สวัสดีครับทุกท่านชาวพันทิป กระทู้นี้ผมพยามตั้งสติและเขียนให้ดีที่สุดและจบในครั้งเดียว เพื่อเป็นสื่อไปหาใครคนนึง และอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกท่านครับ
ผมชื่อ นิด ครับ ปัจจุบันอายุ 37 ปี เป็นเกย์ครับ ผมใช้คำว่า ไม่มีครอบครัว เพราะผมตัดขาดจากทางบ้าน ทุกวันนี้ทะเบียนบ้านผมอยู่บ้านเพื่อนในกรุงเทพฯ เรียบร้อย ทำงานด้านการท่องเที่ยว เป็นพนักงานในบริษัทครับ ไม่เก่งภาษา ไม่ได้เป็นไกด์ แต่ก็ชอบเดินทางไปต่างประเทศ เพราะะผมคิดเสมอ "เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ เพราะถ้ารู้คุณจะไม่ไป" 555+ ทำไมเหรอครับ หลายครั้งที่ผมเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายเที่ยวในประเทศกับต่างประเทศแทบจะไม่ต่างกันเลย
น้อง คือนามสมมุติของอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ขอตั้งนามสมมุติของเค้าขึ้นครับ น้อง ชายหนุ่มผู้มีอายุน้อยกว่าผม 10 ปี กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท และว่างงาน
ผมมีความรักแต่ไม่ค่อยสมหวัง สิ่งที่ผมขอร้องจากอีกฝ่ายเสมคือ ถ้าต้องเลิกราขอให้จากกันด้วยดี แต่ความเป็นจริงถ้าคนเราดีต่อกันทำไมต้องเลิกกันจริงไหม ผมต้องการเพียงพื้นที่ระบายความรู้สึก และอยากมีเพื่อนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หวังว่าตัวอักษรที่เขียนไปนั้น จะส่งผ่านความรู้สึกนี้ออกไปได้ และจะดีมากถ้า น้องคนนั้น ได้เข้ามาอ่านและทราบถึงจุดประสงค์ที่ผมเขียน
14/09/2016 ผมได้เจอคนนึง สมมุตินามว่า "น้อง" เพื่อไม่ให้กระทบกับเค้า เรารู้จักกันผ่านคนอื่นโดยไม่ตั้งใจครับ วันที่เจอกัน เค้าบอกทันทีว่ามีแฟนแล้ว (น้อง สุง ขาว ตี๋ น่ารัก) แน่นอนเค้าควรมีคู่ครองอยู่แล้ว
วันที่เจอกันนั้น ออร่าจากตัวเค้านั้นทำให้ผมหลงในบุคลิกอันเป็นมิตรนั้นทันที ผมยอมรับว่าแอบมองสิ่งของเครื่องใช้ของเค้า ดูย้อนแย้งกับผิวขาวนวล ใส่แว่น กระเป๋าเป้นักเรียนเก่าและขาด นาฬิกาไร้ยี่ห้อ แต่เมื่ออยู่บนตัวเค้าไม่ได้ทำให้เค้าดูแย่ทุกอย่างดูลงตัวแม้จะขัดสายตาผมบ้าง ก่อนกลับผมแอบขอ ไลน์ เค้าไว้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดต่อไปเพราะไม่อยากเสียใจ สองวันผ่านไป น้อง ทักมาหา ผมงี้ใจเต้นมาก สิ่งแรกที่เค้าพูดคือไม่เห็นทักเค้าบ้าง ผมก็สารภาพไปตามจริงว่ากลัวการเสียใจ น้องหัวเราะ จากนั้นเราก็คุยกันเกือบทุกวัน ผมเลิกกับคนรักครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ไลน์ ยังไม่ค่อยนิยม แต่ช่วงเวลาที่ได้คุยกับ น้อง ทำให้ผมมีความสุขครับ เช้ามีคนทักทาย ค่ำมีคนบอกฝันดี เหมือนทำให้ตัวผมนั้นรู้สึกมีคุณค่าในตัวตนอีกครั้ง
สิ่งที่เราคุยและเข้ากันได้ดีคือ เรื่องเพลงสากล เรามักจะคุยกันว่า เพลงนี้เศร้าจัง เนื้อหาหมายถึงอะไร ทำไมถึงชอบนักร้องคนนี้
ตุลาคม 2016 จำได้ว่าเค้าสอบเสร็จ ผมให้กระเป๋าเป้ ใบนึง เค้าดูประหลาดใจ ผมบอกว่าสังเกตุเห็นใบเก่าขาดแล้ว โดย น้อง ก็ยอมรับว่าที่ใช้อยู่เป็นของปลอมและใช้มาหลายปีแล้ว จากนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเจอกัน
ธันวาคม 2016 ผมมีการเดินทางไป ญี่ปุ่น แน่นอนครับสินค้า Duty Fee เป็นของฝากให้กับเค้า ผมไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย เมื่อไหร่ที่ไปเดินดูสิ่งของต่างๆ ใบหน้าของเค้าที่ล่องลอยในสมองผมก็ผุดขึ้น แล้วสุดท้ายผมก็ซื้อของให้เค้า วันที่เดินทางคือวันที่ 08/12/2016 ปกติ น้อง เป็นคนนอนไว แต่วันนั้นยอมคุยกับผมจนกว่าผมขึ้นเครื่องตอน ตีหนึ่งกว่าๆ เมื่อผมกลับมา ผมจึงให้ นาฬิกา และ กระเป๋าตังค์ เพราะ น้องเคยบอกว่าจะเปลี่ยนของใช้ทุกปีใหม่เป็นการถือเคล็ด
ตลอดเวลาที่เจอกันนั้น มักเจอกันในช่วงเวลากลางคืน มานอนค้างที่ห้องผม โดยถ้าวันไหนผมยังไม่ได้ทานข้าว น้อง จะซื้อข้าวพร้อมขนมหวานหรือผลไม้ มาด้วย และบังคับผมทานให้หมด คำพูดที่พูดเสมอ "พี่นิด ตัวเล็กทานเยอะจะได้โตๆ และแข็งแรง" คุณเอ้ย! ประโยคสั้นๆ แต่เหมือนเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยล่อเลี้ยงหัวใจผมเลยล่ะครับ ดังนั้น จึงมีบ้างที่ผมต้องให้เงิน น้อง บ้างเพราะเค้าซื้ออาหารเข้ามา รวมถึงเป็นค่าเดินทางแต่ไม่ได้มากมายอะไร
และแล้ว! วันแห่งการจากลาก็มาถึง....
