ต่อจากตอนที่แล้ว วันนี้ออกจากบูดาเปสต์ไปคราคอฟแล้วครับ
รีวิว ตอนที่ 1 - https://ppantip.com/topic/36779459
รีวิว ตอนที่ 2 - https://ppantip.com/topic/36782475
รีวิว ตอนที่ 3 - https://ppantip.com/topic/36784185
รีวิว ตอนที่ 4 - https://ppantip.com/topic/36789546
รีวิว ตอนที่ 5 - https://ppantip.com/topic/36795792
รีวิว ตอนที่ 6 - https://ppantip.com/topic/36799569
รีวิว ตอนที่ 7 - https://ppantip.com/topic/36812228
รีวิว ตอนที่ 8 - https://ppantip.com/topic/36830225

Budapest-Krakow-Vienna Day 4

เช้าวันนี้ผมไปเอารถออกจากที่จอดรถ เงิน HUF ที่แลกไว้เหลือไม่มากกะว่าจะใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าที่จอดรถ ปรากฎว่างานเข้าตรงนี้แหละ ผมเสียบบัตรจอดรถกับบัตรเครดิตที่เครื่องรับชำระเงิน เครื่องมันถามหา PIN number ซึ่งผมใช้บัตรเครดิตมาก็ไม่เคยจำ PIN เลย บ้านเราใช้วิธีเซ็นชื่อตลอด ดีที่เจ้าหน้าที่บอกให้ไปกดเงินที่ตู้ ATM ข้างบน ซึ่งกลับมาดูอัตราแลกเปลี่ยนก็ตก HUF ละ 13 สตางค์พอๆกับใช้เงินยูโรไปแลก ผมวนรถกลับมาที่หน้าอพาร์ทเม้น บรรจุกระเป๋ากลับไปตามเดิม แล้วก็ออกเดินทางไกลไปเมือง Krakow ผ่านประเทศ Slovakia ระยะทาง 400 กิโลเมตร ออกจากบูดาเปสต์ประมาณ 9 โมงเช้า ผมกะว่าจะไปถึง Krakow ประมาณบ่าย 3 ไม่เกิน 4 โมงเย็น

ที่จริงการเดินทางระหว่าง Vienna – Krakow – Budapest ผมได้ศึกษาหลายแนวทาง ผมพบว่ามีรถไฟ overnight จากเวียนนา ไปคราคอฟ โดยออกจากเวียนนาประมาณ 23.30 น. ไปถึงคราคอฟเช้าตรู่ ค่ารถไฟ 4 คนประมาณหนึ่งหมื่นบาทเศษ เป็นตู้นอน 4 ที่นอนพอดี กรณีนี้ดีตรงที่ประหยัดค่าโรงแรมได้ 1 คืนและประหยัดเวลาเดินทางได้ด้วย คือไปถึงมีเวลาเที่ยวเต็มๆวัน แต่พอผมจะหารถไฟกลับจากคราคอฟมาบูดาเปสต์มันไม่มีเส้นทางรถไฟ นอกจากจะต้องย้อนกลับมาเวียนนาเหมือนเดิม และต่อรถไฟอีกขบวนไปบูดาเปสต์ ระยะเวลาก็จะยาวเพราะอ้อม

อีกแบบคือนั่งรถบัสจากคราคอฟไปบูดาเปสต์ หรือกลับกันบูดาเปสต์ไปคราคอฟ ใช้เวลาเดินทาง 8-9 ชั่วโมง แต่เมื่อผมประมวลผลแล้วสุดท้ายก็เลือกแนวที่ถนัดคือเช่ารถเพราะกลัวว่ากระเป๋าเดินทางหลายใบมีเด็กด้วยจะขนย้ายกระเป๋าลำบาก อีกทางเลือกหนึ่งที่เจอคือรถรับส่งส่วนตัวพร้อมคนขับเลยครับ รถมารับจากโรงแรมขับไปส่งหน้าโรงแรมอีกเมืองหนึ่ง ค่ารถประมาณหมื่นกว่าบาท ถ้านั่ง 4 คนก็ไม่ต่างกับนั่งรถไฟมากนัก ส่วนเครื่องบินผมก็ลองเช็คดูแต่ปรากฏว่าไม่มีเที่ยวบินระหว่าง Krakow กับ Vienna และ Budapest เลย

