สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 90
คืนนั้นทุกคนผ่านไปอย่างยากลำบากคะเพื่อเฝ้าเรา มันทำได้ไม่ง่ายเลยนะคะที่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ถัดออกไปจากประตูบ้าน คือสิ่งลี้ลับที่ใครหลายๆคนไม่อยากจะเจอ สรุปคืนนั้นคนอื่นก็เฝ้าเราต่อไป แต่ทุกคนจับกลุ่มกันอยู่กลางบ้านคะ เราอยู่ในห้อง คืนนั้นเราจำได้คะ ว่าเราฝัน เราฝันเห็นภาพเหตุการณ์นึงคะ
เราฝันว่า เราได้ไปที่หน้าบ้านหลังนึง ซึ่งเราไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เราเห็นผู้หญิงคนหนึง แน่นอนคะว่านั้นคือ "สายฝน" เธออยู่ในชุดที่สวมเสื้อสีฟ้าและกระโปรงทรงเอ ตามฉบับสาวออฟฟิตในหลายๆบริษัทเค้าแต่งกัน ตอนนั้นเราพยายามจะเดินเข้าไปคุย ตะโกนเรียกยังไง เหมือนเค้าไม่ได้ยินที่เราเรียก แต่ภาพเหตุการณ์ก็ดำเนินต่อไป ในตอนนั้นสายฝนเหมือนแต่งตัว พร้อมออกจากบ้านเพื่อไปทำงานคะ เธอเดินไปเปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งหวีผม อยู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซคันหนึ่งขับมาเทียบข้างกับรั้วบ้าน มีชายคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัยเดินเข้าไปที่รถของเธอ แล้วจ่อยิงเธอไปสองนัด จากนั้นเราก็หลุดออกมาจากฝันนั้นคะ รู้ตัวอีกทีก็เห็นทุกคนมายืนมุงดูเรา ร้องเรียกชื่อเราอยู่ข้างๆ
ติ๊กเล่าว่า ตอนที่ทุกคนอยู่กันกลางบ้าน เพื่อรอให้ฟ้าสว่างนั้น ทุกคนได้ยินเสียง ตุ๊บ !!! ดังมาจากในห้องคะ เค้าเปิดประตูเข้ามาดู ก็เห็นเราตกจากเตียงลงไปชักดิ้นชักงอ ตาเหลือกอยู่ที่พื้นห้องห้อง จนพ่อติ๊กต้องถอดพระจากคอมาคล้องคอเรา แล้วพยามเรียกเราให้เราได้สติ เราพอรู้สึกตัว ก็เล่าให้ทุกคนฟังคะ ว่าเห็นอะไรจากในฝัน ตอนนั้นเราไม่ร้องไห้เลยนะ แทบจะไม่กลัวเลย ความรู้สึกสงสารมันเข้ามาแทนที่ โดยที่ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้แค่รู้สึกว่าสงสารที่สายฝนตายนะ แต่มีเหตุผลบางอย่างที่สงสารเธอเอามากๆ เราก็ลุกขึ้นมาสวดมนต์คะ แผ่เมตราให้กับเธอ ในใจคราวนี้ เราตั้งใจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ในใจตอนนั้นรู้สึกว่างเปล่ามาก ไม่ฟุ้งซ่านเหมือนทุกครั้ง แล้วอยู่ๆหมาที่หอน ก็เงียบไป จนน่าแปลกใจคะ
พอฟ้าสว่าง เราทุกคนก็พากันอาบน้ำ แต่งตัว และพากันไปที่วัดคะ หลวงตาที่วัด ท่านก็รดน้ำมนต์ให้ พร้อมกับให้พร ท่านพูดกับเราว่า "มาช้าอีกแค่วันเดียว ก็ไม่น่ารอดละนะโยม ดีนะที่โยมบุญเก่ายังมาก " แล้วท่านก็พาพ่อติ๊ก เอารถไปจอดไว้ที่ใกล้ๆกุฏิท่านคะ
พวกเรากราบลาท่านแล้วก็พากันกลับไปที่บ้านติ๊กคะ เพื่อเตรียมของทำบายศรีสู่ขวัญสืบชะตาในวันพรุ่งนี้ ระหว่างนั้นเราก็โทรหาพี่ไก่คะ
เรา: พี่ไก่ ว่างปะพี่ มาหาหนูหน่อยสิ่พี่
พี่ไก่: มีไรป่าวแพม เสียงไม่ค่อยดีเลย
เรา: มาเถอะพี่ เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลย หนูไม่สะดวกคุยตอนนี้อะ เดี๋ยวหนูส่งโลเคชั่นให้นะพี่
พี่ไก่: อืมๆ ส่งมานะ พี่จะรีบไป
พอพี่ไก่มาถึง เราเล่าเรื่องทั้งหมด ย้ำว่าทั้งหมด ให้แกฟัง แกก็ขอโทษเรายกใหญ่ บอกตามตรงแทบจะกราบเราเลยละคะ เพราะแกเห็นเราสภาพตอนนี้ คือแย่มาก แกบอกแกไม่รู้จริงๆ แถมไม่เคยเจอ (เรามานั่งคิด จะเจอได้ไงว้า เอารถจอดไว้ที่หลังร้านแถมกลับไปนอนบ้านทุกวัน ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับรถเหมือนเรานิหว่า 55 คนอื่นเค้าโดนกันหมด ทำไมพี่ไก่ไม่โดนบ้างว้าาาาาาา)
เรา: พี่ไก่ พี่รู้ปะ ว่ามันมีอะไรในรถอะ
พี่ไก่: พี่ไม่รู้จิงๆวะแพม รถพี่ที่ร้านมีหลายคันมาก แต่ลูกค้าเก่าๆที่เคยเช่าคันนี้ไป ก็เคยบอกว่าเจอมา บางคนถึงกับจับไข้หัวโกร๋นเลยวะเค้าว่านะ แต่พี่เอามาไว้ที่ร้าน พี่ไม่เคยเจอไง พี่เลยคิดว่าเค้ากะจะอยากให้พี่ลดราคาให้ !!! พี่ขอโทษจริงวะแพมถ้าไม่ใช่แก พี่แทบไม่เชื่อเลยวะ แต่เดี๋ยวนะ แพมว่าเค้าชื่ออะไรนะ