05/08/2017 น้อง ให้ผมไปรับที่คอนโด มานอนค้างด้วยกัน ผมนึกแปลกใจแต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้เดี๋ยวจะชวนทะเลาะกัน น้อง บอกว่าอาจหายไปสัก หกเดือน เพื่อตั้งใจทำ ธีสิส ให้จบตามกำหนด ผมบอกว่าก็ดีถ้าตั้งใจเพราะทุกวันนี้การเจอกันของเราก็ไม่ใช่เรื่องดีเนื่องจากเป็นการแอบพบเจอ แต่ก็ไม่อยากให้หายไปอยากเจอกันบ้าง นานๆ ครั้ง ประมาณ 2-3 เดือนเจอกันบ้างก็ยังดี (ก่อนหน้านี้เราเคยพูดเรื่องนี้กันแต่สุดท้ายก็ไม่เคยที่จะตัดขาด หายไปไม่นานก็กลับมาคุยกัน) เช้ามาเค้ากลับบ้านและขาดการติดต่อไปเลย
07/08/2017 มีสายโทรมาหาผม เป็นพี่สาวเค้า บอกว่าให้ผมเลิกติดต่อน้องเค้า ด้วยเหตุผลว่า ผมทำน้องเค้าเสียคน การเรียนบกพร่อง (ผมขออนุญาตไม่เอ่ยว่าเรื่องอะไร) ผมยอมรับว่าผมให้เงิน ให้สิ่งของกับเค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพียงเพื่ออยากเจอหน้ากันและคิดว่าถ้าผมไม่ให้ น้อง และสมมุติเค้าไปหาคนอื่นอาจเกิดเรื่องที่ไม่ดีกว่านี้ ผมคิดเพียงเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำร้ายเค้าเลย แต่ถ้าทางครอบครัวเค้ามองว่าผมเป็นคนผิด ผมยอมรับผมทั้งหมด ผมขอเจอหน้า น้อง ครั้งสุดท้ายแต่ถูกปฎิเสธ ผมเสียใจกับเหตุการณ์นั้น ผมไปคอนโดเค้าขึ้นไปถึงห้องเค้าเพื่อขอเอ่ยลา แต่หน้าผม เค้าก็ไม่มองและไล่ผมกลับแบบไม่มีเยื้อใยใดๆ ผมจึงนำสิ่งของที่ซื้อไว้และคิดว่าจะให้เค้าในช่วงนี้เดือนละชิ้นจนถึงสิ้นปีแบบปีก่อนๆ ฝากแม่และพี่เค้าไว้ โดยหวังว่าเค้าจะหยิบมาใช้และนึกถึงผมบ้าง
08/08/2017 ครบรอบวันเกิด น้อง แต่ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะอวยพร ไลน์ โทรศัพท์ โดนบล๊อกทุกช่องทาง sms ไอโฟนตั้งค่าการรบกวนได้ ซึงผมคิดว่าเค้าตั้งไว้เพราะไม่ขึ้นอ่านใดๆ (สรุป ติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง)
09/08/2017 ผมกระทำการคิดฆ่าตัวตายครับ ขณะที่ลงมือนั้นผมได้คุยกับคนรู้จักคนนึงในไลน์กลุ่ม คนนั้นพยายามบอกผมว่า อย่าทำ แต่ผมหาเหตุผลในการที่จะหายใจต่อไปบนโลกนี้ไม่ได้ ช่วงเวลานั้นผมปิดการติดต่อทุกช่องทาง เหลือหมายเลขนึงที่ไม่ค่อยได้ใช้ปกติใช้คุยกับ น้อง คนเดียว แต่คนในไลน์กลุ่มทักมา ขณะที่ผมกำลังใกล้ถึงจุดที่เรียกว่า การฆ่าตัวตาย
จ. : พี่นิด ไม่ร้ายตัวเองได้ไหมครับ พี่มีชีวิตอยู่ก่อน
นิด : พี่หาเหตุผลที่ควรจะหายใจต่อไปบนโลกนี้ไม่ได้ และในเมื่อเราไม่เคยเจอหน้ากันทำไมต้องห่วงพี่ด้วย
จ. : พี่จำได้ไหม พี่ไปเที่ยวภูเก็ต พี่ซื้อของฝากและยังส่งไปรษณีย์มาให้ผมทั้งที่เราไม่เคยเจอหน้ากัน ไม่เคยรู้จักกัน เพียงคุยกันผ่านอักษรเท่านั้น ใครจะว่า พี่ ไม่ดี แต่สำหรับผม พี่นิด เป็นคนดีครับ ถ้า พี่นิด หาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ไม่ได้ พี่ อยู่เพื่อเป็นพี่ชาย ผมได้ไหม พี่ไม่ควรตายตอนนี้ครับ
ความรู้สึกนั้น ผมมีแต่น้ำตาและเริ่มคิดหลายเรื่อง น่าแปลกไหมครับ คนที่ไม่รู้จักกันแต่กลับเป็นห่วงเราขนาดนี้ แต่อีกฝ่ายนึงที่ผมร้องขอเพียงแค่คำลา กลับไล่ผมเหมือนไม่มีคุณค่า ไม่เหลือความทรงจำที่ดี ผมเป็นเพียงก้อนกรวดในชีวิตเค้า ขณะที่เวลาที่ผมกำลังจะตาย คนที่ไม่เคยเสวนากลับพยายามรั้งให้ผมหายใจต่อ แน่นอนครับ เค้าทำสำเร็จผมจึงมาเขียนกระทู้ในวันนี้ได้
