สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันจะมาขอระบายความทุกข์ใจและขอคำปรึกษาจากผู้มีความรู้ในเว็บพันทิป ในส่วนตัวของดิฉันถึงจะตกใจแต่ก็ยังมีสติอยู่บ้าง แต่เป็นห่วงพ่อกับแม่ของดิฉันมาก เพราะเป็นที่ดินที่ท่านหามาทั้งชีวิต กลัวท่านคิดมากค่ะ
เนื่องจากวันเสาร์ที่ผ่านมามีหมายจากกรมบังคับคดีจ.อุบลราชธานี แจ้งอายัดทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินเป็นของพ่อแม่ดิฉัน โดยให้ส่งโฉนดฉบับจริงไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน15วัน โดยมีโจทก์คือบริษัทสินเชื่อเกี่ยวกับรถของธนาคารแห่งหนึ่ง และมีแม่ของดิฉันเป็นจำเลยที่1(ผู้ทำสัญญา) ส่วนจำเลยที่2 (ผู้ค้ำประกัน) เป็นนายตำรวจยศร้อยตรีท่านหนึ่งนามสกุลเดียวกัน แต่ถามญาติทุกคนแล้วไม่มีใครรู้จัก
ตามคำสั่งแจ้งว่า เมื่อปี2557 แม่ของดิฉันได้ไปเช่าซื้อจักรยานยนต์ DUKATI เป็นจำนวนเงินประมาณ350,000บาท (ระบุเลขจดทะเบียน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร) และขาดการส่งจ่ายชำระ โดยพิจารณาโจทก์นำสืบฝ่ายเดียว ซึ่งแม่ของดิฉันไม่เคยไปซื้อ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ และคนหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเราไม่มีทางที่จะไปซื้อรถราคาแพงขนาดนั้นได้
คดีผ่านการพิพากษาจากศาลแล้ว แต่แม่ของดิฉันไม่เคยได้รับหมายศาล นัดยื่นคำให้การ เอกสารอะไรไม่เคยได้รับจากศาลเลยค่ะ ถ้าได้รับหมายศาลทางบ้านก็คงเดือดเนื้อร้อนใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้วค่ะ ชาวบ้านอีสานเวลาเจอหมายศาลบางคนช็อคเสียชีวิตก็มี
ซึ่งศาลที่พิพากษาเป็นศาลจังหวัดนครพนม แต่แม่ของดิฉันอยู่ที่อุบลราชธานี
อย่างที่กล่าวมาแม่ของดิฉันไม่เคยไปทำอะไรแน่ๆ ทำให้ดิฉันสงสัย ดิฉันจึงไปสืบค้นข้อมูลดูปรากฎว่ามีบุคคลที่ชื่อเหมือนกันแม่ดิฉันอยู่ที่จังหวัดนครพนมค่ะ และไปสืบข้อมูลนายตำรวจซึ่งเป็นจำเลยที่สอง ปรากฎว่าอยู่ที่นครพนมเช่นกันค่ะ และที่สำคัญคือนายตำรวจท่านนี้มีความสนใจเกี่ยวกับการแต่งรถ การซื้อขายอุปรณ์รถจักรยานยนต์ค่ะ ทำให้ดิฉันพอเข้าใจความเป็นไปของเรื่องราวนี้แล้วค่ะ แต่ตอนนี้ดิฉันยังมืดแปดด้านไม่รู้จะทำยังไงดี
ทำไมตอนขึ้นโรงขึ้นศาลพ่อแม่ดิฉันไม่เคยรับรับรู้เลยค่ะ แต่เวลาบังคับคดีทำไมกลายเป็นแม่ของดิฉันได้ ทั้งที่น่าจะมีตรวจสอบบัตรประชาชน ข้อมูลต่างๆให้แน่ชัดก่อน
ทำไมทางกรมบังคับดีถึงยึดโฉนดที่ดินของแม่ดิฉันได้ ดิฉันไม่รู้ว่าไปเอาข้อมูลโฉนดที่ดินของแม่ดิฉันมาจากไหน
ดิฉันอยากทราบว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ มันผิดพลาดที่ตรงไหน ดิฉันรับประกัน100%เลยค่ะ ว่าแม่ของดิฉันไม่เคยไปซื้อรถแน่นอน
ดิฉันควรทำอย่างไรคะ ตอนนี้สงสารพ่อกับแม่มากเลยค่ะ เห็นท่านร้องไห้ดิฉันไม่รู้จะทำยังไงกลัวท่านคิดมากแล้วล้มป่วยค่ะ ดิฉันต้องไปติดต่อกับหน่วยงานไหนบ้างคะ ตอนนี้โทรไปที่บังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่คำคดีไม่มาทำงาน เค้าบอกจะคัดสำนวนไว้ค่ะ