เรา: สายฝนพี่
แล้วพี่ไก่ก็โทรหานพคะ ให้ค้นเอกสารเกี่ยวกับเจ้าของรถคันนี้ สรุปชื่อสายฝนจริงๆคะ พี่ไก่ถึงกับหน้าซีดไปเลยเพราะแกแน่ใจว่าเราไม่เคยเห็นเอกสารพวกนี้แน่ๆ จริงๆเราก็โกรธไอ่พี่ไก่นะ แต่คนมันไม่รู้ ก็ไม่รู้จะโกรธทำไม สงสัยเรากับสายฝนคงมีกรรมต่อกัน เลยต้องมาเจอกันแบบนี้
พี่ไก่ เรา ติ๊ก พ่อแม่ติ๊ก ก็ช่วยกันเตรียมงานที่จะทำกันพรุ้งนี้คะ แต่อยู่ๆพ่อแม่เราก็โทรมา คือที่แกโทรมาเพราะแกอยู่จังหวัดนึง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเข้าทรงสื่อกับวิณญาณมาก พ่อแม่เราเอา ว/เดือน/ปี เกิดของเราให้เค้าไป แม่โทรมาเล่าว่า ผญ ที่ตามเรามา อยู่ในรถคันนี้จริงๆ เค้าโกรธมากที่เรามาใช้ของๆเค้า หมอดูเค้าบอกว่า ไม่ใช่แค่เราหรอกที่เจอใครมายุ่งก็เจอหมดแหละ แต่ที่เราโดนหนักสุดคงเป็นเพราะเราดวงตกเอามากๆ + กับจิตที่อ่อนด้วย ดีนะที่ยังพอมีบุญ มีคนคอยช่วยเหลือ ไม่งั้นเราคงตายไปแล้ว หมอดูยังบอกอีกว่า ช่วยดวงวิณญาณนี้เถอะ เค้าทุกข์มานานแล้ว เค้าไปไหนไม่ได้เพราะญาติเค้าทำแค่พิธีทางศาสนาให้ เค้าไม่ได้ไปเชิญดวงวิณญาณที่วาระจิตเค้าผูกพันและตายที่รถนี้ ออกมาจากรถ
แม่เราร้องไห้หนักมากอะบอกกับเราว่าคืนวันก่อนแม่ฝันเห็นเราขับรถชนตาย แม่ก็ไม่คิดอะไรมาก เลยใส่บาตรให้เรา พอแม่มาเล่าให้ฟัง แม่บอกรถรุ่นนี้ สีนี้ ที่นี่.......ที่เห็นในฝัน คือแบบมันตรงมากอะ เพราะแม่ยังไม่เคยเห็นว่ารถที่เรามาใช้คือรถอะไรเลย แถมสถานที่ที่แม่บอก คือทางไปที่ทำงานเราเองคะ
วันนี้ตอนดึก พ่อแม่เรามาถึงดึกพอควรคะ จริงๆน่าจะถึงพรุ้งนี้เช้าอะ แต่แกคงเหยียบมาซะมิดเลยมั้ง ! เราทั้งหมดเลยพากันมาค้างที่บ้านติ๊กกันหมด รวมทั้งพี่ไก่ด้วย เพราะแกตั้งใจจะไปช่วยที่วัดพรุ้งนี้ด้วย เหมือนแกก็คงรู้สึกผิดกับเราแหละคะ
คืนนี้เราจุดธุปที่หน้าบ้านติ๊กคะ เราตั้งใจอทิฐาน บอกกับสายฝนว่า เราขอโทษเธอและบอกว่าพรุ้งนี้เราจะทำบุญให้ คืนนี้ขอให้เรานอนหลับฝันดีสักวันเถอะนะ พรุ้งนี้เราจะได้มีแรงไปวัด สรุปเรานอนหลับสบายดีทั้งคืนคะ และพากันไปวัด ไปทำพิธี พิธีก็ผ่านไปได้ด้วยดี
เรากับแม่เลยปรึกษากับหลวงตาว่า อยากจะทำพิธีเชิญดวงวิณญาณของเค้าออกจากรถ ควรจะทำอย่างไรดีคะ ? ซึ่งแน่นอนคะ พี่ไก่ต้องร่วมด้วยจริงๆก็ทุกคนแหละคะ เราต่างเห็นใจสายฝนกัน หลวงตาท่านบอกว่า เราต้องพาญาติของเธอมาด้วยนะ ซึ่งเรากับพี่ไก่และติ๊ก รับหน้าที่ไปหาญาติเธอเองคะ เพราะเราจะไปตามที่อยู่ ที่อยู่ในเอกสารที่เจ้าของรถคนเก่าก่อนจะโอนเป็นชื่อพี่ไก่ (คือพี่ไก่ไปรับรถคันนี้มาจากเต๊นอีกทีนึงคะ แต่วิธีการโอนรถเราก็ไม่รู้ขั้นตอนเหมือนกันนะ ไม่ได้ถามแกมาด้วยว่าตอนโอนใครมาเซ็นหรือมีวิธีการโอนยังไง บอกไว้ก่อนเผื่อมีใครถามเพราะเราตอบไม่ได้ 555) วันนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับคะ แถมเรากับติ๊กก็ลางานล่วงหน้าเรียบร้อยเพื่อจะไปตามเรื่องนี้ อยากทำให้จบเรื่องสักที เราก็มานอนบ้านติ๊กนะ พ่อแม่เราก็กลับบ้าน สาเหตุที่เราไม่กลับบ้าน เพราะเราต้องไปตามหาบ้านสายฝนคะ
อ่อ ! ลืมบอกไป รถยังอยู่ที่วัดนะคะ ไม่มีใครกล้าเอากลับไป 555 พี่ไก่จากที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็เชื่อ แกก็กลัวด้วยแหละ
วันรุ่งขึ้น เราตื่นขึ้นมา หน้าตาก็สดชื่นขึ้นแบบเห็นได้ชัด เพราะหลับสบายมากๆ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เรารอพี่ไก่มารับคะ เมื่อคืนแกไปทำการบ้านเรื่องเส้นทางมาแล้ว เรากับติ๊กก็สบายไป พอตอน 10โมงกว่า พี่ไก่ก็มาคะ เราก็พากันไปตามหาบ้าน หาไม่ยากอย่างที่คิด
