เมื่อวันที่ 1สิงหาคม ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำอ.2573/2558 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจเเละทรัพยากร ยื่นฟ้อง นายณิทธิมณ หัสดินทร ณ อยุธยา, นายปกรณ์ บริมาสพร, นายเชวง จริยะพิสุทธิ์, นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ, นางสาวเขมกร วชิรวราการ, นายพนา จันทรวิโรจน์, นางสาวดวงกมล โชตะนา, นายเสริมสิน สมะลาภา และ นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น เป็นจำเลยที่1-9 ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 89/7 และพ.ร.บ.บริษัทมหาชน มาตรา 33 ,102 ,104 เเละ105
โดยโจทก์ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่16สิงหาคม2559 คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า จำเลยทั้ง 9 เป็นคณะกรรมการบริษัท ต้องทำตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่ต้องให้ความสะดวกในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นอย่างสะดวกและเท่าเทียมกัน ไม่อาจกระทำการใดอันเป็นการละเมิด หรือริดรอนสิทธิของผู้ถือหุ้นได้ตามพ.ร.บ.มหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 102 รับรองสิทธิไว้ในการที่ผู้ถือหุ้นจะเข้าร่วมประชุม และออกเสียงลงมติได้ การกระทำของจำเลยทั้งหมดที่กีดกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมจึงเป็นการกระทำโดยทุจริต เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สำหรับกลุ่มพวกพ้องของตัวเองที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารบริษัทต่อไป อันเป็นการร่วมกันบริหารแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยปราศจากผู้ถือหุ้นและตัวแทนผู้ถือหุ้นในการตรวจสอบการบริหารงาน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานคู่ความทั้งสองฝ่ายเเล้วเห็นว่า การกระทำของนายสุทธิชัย หยุ่น ผู้บริหาร บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) และพวกรวม 9 ราย กระทำการกีดกันผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี 2558 เป็นการร่วมกันกระทำการ ดำเนินการโดยไม่สุจริต ขาดความรับผิดชอบและความระมัดระวังตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯมาตรา 89/7 พ.ร.บ.มหาชน มาตรา 33 , 102 , 104 และ 105 ต้องตาม มาตรา 291/2 วรรคหนึ่ง มีอัตราโทษปรับให้ไม่เกินจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หรือประโยชนที่ได้รับเเละการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามกฎหมายหลายบท
พิพากษาให้ปรับคนละ 5 แสนบาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30
JJNY : “สุทธิชัย หยุ่น-พวก” โดนศาลสั่งปรับคนละ 5 เเสน ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ กรณีกีดกันผู้ถือหุ้น
โดยโจทก์ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่16สิงหาคม2559 คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า จำเลยทั้ง 9 เป็นคณะกรรมการบริษัท ต้องทำตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่ต้องให้ความสะดวกในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นอย่างสะดวกและเท่าเทียมกัน ไม่อาจกระทำการใดอันเป็นการละเมิด หรือริดรอนสิทธิของผู้ถือหุ้นได้ตามพ.ร.บ.มหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 102 รับรองสิทธิไว้ในการที่ผู้ถือหุ้นจะเข้าร่วมประชุม และออกเสียงลงมติได้ การกระทำของจำเลยทั้งหมดที่กีดกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมจึงเป็นการกระทำโดยทุจริต เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สำหรับกลุ่มพวกพ้องของตัวเองที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารบริษัทต่อไป อันเป็นการร่วมกันบริหารแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยปราศจากผู้ถือหุ้นและตัวแทนผู้ถือหุ้นในการตรวจสอบการบริหารงาน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานคู่ความทั้งสองฝ่ายเเล้วเห็นว่า การกระทำของนายสุทธิชัย หยุ่น ผู้บริหาร บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) และพวกรวม 9 ราย กระทำการกีดกันผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี 2558 เป็นการร่วมกันกระทำการ ดำเนินการโดยไม่สุจริต ขาดความรับผิดชอบและความระมัดระวังตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯมาตรา 89/7 พ.ร.บ.มหาชน มาตรา 33 , 102 , 104 และ 105 ต้องตาม มาตรา 291/2 วรรคหนึ่ง มีอัตราโทษปรับให้ไม่เกินจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หรือประโยชนที่ได้รับเเละการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามกฎหมายหลายบท
พิพากษาให้ปรับคนละ 5 แสนบาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30