11 เดือน กับ 24 วัน ที่ นิด รู้จักกับ น้อง อยากบอกว่ามีความสุขมากครับ น้อง ชอบนาฬิกา แต่สิ่งที่ นิด ให้นั้นไม่เคยคิดว่านั่นคือนาฬิกา นิด คิดว่าให้ "เวลาทั้งชีวิต" ที่มีอยู่กับ น้อง ไปครับ
"So you can keep me Inside the pocket of your ripped jeans Holding me close untill our eyes meet You won't over be alone, wait for me to come home" photograph เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ น้อง ฮัมให้ได้ยินตอนอยู่ด้วยกัน และทุกวันนี้จะยังคงเสียงก้องในสมอง นิด ต่อไป น้อง จำวันที่บอก นิด ได้ไหมว่า ขอบคุณที่ให้คำปรึกษาและกำลังใจมาโดยตลอด นิด ยังคงอยู่ตรงนี้ที่เดิม และรอ น้องกลับมาเจอ มาปรึกษาครับ
** วันหยุด 12-14/08/2017 ผมหยิบหนังสือเล่มฮิตไปอ่านนั่นคือ "เซ็งเป็ด" ขออนุญาต หยิบบางประโยคมาใช้กับเรื่องราวของผม **
ตอนที่ 9 "กรูไม่อยากเจอหน้าเมิงเพื่อบอกลา" ผมคิดแบบเข้าข้างตัวเอง น้อง อาจรู้สึกว่าการพบเจอกันระหว่างผมและเค้าไม่ใช่สิ่งถูกต้อง และเราก็ตัดกันไม่ขาดสักที น้อง จึงเลือกวิธีการให้คนอื่นพูด และผลักไสไล่ส่งผม เพื่อให้จบ แต่เค้าจะรู้ไหมว่าการกระทำแบบนี้ น้อง สบายใจที่จบได้ง่าย แล้วความรู้สึกของ นิด ล่ะครับ ที่ค้างคาใจว่าทำอะไรผิด เราคุยกันดีๆ ช่วงเวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวัน นิด กลับไม่มีโอกาสเจอหน้า น้อง อีกต่อไป ทำไมถึงปล่อยให้อีกฝ่ายทรมานแบบนี้ (แต่ถ้าคิดอีกแง่เค้าอาจตั้งใจให้เป็นแบบนี้)
ตอนที่ 10 "กรูอยู่แห่งนึงบนโลก เมิงอยู่อีกแห่งนึงบนโลก แต่เราได้มาเจอกัน เมิงลองดูคนกี่คนที่เมิงเดินสวนกันตามสะพานลอย บนถนน ในตลาด เมิงก็ไม่ได้สนิทกับเขา แต่กรูกับเมิงก็ได้มาเจอกัน" นิด เคยพูดกับ น้อง ด้วยประโยคนี้หลายครั้ง นิด บอกเสมอว่าโลกกว้างมาก การที่คนสองคนได้มีโอกาสทำความรู้จักกันนั้นไม่เป็นเพียงความพิเศษ "แต่เป็นส่ิงวิเศษ" ดังนั้นเราควรรักษากันและกันไว้
ตอนที่ 15 "ทุกคนมีสิทธิ์รักแต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้ครอบครอง" ผมเชื่อในคำนี้ และผมบอก น้อง เสมอว่าขอเป็นเพียง หมามองเครื่องบิน เพราะเค้าอยู่สูงเกินผมจะเอื้อมถึง ขอเพียงได้รักผมก็สุขใจ แต่การจากโดยไม่ได้ร่ำลา ไม่ใช่วิธีการที่ดี ผมขอโอกาสนั้นได้ไหม
When I'm feeling blue น้อง เคยพูดถึงเพลงนี้ นิด ขอโทษครับ ไม่คิดว่านี่คือการบอกลาแบบเนิ่นๆ หนังสือเล่มนี้ นิด ขอคืนวันที่ไปบุกห้องโดยขอจากพี่สาวเค้า และบอกว่าที่ให้ไปเพราะอยากให้อ่านเรื่องดีๆในเล่ม แต่ถ้า นิด ไม่มีความหมายก็ขอคืนเพราะ น้อง บอกว่าไม่เคยหยิบมาอ่านเลย แต่วันนี้ นิด รู้แล้วว่า น้อง ได้อ่าน และตัดสินใจไม่คุยต่อ (ุถ้าไม่อ่านคงไม่เกริ่นเรื่องเพลง)
ในหนังสือ เซ็งเป็ด สุดท้าย อ้อย และ เป็ด ก็ยังได้คุยและเคลียร์ความรู้สึกที่มีในใจต่อกันโดย นิด ก็หวังว่าสักวันนึง น้อง จะกลับมาคุยกับ นิด แม้จะเป็นเพียงการบอกลา นิด ก็ยินดีครับ นิด อยากให้เรายุติทุกอย่างด้วยความรู้สึกที่ดี แต่ไม่ใช่การคาใจแบบนี้