เราจอดที่หน้าบ้านหลังนึงคะ เรารู้สึกกับบ้านคุ้นกับบ้านหลังนี้มาก อ่อ คิดได้ละ จากในฝันคืนก่อนนี่เอง พอเราไปถึงก็เรียกคนในบ้านอยู่ซะนานคะ จนมีลุงคนหนึ่งเดินออกมา แกถามเราว่ามาทำไม เราก็ถามแกคะว่านี่บ้านสายฝนรึปล่าวคะ? แกได้ยินก็รีบไล่พวกเราเลยคะ บอกว่าบ้านนี้ไม่มีคนชื่อนี้ เราเห็นท่าไม่ดี เลยตะโกนตามหลังลุงไปก่อนลุงจะเดินหนีคะ เราบอกไปว่า "ลุง เค้ามาหาหนูคะลุง " แกหยุกชะงักละหันแต่ตะโกนใส่หน้าเราว่า ฝนตายไปแล้วจะไปหายังไง!!! เราตอบแกกลับไป ก็มาแบบที่ไม่ใช่คนเป็นอะคะลุง แกหยุดคิดไปขณะนึง เลยเรียกพวกเราเข้าไปคุยในบ้านคะ เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้แกฟัง พร้อมกับบอกเหตุผลว่าทำไมต้องมาหาแก
ลุงแกร้องไห้ขึ้นมาคะ พร้อมกับเล่าว่า "ที่หนูฝัน มันจริงทุกอย่าง ฝนหนะมันรักรถคันนี้มาก ผูกพันกับรถคันนี้มาก เพราะเป้นเงินก้อนแรกที่มันหามาซื้อเอง แต่มันไม่น่าถูกคนเลวๆทำกับมันแบบนี้เลย " แกบอกว่า ไม่นานมานี้พึ่งจับตัวคนร้ายได้คะ นั้นคือเมียหลวงของแฟนฝน ที่เค้าจ้างคนมาฆ่าฝนเพราหึงหวง คือที่ลุงเค้าเล่ามา เค้าว่า ตัว ผช ไปหลอกว่าไม่มีเมีย แล้วเมียหลวงเป็นพวกหึงแรงมาก กว่าจะตามจับตัวได้ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน
ลุงแกยังบอกนะคะว่า ลุงหนะ ไม่เคยเจอฝนหรอก แต่ชาวบ้านแถวนี้ เค้าบอกว่าเห็นกันทุกคนละนะ แต่ที่ลุงตัดสินใจขายรถของฝน ไม่ใช่เพราะกลัวว่าใครจะบอกว่ามีฝนสิงอยู่ในรถคันนี้นะ แต่ที่ขายเพราะทนคิดถึงฝนไม่ได้จริงๆ เห็นทีไรก็คิดถึงทำใจไม่ไหว แต่ลุงก็ไม่ได้เชิญวิณญาณฝนออกจากรถจริงๆ เพราะตอนนั้นยุ่งเรื่องหาตัวคนร้ายแถมลุงยังไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ก็จะมาเชื่อก็ตอนเจอพวกเรานี่ละคะ แกแน่ใจว่าจริงเพราะเรากับฝนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แถมเรื่องที่ฝนตายนี้ก็ผ่านมาแล้วพอสมควร แกคิดว่าเราคงไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหรอก สรุปเรานัดคุณลุงไปที่วัดคะ เราทั้งหมดก็ทำพิธีส่งวิณญาณของฝนกัน ตามวันเวลาที่นัดกันไว้คะ อ่อ เรื่องรถ คุณลุงขอซื้อคืนจากพี่ไก่คะ แกคิดว่า อยากเก็บของที่ลูกสาวรักไว้ เป็นตัวแทนของฝน ตอนนี้แกทำใจได้บ้างแล้ว แกบอกว่า เห็นรถคันนี้ทีไรก็มองเห็นความสุขของฝนอยู่ในรถคันนี้เสมอ อ่อ หลังจากวันที่ทำบุญเสร็จ เราก็กลับมานอนที่หอพักคะ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเรื่องรถของฝนแล้ว ปล่อยให้พี่ไก่กับคุณลุงจัดการกันเอง ส่วนเราก็รบกวนติ๊กให้มาอยู่กับเราก่อน ระหว่างที่เรารอรถที่ซ่อมอยู่ ครั้งสุดท้ายที่เราเจอฝน ฝนมาเข้าฝันเราคะ มาขอบคุณเราที่เราทำให้เค้าได้พ้นทุกข์ จริงๆแล้วถ้าฝนมาหาเราดีดีแต่แรก ฝนก็สวยไม่เบาเลยนะ 555
สาเหตุนึงที่ฝนเฮี้ยนขนาดนี้ เราว่าคงจะเป็นเพราะการตายแบบไม่ธรรมชาติ เธอคงโกรธแค้น และหวงของที่เธอรัก สุดท้ายแล้ว ก็หลงเหลือไว้ ซึ่งความหลอน และความสุขใจ ที่ได้ทำให้ดวงวิณญาณดวงหนึ่งหลุดพ้น (ถึงจะเกือบตายก็เถอะนะ) 55555 สู่สุขตินะฝน ~
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านเยอะขนาดนี้ ขอบคุณและขอโทษที่ทำให้รอนะคะ ไว้มาอ่านเรื่องที่เราจะเล่าต่อกันอีกในกระทู้ใหม่ของเราด้วยนะคะ รอเราเครียงานเสร็จจะมาเล่าเรื่องที่เจอให้ฟังอีกนะคะ หลังจากเรื่องของฝน เราก็เหมือนกับคนที่ผ่านการเห็นผีมาแล้วเลยต้องก็พบเจออยู่บ่อยๆ แต่เรื่องต่อไปที่จะเอามาเล่าเล่าคือเหตุการที่เจอหลังเรื่องของฝน เป็นเรื่องที่เราเป็นการพบเจอวิณญาณที่เราคิดว่าหลอนสำหรับเรา ไม้ใช่แค่การเห็นผ่านตา ไว้ว่างจะรีบมาเล่านะคะ ขอบคุณอีกครั้งคะที่ติดตาม
เราฝันว่า เราได้ไปที่หน้าบ้านหลังนึง ซึ่งเราไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เราเห็นผู้หญิงคนหนึง แน่นอนคะว่านั้นคือ "สายฝน" เธออยู่ในชุดที่สวมเสื้อสีฟ้าและกระโปรงทรงเอ ตามฉบับสาวออฟฟิตในหลายๆบริษัทเค้าแต่งกัน ตอนนั้นเราพยายามจะเดินเข้าไปคุย ตะโกนเรียกยังไง เหมือนเค้าไม่ได้ยินที่เราเรียก แต่ภาพเหตุการณ์ก็ดำเนินต่อไป ในตอนนั้นสายฝนเหมือนแต่งตัว พร้อมออกจากบ้านเพื่อไปทำงานคะ เธอเดินไปเปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งหวีผม อยู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซคันหนึ่งขับมาเทียบข้างกับรั้วบ้าน มีชายคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัยเดินเข้าไปที่รถของเธอ แล้วจ่อยิงเธอไปสองนัด จากนั้นเราก็หลุดออกมาจากฝันนั้นคะ รู้ตัวอีกทีก็เห็นทุกคนมายืนมุงดูเรา ร้องเรียกชื่อเราอยู่ข้างๆ
