เราไปเที่ยวกับเพื่อน 2 คน(รวมเราด้วย)  ไป eva ลงที่เวียนนา,ออสเตรีย แล้วนั่งรถไฟไปบูดาเปสท์,ฮังการีตั้งแต่วันแรกเลย อยู่ฮังการี 4 วัน แล้วนั่งรถไฟกลับไปที่เวียนนา,ออสเตรีย อยู่ที่เวียนนา 2 วัน แล้ววันต่อมาก็นั่ง  eva กลับประเทศไทย

วันแรก เราถึงสนามบินเวียนนาตอน 8.30 โมงเช้า  เรานั่งรถไฟจากสนามบินเวียนนาไปสถานีรถไฟ Vienna HBF (สถานีรถไฟกลาง) เพื่อที่จะต่อรถไฟจาก Vienna HBF ไปที่ฮังการี (ลงที่สถานีรถไฟ Budapest, Kelenfold) ซึ่งเราจองจากกรุงเทพเพื่อขอวีซ่า เวลาเปลี่ยนประเทศต้องส่งตั๋วไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินหรือรถไฟ
ตอนอยู่ในสนามบินให้ออกไปตรงช่องออกตรง non declare/declare   แล้วจะมี sign รูปรถไฟก็เดินตามไป แล้วจะเห็นเครื่องขายตั๋วรถไฟ ให้ไปซื้อตั๋วที่เครื่อง ตอนแรกให้กดเลือกเป็นภาษาอังกฤษก่อนแล้วทำตาม instruction เราใช้บัตร Youtrip แตะที่เครื่องก็ซื้อได้เลยค่ะ

เรานั่งรถไฟจาก airport ถึงสถานีรถไฟ Vienna HBF ประมาณ 20 นาที  พอถึงสถานีรถไฟ Vienna HBF เวลาประมาณ 10.50  เราก็ได้สูดอากาศที่เวียนนา  อากาศสดชื่นค่ะ เย็น สบาย ใส่เสื้อหนาวบางๆยูนิโคลก็พอ ท้องฟ้าสว่างสดใส  เราไปฝากกระเป๋าไว้ที่ Locker ที่สถานี Vienna HBF แล้วออกไปที่เที่ยวที่เวียนนาก่อน  มันจะเป็นป้ายรูปกระเป๋าแล้วมีกุญแจ  ช่องล็อกเกอร์มีหลายขนาด ไม่มีเจ้าหน้าที่รับฝาก ต้องไปกดแล้วจ่ายเงินที่เครื่อง  เราก็ถามฝรั่งข้างๆให้เค้าช่วยเพราะงง 555 

แล้วเราก็นั่งรถไฟใต้ดินจากเวียนนา HBF ไปโบสถ์ St. Stephen's Cathedral ถึงโบสถ์ประมาณ 11.30 


ชักหิวเลยเดินไปซื้อไส้กรอกจากบูธแถวนั้น  อร่อยดีนะ ราดมัสตาร์ดกับซอสมะเขือเทศเยอะดี  บอกว่าไม่เอาขนมปัง คนขายก็ฟังไม่รู้เรื่อง ใส่มาให้อีก

กินเสร็จเดินเล่น  แถวนั้นสวยดี  เป็นแหล่งช้อปปิ้ง  ร้านหรู ทั้ง Omega Swatch Mango และอื่นๆ   ซักครู่ เราเดินไปกินช้อคโกแลตร้อนที่ภัตตาคาร  นั่งมองออกไปเห็นรูปปั้นม้าอยู่ฝั่งตรงข้าม  รูปปั้นเค้าเยอะมาก



ผลไม้มีบางอย่างไม่รู้จัก  ที่หน้าตาคล้ายๆพอนเดอริงสีเหลืองปนแดง  กับลูกสีส้มที่ไม่ใช่แอปปริคอท



ออกจากตรงนี้ประมาณบ่ายโมง  ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินกลับไปที่สถานีรถไฟ Vienna HBF แล้วต่อรถไฟ REGIOJET ไปฮังการี รถไฟออกตอน  14.34 ถึงสถานี Budapest, kelenfold 16.58

