สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เข้าใจนะว่า รัก แต่ควรจะพิจารณานิสัย + สันดานของคนที่เรารักด้วย ว่ามันเหมาะสมหรือเปล่า ในการที่จะเป็นพ่อคน หรืออยู่ร่วมกับเด็ก
เพราะคุณมีลูก ไม่ได้ตัวคนเดียว ถ้าตัวคนเดียวนะ คุณจะยอมเอาหน้าตากให้เขาต่อยทุกวัน เราก็ไม่ว่าหรอกค่ะ
แต่นี่คุณมีเด็กด้วย ผลกระทบมันไม่ได้ตกแค่ที่คุณคนเดียวนะคะ ต่อไปเวลาคุณโดน ลูกคุณเองก็จะโดนด้วย อาจจะเป็นลูกหลงจากอารมณ์ของพ่อ
และเขาโตมากับภาพที่รุนแรง หรือซึมซับนิสัยที่รุนแรงของพ่อ พ่อทำร้ายแม่ พ่อทำลายข้าวของเวลาโมโห
เด็กที่มีปม บางทีไม่ใช่เพราะพ่อแม่เลิกกัน แต่เป็นเพราะพ่อแม่มีนิสัยอันไม่พึงประสงค์ แล้วทำใส่เขา หรือทำให้เขาเห็น
ทะเลาะกัน ทำร้ายกันให้เขาเห็น เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้เขาดู ถ้าคุณไม่เลิก ก็เท่ากับว่า คุณมีส่วนทำร้ายลูกคุณเอง
เพราะคุณมีลูก ไม่ได้ตัวคนเดียว ถ้าตัวคนเดียวนะ คุณจะยอมเอาหน้าตากให้เขาต่อยทุกวัน เราก็ไม่ว่าหรอกค่ะ
แต่นี่คุณมีเด็กด้วย ผลกระทบมันไม่ได้ตกแค่ที่คุณคนเดียวนะคะ ต่อไปเวลาคุณโดน ลูกคุณเองก็จะโดนด้วย อาจจะเป็นลูกหลงจากอารมณ์ของพ่อ
และเขาโตมากับภาพที่รุนแรง หรือซึมซับนิสัยที่รุนแรงของพ่อ พ่อทำร้ายแม่ พ่อทำลายข้าวของเวลาโมโห
เด็กที่มีปม บางทีไม่ใช่เพราะพ่อแม่เลิกกัน แต่เป็นเพราะพ่อแม่มีนิสัยอันไม่พึงประสงค์ แล้วทำใส่เขา หรือทำให้เขาเห็น
ทะเลาะกัน ทำร้ายกันให้เขาเห็น เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้เขาดู ถ้าคุณไม่เลิก ก็เท่ากับว่า คุณมีส่วนทำร้ายลูกคุณเอง
ความคิดเห็นที่ 4
1. ตอนเป็นแฟนรู้หรือไม่ว่าเค้าใจร้อน ถ้ารู้คุณก็ต้องทำใจส่วนนหึ่ง ว่าคุณเลือกเค้าแล้ว ทั้งที่รู้
2. คุณเอง ก็คงอารมย์ร้อนไม่น้อยดูจาก "สามียืนรอหน้าห้องเราจึงถามว่าไม่มีกุญแจหรอ แค่นั้นและอารมณ์ขึ้น
เป็นเรื่องเป็นราว เราก็โมโหเป็นเหมือนกัน เลยพูดนั่นนี่" พูดเหมือนชวนทะเลาะ และเหมือนกับเอาน้ำมันราดไฟ
3. เดาว่า สามีก็คงคิดว่า ถ้ามีกุญแจแล้ว จะยืนรอทำไม ไม่เห็นต้องถาม
4. ที่พูดมา ไม่ได้จะเข้าข้างสามี เพราะไม่รู้จะเข้าข้างทำไม และไม่ได้บอกว่า ดีไม่ดีอย่างไร แค่จะอธิบายสิ่งที่เกิด
5. วิธีแก้คือ อย่าไปต่อปากต่อคำ อย่าไปแหย่มาก คนอารมย์ร้อนก็เป็นอย่างนี้ การพูดคุยควรพูดเชิงบวก หรือชวนคุยเล่นบ้าง นึกถึงตอนเป็นแฟน เพราะดูแล้วว่า คุณเองก็มีแนวโน้มจะบ่นอยู่ไม่น้อย เช่น "ใครไม่เคยเลี้ยงเด็กอ่อนไม่รู้หรอกค่ะว่าเหนื่อยขนาดไหน ทั้งงานบ้าน ทั้งลูก กับข้าวก็ต้องทำกิน" ผมว่า ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า เลี้ยงลูกเป็นงานหนัก