ติ๊กเล่าว่า ตอนที่ทุกคนอยู่กันกลางบ้าน เพื่อรอให้ฟ้าสว่างนั้น ทุกคนได้ยินเสียง ตุ๊บ !!! ดังมาจากในห้องคะ เค้าเปิดประตูเข้ามาดู ก็เห็นเราตกจากเตียงลงไปชักดิ้นชักงอ ตาเหลือกอยู่ที่พื้นห้องห้อง จนพ่อติ๊กต้องถอดพระจากคอมาคล้องคอเรา แล้วพยามเรียกเราให้เราได้สติ เราพอรู้สึกตัว ก็เล่าให้ทุกคนฟังคะ ว่าเห็นอะไรจากในฝัน ตอนนั้นเราไม่ร้องไห้เลยนะ แทบจะไม่กลัวเลย ความรู้สึกสงสารมันเข้ามาแทนที่ โดยที่ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้แค่รู้สึกว่าสงสารที่สายฝนตายนะ แต่มีเหตุผลบางอย่างที่สงสารเธอเอามากๆ เราก็ลุกขึ้นมาสวดมนต์คะ แผ่เมตราให้กับเธอ ในใจคราวนี้ เราตั้งใจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ในใจตอนนั้นรู้สึกว่างเปล่ามาก ไม่ฟุ้งซ่านเหมือนทุกครั้ง แล้วอยู่ๆหมาที่หอน ก็เงียบไป จนน่าแปลกใจคะ
พอฟ้าสว่าง เราทุกคนก็พากันอาบน้ำ แต่งตัว และพากันไปที่วัดคะ หลวงตาที่วัด ท่านก็รดน้ำมนต์ให้ พร้อมกับให้พร ท่านพูดกับเราว่า "มาช้าอีกแค่วันเดียว ก็ไม่น่ารอดละนะโยม ดีนะที่โยมบุญเก่ายังมาก " แล้วท่านก็พาพ่อติ๊ก เอารถไปจอดไว้ที่ใกล้ๆกุฏิท่านคะ
พวกเรากราบลาท่านแล้วก็พากันกลับไปที่บ้านติ๊กคะ เพื่อเตรียมของทำบายศรีสู่ขวัญสืบชะตาในวันพรุ่งนี้ ระหว่างนั้นเราก็โทรหาพี่ไก่คะ
เรา: พี่ไก่ ว่างปะพี่ มาหาหนูหน่อยสิ่พี่
พี่ไก่: มีไรป่าวแพม เสียงไม่ค่อยดีเลย
เรา: มาเถอะพี่ เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลย หนูไม่สะดวกคุยตอนนี้อะ เดี๋ยวหนูส่งโลเคชั่นให้นะพี่
พี่ไก่: อืมๆ ส่งมานะ พี่จะรีบไป
พอพี่ไก่มาถึง เราเล่าเรื่องทั้งหมด ย้ำว่าทั้งหมด ให้แกฟัง แกก็ขอโทษเรายกใหญ่ บอกตามตรงแทบจะกราบเราเลยละคะ เพราะแกเห็นเราสภาพตอนนี้ คือแย่มาก แกบอกแกไม่รู้จริงๆ แถมไม่เคยเจอ (เรามานั่งคิด จะเจอได้ไงว้า เอารถจอดไว้ที่หลังร้านแถมกลับไปนอนบ้านทุกวัน ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับรถเหมือนเรานิหว่า 55 คนอื่นเค้าโดนกันหมด ทำไมพี่ไก่ไม่โดนบ้างว้าาาาาาา)
เรา: พี่ไก่ พี่รู้ปะ ว่ามันมีอะไรในรถอะ
พี่ไก่: พี่ไม่รู้จิงๆวะแพม รถพี่ที่ร้านมีหลายคันมาก แต่ลูกค้าเก่าๆที่เคยเช่าคันนี้ไป ก็เคยบอกว่าเจอมา บางคนถึงกับจับไข้หัวโกร๋นเลยวะเค้าว่านะ แต่พี่เอามาไว้ที่ร้าน พี่ไม่เคยเจอไง พี่เลยคิดว่าเค้ากะจะอยากให้พี่ลดราคาให้ !!! พี่ขอโทษจริงวะแพมถ้าไม่ใช่แก พี่แทบไม่เชื่อเลยวะ แต่เดี๋ยวนะ แพมว่าเค้าชื่ออะไรนะ
เรา: สายฝนพี่
แล้วพี่ไก่ก็โทรหานพคะ ให้ค้นเอกสารเกี่ยวกับเจ้าของรถคันนี้ สรุปชื่อสายฝนจริงๆคะ พี่ไก่ถึงกับหน้าซีดไปเลยเพราะแกแน่ใจว่าเราไม่เคยเห็นเอกสารพวกนี้แน่ๆ จริงๆเราก็โกรธไอ่พี่ไก่นะ แต่คนมันไม่รู้ ก็ไม่รู้จะโกรธทำไม สงสัยเรากับสายฝนคงมีกรรมต่อกัน เลยต้องมาเจอกันแบบนี้
พี่ไก่ เรา ติ๊ก พ่อแม่ติ๊ก ก็ช่วยกันเตรียมงานที่จะทำกันพรุ้งนี้คะ แต่อยู่ๆพ่อแม่เราก็โทรมา คือที่แกโทรมาเพราะแกอยู่จังหวัดนึง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเข้าทรงสื่อกับวิณญาณมาก พ่อแม่เราเอา ว/เดือน/ปี เกิดของเราให้เค้าไป แม่โทรมาเล่าว่า ผญ ที่ตามเรามา อยู่ในรถคันนี้จริงๆ เค้าโกรธมากที่เรามาใช้ของๆเค้า หมอดูเค้าบอกว่า ไม่ใช่แค่เราหรอกที่เจอใครมายุ่งก็เจอหมดแหละ แต่ที่เราโดนหนักสุดคงเป็นเพราะเราดวงตกเอามากๆ + กับจิตที่อ่อนด้วย ดีนะที่ยังพอมีบุญ มีคนคอยช่วยเหลือ ไม่งั้นเราคงตายไปแล้ว หมอดูยังบอกอีกว่า ช่วยดวงวิณญาณนี้เถอะ เค้าทุกข์มานานแล้ว เค้าไปไหนไม่ได้เพราะญาติเค้าทำแค่พิธีทางศาสนาให้ เค้าไม่ได้ไปเชิญดวงวิณญาณที่วาระจิตเค้าผูกพันและตายที่รถนี้ ออกมาจากรถ
