ข้อแนะนำในการปีนฟูจิ 36 ข้อ ของสาว 36

ข้อแนะนำในการปีนฟูจิของแก๊งเราน้า
เป็นมือสมัครเล่น รวมกัน3คน (ญ2 ช1)
ฝีมือไม่มี อุปกรณ์ล้วนๆ

*** เพิ่มเติมอีก2ข้อค่ะ***

1. ถ้าจะซื้อ ออกซิเจนกระป๋อง ให้ซื้อร้านขายของที่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลยค่ะ ราคา 8xx(ไม่ถึง900)
แต่ที่ชั้น5 ราคา 1250
ชั้น7-8 เจอ 1200 ยังงงทำไมถูกกว่าชั้น5ที่เตี้ยกว่า-*-5
แต่ชั่น 8.5/10 ราคา 1500


2. รอบรถ ถ้าไม่ฟิตแบบเรา เอารอบเย็นสุดไปเลยค่ะ กันเหนียว เวลาเหลือไว้กินข้าวได้
ตรงหัวมุมมีร้านเทมปุระ ที่เพื่อนๆแก๊งค์เราบอกอร่อย (กลุ่มที่ไม่ได้ปีน)
เพราะถ้าลงมาไม่ทัน ต้องทิ้งตั๋วแบบแก๊งค์เรา

3. ควรมี pole ให้ถือมือละอัน อย่างเราพกมา2อัน แต่ตอนปีนจริง เลือก pole 1 อัน
กับซื้อไม้พลองไว้แสตมป์1อัน
ถือไม้2มือ ><

4. ควรใส่รองเท้าสำหรับการ trekking โดยเฉพาะ เพราะช่วยเกาะ หิน ดิน ทราย
และถ้าแบบ gortex ยิ่งดีมากๆๆ เพราะฝนตกตลอด gortex  น้ำจะไม่ซึม พอเท้าไม่เปียก ก็ไม่หนาว สำคัญมากนะคะ
รวมทั้งถ้าเป็นแบบหุ้มข้อสูงขึ้นมาก็ยิ่งดีนะ กันหิน กรวด เข้ารองเท้าค่ะ (ช่วยซัพพอร์ตข้อเท้าด้วย)

5. ถ้ารองเท้าไม่หุ้มข้อ ควรมีไกเตอร์ กันหิน/ดิน/กรวด เข้าเท้าค่ะ
อย่างแก๊งค์เรา ใส่หุ้มข้อหมด + กางเกงก็ยางคลุม ไกเตอร์เลยไม่จำเป็นค่ะ

รองเท้าเราเมอแรล merrell
เพื่อนบอกที่เจ็บนิ้วเท้า
เพราะหัวเป็นยาง มันกด ตอนลงเจ็บนิ้วม้าก ขาลง
แต่ใส่ปีนที่อื่นไม่เจ็บ

6. ถุงเท้าไม่ควรบางเกิน ควรหนาหน่อย เพราะมันเสียดสีเท้ามา โดยเฉพาะขาลง

7. ถุงเท้าเอาที่ไม่ลื่น เราพลาดมาก เอาลายตะมุตะมิแถมแบบสั้นไปไปขาขึ้นเลยต้องจัดระเบียบถุงเท้า เดินๆ จัดระเบียบถุงเท้าอีกแล้ว
แต่ขาลงใส่แบบยาว เลยเออสบายกว่าขาขึ้น

8. เสื้อที่ใส่ข้างในสุด เราแนะนำเสื้อที่ระบายเหงื่อได้เร็วค่ะ uniqloรุ่นdry-x ก็ได้ค่ะ ไม่แพง
รึไปที่ร้าน decathlon ก็ได้ ยี่ห้อเสื้อคาเรนจิ ไม่แพง
ส่วนกางเกง เราใส่กางเกงเดินป่าขายาวสีดำ ที่ด้านนอกเป็นผ้าร่ม กันฝนได้เปราะหนึ่ง
ถึงเปียกก็จะแห้งไว อันนี้ก็ซื้อที่ decathlon

9. ตัวนอกสุดใส่เสื้อแจกเกตผ้า gortex อย่างของเราเป็น columbia แบบ interchange แต่เราเอาตัวในที่ทำให้อบอุ่นออก
ผ้าแบบนี้ช่วยกันฝนด้วยค่ะ ข้างในเราจะไม่เปียกน้ำจากฝน แต่อาจจะมีเปียกจากเหงื่อที่ออกจากการเดินออกแรงแทนค่ะ