Credit : หนังสือเซ็งเป็ด ที่อ่านแล้วก็ทำให้ นิด สับสนอยู่ในช่วงเวลานี้ แต่ก็ทำให้มีสติมากขึ้น และคิดว่าชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป โดยหวังว่าสักวันนึง น้อง จะหวนกลับมาบอกลาสั้นๆ เท่านั้นก็เพียงพอครับ
นิด ไม่โกรธ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น น้อง จะเป็นอะไร ยังไง สิ่งสำคัญคือ น้อง เป็น คนรัก ของนิด ครับ ชีวิตคนๆนึงดำเนินมาได้เกือบปีด้วยกำลังใจจาก น้อง รู้ไหมครับ 7 วันแล้วที่เราไม่ได้คุยกัน นิด ยังคงมีน้ำตาทุกวัน นิด เข้าใจความหมายคำว่า "สุขปนเศร้า" เป็นยังไง ทุกครั้งที่น้ำตาไหล ใจนึงก็คิดถึงแต่เรื่องราวดีๆ ที่ผ่านมา แต่อีกความรู้สึกนึงก็คาใจว่าทำไมไม่บอกลากัน เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ นิด ร้องขอกับ น้อง โดยเสมอว่าถ้าจะไม่คุยกันก็ให้ร่ำลาเพื่อจากกันด้วยดี
Fool เพลง ของ Troye Sivan คือเพลงสุดท้ายที่ นิด แนะนำ น้อง ฟัง น้อง บอกว่าฟังแล้วเศร้า ใช่ครับ นิด ก็รู้สึกเศร้า นิด อยากให้เรื่องที่ผ่านไปนั้นเป็นเรื่องโกหก และเราได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง หรืออีกนัยนึงอยากให้เราได้คุยกันต่อไปแม้ว่าจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม
Sun Comes Up ของ James Arthur นิด ยังหวังว่าจะได้เจอ น้อง เพื่อมาเป็นดวงอาทิตย์ส่องทางให้ชีวิต นิด อีกครั้ง
นิด ไม่ใช่ โนบิตะ จะได้ยืม ไทม์แมชชีน ของ โดเรม่อน เพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นได้ สิ่งที่หวังก็ทำได้เพียงภาวนาให้ น้อง กลับมาเอ่ยบอกลาเท่านั้นครับ
จุดเริ่มต้นของการเจอกันเป็นความ "หลง" แต่ตอนนี้ผมเชื่อใจตัวเองว่า "รัก" น้อง มากเพียงใด ผมแยกแยะออกระหว่างความหมายของคำที่แตกต่างกันนี้
ขอบคุณ น้อง จ. ตามบทสนทนา ณ วันที่ผมคิดจะทำร้ายตัวเอง จากคนในกลุ่มไลน์ 20 คน หลายคนอาจมองว่าผม ไม่แน่จริง
ไม่กล้าทำ แต่ จ. เลือกที่จะพยายามติดต่อหาผมเพราะรู้สึกได้ถึงความแน่วแน่ในการกระทำครั้งนั้น
เพื่อนๆ ในพันทิป คิดว่าผมควรทำยังไงต่อไป หรือมีความคิดเห็นเช่นไร พูดคุยกันครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น ผมอยากให้น้ำตาของผมนั้นหยุดไหลสักที
ขอบคุณที่ท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านครับ
"หลง รัก" ความรักบนเส้นขนานพร้อมความเจ็บปวด ผ่านบทเพลงแห่งความทรงจำ
ผมชื่อ นิด ครับ ปัจจุบันอายุ 37 ปี เป็นเกย์ครับ ผมใช้คำว่า ไม่มีครอบครัว เพราะผมตัดขาดจากทางบ้าน ทุกวันนี้ทะเบียนบ้านผมอยู่บ้านเพื่อนในกรุงเทพฯ เรียบร้อย ทำงานด้านการท่องเที่ยว เป็นพนักงานในบริษัทครับ ไม่เก่งภาษา ไม่ได้เป็นไกด์ แต่ก็ชอบเดินทางไปต่างประเทศ เพราะะผมคิดเสมอ "เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ เพราะถ้ารู้คุณจะไม่ไป" 555+ ทำไมเหรอครับ หลายครั้งที่ผมเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายเที่ยวในประเทศกับต่างประเทศแทบจะไม่ต่างกันเลย
น้อง คือนามสมมุติของอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ขอตั้งนามสมมุติของเค้าขึ้นครับ น้อง ชายหนุ่มผู้มีอายุน้อยกว่าผม 10 ปี กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท และว่างงาน