แม่เราร้องไห้หนักมากอะบอกกับเราว่าคืนวันก่อนแม่ฝันเห็นเราขับรถชนตาย แม่ก็ไม่คิดอะไรมาก เลยใส่บาตรให้เรา พอแม่มาเล่าให้ฟัง แม่บอกรถรุ่นนี้ สีนี้ ที่นี่.......ที่เห็นในฝัน คือแบบมันตรงมากอะ เพราะแม่ยังไม่เคยเห็นว่ารถที่เรามาใช้คือรถอะไรเลย แถมสถานที่ที่แม่บอก คือทางไปที่ทำงานเราเองคะ
วันนี้ตอนดึก พ่อแม่เรามาถึงดึกพอควรคะ จริงๆน่าจะถึงพรุ้งนี้เช้าอะ แต่แกคงเหยียบมาซะมิดเลยมั้ง ! เราทั้งหมดเลยพากันมาค้างที่บ้านติ๊กกันหมด รวมทั้งพี่ไก่ด้วย เพราะแกตั้งใจจะไปช่วยที่วัดพรุ้งนี้ด้วย เหมือนแกก็คงรู้สึกผิดกับเราแหละคะ
คืนนี้เราจุดธุปที่หน้าบ้านติ๊กคะ เราตั้งใจอทิฐาน บอกกับสายฝนว่า เราขอโทษเธอและบอกว่าพรุ้งนี้เราจะทำบุญให้ คืนนี้ขอให้เรานอนหลับฝันดีสักวันเถอะนะ พรุ้งนี้เราจะได้มีแรงไปวัด สรุปเรานอนหลับสบายดีทั้งคืนคะ และพากันไปวัด ไปทำพิธี พิธีก็ผ่านไปได้ด้วยดี
เรากับแม่เลยปรึกษากับหลวงตาว่า อยากจะทำพิธีเชิญดวงวิณญาณของเค้าออกจากรถ ควรจะทำอย่างไรดีคะ ? ซึ่งแน่นอนคะ พี่ไก่ต้องร่วมด้วยจริงๆก็ทุกคนแหละคะ เราต่างเห็นใจสายฝนกัน หลวงตาท่านบอกว่า เราต้องพาญาติของเธอมาด้วยนะ ซึ่งเรากับพี่ไก่และติ๊ก รับหน้าที่ไปหาญาติเธอเองคะ เพราะเราจะไปตามที่อยู่ ที่อยู่ในเอกสารที่เจ้าของรถคนเก่าก่อนจะโอนเป็นชื่อพี่ไก่ (คือพี่ไก่ไปรับรถคันนี้มาจากเต๊นอีกทีนึงคะ แต่วิธีการโอนรถเราก็ไม่รู้ขั้นตอนเหมือนกันนะ ไม่ได้ถามแกมาด้วยว่าตอนโอนใครมาเซ็นหรือมีวิธีการโอนยังไง บอกไว้ก่อนเผื่อมีใครถามเพราะเราตอบไม่ได้ 555) วันนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับคะ แถมเรากับติ๊กก็ลางานล่วงหน้าเรียบร้อยเพื่อจะไปตามเรื่องนี้ อยากทำให้จบเรื่องสักที เราก็มานอนบ้านติ๊กนะ พ่อแม่เราก็กลับบ้าน สาเหตุที่เราไม่กลับบ้าน เพราะเราต้องไปตามหาบ้านสายฝนคะ
อ่อ ! ลืมบอกไป รถยังอยู่ที่วัดนะคะ ไม่มีใครกล้าเอากลับไป 555 พี่ไก่จากที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็เชื่อ แกก็กลัวด้วยแหละ
วันรุ่งขึ้น เราตื่นขึ้นมา หน้าตาก็สดชื่นขึ้นแบบเห็นได้ชัด เพราะหลับสบายมากๆ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เรารอพี่ไก่มารับคะ เมื่อคืนแกไปทำการบ้านเรื่องเส้นทางมาแล้ว เรากับติ๊กก็สบายไป พอตอน 10โมงกว่า พี่ไก่ก็มาคะ เราก็พากันไปตามหาบ้าน หาไม่ยากอย่างที่คิด
เราจอดที่หน้าบ้านหลังนึงคะ เรารู้สึกกับบ้านคุ้นกับบ้านหลังนี้มาก อ่อ คิดได้ละ จากในฝันคืนก่อนนี่เอง พอเราไปถึงก็เรียกคนในบ้านอยู่ซะนานคะ จนมีลุงคนหนึ่งเดินออกมา แกถามเราว่ามาทำไม เราก็ถามแกคะว่านี่บ้านสายฝนรึปล่าวคะ? แกได้ยินก็รีบไล่พวกเราเลยคะ บอกว่าบ้านนี้ไม่มีคนชื่อนี้ เราเห็นท่าไม่ดี เลยตะโกนตามหลังลุงไปก่อนลุงจะเดินหนีคะ เราบอกไปว่า "ลุง เค้ามาหาหนูคะลุง " แกหยุกชะงักละหันแต่ตะโกนใส่หน้าเราว่า ฝนตายไปแล้วจะไปหายังไง!!! เราตอบแกกลับไป ก็มาแบบที่ไม่ใช่คนเป็นอะคะลุง แกหยุดคิดไปขณะนึง เลยเรียกพวกเราเข้าไปคุยในบ้านคะ เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้แกฟัง พร้อมกับบอกเหตุผลว่าทำไมต้องมาหาแก
ลุงแกร้องไห้ขึ้นมาคะ พร้อมกับเล่าว่า "ที่หนูฝัน มันจริงทุกอย่าง ฝนหนะมันรักรถคันนี้มาก ผูกพันกับรถคันนี้มาก เพราะเป้นเงินก้อนแรกที่มันหามาซื้อเอง แต่มันไม่น่าถูกคนเลวๆทำกับมันแบบนี้เลย " แกบอกว่า ไม่นานมานี้พึ่งจับตัวคนร้ายได้คะ นั้นคือเมียหลวงของแฟนฝน ที่เค้าจ้างคนมาฆ่าฝนเพราหึงหวง คือที่ลุงเค้าเล่ามา เค้าว่า ตัว ผช ไปหลอกว่าไม่มีเมีย แล้วเมียหลวงเป็นพวกหึงแรงมาก กว่าจะตามจับตัวได้ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน
ลุงแกยังบอกนะคะว่า ลุงหนะ ไม่เคยเจอฝนหรอก แต่ชาวบ้านแถวนี้ เค้าบอกว่าเห็นกันทุกคนละนะ แต่ที่ลุงตัดสินใจขายรถของฝน ไม่ใช่เพราะกลัวว่าใครจะบอกว่ามีฝนสิงอยู่ในรถคันนี้นะ แต่ที่ขายเพราะทนคิดถึงฝนไม่ได้จริงๆ เห็นทีไรก็คิดถึงทำใจไม่ไหว แต่ลุงก็ไม่ได้เชิญวิณญาณฝนออกจากรถจริงๆ เพราะตอนนั้นยุ่งเรื่องหาตัวคนร้ายแถมลุงยังไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ก็จะมาเชื่อก็ตอนเจอพวกเรานี่ละคะ แกแน่ใจว่าจริงเพราะเรากับฝนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แถมเรื่องที่ฝนตายนี้ก็ผ่านมาแล้วพอสมควร แกคิดว่าเราคงไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหรอก สรุปเรานัดคุณลุงไปที่วัดคะ เราทั้งหมดก็ทำพิธีส่งวิณญาณของฝนกัน ตามวันเวลาที่นัดกันไว้คะ อ่อ เรื่องรถ คุณลุงขอซื้อคืนจากพี่ไก่คะ แกคิดว่า อยากเก็บของที่ลูกสาวรักไว้ เป็นตัวแทนของฝน ตอนนี้แกทำใจได้บ้างแล้ว แกบอกว่า เห็นรถคันนี้ทีไรก็มองเห็นความสุขของฝนอยู่ในรถคันนี้เสมอ อ่อ หลังจากวันที่ทำบุญเสร็จ เราก็กลับมานอนที่หอพักคะ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเรื่องรถของฝนแล้ว ปล่อยให้พี่ไก่กับคุณลุงจัดการกันเอง ส่วนเราก็รบกวนติ๊กให้มาอยู่กับเราก่อน ระหว่างที่เรารอรถที่ซ่อมอยู่ ครั้งสุดท้ายที่เราเจอฝน ฝนมาเข้าฝันเราคะ มาขอบคุณเราที่เราทำให้เค้าได้พ้นทุกข์ จริงๆแล้วถ้าฝนมาหาเราดีดีแต่แรก ฝนก็สวยไม่เบาเลยนะ 555
สาเหตุนึงที่ฝนเฮี้ยนขนาดนี้ เราว่าคงจะเป็นเพราะการตายแบบไม่ธรรมชาติ เธอคงโกรธแค้น และหวงของที่เธอรัก สุดท้ายแล้ว ก็หลงเหลือไว้ ซึ่งความหลอน และความสุขใจ ที่ได้ทำให้ดวงวิณญาณดวงหนึ่งหลุดพ้น (ถึงจะเกือบตายก็เถอะนะ) 55555 สู่สุขตินะฝน ~
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านเยอะขนาดนี้ ขอบคุณและขอโทษที่ทำให้รอนะคะ ไว้มาอ่านเรื่องที่เราจะเล่าต่อกันอีกในกระทู้ใหม่ของเราด้วยนะคะ รอเราเครียงานเสร็จจะมาเล่าเรื่องที่เจอให้ฟังอีกนะคะ หลังจากเรื่องของฝน เราก็เหมือนกับคนที่ผ่านการเห็นผีมาแล้วเลยต้องก็พบเจออยู่บ่อยๆ แต่เรื่องต่อไปที่จะเอามาเล่าเล่าคือเหตุการที่เจอหลังเรื่องของฝน เป็นเรื่องที่เราเป็นการพบเจอวิณญาณที่เราคิดว่าหลอนสำหรับเรา ไม้ใช่แค่การเห็นผ่านตา ไว้ว่างจะรีบมาเล่านะคะ ขอบคุณอีกครั้งคะที่ติดตาม
แสดงความคิดเห็น
ของแถมจากร้านเช่ารถ
เริ่มเลยละกันนะคะ เราเป็นคนค่อนข้างจะมีเซ้นท์คะเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราพบเจอมากับตัวเอง เราขอใช้ชื่อแทนตัวเองว่า แพม ละกันนะคะ
จุดเริ่มต้นของเรื่อง มันเกิดขึ้นตอนที่เราออกจากงานนี่ละคะ เราออกจากงานที่เราทำอยู่ เลยกะจะกลับมาพักผ่อนที่บ้านสักพัก เหมือนชีวิตตอนนั้นขาลงอะ เลิกกับแฟน จิตใจแย่มากจนไม่มีกะจิตกะใจทำงาน จนต้องออกจากงาน เราเลยตัดสินใจขนของกลับมาอยู่ที่บ้านคะ พอเรากลับมาอยู่ที่บ้านได้สักอาทิตย์นึง เราใช้ชีวิตเบื่อๆเปื่อยๆ ตามประสาคนอกหัก 555 แลดูฟุ้งซ่านเนอะ
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาแทบไม่ได้ออกจากบ้านเลยคะ จนมาวันนึงเราจะออกไปซื้อของที่ห้าง สรุปคือ รถสตาทไม่ติดคะ เลยเปิดฝากระโปรงรถดู ร้อง เชรี่ย! เลยอะ หนูมันมาทำรังในรถ มันกัดสายไฟรถเราขาด สรุปต้องเอารถไปส่งซ่อม ซึ่งยังไม่รู้กำหนดว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เราก็ซวยไป ขาลงจริงๆชีวิตช้านนนนน
ตั้งแต่เรากลับมาอยู่บ้านเราก็ติดต่อกับเพื่อนสนิทคนนึงคะ ชื่อติ๊ก ละกันนะ เรากับติ๊กสนิทกันมากตั้งแต่สมัยเรียนแล้วติ๊กรู้ทุกเรื่องในชีวิตเราเลยก็ว่าได้อะคะ ติ๊กมันรู้ว่าเราว่างงานอยู่