10. ชุดกันฝน เรากันเหนียวพกไป แล้วเราก็ใส่คลุมทับตัวเรากับเป้ค่ะ แต่น้ำมันก็ไหลลงกางเกงนะ
แต่กางเกงแห้งไว้ ไม่มีปัญหา แป๊บเดียวก็แห้ง พอฝนหยุด คือ มันตกๆๆ หยุดๆ ตกเบาๆๆ ตก หยุด ตกหนังๆ สลับไปเรื่อย
เครื่องแต่งกายสำคัญนะคะ

11. ถุงมือ เราเอาแต่ฮีทเทคไป ซึ่งไม่ได้ใช้ ถ้ามีถุงมือแบบกันแดด/ถุงมือก่อสร้าง ควรมีค่ะ
เพราะเรามือส่วนที่เกินเสื้อตัวนอกสุด โดนแดดไหม้ แสบเลย
คือ แม้แดดจะแทบไม่ออกเลย แต่ UV มันแรงงงงงงงง
อีกอย่างจะมีบางช่วงที่ใช้เกาะหิน ในขาขึ้นค่ะ

12. หมวก ควรมีค่ะ แบบแห้งไวด้วย ใส่ก่อน ที่จะใส่แจกเกต/ชุดกันฝน (คือหัวเรานี่ หมวก+หมวกของแจกเกต+หมวกของชุดกันฝน)

13. ครีมกันแดด ครีมทาหน้า ลิปมัน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เราพกไปหมดเลย
แต่ไม่ได้ใช้สักกะอย่าง แม้กระทั่งแปรงฟัน 55555
มันเหนื่อยและปวดหัวจนไม่ทำอะไรเลย
ถ้าให้แนะนำ คือ ทาลิปมันค่ะ เพราะปากเราแห้งและแตกมาก -*-

ทุกคนจะแต่งคล้ายๆกันหมดค่ะ
ด้านล่างมีชุดให้เช่า
แต่ไม่ได้ถามราคามานะคะ
แก๊งค์เราอุปกรณ์พร้อม 555

14. ที่ปิดจมูกกันฝุ่น เราเตรียมไป รวมทั้งที่พัก
จะแจก เนื่องจากขาลงจากชั้น10ลงมายาวจนถึงชั้น6/7 มั้ง
จะมีฝุ่นมาตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปิด คือ เหนื่อยจะอยากจะเดินไปให้ถึงทางออกอย่างเดียว

15. ขาขึ้นจะมีระยะบอกค่ะว่าอีกกี่เมตร กี่โล ถึงยอดฟูจิ จะเห็นเสา torii ว่าลิบๆ ว่าอีกนิ้ด
แต่คุณจะเดินอีกนานมากกกกกกกกกกกกก
เราแบบร้องเพลง อีกไกลแค่ไหนจนกว่าช้านนนนนนนใกล้บอกที ไม่ถึงสักกะที 555

16. ขาลง คือ ทรมานมาก มากว่าขาขึ้นสำหรับเรา
เพราะจะไม่มีป้ายบอกระยะว่า อีกกี่โล กี่เมตร จะถึงชั้น5
ป้ายมันจะบอกแค่ว่า นี่ Y50 Y52 (เราไปทาง yoshida)
เราเดินแบบต๊อแตีมาก คือ เหมือนจะถึงทางออกๆๆ แต่ไม่ถึงสักทีอ่ะ เดินๆๆๆ
ยิ่งลงช่วงต้นๆ จะเดินลงเป็นรูปตัว ZZZZZZZZ ซ้ำๆๆ ไม่รู้กี่ตัว 555555555555
และดินร่วนมากๆๆๆๆ เดินไปกลัวล้ม เกร็งตลอดดดด


17. ถ้าเทรคเส้นทาง yoshida ต้องระวัง 2 จุด อย่าเลี้ยวผิด
จุดแรกที่ผิด คือ คุณจะไปเส้น  Subashiri ต้องดูป้ายดีๆ
จุดถัดมา ถ้าผิดจะกลายเป็นจะเดินลงไปอีก14กิโลเลย แต่เป็น yoshida นะคะ แต่คงลงไปล่างสุดเลย (เชิงเขา เดาเอา)


18. เตรียมของขบเคี้ยวที่ให้พลังงาน เช่น อินทผาลัม กล้วยตาก ช้อกโกแลตไปด้วย
ขาขึ้นยังมีฮัทต่างๆให้แวะซื้อนะคะ ตลอดแหละ
แต่ขาลง นี่ยิงยาวมากกกกกกกกกก แถมมีแต่ห้องน้ำให้เข้าเท่านั้น เพียงค่ะ1จุด (200เยน) ไม่มีน้ำ รึ อะไรขายเลย