ถนนเส้นที่เราใช้เรียกว่าทางหลวงหมายเลข E77 ซึ่งทางส่วนใหญ่ไม่ใช่มอเตอร์เวย์ บางช่วงเป็นถนน 2 เลนด้วยซ้ำ ผ่านป่า ขึ้นเขา ผ่านตัวเมือง ซึ่งใช้ความเร็วไม่ได้ ทุกครั้งที่ผ่านตัวเมืองจะต้องลดความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เวลาในการเดินทางมันก็เลยยืดออกไปเรื่อยๆ ก่อนออกพ้นพรมแดนฮังการี ผมแวะเติมน้ำมันเพื่อใช้เงิน HUF ให้หมด เงินที่เหลือก็ซื้อขนมในมินิมาร์ท จนมาถึงชายแดน Slovakia ก็ต้องแวะซื้อ Vignette ค่าใช้ทางด่วน ในราคา 10 Euro ใกล้กันนั้นก็มีร้านแลกเงิน ผมเอาเงินยูโรไปขอแลกเงิน Slovakia กะว่าควรมีเงินติดตัวไว้เล็กน้อยอย่างน้อยกินข้าวกลางวัน แต่คุยกันอยู่นานถึงรู้ว่าประเทศสโลวาเกีย เพิ่งเปลี่ยนมาใช้เงินยูโรไม่นานนี้เอง ผมก็เลยเอาเงินฮังการีที่เหลือเล็กน้อยแลกเป็นเงินยูโรให้หมดที่นี่

ริมถนนช่วงหนึ่งปลูกต้นทานตะวันกันทั้งเทือกเขา มองไปเป็นเทือกเขาสีเหลืองสด น่าจะเป็นแหล่งปลูกเพื่อป้อนวัตถุดิบให้อุตสาหกรรมน้ำมันทานตะวัน บางจุดก็ขับผ่านแม่น้ำเล็กๆ มีโบสถ์โบราณสร้างอยู่บนยอดเนินผาข้างแม่น้ำ มีแต่วิวสวยๆ เสียดายที่ไม่มีจะให้จอดถ่ายรูปก็เลยขับผ่านมาเรื่อยๆ ประมาณเที่ยงครึ่งเรามาถึงเมือง Zvolen เลี้ยวเข้าเมืองไปหามื้อกลางวันทาน เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ มีลานใจกลางเมืองขายไอศกรีม เบียร์ ซุปเปอร์มาเก็ต แต่ร้านอาหารจริงๆจังๆกลับไม่ค่อยมี เราได้ลอง Kebab กับพิซซ่า แล้วมานั่งทานใต้ร่มไม้ได้บรรยากาศดี คนท้องถิ่นที่นี่เดินผ่านไปผ่านมาก็มองคนเอเชียที่แปลกปลอมมา คงสงสัยว่ามาได้ยังไง ก็ทั้งเมืองมีหัวดำหน้าเอเชียอยู่แค่ 4 คนนี่แหละ

ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยมีแต่คลิปวีดีโอ ตอนที่โบสถ์กลางเมืองส่งเสียงเพลงบอกเวลา 13 นาฬิกาครับเพราะดี

อิ่มแล้วก็เดินทางต่อครับ ยังมีทางให้ขับรถอีกยาวไกล พอเข้าเขตโปแลนด์ ไม่ต้องซื้อ Vignette ขับผ่านไปได้เลย แล้วบ้านเมืองในชนบทของโปแลนด์มันสวยมากครับ จุดที่เราขับมาเป็นแนวเทือกเขาสลับซับซ้อน มองย้อนไปตามทางที่ขับมาเราขับข้ามเขามาหลายลูกมาก บ้านก็สีสันสดใสน่ารักดูสะอาดตา เป็นทิวทัศน์ในการขับรถที่ไมน่าเบื่อเลย