6. แน่นอนว่า คุณควรจะพูดดีๆ ให้สามีช่วยงานหรือเลี้ยงลูกบ้าง ผมไม่แน่ใจว่าจะได้ผลแค่ไหน แต่เท่าที่ดูว่า จากเดิมที่เค้าทำร้ายคุณ แต่ตอนหลังก็มียั้งๆ หรือขอโทษ ก็แสดงว่ายังพอเห็นความหวังอยู่บ้าง
7. หากไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ขอหย่า โดยต้องหาทางไปให้ตัวเองด้วย รวมถึงระวังอารมย์เค้า ควรย้ายกลับไปบ้าน ใกล้ๆ ญาติ ส่วนเด็กนั้น ผมคิดว่า อยู่แบบมีแม่คนเดียวดีกว่าที่จะอยู่ในสภาวะที่มีแต่ความรุนแรง
ผมไม่ได้ด่าสามีคุณเพราะ ไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากแค่คุณจะรู้สึกว่ามีเพื่อนแชร์ความรู้สึก แก้ที่คนอื่น ก็ยากกว่าแก้ที่ตนเอง ถ้าจะอยู่ก็ต้องทนหากไม่ต้องการให้มีเรื่อง แต่ถ้าไม่อยู่ก็ไป
มีหลายครั้งคนมาบ่นว่า คู่ชีวิตตัวเองไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ภาวะกล้ำกลืน แต่ถ้ามีคนเนะนำว่า คงต้องยอมผ่อนปรนอย่างนั้น อย่างนี้ ก็จะสวนกลับว่า ทำไมต้องยอมด้วย มันเป็นฝ่ายเลว แล้วไง แล้วก็วนลูป อยู่อย่างนั้น
2. คุณเอง ก็คงอารมย์ร้อนไม่น้อยดูจาก "สามียืนรอหน้าห้องเราจึงถามว่าไม่มีกุญแจหรอ แค่นั้นและอารมณ์ขึ้น
เป็นเรื่องเป็นราว เราก็โมโหเป็นเหมือนกัน เลยพูดนั่นนี่" พูดเหมือนชวนทะเลาะ และเหมือนกับเอาน้ำมันราดไฟ
3. เดาว่า สามีก็คงคิดว่า ถ้ามีกุญแจแล้ว จะยืนรอทำไม ไม่เห็นต้องถาม
4. ที่พูดมา ไม่ได้จะเข้าข้างสามี เพราะไม่รู้จะเข้าข้างทำไม และไม่ได้บอกว่า ดีไม่ดีอย่างไร แค่จะอธิบายสิ่งที่เกิด
5. วิธีแก้คือ อย่าไปต่อปากต่อคำ อย่าไปแหย่มาก คนอารมย์ร้อนก็เป็นอย่างนี้ การพูดคุยควรพูดเชิงบวก หรือชวนคุยเล่นบ้าง นึกถึงตอนเป็นแฟน เพราะดูแล้วว่า คุณเองก็มีแนวโน้มจะบ่นอยู่ไม่น้อย เช่น "ใครไม่เคยเลี้ยงเด็กอ่อนไม่รู้หรอกค่ะว่าเหนื่อยขนาดไหน ทั้งงานบ้าน ทั้งลูก กับข้าวก็ต้องทำกิน" ผมว่า ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า เลี้ยงลูกเป็นงานหนัก
6. แน่นอนว่า คุณควรจะพูดดีๆ ให้สามีช่วยงานหรือเลี้ยงลูกบ้าง ผมไม่แน่ใจว่าจะได้ผลแค่ไหน แต่เท่าที่ดูว่า จากเดิมที่เค้าทำร้ายคุณ แต่ตอนหลังก็มียั้งๆ หรือขอโทษ ก็แสดงว่ายังพอเห็นความหวังอยู่บ้าง
7. หากไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ขอหย่า โดยต้องหาทางไปให้ตัวเองด้วย รวมถึงระวังอารมย์เค้า ควรย้ายกลับไปบ้าน ใกล้ๆ ญาติ ส่วนเด็กนั้น ผมคิดว่า อยู่แบบมีแม่คนเดียวดีกว่าที่จะอยู่ในสภาวะที่มีแต่ความรุนแรง
ผมไม่ได้ด่าสามีคุณเพราะ ไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากแค่คุณจะรู้สึกว่ามีเพื่อนแชร์ความรู้สึก แก้ที่คนอื่น ก็ยากกว่าแก้ที่ตนเอง ถ้าจะอยู่ก็ต้องทนหากไม่ต้องการให้มีเรื่อง แต่ถ้าไม่อยู่ก็ไป