ผมมีความรักแต่ไม่ค่อยสมหวัง สิ่งที่ผมขอร้องจากอีกฝ่ายเสมคือ ถ้าต้องเลิกราขอให้จากกันด้วยดี แต่ความเป็นจริงถ้าคนเราดีต่อกันทำไมต้องเลิกกันจริงไหม ผมต้องการเพียงพื้นที่ระบายความรู้สึก และอยากมีเพื่อนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หวังว่าตัวอักษรที่เขียนไปนั้น จะส่งผ่านความรู้สึกนี้ออกไปได้ และจะดีมากถ้า น้องคนนั้น ได้เข้ามาอ่านและทราบถึงจุดประสงค์ที่ผมเขียน
14/09/2016 ผมได้เจอคนนึง สมมุตินามว่า "น้อง" เพื่อไม่ให้กระทบกับเค้า เรารู้จักกันผ่านคนอื่นโดยไม่ตั้งใจครับ วันที่เจอกัน เค้าบอกทันทีว่ามีแฟนแล้ว (น้อง สุง ขาว ตี๋ น่ารัก) แน่นอนเค้าควรมีคู่ครองอยู่แล้ว
วันที่เจอกันนั้น ออร่าจากตัวเค้านั้นทำให้ผมหลงในบุคลิกอันเป็นมิตรนั้นทันที ผมยอมรับว่าแอบมองสิ่งของเครื่องใช้ของเค้า ดูย้อนแย้งกับผิวขาวนวล ใส่แว่น กระเป๋าเป้นักเรียนเก่าและขาด นาฬิกาไร้ยี่ห้อ แต่เมื่ออยู่บนตัวเค้าไม่ได้ทำให้เค้าดูแย่ทุกอย่างดูลงตัวแม้จะขัดสายตาผมบ้าง ก่อนกลับผมแอบขอ ไลน์ เค้าไว้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดต่อไปเพราะไม่อยากเสียใจ สองวันผ่านไป น้อง ทักมาหา ผมงี้ใจเต้นมาก สิ่งแรกที่เค้าพูดคือไม่เห็นทักเค้าบ้าง ผมก็สารภาพไปตามจริงว่ากลัวการเสียใจ น้องหัวเราะ จากนั้นเราก็คุยกันเกือบทุกวัน ผมเลิกกับคนรักครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ไลน์ ยังไม่ค่อยนิยม แต่ช่วงเวลาที่ได้คุยกับ น้อง ทำให้ผมมีความสุขครับ เช้ามีคนทักทาย ค่ำมีคนบอกฝันดี เหมือนทำให้ตัวผมนั้นรู้สึกมีคุณค่าในตัวตนอีกครั้ง
สิ่งที่เราคุยและเข้ากันได้ดีคือ เรื่องเพลงสากล เรามักจะคุยกันว่า เพลงนี้เศร้าจัง เนื้อหาหมายถึงอะไร ทำไมถึงชอบนักร้องคนนี้
ตุลาคม 2016 จำได้ว่าเค้าสอบเสร็จ ผมให้กระเป๋าเป้ ใบนึง เค้าดูประหลาดใจ ผมบอกว่าสังเกตุเห็นใบเก่าขาดแล้ว โดย น้อง ก็ยอมรับว่าที่ใช้อยู่เป็นของปลอมและใช้มาหลายปีแล้ว จากนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเจอกัน
ธันวาคม 2016 ผมมีการเดินทางไป ญี่ปุ่น แน่นอนครับสินค้า Duty Fee เป็นของฝากให้กับเค้า ผมไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย เมื่อไหร่ที่ไปเดินดูสิ่งของต่างๆ ใบหน้าของเค้าที่ล่องลอยในสมองผมก็ผุดขึ้น แล้วสุดท้ายผมก็ซื้อของให้เค้า วันที่เดินทางคือวันที่ 08/12/2016 ปกติ น้อง เป็นคนนอนไว แต่วันนั้นยอมคุยกับผมจนกว่าผมขึ้นเครื่องตอน ตีหนึ่งกว่าๆ เมื่อผมกลับมา ผมจึงให้ นาฬิกา และ กระเป๋าตังค์ เพราะ น้องเคยบอกว่าจะเปลี่ยนของใช้ทุกปีใหม่เป็นการถือเคล็ด
ตลอดเวลาที่เจอกันนั้น มักเจอกันในช่วงเวลากลางคืน มานอนค้างที่ห้องผม โดยถ้าวันไหนผมยังไม่ได้ทานข้าว น้อง จะซื้อข้าวพร้อมขนมหวานหรือผลไม้ มาด้วย และบังคับผมทานให้หมด คำพูดที่พูดเสมอ "พี่นิด ตัวเล็กทานเยอะจะได้โตๆ และแข็งแรง" คุณเอ้ย! ประโยคสั้นๆ แต่เหมือนเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยล่อเลี้ยงหัวใจผมเลยล่ะครับ ดังนั้น จึงมีบ้างที่ผมต้องให้เงิน น้อง บ้างเพราะเค้าซื้ออาหารเข้ามา รวมถึงเป็นค่าเดินทางแต่ไม่ได้มากมายอะไร
และแล้ว! วันแห่งการจากลาก็มาถึง....