แล้วเราก็ขึ้นรถบัสไปโรงแรม Gold Hotel Budapest ซึ่งก่อนขึ้นรถบัส เราไปกดซื้อตั๋วรถบัสที่สถานีรถไฟ Vienna HBF โดยตั๋วที่นี่ง่ายมาก  ตั๋วนึงใช้กับรถบัส รถไฟฟ้าใต้ดิน รถ trolley รถ tram ได้  ไม่ต้องซื้อแยก
เราเลือกตั๋วแบบ Block of 10 tickets คือจะมีตั๋วอยู่ 10 ใบ  เวลาขึ้นรถบัสจะมีที่ให้เสียบ  เราก็พอเห็นป้ายรถบัสมีเขียนสายที่เราจะไปก็ดีใจ รีบขึ้นไป แต่มันผิดข้าง มันวิ่งไปคนละที่  เราเลยถามคน local ว่าต้องทำยังไง เค้าบอกให้ลงป้ายหน้า แล้วนั่งรถบัสอีกคัน  เราก็ทำตาม พอรถคันใหม่มาเราก็ถามคนขับว่าวิ่งไปสถานี sanc utca รึเปล่า  เค้าพยักหน้า  แล้วเราก็ไปถึงโรงแรมจนได้ ถึงประมาณ 18.20  ชักเหนื่อย หลับที่โรงแรมซักพัก

นี่โรงแรม Gold Hotel Budapest ที่เราพัก  จะอยู่ตรงเชิงเขา  มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆ  มีอาหารเช้าอยู่ในแพคเกจด้วยนะ  แต่รถไฟฟ้าใต้ดินไม่ถึงนะ  ต้องใช้รถบัส  ป้ายรถบัสเดินไปนิดเดียว ก็โอเคนะ  ตอนกลางคืนเงียบดี


แล้วขึ้นรถบัสไปกินข้าวที่ city center ตรงฝั่ง pest  ตรง city center แถว Ferenciek tere  ลงสะพานไปแป๊บนึงก็เจอร้านอาหารเยอะแยะ
บูดาเปสท์เป็นเมืองหลวงของฮังการี  มีแม่น้ำ danube ไหลผ่าน แบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง: ฝั่ง Buda กับ ฝั่ง Pest  เราพักฝั่ง Buda


เราไปกินอาหาร เป็นร้านนั่งข้างนอก สไตล์ผับบาร์  เห็นโต๊ะอื่นสั่งเบียร์มากินทุกโต๊ะ  ดูคนฮังการี ร่าเริง ชอบสังสรรค์ สั่งซีซาร์สลัดมากิน กับกุ้งเปรี้ยวๆกรอบๆ กับอีกจานจำไม่ได้ ก็อร่อยดีแต่ไม่แซ่บ กินเสร็จ ขึ้นรถบัสกลับบ้านซัก 21.30 ถึงโรงแรม 21.40  จบวันจ้า

วันที่ 2   วันนี้เราจะไปเที่ยวฝั่งเปสต์กัน  ตอนเช้าออกจากโรงแรมประมาณ 9 โมงเช้า นั่งรถบัส ไปลงสถานี Clark Adam ter เพื่อเดินข้ามสะพานเชน (chain bridge) ตัดผ่านแม่น้ำดานูบข้ามไปฝั่งเปสท์ 


เดินฝั่งเปสท์เลียบริมฝั่งแม่น้ำดานูบไปซักพัก ก็จะเจอ Shoes on the Danube Bank  รองเท้าบนฝั่งแม่น้ําดานูบเป็นอนุสรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อรําลึกถึงชาวยิวที่ถูกสังหารโดยกองกําลังฟาสซิสต์ฮังการีซึ่งเป็นของพรรค Arrow Cross ในบูดาเปสต์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวได้รับคําสั่งให้ถอดรองเท้าและถูกยิงที่ ริมน้ำเพื่อให้ร่างกายของพวกเขาตกลงไปในแม่น้ำและถูกขนไป รองเท้าที่มีคุณค่าในขณะนั้นถูกกองทหารขายหลังจากการสังหารหมู่ อนุสรณ์สถานแสดงถึงรองเท้าที่พวกเขาทิ้งไว้บนฝั่ง    reference: th.trip.com

เดินตรงไปซักครู่แล้วข้ามถนนไปรัฐสภา (Hungarian Parliament) วันนี้ดูแค่ข้างนอก วันใกล้กลับไปเวียนนาจะกลับเข้ามาดูข้างในรัฐสภาเพราะจองยากมากที่จะได้ audio ภาษาอังกฤษ 




ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะเดินครบรอบ เสร็จแล้วเดินไปโบสถ์ St.Stephen's Basilica ระหว่างทางจะมี square ที่มีสวน น้ำพุกับรูปปั้นประธานาธิบดีสหรัฐ   โรนัลด์ เรแกน  แถวนั้นจะมีธนาคารเราก็เอาเงิน euro ไปแลกเงิน HUF (Hungarian Forint) แลกไปซัก 50 euro เผื่อใช้ที่ที่เค้าไม่ให้ใช้ card  แต่หลักๆเราใช้ youtrip card