19. จากข้อ18เมื่อขึ้นถึงชั้น10 บนสุด เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยเลยค่ะ เพราะขาลง กว่าจะเจอห้องน้ำคือ อีกนานมากกกกกกกกกกกกกกก

20. กรณีมีอาการ AMS คือ ปวดหัว ไม่อยากอาหาร ซึ่งเราเป็น ก็พยายามทำอะไรช้าๆ ช้ามากถึงงมากที่สุด
ตั้งแต่ตอนขึ้น เหนื่อยก็พักไม่ต้องรีบ ควรลงมาที่ราบให้เร็วที่สุด
จริงๆ ถ้ามีอาการ ไม่ควรปีนแหละ เค้ามีเสียงภาษาอังกฤษประกาศอยู่
เราอ่ะเคยเป็นที่ประเทศจีน แต่เป็นตอนระดับความสู 4500 ก็เลยคิดว่า ที่นี่แค่3770 คงไม่เป็นมั้ง
อีกทั้งทำไรช้าม้ากกกกกกกกกกกกก แต่ๆๆ ก็ไม่รอด มาเป็นที่2800 -*- เป็นซะเร็วเลย
ก็ปวดหัว เดินช้าๆ หัวเอียงตัวเอียงไป และพยายามจิบน้ำเป็นระยะๆๆ ไม่ให้ขาดน้ำ
รวมทั้งสูดออกซิเจนกระป๋อง แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันช่วยอะไรเลยนะคะ
แต่พอถึงที่พัก แรกๆ ก็ยังปวดแหละ กินไทลินอลเอา
สวน diamox เราแพ้ เลยไม่ได้ทาน แต่พี่อีก2คนที่ปีนไม่มีอาการ ams เลย
พอตอนเช้าตื่นมาก็ดีขึ้นค่ะ


21. เราไม่ได้ตื่นตี1/ตี2 เพื่อไปเดินต่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
เรานอน เพราะเราว่าร่างกายเราต้องการการพัก -*-
ที่หน้าฮัทเราก็ไม่ลุกมาดู เราออกเดินต่อตอน 6 โมงกว่าๆค่ะ
พี่ๆที่ออกมาดูหน้าฮัทก็ไม่เจอ เพราะมีแต่หมอก

22. อิไม้แสตมป์เป็นแรงจูงใจ ตัวล่อให้เราแบบ ตะเกียกตะกายขึ้นไปให้ได้





23. ส่วมชั้น10 ชั้นบนสุด เหม็นกลิ่นยูเรีย (เพียว ปัสสาววะมากกกกก)
เหม็นแสบจมูก ปวดหัว
คือ ส้วมจีนแพ้ ส้วมฟูจิชั้น10ค่ะ

24. กล้อง คือ ถ้าเราเลือกได้ เราจะไม่เอาไปค่ะ 5555 ขนาดมือถือ หยิบถ่าย เรายังขี้เกียจด้วย หมดแรงด้วย ไม่อยากจะถ่ายเลย
แต่ใครอยากจะเอาไปก็เอาไปได้นะ แบกเอง ถ่ายเอง
รึแบกเอง ไม่ถ่ายเลยก็ได้ 555

25. ไฟฉาย สำคัญ อย่าลืมนะคะ

มีความน่ารัก ระหว่างพ่อและลูกชาย
จะเห็นภาพคู่รัก ภาพครอบครัวพ่อแม่ลูก
ภาพปู่ย่า ตายาย ลุงป้า ปีนไปตลอดทาง
รวมทั้งคณะนักเรียนชั้นประถม

26. เป้+ rain cover เราสังเกตคนอื่นๆ จะขนาด30ลิตร จน40-50 ลิตร ก็ใส่ของเท่าที่จำเป็น
อย่างเราเอาเสื้อไปเปลี่ยนขาลง1ตัว กางเกงใส่ตัวเดิม

27. นอกจากนี้เราเอาเสื้อheat techใส่ชั้นแรก + heat tech fleece + extra light down ไป ใส่ท่อนบนตอนนอน
ส่วนท่อนล่างใส่ extra warm heat tech ค่ะ + ถุงเท้า heat tech
นอนไปสักพัก เออ ฮีทเทคเริ่มทำงาน มีร้อนๆ อยู่ 555
แต่ถ้าไปเดือน กย อาจจะหนาวกว่าเดือน กค นะคะ ก็เตรียมไปตามที่คิดว่าอุ่น และแบกไหว