05/08/2017 น้อง ให้ผมไปรับที่คอนโด มานอนค้างด้วยกัน ผมนึกแปลกใจแต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้เดี๋ยวจะชวนทะเลาะกัน น้อง บอกว่าอาจหายไปสัก หกเดือน เพื่อตั้งใจทำ ธีสิส ให้จบตามกำหนด ผมบอกว่าก็ดีถ้าตั้งใจเพราะทุกวันนี้การเจอกันของเราก็ไม่ใช่เรื่องดีเนื่องจากเป็นการแอบพบเจอ แต่ก็ไม่อยากให้หายไปอยากเจอกันบ้าง นานๆ ครั้ง ประมาณ 2-3 เดือนเจอกันบ้างก็ยังดี (ก่อนหน้านี้เราเคยพูดเรื่องนี้กันแต่สุดท้ายก็ไม่เคยที่จะตัดขาด หายไปไม่นานก็กลับมาคุยกัน) เช้ามาเค้ากลับบ้านและขาดการติดต่อไปเลย
07/08/2017 มีสายโทรมาหาผม เป็นพี่สาวเค้า บอกว่าให้ผมเลิกติดต่อน้องเค้า ด้วยเหตุผลว่า ผมทำน้องเค้าเสียคน การเรียนบกพร่อง (ผมขออนุญาตไม่เอ่ยว่าเรื่องอะไร) ผมยอมรับว่าผมให้เงิน ให้สิ่งของกับเค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพียงเพื่ออยากเจอหน้ากันและคิดว่าถ้าผมไม่ให้ น้อง และสมมุติเค้าไปหาคนอื่นอาจเกิดเรื่องที่ไม่ดีกว่านี้ ผมคิดเพียงเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำร้ายเค้าเลย แต่ถ้าทางครอบครัวเค้ามองว่าผมเป็นคนผิด ผมยอมรับผมทั้งหมด ผมขอเจอหน้า น้อง ครั้งสุดท้ายแต่ถูกปฎิเสธ ผมเสียใจกับเหตุการณ์นั้น ผมไปคอนโดเค้าขึ้นไปถึงห้องเค้าเพื่อขอเอ่ยลา แต่หน้าผม เค้าก็ไม่มองและไล่ผมกลับแบบไม่มีเยื้อใยใดๆ ผมจึงนำสิ่งของที่ซื้อไว้และคิดว่าจะให้เค้าในช่วงนี้เดือนละชิ้นจนถึงสิ้นปีแบบปีก่อนๆ ฝากแม่และพี่เค้าไว้ โดยหวังว่าเค้าจะหยิบมาใช้และนึกถึงผมบ้าง
08/08/2017 ครบรอบวันเกิด น้อง แต่ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะอวยพร ไลน์ โทรศัพท์ โดนบล๊อกทุกช่องทาง sms ไอโฟนตั้งค่าการรบกวนได้ ซึงผมคิดว่าเค้าตั้งไว้เพราะไม่ขึ้นอ่านใดๆ (สรุป ติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง)
09/08/2017 ผมกระทำการคิดฆ่าตัวตายครับ ขณะที่ลงมือนั้นผมได้คุยกับคนรู้จักคนนึงในไลน์กลุ่ม คนนั้นพยายามบอกผมว่า อย่าทำ แต่ผมหาเหตุผลในการที่จะหายใจต่อไปบนโลกนี้ไม่ได้ ช่วงเวลานั้นผมปิดการติดต่อทุกช่องทาง เหลือหมายเลขนึงที่ไม่ค่อยได้ใช้ปกติใช้คุยกับ น้อง คนเดียว แต่คนในไลน์กลุ่มทักมา ขณะที่ผมกำลังใกล้ถึงจุดที่เรียกว่า การฆ่าตัวตาย
จ. : พี่นิด ไม่ร้ายตัวเองได้ไหมครับ พี่มีชีวิตอยู่ก่อน
นิด : พี่หาเหตุผลที่ควรจะหายใจต่อไปบนโลกนี้ไม่ได้ และในเมื่อเราไม่เคยเจอหน้ากันทำไมต้องห่วงพี่ด้วย
จ. : พี่จำได้ไหม พี่ไปเที่ยวภูเก็ต พี่ซื้อของฝากและยังส่งไปรษณีย์มาให้ผมทั้งที่เราไม่เคยเจอหน้ากัน ไม่เคยรู้จักกัน เพียงคุยกันผ่านอักษรเท่านั้น ใครจะว่า พี่ ไม่ดี แต่สำหรับผม พี่นิด เป็นคนดีครับ ถ้า พี่นิด หาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ไม่ได้ พี่ อยู่เพื่อเป็นพี่ชาย ผมได้ไหม พี่ไม่ควรตายตอนนี้ครับ