คดีตัดสินไปแล้วดิฉันยังมีความหวังรึป่าวคะ
ขอบคุณค่ะ
ช่วยด้วยค่ะ!! แม่ของดิฉันอยู่ดีๆก็ถูกอายัดที่ดิน เพียงเพราะชื่อ-นามสกุลซ้ำกัน
เนื่องจากวันเสาร์ที่ผ่านมามีหมายจากกรมบังคับคดีจ.อุบลราชธานี แจ้งอายัดทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินเป็นของพ่อแม่ดิฉัน โดยให้ส่งโฉนดฉบับจริงไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน15วัน โดยมีโจทก์คือบริษัทสินเชื่อเกี่ยวกับรถของธนาคารแห่งหนึ่ง และมีแม่ของดิฉันเป็นจำเลยที่1(ผู้ทำสัญญา) ส่วนจำเลยที่2 (ผู้ค้ำประกัน) เป็นนายตำรวจยศร้อยตรีท่านหนึ่งนามสกุลเดียวกัน แต่ถามญาติทุกคนแล้วไม่มีใครรู้จัก
ตามคำสั่งแจ้งว่า เมื่อปี2557 แม่ของดิฉันได้ไปเช่าซื้อจักรยานยนต์ DUKATI เป็นจำนวนเงินประมาณ350,000บาท (ระบุเลขจดทะเบียน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร) และขาดการส่งจ่ายชำระ โดยพิจารณาโจทก์นำสืบฝ่ายเดียว ซึ่งแม่ของดิฉันไม่เคยไปซื้อ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ และคนหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเราไม่มีทางที่จะไปซื้อรถราคาแพงขนาดนั้นได้
คดีผ่านการพิพากษาจากศาลแล้ว แต่แม่ของดิฉันไม่เคยได้รับหมายศาล นัดยื่นคำให้การ เอกสารอะไรไม่เคยได้รับจากศาลเลยค่ะ ถ้าได้รับหมายศาลทางบ้านก็คงเดือดเนื้อร้อนใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้วค่ะ ชาวบ้านอีสานเวลาเจอหมายศาลบางคนช็อคเสียชีวิตก็มี
ซึ่งศาลที่พิพากษาเป็นศาลจังหวัดนครพนม แต่แม่ของดิฉันอยู่ที่อุบลราชธานี
อย่างที่กล่าวมาแม่ของดิฉันไม่เคยไปทำอะไรแน่ๆ ทำให้ดิฉันสงสัย ดิฉันจึงไปสืบค้นข้อมูลดูปรากฎว่ามีบุคคลที่ชื่อเหมือนกันแม่ดิฉันอยู่ที่จังหวัดนครพนมค่ะ และไปสืบข้อมูลนายตำรวจซึ่งเป็นจำเลยที่สอง ปรากฎว่าอยู่ที่นครพนมเช่นกันค่ะ และที่สำคัญคือนายตำรวจท่านนี้มีความสนใจเกี่ยวกับการแต่งรถ การซื้อขายอุปรณ์รถจักรยานยนต์ค่ะ ทำให้ดิฉันพอเข้าใจความเป็นไปของเรื่องราวนี้แล้วค่ะ แต่ตอนนี้ดิฉันยังมืดแปดด้านไม่รู้จะทำยังไงดี
ทำไมตอนขึ้นโรงขึ้นศาลพ่อแม่ดิฉันไม่เคยรับรับรู้เลยค่ะ แต่เวลาบังคับคดีทำไมกลายเป็นแม่ของดิฉันได้ ทั้งที่น่าจะมีตรวจสอบบัตรประชาชน ข้อมูลต่างๆให้แน่ชัดก่อน
ทำไมทางกรมบังคับดีถึงยึดโฉนดที่ดินของแม่ดิฉันได้ ดิฉันไม่รู้ว่าไปเอาข้อมูลโฉนดที่ดินของแม่ดิฉันมาจากไหน
ดิฉันอยากทราบว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ มันผิดพลาดที่ตรงไหน ดิฉันรับประกัน100%เลยค่ะ ว่าแม่ของดิฉันไม่เคยไปซื้อรถแน่นอน
ดิฉันควรทำอย่างไรคะ ตอนนี้สงสารพ่อกับแม่มากเลยค่ะ เห็นท่านร้องไห้ดิฉันไม่รู้จะทำยังไงกลัวท่านคิดมากแล้วล้มป่วยค่ะ ดิฉันต้องไปติดต่อกับหน่วยงานไหนบ้างคะ ตอนนี้โทรไปที่บังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่คำคดีไม่มาทำงาน เค้าบอกจะคัดสำนวนไว้ค่ะ
คดีตัดสินไปแล้วดิฉันยังมีความหวังรึป่าวคะ
ขอบคุณค่ะ