โบสถ์ St.Stephen's Basilica





นั่งอยู่ในโบสถ์เงียบๆซักพัก แล้วเดินออกมา ไป vaci street ถนนสาย shopping ที่ดังที่สุดของบูดาเปสท์ จุดเริ่มต้นที่ Vorosmarty square และหยุดที่ Central Market Hall  เราก็ไปเริ่มที่ Vorosmarty square แล้วด้านล่าง vorosmarty square จะมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เราก็ไปซื้อตั๋วแบบ 3 วัน (72 hr) เพราะตั๋วที่ซื้อมาไม่พอ  ที่ vaci street จะมีร้านเสื้อผ้า นาฬิกา ของที่ระลึก คาเฟ่ ภัตตาคาร ร้านขายไอศครีม ทั้งแถบ  ไอศครีมบางร้านเราเห็นเค้าขายโคนแบบใหญ่มากเรียกว่า chimney ไอศครีมที่ใส่เข้าไปก็เยอะมาก เลยไม่กิน เพราะกินไม่หมดแน่ๆ

รูป vorosmarty square



เดินไปซักพักก็กินขนมเค้กเล่นๆที่ vaci street  แล้วเดินจนสุดถึง Central Market Hall

ข้างในขายทั้งของสด ขนม ของแห้ง อาหาร souvenir ผลไม้  เราซื้อเชอรี่มากล่องนึง  คนขายมีทั้ง friendly และไม่ friendly 

พอช็อปปิ้งเสร็จ ก็ไปท่าเรือ purpleliner เพื่อนั่งเรือล่องแม่น้ำดานูบที่จองไว้กับ getyourguide.com ราคาถูกค่ะ หนุกดี ต้องไปตอนกลางคืนให้เห็นแสงไฟสวยๆ  ไปถึงไปกินข้าวแถวท่าเรือก่อนขึ้นเรือ
มื้อนี้เราลองกินอาหารพื้นเมืองฮังการี  กูลาซ กับ ไก่ปาปริก้า  กูลาซคือซุปเนื้อวัวที่สีแดงๆ  ไก่ปาปริก้าจะไม่มีพริกปาปริก้าอย่างที่คิด จะมีคล้ายๆมันเหนียวเป็น side dish  รสชาติจะเค็มๆ แต่ไม่เค็มมาก


เราขึ้นเรือตอนทุ่มนึง  ทุ่มนึงฟ้าก็ยังไม่ค่อยมืด จะสลัวนิดนึง  ไฟยังไม่เปิด  ความจริงต้องจองรอบสุดท้ายให้มืดชัวร์ๆไปเลย

ได้เวลาขึ้นเรือตอนทุ่มนึง ฝนตกก่อนขึ้นเรือซักพัก  เห็นสายรุ้ง






ใช้เวลาล่องเรือ 1 ชม.  ขึ้นมาบนฝั่ง  นั่งรอที่ฝั่งให้ท้องฟ้ามืด ไฟตามตึกเปิด


นั่งรถ tram ดูบรรยากาศเมือง แล้วเดินข้ามไปฝั่ง buda  จะเห็นชาวเมืองฮังการีนั่งตามราวสะพานกินเบียร์ คุยเล่นกันอยู่ 

นั่งรถบัสกลับโรงแรม  จบวันที่ 2

วันที่ 3 เที่ยวฝั่งบูดา (ฝั่งโรงแรมเราไม่ต้องข้ามฝั่งไปเที่ยว) ไฮไลท์ของวันนี้คือ museum 2 แห่ง เราจองจากเมืองไทย อันที่จริงเราว่าไม่ต้องจองก็ได้ คนไม่เยอะ มี 1. Budapesti Torteneti muzeum (castle museum) 2. National Gallery ทั้ง 2 อันอยู่ใน Buda Castle(พระราชวังบูดา) ซึ่งเราไปดูใน tripadvisor ฝรั่งบอกว่า National Gallery คือ the must   
เช้านี้ท้องฟ้าแจ่มใส  เราก็ออกมาแบบสบายๆ กินข้าวที่โรงแรมเสร็จก็นั่งรถเมล์มาถึงตีนเขาที่ Buda Castle ตั้งอยู่ ประมาณ 10 โมงเช้า  Buda Castle อยู่บนเขา -> อ่านต่อคอมเม้นด้านล่างค่ะ