วันนึงติ๊กชวนเราไปช่วยงานป้าติ๊ก แต่ที่ทำงานมันไกลจากบ้านเราพอสมควรเพราะบ้านเราไม่ได้อยู่ในตัวเมือง งานที่ให้ไปช่วยคือดูแลรีสอทแห่งหนึ่งคะ ก็ทำกับติ๊กนั้นแหละเรามาคิดๆดูแล้วก็เลยตอบตกลงไปเพราะไม่อยากอยู่เฉยๆไปวันๆเงินคงหมดไปเรื่อยๆ อีกอย่างทำงานกับติ๊กคงสบายใจกว่าอยู่บ้าน จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
ต่อมา ติ๊กก้อพาเราไปหาหอพักอยู่คะ ถ้าถามว่าทำไมไม่อยู่กับติ๊ก ก็เพราะเราโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง 555 ชอบอยู่คนเดียวมากกว่า แต่ประเด็นคือตอนนี้เราไม่มีรถไปทำงานคะ เราก็ปรึกษากับติ๊กว่าจะเอาไงดี รถก็ไม่มีใช้ จะไปไหนมาไหนยังไงวะ รถเอาไปซ่อมคงอีกเป็นเดือนถึงจะได้
อยู่ๆเราก็คิดได้คะว่ามีพี่คนนึงที่รู้จักกัน ค่อนข้างจะสนิทก็ว่าได้ ก่อนเราไปทำงานที่ต่างจังหวัดเราก็ไปมาหาสู่พี่เค้าตลอด เอาเป็นว่าชื่อพี่ไก่ ละกันนะคะ พี่เค้าเปิดร้านรถเช่าค่ะ เราเลยคุยกะติ๊กว่า
>เรา: ตูไปเช่ารถร้านพี่ไก่มาใช้ก่อนดีปะวะ
>ติ๊ก: จะดีหรอวะ แพงแน่ๆเลย เค้าปล่อยเช่าวันเป็นพันเลยนะ ทำงานจะคุ้มค่าเช่ารถค่าเช่าห้องหรอ
>เรา:เออวะ แพงแน่เลยวะ แต่ตูว่าลองถามดูก่อนดีมะ พี่แกก็สนิทกะเรานะ เผื่อฟลุ๊กไง อาจได้ราคาถูกๆมา
>ติ๊ก: ถูกๆของมรุงเนี่ย มันก็หลายพันอยู่มั้ง
>เรา:เอาน่าถามดูก่อนน่า
คือเราขาดรถไม่ได้เลยคะ เราคิดว่ารถจำเป็นกับการใช้ชีวิตของเรามากๆ พอเราจัดการเรื่องห้อง ขนของเข้าห้องเสร็จ เรากับติ๊ก ก็รีบไปหาพี่ไก่ที่ร้านเลยคะ คุยกันไปกันมาตามประสาคนไม่เจอกันนาน เราก็เข้าเรื่องเลยค่ะ
>เรา: พี่ไก่ๆ หนูมีเรื่องจะมารบกวนอะพี่ พอดีรถหนูพังงะ กะจะมาเช่ารถร้านพี่ใช้สักเดือนอะพี่
>พี่ไก่: จะไหวหรอแพม พี่ปล่อยวันละพันนะ จะเช่าเดือนนึง ก็หลายหมื่นเลยนะ
>เรา: แหมพี่ไก่ ก็เพราะรู้ว่าร้านอื่นก็ราคาประมาณนี้ไง หนูเลยมาหาพี่อะ อยากขอราคาไม่แรง ไม่ต้องเอารถใหม่ก็ได้นะพี่ เอาแบบพอขับได้ก็ได้ ขอราคาไม่แรงนะ นะ พี่ ช่วยน้องหน่อย เราอ้อนอยู่นานเลยละคะ จนพี่ไก่ดูเหมือนลังเลแต่ก็ใจอ่อน
>พี่ไก่: อะ มีคันนึง พี่คิดแพม 6000 แต่ไปดูรถก่อน ว่าโอเคป่าว
พี่ไก่พาเรากับติ๊กไปดูรถคะเราก็โอเคนะ ไม่ได่เก่ามากนะเล่นแผ่น CD ได้ มีจอคล้ายๆทีวีแบบเอาไว้ดูแผ่นอะ 555เรียกไมถูก ฟังวิทยุได แอร์เย็น โอเคผ่าน แต่แปลกใจอยู่นะเพราะ 6000 ลดลงมาจาก30000 คิดในใจลดเยอะไปปะว้า แต่เอาเถอะตอนนั้นความงกเข้าสิงค่าไม่อยากถามเยอะเดี๋ยวเค้าไม่ให้เช่าเอา
เราก็รีบจัดการเรื่องสันยาเช่า พอเสร็จเรียบร้อยเราก็ขับรถกลับหอคะเราก็แยกย้ายกับติ๊ก คืนนี้คืนแรกอยู่ห้องใหม่เราก็ไหว้พระสวดมนต์ก่อนนอน อ่อลืมบอกไป อีก1อาทิตย์เราจะเริ่มงานคะเพราะอยากให้ชินกับที่อยู่ก่อน จริงๆก็อยากเที่ยวก่อนเริ่มงานอะเพราะไปทำงาน ตจว.มาตั้งนาน
เราอยู่มาได้3วันละเหตุการณ์ก็ปรกติดีนะ จนวันที่4นี่ละคะเริ่มไม่ปกติแล้ว คืนนี้เรากะติ๊กนัดกันไปปาตี้ค้ะเรานัดกันไว้4ทุ่ม เราก็รีบอาบน้ำ แต่งหน้าแต่งตัว
คืนนี้เป็นคืนที่ฝนตกหนักพอสมควรคะ เราออกจากห้องประมานสามทุ่มครึ่งขับออกมาได้สักพักติ๊กโทรมาค่ะเราเลยจอดรถคุยกะติ๊ก แต่อยู่ๆประตูรถก็ล็อคเองคะ ดัง แคร็ก ! เราก็หันไปดู คือไม่มีทางที่มือเราไปโดนแน่เพราะเราจับมือถือคุยกะเพื่อนอยู่ ทันใดนั้นเรารู้สึบเย็บวาบขึ้นมาทันทีขนหัวขนแขนลุก เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีค่ะ เลยบอกติ๊กว่าขอวางสายก่อนนะจะรีบไป
เราก็รีบออกรถคะแต่คิดว่าไม่มีไรหรอก แต่ประมาณ3 กม.ก่อนถึงร้านเราก็ขับรถมาเรื่อยๆอยู่ๆพวงมาลัยรถเกิดหักเข้าข้างทาง เหมือนมีคนมากระชากพวงมาลัยจากเรา เราร้องกรี้ดเลยคะ แต่ยังดีมีสติหักคืนมาได้ เรารีบจอดรถที่ข้างทางตอนนั้นนั่งสั่นงกๆเลยละแต่ตั้งสติสักพักก็รีบขับไปหาเพื่อนให้เรวที่สุดดีกว่า เราก็ปลอบใจตัวเองว่าที่มันเปนแบบนี้คงเป็นเพราะถนนลื่นมั้ง รถก็ไม่ได้ใหม่มากมันคงเป็นแบบนี้แหละ พอถึงร้านเราก็เล่าให้ติ๊กฟังคะ ติ๊กก็บอกเราว่าเราคิดมากเราก็ว่า อือ คงจิงแหละ !!