มีหลายครั้งคนมาบ่นว่า คู่ชีวิตตัวเองไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ภาวะกล้ำกลืน แต่ถ้ามีคนเนะนำว่า คงต้องยอมผ่อนปรนอย่างนั้น อย่างนี้ ก็จะสวนกลับว่า ทำไมต้องยอมด้วย มันเป็นฝ่ายเลว แล้วไง แล้วก็วนลูป อยู่อย่างนั้น
แสดงความคิดเห็น
เคยโดนสามีทำร้าย,หลังจากนั้นก็ทำลายของเสียหาย ทำไงดี? ขอความเห็นที่เป็นไปได้และมีประโยชน์(ไม่ใช่นักเลงคีบอร์ด)
ทำร้ายร่างกายเหตุเกิดจาก กินเหล้ากับเพื่อนดึกและเมาทุกวัน แต่เราต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียวไม่มีญาติช่วยเลี้ยงเพราะญาติอยู่กันคนละบ้าน
ใครไม่เคยเลี้ยงเด็กอ่อนไม่รู้หรอกค่ะว่าเหนื่อยขนาดไหน ทั้งงานบ้าน ทั้งลูก กับข้าวก็ต้องทำกินเพราะเราออกไปไหนไม่ค่อยได้เพราะไหนจะอุ้มเด็ก กางร่ม ถือกับข้าวอีก เราเลยเลือกที่จำทำกินเองค่ะ แต่จะได้ซื้อกับข้าวมาเก็บไว้ทำกินก็ต้องรอสามีเลิกงานตอนเย็นแล้วพากันไปซื้อค่ะ ถ้าสามีกลับดึกตลาดก็ปิด
คือเมื่อตอนที่ลูกสาวยังไม่หัดคลาน เคยทะเลาะกับสามีค่ะ มีปากเสียงและเราทั้งคู่ก็โมโหกันมาก จนดิฉันตบหน้าเขา 1ครั้ง
และเขาก็มีทีท่าโมโหมาก จึงต่อยฉัน 1ครั้ง แต่ดิฉันหลบจึงโดนหู และหน้าคว่ำลงกับพื้น เขาก็เดินหนี ดิฉันเลยไปนั่งระเบียงคนเดียว เขาจึงมาขอโทษ
แต่มันยากที่จะทำใจ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะลูกยังเล็ก หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยทำร้ายฉันอีก แต่ก็มีโมโหทำของพัง ตู้เสื้อผ้า, ลิ้นชักพลาสติก , ประตู
แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ เหตุเกิดจาก เราและสามีกับลูกไปเที่ยวกลับมาตอนเย็น สามียืนรอหน้าห้องเราจึงถามว่าไม่มีกุญแจหรอ แค่นั้นและอารมณ์ขึ้น
0เป็นเรื่องเป็นราว เราก็โมโหเป็นเหมือนกัน เลยพูดนั่นนี่ประมาณว่าเรื่องแค่นี้มันมีปัญหาที่กุญแจ หรือมีปัญหาที่เรื่องอื่นกันแน่
แล้วเขาก็โมโหมากขึ้นๆๆๆ แต่เราก็พูดไปงั้นอะค่ะ ไม่กล้าพูดไรมากมาย กลัวโดนต่อยเหมือนคราวที่เคยเกิดเรื่องอีก
แล้วคือเขา ขว้างแก้วน้ำเซลามิคเข้ากำแพงแตก เศษแก้วกระจายเต็มตรงที่เรายืนเลย ดีนะที่ไม่กระเด็นมาบาดเรา
และโต๊ะญี่ปุ่นของลูกไว้ทำการบ้าน เตะกะละมังเกือบโดนทีวีแตก(ทีวีราคา10,000บาท ใช้แค่ปีกว่าเอง)
ฉันไม่อยากเลิกเพราะฉันพ่อแม่ก็แยกทางกัน ความผูกพันธ์กับพ่อแม่แทบไม่มีเลย
อีกอย่างฉันก็รักเขาเพราะเคยร่วมสุขร่วมทุกข์มาด้วยกัน แต่เหตุการณ์ที่เขาทำทั้งหมดที่ผ่านมามันยิ่งทำให้ฉันรักตัวเองมากขึ้นๆๆ
และอ่อนทุกครั้งที่เห็นลูก นับจากวันที่คบกันจนถึงวันนี้ เมื่อฉันมองกลับไป ค่อยๆรักตัวเองมากขึ้นๆๆ จนตอนนี้ความรู้สึกฉันมาใกล้มาก
ฉันรักตัวเองเพราะฉันรู้ว่าต้องเดินต่อไปเพราะใคร นั่นก็คือ ลูกสาวของฉันเอง
ควรแก้ปัญหา หรือพูดคุย อย่างไรดีคะ ขอคำแนะนำ หรือแนวทางหน่อยค่ะ
[code]กระทู้นี้ไม่ต้อนรับพวกนักเลงคีย์บอร์ด[/code]