็นช่วงเวลาประมาณ 3 เดือนสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นี่ก่อนย้ายกลับไทยค่ะ
โดยปีแรกเราอยู่กับโฮสบ้านแรกที่ รัฐเพนซิลเวเนีย (โฮสไปๆมาๆ 2 บ้านกับที่รัฐฟลอริด้า ซึ่งเราก็ต้องเดินทางไปๆมาๆกับเค้าด้วย)
เด็กแฝด 2 คน ชายหญิง โฮสทั้งคู่เป็นอเมริกัน
ปีที่ 2 เราย้ายมาอยู่กับโฮสบ้านที่ 2 ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ค่ะ
เด็ก 2 คน ชายหญิง โฮสมัมเป็นโคเรียน-อเมริกัน โฮสแด๊ดเป็นอิตาเลี่ยน-อเมริกัน
ก่อนอื่นขออธิบายก่อนนะคะว่าเรามาอยู่อเมริกาตั้งแต่พฤศจิกา 2015
มาด้วยโครงการ Au Pair ด้วยวีซ่านักเรียนแลกเปลี่ยน J-1
Au Pair คืออะไร?
เกริ่นคร่าวๆนะคะ ออแพร์ก็คือโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วยการเลี้ยงเด็ก (พี่เลี้ยงเด็กต่างแดน)
ที่สามารถทำงาน เรียน ท่องเที่ยวในอเมริกาตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโครงการ
โครงการนี้เป็นโครงการของกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา
ซึ่งทำให้เรามาอยู่อเมริกาอย่างถูกกฎหมาย
ขอไม่ลงลึกเกี่ยวกับรายละเอียดสำหรับโพสนี้นะคะ
โพสต์นี้ขอแชร์เป็นประสบการณ์ที่เรามาอยู่ก่อน
ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติมถามได้นะคะ
อันนี้คลิปเกี่ยวกับขั้นตอนก่อนมาเป็นออแพร์ของเราค่ะ
มีวีดีโอเกี่ยวกับออแพร์อื่นๆของเราเผื่อเพื่อนๆที่สนใจนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เริ่มจากเราทำงานธนาคารมาประมาณ 3 ปี ก็เริ่มนึกๆอยากเปลี่ยนแบงค์ หรือเปลี่ยนงานดูบ้าง
ระหว่างที่นึกก็มีโอกาสได้รู้จักคำว่า ออแพร์ จากรุ่นพี่ ว่าโครงการนี้น่าสนใจแล้วเราน่าจะชอบ เพราะชอบคลุกคลีกับเด็ก
เราก็เลยหาข้อมูลดูว่าคืออะไร รายละเอียดเป็นยังไง
และแน่นอนค่ะ มีคำถามจากคนรอบข้างมากมายว่า
"ทำงานแบงค์อยู่ดีๆจะไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเนี่ยนะ?"
"กลับมาจะหางานอะไรทำ?"
"มันจะคุ้มหรอ?"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากที่ไม่เคยมีความคิดอยากไปอยู่ต่างประเทศมาก่อน ก็เริ่มสนใจขึ้นมา
แล้วจากที่ดูค่าใช้จ่ายของโครงการนี้ถือว่าไม่เยอะมากสำหรับคนมีเงิน(น้อย)อย่างเรา
ก็เลยเริ่มต้นสมัครโครงการโดยไปสัมภาษณ์กับเอเจนซี่หนึ่งเตรียมเอกสารและเริ่มเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็ก
โดยไปเก็บชั่วโมงที่เนอสเซอรี่แถวนานา จนครบตามที่เค้ากำหนด
ก็สามารถออนไลน์ประวัติเพื่อหาโฮสแฟมิลี่(ครอบครัวอเมริกันที่เราจะไปอยู่กับเค้า)
จนออนไลน์มาได้ซักพักมีโฮสบ้านหนึ่งมาดูประวัติเรา แต่ก็ยังไม่มีการสัมภาษณ์ใดๆ
เราก็รอต่อไปจนคิดว่าทำไมไม่ค่อยมีโฮสเข้ามาเลย เลยปรึกษาพี่ๆทางเอเจนซี่
เค้าก็ให้คำตอบว่า วีดีโอน้องดูไม่น่าสนใจ ควรแก้ใหม่ เราก็ถามว่าควรทำอย่างไรให้น่าสนใจคะ
เค้าก็บอกว่า น้องต้องลองดูเองว่าทำยังไงถึงน่าสนใจดึงดูดโฮสได้
เราก็แบบ มองบน กับคำตอบ
คุณคือเอเจนซี่ ถ้าไม่ให้คำแนะนำเราจะมีไว้เพื่ออะไรน๊อ
ตอนนั้นรู้สึกว่าทำไม่มันยุ่งยากจัง ไม่อยากไปละ แต่มีเพื่อนแนะนำว่ามีเอเจนซี่นึงชื่อ Cultural Care พี่ๆแนะนำว่าดีนะลองไปดูมั้ย
เราก็ เออเอาวะ ลองอีกซักที่นึง
เราก็โทรไปสอบถามว่าขั้นตอนสมัครต้องทำอะไรยังไง จนสัมภาษณ์กับพี่ๆแล้วเริ่มออนไลน์หาโฮส