ความรู้สึกนั้น ผมมีแต่น้ำตาและเริ่มคิดหลายเรื่อง น่าแปลกไหมครับ คนที่ไม่รู้จักกันแต่กลับเป็นห่วงเราขนาดนี้ แต่อีกฝ่ายนึงที่ผมร้องขอเพียงแค่คำลา กลับไล่ผมเหมือนไม่มีคุณค่า ไม่เหลือความทรงจำที่ดี ผมเป็นเพียงก้อนกรวดในชีวิตเค้า ขณะที่เวลาที่ผมกำลังจะตาย คนที่ไม่เคยเสวนากลับพยายามรั้งให้ผมหายใจต่อ แน่นอนครับ เค้าทำสำเร็จผมจึงมาเขียนกระทู้ในวันนี้ได้
11 เดือน กับ 24 วัน ที่ นิด รู้จักกับ น้อง อยากบอกว่ามีความสุขมากครับ น้อง ชอบนาฬิกา แต่สิ่งที่ นิด ให้นั้นไม่เคยคิดว่านั่นคือนาฬิกา นิด คิดว่าให้ "เวลาทั้งชีวิต" ที่มีอยู่กับ น้อง ไปครับ
"So you can keep me Inside the pocket of your ripped jeans Holding me close untill our eyes meet You won't over be alone, wait for me to come home" photograph เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ น้อง ฮัมให้ได้ยินตอนอยู่ด้วยกัน และทุกวันนี้จะยังคงเสียงก้องในสมอง นิด ต่อไป น้อง จำวันที่บอก นิด ได้ไหมว่า ขอบคุณที่ให้คำปรึกษาและกำลังใจมาโดยตลอด นิด ยังคงอยู่ตรงนี้ที่เดิม และรอ น้องกลับมาเจอ มาปรึกษาครับ
** วันหยุด 12-14/08/2017 ผมหยิบหนังสือเล่มฮิตไปอ่านนั่นคือ "เซ็งเป็ด" ขออนุญาต หยิบบางประโยคมาใช้กับเรื่องราวของผม **
ตอนที่ 9 "กรูไม่อยากเจอหน้าเมิงเพื่อบอกลา" ผมคิดแบบเข้าข้างตัวเอง น้อง อาจรู้สึกว่าการพบเจอกันระหว่างผมและเค้าไม่ใช่สิ่งถูกต้อง และเราก็ตัดกันไม่ขาดสักที น้อง จึงเลือกวิธีการให้คนอื่นพูด และผลักไสไล่ส่งผม เพื่อให้จบ แต่เค้าจะรู้ไหมว่าการกระทำแบบนี้ น้อง สบายใจที่จบได้ง่าย แล้วความรู้สึกของ นิด ล่ะครับ ที่ค้างคาใจว่าทำอะไรผิด เราคุยกันดีๆ ช่วงเวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวัน นิด กลับไม่มีโอกาสเจอหน้า น้อง อีกต่อไป ทำไมถึงปล่อยให้อีกฝ่ายทรมานแบบนี้ (แต่ถ้าคิดอีกแง่เค้าอาจตั้งใจให้เป็นแบบนี้)
ตอนที่ 10 "กรูอยู่แห่งนึงบนโลก เมิงอยู่อีกแห่งนึงบนโลก แต่เราได้มาเจอกัน เมิงลองดูคนกี่คนที่เมิงเดินสวนกันตามสะพานลอย บนถนน ในตลาด เมิงก็ไม่ได้สนิทกับเขา แต่กรูกับเมิงก็ได้มาเจอกัน" นิด เคยพูดกับ น้อง ด้วยประโยคนี้หลายครั้ง นิด บอกเสมอว่าโลกกว้างมาก การที่คนสองคนได้มีโอกาสทำความรู้จักกันนั้นไม่เป็นเพียงความพิเศษ "แต่เป็นส่ิงวิเศษ" ดังนั้นเราควรรักษากันและกันไว้
ตอนที่ 15 "ทุกคนมีสิทธิ์รักแต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้ครอบครอง" ผมเชื่อในคำนี้ และผมบอก น้อง เสมอว่าขอเป็นเพียง หมามองเครื่องบิน เพราะเค้าอยู่สูงเกินผมจะเอื้อมถึง ขอเพียงได้รักผมก็สุขใจ แต่การจากโดยไม่ได้ร่ำลา ไม่ใช่วิธีการที่ดี ผมขอโอกาสนั้นได้ไหม