28. พกขวดน้ำไปด้วยก็ดีค่ะ แต่เรามีแค่15ลิตร 5555 เราเลยมีเป้ใส่ขวดน้ำคาดเอว (แบกน้ำ1ลิตรขึ้นไป)
พี่คนนึงเราใช้เป้น้ำ อีกคนใส่ขวด
เพราะขาลง ไม่มีน้ำขายนะคะ กว่าจะเจอคื อีกพักนึง

แบบคาดเอวสะดวก น้ำหนักลงสะโพก

29. ชุดเปลี่ยนใส่ตอนนอนแล้วตอนลง
เราเอาเสื้อชั้นในไปเปลี่ยน1 + เสื้อยืด1ตัว
พอถึงฮัทก็ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดทำความสะอาดจุดอับในร่างกาย+เท้า แล้วใส่เสื้อตัวใหม่
เพราะไม่เปียกฝน แต่ก็มีเหงื่ออก พอนอนชื้นๆจะหนาวค่ะ

30. ที่ฮัทไม่มีฮีทเตอร์นะคะ (ข้อ24ที่พกใส่เป้ จึงมีประโยชน์ค่ะ)
จะนอนเรียงกันเป็นตับในถุงนอน
เค้าจะจัดที่ให้ กลุ่มเดียวกัน นอนด้วยกัน
ถ้าไปคนเดียว แบบ ญ ก็จะได้นอนติดกับ ญ ไม่ต้องกังวลว่าจะไปนอนติดกับ ช แปลกหน้า

31. ไม่มีทิ้งขยะนะคะ  แบกอะไรขึ้นไปก็แบกลงไปด้วย 555
อย่างเราอ่ะ ซื้อข้าวโพดไปแทะ ก็แบกซังข้าวโพดตั้งแต่ชั้น5 ขึ้นไปบนยอด ยันลงมา แถมหาถังขยะไม่เจอ
โน่น แบกยันสถานีรถไฟ
อะไรไม่จำเป็น ไม่ต้องเอาไปนะ หนักและต้องเก็บมาทิ้งข้างล่าง

32. ทิชชู่เปียกแพคเล็กไว้ทำความสะอาดจุดอับในร่างกาย

33. ถุงก๊อบแก๊บ ไว้ใส่ขยะ รึ ใส่ของห้อยเอวแบบเรา -*-
ตามรูปบนเลย5555

34. การแพคเสื้อ ของใช้ เช่นพาวเวอร์แบงค์ เพื่อความแน่ใจว่าไม่เปียก ควรแพคใส่ถุงซิปล้อกก่อนใส่ลงเป้
อย่างเรากลัวของข้างในเปียกมาก เราแพคใส่ถุงซืปล้อก ใส่เป้  rain cover คลุม แล้วทับด้วยเสื้อกันฝนอีกชั้น
อะไรที่ต้องหยิบบ่อยๆ เช่น เสื้อกันฝน ให้เอาไว้ด้านบนๆ

35. ไทลินอล  รึ ยาอะไรที่คิดว่าจะช่วย อย่างเราคือ ปวดหัว มีไทลินอล (ของพี่ที่ปีนด้วย)

36. ใส่ถุงมือไว้ก็ดี นอกจากจะเตรียมไป เพราะ มือเรา2ข้างที่จับ pole ไม่ได้อยู่ในเสื้อตัวนอก โดนแดดเผา ดำเลย

37. ควรเตรียมเหรียญไป เพราะค่าเข้าห่องน้ำไม่มีทอนค่ะ
เป็นที่หยอดหน้าห้องน้ำ(ใส่ขวดน้ำ แขวนไว้)

38. ควรผูกเชือกรองเท้าให้แน่น คือขาลงเราเจ็บนิ้ว
นิ้วทิ่มหัวรองเท้าตลอด เจ็บมาก
แต่ไม่มีตุ่มน้ำ รึ ข้อเท้าบาดเจ็บนะคะ
ก่อนกลับที่สนามบิน เตะรถเข็นอีก เล็บฉีก
ไปถอดเล็บมา หมอที่ดูแลสานเทรคกิ้ง
แกบอกว่า ถ้าแบบนี้ให้ผูกให้แน่น (เพร่ะรองเท้าก็หุ้มข้อแล้ว)
และให้ใส่ใหญ่กว่าเบอร์นี้อีกเบอร์
แต่ตอนเราซื้อคือถ้าใหญ่กว่านี้ เราจะหลวมมาก
เท้าเรายาวแต่แคบ
หาใหญ่กว่าครึ่งเบอร์ก็ไม่มี ><

วันหลังจากวันที่ลงมา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่