อาทิตย์แรกมีเข้ามาเลย ซึ่งเร็วมาก และมีเข้ามาเรื่อยๆจนมาถึงโฮสบ้านที่ 7
เราแมชกับบ้านนี้เพราะดูน่าจะเข้ากันได้ดี มีเด็ก 2 คน ฝาแฝดชายหญิงอายุ ขวบกว่า น่ารักมาก
กำหนดเดินทาง 15 พ.ย. 2015 แล้วนั่นก็คือวันเริ่มต้นของการใช้ชีวิตต่างแดนของเราค่ะ
ซึ่งโค้งสุดท้ายสำหรับเราพอดี ออแพร์อเมริกาจำกัดอายุที่ 26 ตอนนั้นเรา 26 แล้วเลยได้มาอย่างเฉียดฉิว
วันเดินทางตื่นเต้นมาก ปกติไปต่างประเทศก็แค่ไปเที่ยวแค่ทีละอาทิตย์ สองอาทิตย์ ไม่เคยไปอยู่นานขนาดนี้
พ่อ แม่ พี่ๆ แฟน มาส่งที่สนามบิน เราก็มาเจอเพื่อนๆออแพร์ผู้ร่วมเดินทางไฟล์ทเดียวกับเราอีก 4-5 คนค่ะ
ไม่มีการร้องไห้ใดๆทั้งนั้นตอนจากครอบครัวมา เพราะยังตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆที่จะต้องเจอ
เราเดินทางด้วยสายการบิน Jet Airways ของอินเดีย ต่อเครื่อง 2 ที่คือ มุมไบ อินเดีย และ บรัสเซล เบลเยี่ยม
เดินทางประมาณ 25-26 ชั่วโมง เรียกได้ว่ารากงอกเลยทีเดียว
ส่วนอาหารบนเครื่องทั้ง 4 มื้อหลัก เราแทบไม่ได้กินอะไรเลย กินเฉพาะโยเกิร์ตกับผลไม้ที่มีมาให้
จนกระทั่งมาถึงสนามบินที่นิวยอร์ก ก็มีรถจากศูนย์ฝึกอบรมของทาง Cultural Care มารับไปโรงเรียนอบรมออแพร์
แล้วนี่ก็คือมื้อแรกในอเมริกาของเราที่โรงเรียนค่ะ
เราต้องอยู่ที่ศูนย์นี้ 4 วัน ก็จะมีการอบรมเบื้องต้นเกี่ยวกับเด็ก, การทำ CPR, การใช้ชีวิตในอเมริกาสำหรับออแพร์
ห้องนอนที่เราได้มีรูมเมทอีก 2 คน มาจากMexico กับ South Africa ทั้งคู่น่ารักมาก เราก็แลกขนมจากประเทศตัวเองกัน
ก่อนแยกย้ายหลักอบรมวันสุดท้ายก็แลกเงินสกุลจากประเทศตัวเองกันพอเป็นพิธี เราก็ควักเลยค่ะ แบงค์ 20
แชะภาพกับเพื่อนๆออแพร์จากทั่วโลกในรอบที่อบรมพร้อมเราค่ะ
วันสุดท้ายก่อนออแพร์แต่ละคนจะแยกย้ายกันไปบ้านของโฮสจากทั่วอเมริกา เค้าก็จะมีพาทัวร์ Manhattan New York วันนึง
ซึ่งโฮสเราซื้อแพคเกจไว้ให้แล้วเป็นตั๋วขึ้นชมวิวนิวยอร์กจากตึก Rockefeller Center ถ้าคนไหนโฮสไม่ได้ซื้อแพคเกจก็สามารถซื้อเองได้
แต่ถ้าใครไม่อยากขึ้นไปชมก็เดินเล่นในเมืองเฉยๆได้ค่ะพอถึงเวลาก็ไปขึ้นรถกลับโรงเรียน
โฮสเราซื้อแพคเกจทัวร์พร้อมกระเป๋าสีชมพูบ้านเย็นไว้ให้ค่ะ
เราก็เข้าไปทัวร์นิวยอร์กซึ่งเป็นโอกาสที่เหมาะซะไม่มี ฝนตกหนักเลยจ้า
ก็เดินๆแวะดูตามจุดที่ละหน่อย แล้วเข้าไปในตึก Rockefeller Center เพื่อขึ้นไปชมวิว
ซึ่งแน่นอน มองไม่เห็นอะไรเลยค่ะนอกจากเมฆ เพราะฝนยังตกอยู่และเมฆเยอะมาก ถึงเวลาก็ขึ้นบัสกลับที่พัก
วันถัดไปเช้าตื่นนอนเก็บของไปสนามบิน โฮสบ้านปีแรกของเรามีบ้านอยู่ 2 รัฐ คือ เพนซิลเวเนีย และ ฟลอริด้า
และจะไปๆมาๆทั้ง 2 หลังตลอดปี แต่บ้านหลักคือเพนซิลเวเนีย แต่วันที่เรามาถึงเค้าอยู่บ้านที่ฟลอริด้ากันค่ะ
เราเลยบินไปลง Orlando ฟลอริด้า แล้วโฮสมัมกับแด๊ดก็มารอรับที่สนามบิน ตอนก่อนเจอตื่นเต้นมาก
พอเจอเค้าก็เข้ามาช่วยถือของไปที่รถแล้วขับไปบ้านซึ่งไกลจากสนามบินชั่วโมงกว่า
พอถึงบ้านก็เจอเด็กๆอยู่กับยาย ยายมาดูน้องๆให้ช่วงที่โฮสมัมกับแด๊ดไปรับเราที่สนามบิน
เค้าก็แนะนำตัวกับเด็กๆซึ่งน้องๆยังพูดกันไม่ได้ แค่ยิ้มๆแล้วเดินวนไปวนมา
แล้วโฮสก็พาเอาของไปเก็บที่ห้องนอนเรา ห้องนอน ห้องน้ำของเราโฮสเตรียมไว้ให้น่ารักมากค่ะ
เป็นห้องที่มี 2 เตียง โฮสบอกชวนเพื่อนมาค้างได้
เดี๋ยวมาต่อนะคะ*