When I'm feeling blue น้อง เคยพูดถึงเพลงนี้ นิด ขอโทษครับ ไม่คิดว่านี่คือการบอกลาแบบเนิ่นๆ หนังสือเล่มนี้ นิด ขอคืนวันที่ไปบุกห้องโดยขอจากพี่สาวเค้า และบอกว่าที่ให้ไปเพราะอยากให้อ่านเรื่องดีๆในเล่ม แต่ถ้า นิด ไม่มีความหมายก็ขอคืนเพราะ น้อง บอกว่าไม่เคยหยิบมาอ่านเลย แต่วันนี้ นิด รู้แล้วว่า น้อง ได้อ่าน และตัดสินใจไม่คุยต่อ (ุถ้าไม่อ่านคงไม่เกริ่นเรื่องเพลง)
ในหนังสือ เซ็งเป็ด สุดท้าย อ้อย และ เป็ด ก็ยังได้คุยและเคลียร์ความรู้สึกที่มีในใจต่อกันโดย นิด ก็หวังว่าสักวันนึง น้อง จะกลับมาคุยกับ นิด แม้จะเป็นเพียงการบอกลา นิด ก็ยินดีครับ นิด อยากให้เรายุติทุกอย่างด้วยความรู้สึกที่ดี แต่ไม่ใช่การคาใจแบบนี้
Credit : หนังสือเซ็งเป็ด ที่อ่านแล้วก็ทำให้ นิด สับสนอยู่ในช่วงเวลานี้ แต่ก็ทำให้มีสติมากขึ้น และคิดว่าชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป โดยหวังว่าสักวันนึง น้อง จะหวนกลับมาบอกลาสั้นๆ เท่านั้นก็เพียงพอครับ
นิด ไม่โกรธ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น น้อง จะเป็นอะไร ยังไง สิ่งสำคัญคือ น้อง เป็น คนรัก ของนิด ครับ ชีวิตคนๆนึงดำเนินมาได้เกือบปีด้วยกำลังใจจาก น้อง รู้ไหมครับ 7 วันแล้วที่เราไม่ได้คุยกัน นิด ยังคงมีน้ำตาทุกวัน นิด เข้าใจความหมายคำว่า "สุขปนเศร้า" เป็นยังไง ทุกครั้งที่น้ำตาไหล ใจนึงก็คิดถึงแต่เรื่องราวดีๆ ที่ผ่านมา แต่อีกความรู้สึกนึงก็คาใจว่าทำไมไม่บอกลากัน เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ นิด ร้องขอกับ น้อง โดยเสมอว่าถ้าจะไม่คุยกันก็ให้ร่ำลาเพื่อจากกันด้วยดี
Fool เพลง ของ Troye Sivan คือเพลงสุดท้ายที่ นิด แนะนำ น้อง ฟัง น้อง บอกว่าฟังแล้วเศร้า ใช่ครับ นิด ก็รู้สึกเศร้า นิด อยากให้เรื่องที่ผ่านไปนั้นเป็นเรื่องโกหก และเราได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง หรืออีกนัยนึงอยากให้เราได้คุยกันต่อไปแม้ว่าจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม
Sun Comes Up ของ James Arthur นิด ยังหวังว่าจะได้เจอ น้อง เพื่อมาเป็นดวงอาทิตย์ส่องทางให้ชีวิต นิด อีกครั้ง
นิด ไม่ใช่ โนบิตะ จะได้ยืม ไทม์แมชชีน ของ โดเรม่อน เพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นได้ สิ่งที่หวังก็ทำได้เพียงภาวนาให้ น้อง กลับมาเอ่ยบอกลาเท่านั้นครับ
จุดเริ่มต้นของการเจอกันเป็นความ "หลง" แต่ตอนนี้ผมเชื่อใจตัวเองว่า "รัก" น้อง มากเพียงใด ผมแยกแยะออกระหว่างความหมายของคำที่แตกต่างกันนี้
ขอบคุณ น้อง จ. ตามบทสนทนา ณ วันที่ผมคิดจะทำร้ายตัวเอง จากคนในกลุ่มไลน์ 20 คน หลายคนอาจมองว่าผม ไม่แน่จริง
ไม่กล้าทำ แต่ จ. เลือกที่จะพยายามติดต่อหาผมเพราะรู้สึกได้ถึงความแน่วแน่ในการกระทำครั้งนั้น
เพื่อนๆ ในพันทิป คิดว่าผมควรทำยังไงต่อไป หรือมีความคิดเห็นเช่นไร พูดคุยกันครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น ผมอยากให้น้ำตาของผมนั้นหยุดไหลสักที
ขอบคุณที่ท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านครับ