สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
กระดูกเอียเล้ง คือ กระดูกสันหลัง "เล้ง"แปลว่ามังกร การชำแหละเอาเนื้อจึงเหลือแต่โครงกระดูก ส่วนกระดูกซี่โครงก็จะตัดเอาไปใช้ต่างหาก เช่น อบ ย่าง ทอด หรือตุ๋น ทำให้เหลือแต่กระดูกสันหลัง ยาวตั้งแต่คอยันโคนหาง รูปทรงคล้ายๆกระดูกของงูใหญ่หรือมังกร คนจีนจึงเรียกว่ากระดูกมังกรหรือกระดูกเอียเล้งนั่นเอง กระดูกส่วนนี้โดนเลาะเนื้อชิ้นเต็มๆออกหมดแล้วจะเหลือแค่ติดกระดูกบ้างเล็กน้อย เอาไปทำอย่างอื่นก็คงไม่ได้เนื้อ จึงเหลือเก็บไว้ทำน้ำซุป ซึ่งเป็นกระดูกส่วนที่ทำน้ำซุปได้อร่อยกลมกล่อมมาก เช่นเดียวกับกระดูกขา เพียงแต่กระดูกขาไม่เหลือเนื้อติดให้แทะเท่านั้น ต่างจากเอียเล้งที่ทำน้ำซุปต้มที่ต้องคอยแย่งกระดูกก้นหม้อกันเลยทีเดียว ข้อดีของกระดูกเอียเล้งมีหลายอย่าง แต่จะบอกแค่ 2 ข้อก็พอ ข้อแรก ราคาถูก สามารถหามาทำเมนูประหยัดได้หลายอย่าง ข้อสอง กินแล้วสวยขึ้นหล่อขึ้น อย่า..งง! เนื่องจากในไขกระดูกนั้นมันมีคอลาเจน ซึ่งทำให้หน้าใสเต่งตึง ชะลอความแก่ เป็นหนุ่มเป็นสาวอ่อนกว่าวัย สังเกตุง่ายๆคนจีนจะดูแก่ช้าและอายุยืน เพราะบริโภคน้ำซุปกระดูกทั้งชีวิต อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว สนใจอยากจะหน้าใสหน้าเด้งแล้วใช่มั้ย ไม่ยาก! ไปตลาดเลยครับ จัดมาสักโลกสองโล ต้มไฟเดือดแล้วหรี่ไฟให้อ่อนสักสองสามชั่วโมง(ชั่วโมงเดียวไขกระดูกยังไม่ออก..หน้ายังไม่เด้ง) หากใครมีหม้อแรงดันยิ่งดี 30-45 นาทีกระดูกอ่อนนุ่มเป็นปีโป้เลย สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน เอามาทำเมนูโปรดได้หลายเมนู เชิญอร่อยได้ตามชอบเลยครับ
กระดูกเอียเล้ง คือ กระดูกสันหลัง "เล้ง"แปลว่ามังกร การชำแหละเอาเนื้อจึงเหลือแต่โครงกระดูก ส่วนกระดูกซี่โครงก็จะตัดเอาไปใช้ต่างหาก เช่น อบ ย่าง ทอด หรือตุ๋น ทำให้เหลือแต่กระดูกสันหลัง ยาวตั้งแต่คอยันโคนหาง รูปทรงคล้ายๆกระดูกของงูใหญ่หรือมังกร คนจีนจึงเรียกว่ากระดูกมังกรหรือกระดูกเอียเล้งนั่นเอง กระดูกส่วนนี้โดนเลาะเนื้อชิ้นเต็มๆออกหมดแล้วจะเหลือแค่ติดกระดูกบ้างเล็กน้อย เอาไปทำอย่างอื่นก็คงไม่ได้เนื้อ จึงเหลือเก็บไว้ทำน้ำซุป ซึ่งเป็นกระดูกส่วนที่ทำน้ำซุปได้อร่อยกลมกล่อมมาก เช่นเดียวกับกระดูกขา เพียงแต่กระดูกขาไม่เหลือเนื้อติดให้แทะเท่านั้น ต่างจากเอียเล้งที่ทำน้ำซุปต้มที่ต้องคอยแย่งกระดูกก้นหม้อกันเลยทีเดียว ข้อดีของกระดูกเอียเล้งมีหลายอย่าง แต่จะบอกแค่ 2 ข้อก็พอ ข้อแรก ราคาถูก สามารถหามาทำเมนูประหยัดได้หลายอย่าง ข้อสอง กินแล้วสวยขึ้นหล่อขึ้น อย่า..งง! เนื่องจากในไขกระดูกนั้นมันมีคอลาเจน ซึ่งทำให้หน้าใสเต่งตึง ชะลอความแก่ เป็นหนุ่มเป็นสาวอ่อนกว่าวัย สังเกตุง่ายๆคนจีนจะดูแก่ช้าและอายุยืน เพราะบริโภคน้ำซุปกระดูกทั้งชีวิต อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว สนใจอยากจะหน้าใสหน้าเด้งแล้วใช่มั้ย ไม่ยาก! ไปตลาดเลยครับ จัดมาสักโลกสองโล ต้มไฟเดือดแล้วหรี่ไฟให้อ่อนสักสองสามชั่วโมง(ชั่วโมงเดียวไขกระดูกยังไม่ออก..หน้ายังไม่เด้ง) หากใครมีหม้อแรงดันยิ่งดี 30-45 นาทีกระดูกอ่อนนุ่มเป็นปีโป้เลย สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน เอามาทำเมนูโปรดได้หลายเมนู เชิญอร่อยได้ตามชอบเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมถึงต้องเรียกว่า "ต้มเล้ง" ใครรู้รบกวนบอกทีครับ
โดยที่สมัยก่อนผมก็เคยกิน เมนู ต้มยำซุปกระดูกหมู อยู่บ่อยๆ ไม่เคยจะได้ยินคำว่า ต้มเล้ง เลยแม้แต่ครั้งเดียว
จนมาวันดีคืนดีผมจำได้ว่ามีร้านอาหารร้านแรกๆ (ไม่รู้ชื่อเล้งรึป่าวจำไม่ได้) มาโฆษณาว่านี่นะ คือ ต้มเล้งงงง!!!
และแล้วบางสิ่งบางอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป.. ผมเริ่มสังเกตได้ว่า จู่ๆหลายๆร้านก็ผุดเมนูต้มยำซุปกระดูกหมู พร้อมเรียกมันว่า "ต้มเล้ง"
ไม่ว่าจะร้านอาหารข้างทาง หรือ ชาบูที่มีแฟรนไชส์หลายสาขา ยังมิวายมีเจ้า "ต้มเล้ง" กับเค้าด้วย
จากทั้งหมดนี้ผมอยากจะขอถามว่า ต้มเล้งร้านไหนอร่อยครับ ทุ้ยยย!! ไม่ใช่!!
อยากจะขอถามชาวพันทิพว่า
สรุปแล้วว่า เมนูนี้มันชื่อต้มเล้งอยู่แล้วแต่ผมดันไม่รู้ หรือ จริงๆมันเป็นไปตามที่ผมสังเกต หรือ!! จริงๆแล้วมีใครที่รู้ประวัติความเป็นมา รบกวนบอกหน่อยครับ