โดยรวมยังไงภาคแรกก็เจ๋งสุด คือดีมาก อินมาก ชอบมากกับภาคแรก พอมาภาคสอง ก็พอเข้าใจได้ว่าผู้สร้างต้องการฉีกเนื้อเรื่องหลักออกมาจากการแข่งรถ เพราะในภาคแรกจบแบบ classic ไว้อย่าง perfect ของแก่นในการแข่งขันแล้ว แต่ดูเหมือนภาคสองจะไม่ได้การตอบรับที่ดี อย่างว่า สร้างมาตรฐานไว้สูงมากก็นะ ส่วนภาคสามนี่ ซ่อนอะไรไว้เยอะมาก ซึ่งเด็กๆดูคงยากที่จะเข้าใจสิ่งที่หนังต้องการสื่อออกมา แต่ก็คงเพลิดเพลินกับภาพและเสียงที่โอเคมากๆ แค่นี้ก็สนุกมากแล้วแหละ ภาคสามเป็นภาคแห่งการยอมรับความจริงของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเหมาะกับยุคนี้ ที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี 4.0 เป็นภาคแห่งโค้ช การฟัง การเข้าใจ ผู้ถูกโค้ชอย่างแท้จริง ให้ผู้ถูกโค้ช คิดและแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง ไม่ชี้นำ เป็นภาคแห่งการค้นพบตัวตน บางครั้งเราเองก็อาจมองข้ามศักยภาพของตนเอง และการยอมเสียสละโอกาสให้ผู้ที่มีศักยภาพที่เหมาะสมกว่า ก็สามารถนำมาซึ่งความสำเร็จร่วมกันได้ ในเวลาที่เราเปิดใจมองเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของผู้อื่นก็ทำให้เราค้นพบตัวตนของเราได้เช่นกัน สุดท้ายก็สามารถปล่อยวางได้อย่างมีความสุข ภาคนี้ก็จบแบบคาดไม่ถึงอีกเช่นกัน อาจไม่ซึ้งกินใจเท่าภาคแรก แต่ผมว่ามันแฝงไว้ด้วยอะไรต่างๆมากมาย ถ้าผมเป็นเด็ก ผมให้ 7/10 แต่สำหรับผมที่อายุเกือบ 40 ผมให้ 9/10 เลยครับ
car 3 ภาคแห่งการยอมรับ การโค้ช การค้นพบตัวตน และปล่อยวาง