วันนั้นก็ดื่มไปนิดหน่อยพอกลึ่มคะ ร้านปิดประมาณตี2ก็แยกย้ายกันกลับ ขากลับเราก็ไม่คิดไรลืมๆไปละ พอกลับมาถึงห้องก็อาบน้ำเข้านอน แต่เรารู้สึกว่าคืนนี้เราหลับสนิทเลยอะชนิดว่าหลับลึกเลยละ อยู่ๆก็ตกใจกับเสียงๆนึง!!!!!
เราได้ยินเสียงเหมือนคนไอแห้งๆกึ่งๆเสียงสะอื้นในลำคอคอ เสียงมันเยือกเย็นลอยตามลมมา สลับกับเสียงฝนที่สาดใส่ประตูกระจกที่ระเบียง เราก็งัวเงียๆอะ ฝืนลืมตาขึ้นมาพยามมองไปที่ต้นเสียง แต่มันมืดมากเราก็พยามมองนะให้ตามันปรับแสงจากความมืดพอตาเริ่มปรับแสงได้ เราเห็นผู้หญิงคนนึงสภาพผมยุ่งรุงรัง ตาขาวโผลน ใส่เสื้อสีฟ้าเปื้อนๆ นั่งอยู่ปลายเตียงเรา นั่งโยกตัวไปมา
ตอนนั้นเราเหมือนสตั้นอะ อยู่ๆผู้หญิงคนนั้นก็หันมาสบตาเราแล้วก็ยิ้มให้ เราได้สติก็หลับตากรี้ดเลยคะดิ้นพลวดๆอยู่บนเตียง แล้วอยู่ๆก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาในเวลาตี4กว่าๆ เรารีบเอื้อมมือเปิดโคมไฟหัวนอน เฮ้ย!เมื่อกี้มันคือฝันหรอแต่มันเหมือนจริงมากอะ เราเลยลุกไปดูตรงผ้าห่มตรงที่เราเห็นผ็หญิงคนนั้นนั่งอยู่ สรุปเราเจออะไรรู้มะ ?
เราเจอเศษผมกระจุกนึง เราแน่ใจอะว่าไม่ใช่ผมเราเพราะมันคนละสีกับผมเราอะ เราเลยเอาทิดทู่ไปหยิบขึ้นมาดู รู้ปะผมกระจุกนึงไม่ใช่กระจุกใหญ่มากนะ แต่มันมีกลิ่นสาบๆอับๆอะกลิ่นมันลอยมาแตะจมูกเราเลยอะ เราเลยรีบวิ่งเอาไปทิ้งระเบียง
ตอนนั้นคิดอย่างแรกเลยว่าห้องนี้มีผีแน่ๆ เรานั่งรอจนเช้าคือนอนก็นอนไม่หลับละไง รอเช้าเรารีบไปหาเจ้าของหอเลยค่าไปถามตรงๆเลยจ่ะ เจ้าของหอก็บอกไม่มีแน่นอนห้องน้ันใครมาอยู่ก็ไม่เคยมีใครเจอนะ เราก็เลยขอย้ายห้องเลยค่ะเพื่อความสบายใจ ป้าเจ้าของหอก็โอเคให้เราย้ายหรือจริงๆเค้าอาจจะลำคานเราก็ได้ 55
เรารีบโทให้ติ๊กมาหาเลยคะ ดีนะวันนั้นเป็นวันเสาร์ ติ๊กเลยว่างมาช่วยย้ายของ เราเล่าให้ติ๊กฟังว่าเจออะไรมา ติ๊กเลยพาเราไปทำบุญหลังย้ายห้องเสร็จ เราก็พากันไปวัดแห่งหนึ่งใกล้ๆหอพัก ทำบุญเสร็จติ๊กก็พาเราไปดูดวงต่อ เค้าก็ทักนู้นนี่นั้นเรื่องงานเรื่องเงินงี้
แต่ก่อนกลับเค้าทิ้งท้ายไว้ว่า "ไปเอาอะไรมาละเค้าตามมานะระวังตัวไว้ให้ดีดีรีบๆเอาไปคืนซะ " เราก็บอกไปนะคะว่าหนูไม่ได้ไปเอาอะไรใครมานะคะ หมอดูเค้าก็บอกเราว่าเดี๋ยวก็รู้เองนะว่าเป็นอะไร
หลังจากนั้นเรากับติ๊กก็ออกจากสำนักหมอดูมาก็คุยกันว่าคืออะไรแต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าไปเอาไรมาว้า ตอนไปถามหมอดูก็ลืมถามเรื่องเมื่อคืนไปเลยมัวแต่ถามเรื่องความรักซะมากกว่า หึหึ! เราก็เลยตัดสินใจโทไปหาพ่อเรา พ่อก็แนะนำให้ห้อยพระแล้วสวดมนต์ก่อนนอนอย่าคิดมาก เราก็วางสายจากพ่อไป
วันนี้ติ๊กมานอนเป็นเพื่อนเราคะเพราะคงคิดว่าเราคงแปลกที่แปลกทางและคงจิตตกอยู่ ก่อนนอนเรากับติ๊กก็ไหว้พระสวดมนต์ตามที่พ่อบอก เราก็เข้านอนกันเราก็หลับปกติดีนะแต่ก็ต้องมาตกใจเสียงติ๊กกรี้ดคะ
เรารีบตื่นขึ้นมา ตอนนั้นประมาณตี3เราเห็นติ๊กเอามือปิดหน้าร้องไห้อยู่หน้าห้องน้ำ เราเดินไปเขย่าตัวติ๊กถามว่าเกิดไรขึ้นติ๊กก็ร้องไห้เรื่อยๆ เราก็ถามเป็นไรวะค่อยๆเล่าดิ พอสักพักติ๊กได้สติก็เริ่มเล่าคะว่าติ๊กตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉี่ พอฉี่เสร็จก็ออกห้องน้ำมากะจะกลับไปนอน ติ๊กดันเหลือบไปเห็น มีผญ นั่งอยู่ข้างเตียงตรงปลายเท้าของเราแล้วหัวเราะ ฮี่ๆ ใส่ติ๊กติ๊กเลยกรี้ดออกมา
ตอนนั้นพอติ๊กสงบลงเรากะติ๊กก็เปิดไฟคุยกันอยู่บนเตียง รู้สึกถึงความไม่ปกติที่เกิดขึ้นกัน เริ่มๆกลัวกันขึ้นมาแล้ว เดี๋ยวมาต่อนะคะ