"ชีวิต เริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน โดยไม่ต้องไปเกิดใหม่"

เคยไหม ที่คิดว่า วันนี้ เราไม่เหลืออะไรแล้ว

ถ้าเราตายไป คงจะดี จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไรอีก

หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น ก็ตายไป แล้วเกิดใหม่ ในที่ ๆ ดีกว่านี้ มีชีวิตที่ดีกว่านี้ มีความสุขเหมือนคนทั่ว ๆ ไป


ความคิดเหล่านี้ บอกกับเราว่า ทุกวันนี้ เราไม่มีความสุข

มันบอกเราว่า ที่ที่มีความสุข คือ"ที่อืน" เช่น การตายไป หรือชาติหน้า


แต่เราก็ลืมคิดไปว่า ณ เวลาที่ความคิดเหล่านี้มันหยอดลงมาในใจเรา สะกดจิตใจเราให้เชื่อมันว่า "เฮ้ย ... โลกนี้ใช้ไม่ได้ ปัญหามันหนักเกินไป เราอกหักแล้วจะอยู่กับใคร เราตกงานแล้ว จะอยู่ยังไง เราตกจากตำแหน่งแล้ว เราจน เราไม่หล่อ ไม่สวย ไม่มีเหมือนคนอื่น เราจะมองหน้าใครติด เป็นต้นนั้น" มันกำลังทำลายความสุขเราลงไปเรื่อย ๆ


เพราะอย่างนี้ ถ้าเราตั้งสติได้ แยกแยะอะไรถูกผิดให้ออก เราจะเห็นได้ว่า ที่มาขอการ "อยากจากโลกนี้ไป" ไม่ใช่เพราะอะไรอื่น นอกจาก "เจ้าความคิดกะหร่อย ๆ ตรงนี้" แค่นี้เอง

ถ้าเราเอามันออกจากจิตใจได้ หรือไม่ใส่ใจมันซะ


ความตาย จะมีประโยชน์อะไร

ชาติหน้า จะมีประโยชน์อะไร


ถ้าเราเอาความคิดแย่ๆ ตรงนี้ออกได้


แม้เราไม่มีงานทำ เราก็อยู่อย่างประหยัดได้

แม้เราอกหัก เพราะคนที่เรารักเท่าชีวิต ไปหมั้น ไปแต่งงาน หรือไปนอนกับคนอื่น เราก็ยังสบายใจ หากเรารู้ว่า ที่จริงมันไม่มีอะไรเป็นของใคร การสูญเสีย หรือการได้มา เป็นสิ่งที่ใจเราสมมุติขึ้นมาเอง

ทีนี้ เมื่อไม่มีใครเป็นของใคร ใครแย่งคนรักของเราไป คนรักของเราไปกับใคร เราสูญเสียใครไป ก็จะไม่มี เพราะ เรา ไม่มีตัวตน ทุกอย่างแม้แต่เราก็เป็นอนัตตา ในเมื่อเป็นอย่างนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นและผ่านเข้ามาในชีวิตเราจะมีอะไร มากกว่าความเป็นอนัตตา ไม่ใช่อะไรที่แท้จริงของใคร มันเป็นนั่น และก็เป็นนู่น และก็เป็นนี่ เป็นไหน ๆ ได้อีกต่อไป ถ้าเราไม่คิดถึง ไม่ใส่ใจ เพราะเหตุผลว่า "ไม่มีสิ่งใดเป็นของเรา นอกจากเราคิดไปเอง" ความทุกข์ร้อน เพราะเขาไม่รับโทรศัพท์ เพราะเขาไปมีคนอื่น ก็จะดับไป

ไม่ต้องไปตาย หรือรอให้ชาติหน้าเกิดมาสมหวังกันใหม่ ถึงจะมีความสุข

เพราะ การรู้สัจธรรมข้อนี้ คือที่สุดของการมีและการไม่มีทุกสิ่งในชีวิต เราจะมีความสุขได้ ในชาตินี้เอง


เมื่อเรามีความสุขได้ ในชาตินี้ ปัจจุบันนี้ ความตายก็ไม่ได้วิเศษอะไร ชาติหน้าจะดียังไง ในเมื่อ


"ความสงบใจอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ"


ลาภ เสื่อมลาภ การมียศ มีหน้ามีตา และการตกอับจนไม่มีหมาที่ไหนมอง

คำชม และการถูกด่า ความสุขเพราะได้มา และความทุกข์เพราะเสียสิ่งที่รักไป


ทั้งแปดข้อ เป็นโลกธรรม ธรรมดาของคนที่อยู่บนโลกจะต้องพบต้องเจอ


ถ้าเรา ไม่ให้สิ่งเหล่านี้เหนือเรา

ถ้าเราอยู่เหนือมัน ด้วยการมีปัญญา ใช้เหตุผล เห็นความไม่ใช่สาระที่จะคิดถึงสิ่งเหล่านี้ที่ไม่เที่ยง ไม่ใช่แก่น ไม่ใช่สาระของชีวิต ที่เราจะต้องไปผูกติดกับมัน


เราก็เป็นอิสระ จากทุกข์ทุกอย่าง ที่ทำให้เราร้องไห้เสียใจ กังวล ทรมาน

และจากสุข อันไม่เที่ยง



ที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้


"ผู้ไม่หวัง ย่อมอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน" : พระพุทธดำรัส
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่