สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป กระผมมีเรื่องเดือนร้อนใจอยากจะถาม หาเหตุผล ว่าผมผิดอะไรทำไมแฟนผมถึงเปลี่ยนไปจากคนที่รักกัน เปลี่ยนเป็นเฉยชากับผมได้ถึงเพียงนี้
เรื่องมีอยู่ว่าผมกับแฟนคนกันได้ 10ปี เราเริ่มจากเพื่อนรุ่นน้องของผมแนะนำให้เราได้รู้จักกัน และเราก้อเริ่มคบหาดูใจกันตอนนั้นผมเรียนปี 4 ส่วนแฟนผมนั้นเรียนปี3 เราห่างกันปีนึง ความสัมพันธ์ของเราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนวัน เราทั้งคู่ตัดสินใจที่จะคบกันและย้ายมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นแฟนผมตัดสินใจ หนีออกจากบ้านและย้ายมาอยู่กินฉันสามีภรรยากับผม อืมลืมบอกไปแฟนผมเป็นเด็กเรียบร้อย ขยันทำงานงาน รักครอบครับ ออกใสซื่อนิสๆ ส่วนผมเป็นคนเนื้อหอมมีสาวๆเข้ามาคุยๆอยู่หลายคนในขณะนั้น แต่สุดท้ายผมก้อเลือกที่จะหยุด และปักหลักกับเธอคนนี้ ด้วยเหตุผลอะไรก้อไม่ทราบ ด้วยความน่ารักใสซื่อ เหมือนมีมนต์สะกด เราทั้ง2ตั้งน่าตั้งตาขยันทำมาหากิน เพื่อจะสร้างอนาคตด้วยกัน จนเราอยู่กินกันได้8ปี เราก้อมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกัน 1 คน เป็นลูกผู้ชายน่ารักและเป็นที่เอ็นดูต่อทางพ่อ-แม่แฟน ถึงท่านจะยังโกรธที่เราหนีออกมาอยู่กินด้วยกัน ลืมบอกไปผมทำงานเป็นช่างไฟฟ้า ส่วนแฟนทำงานเป็น PC ตามห้างสรรพสินค้า นี้แหละเหตุมันเกิดตอนที่ภรรยาผมท้องนี้เอง สืบเนื่องจากภาระหน้าที่การทำงานของผมที่ไม่เป็นเวลา เธอเลยตัดสินใจขอย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อ-แม่ด้วยเหตุผลที่ว่า หากมีอะไีรฉุกเฉินจะได้มีคนพาไป รพ. ได้ทันท่วงที จนลูกชายตัวน้อยผมคลอด เธอก้อไปๆมาๆ ระหว่างบ้านผมกับบ้านพ่อ-แม่เธอ เราคุยกันเรื่องจะเลี้ยงลูกของเราให้ดีที่สุดผมขณะนั้นผมสอบบรรจุเข้าราชการได้ โอ้สบายและลูกเรา มีสวัสดิการดูแลเจ้าตัวน้อยของเราแล้ว แฟนผมก้อหยุดพักการทำงานมาเป็นแม่บ้านดูแลลูกน้อย ไปๆมาๆ ทั้ง 2บ้าน และด้วยหน้าที่การทำงานอีกนั่นแหละที่ทำให้เราไม่ค่อยมีเวลา เนื่องจากผมต้องปฏิบัติงานช่วงกลางคืน เลิกงานมาก้อมาช่วยเธอเลี้ยงลูก จนเธอบอกรุสึกสงสารผมที่วันๆเวลาพักผ่อนแทบไม่มี เลยขอไปอยู่บ้านพ่อ-แม่ จะได้มีคนคอยช่วยดูและอีกทางนึก แรกๆผมก้อไปรับกลับบ้านทุก ส-อา แต่ทุกครั้งที่ผมไปรักก็จะได้รับความรู้สึกของทางบ้านแฟน ที่ไม่อยากให้กลับมาอยู่กับผม ต้องคอยโทรตามโทรถาม ตลอดเวลาจะกลับเมื่อไหร่ ให้ไปรับไหม แรกๆผมคิดว่า ผู้ใหญ่เขาคิดถึงหลานเพราะท่านก้อมีอายุและได้อยู่เล่นกับหลายๆคงมีความสุข จนเวลาผ่านไปล่วงเลยจากอาทิตย์ได้กลับบ้านที มาเป็นเดือนละครับและทุกครั้งก้อจะเป็นเหมือนเคย ทั้งๆที่ผมก้อตั้งใจทำงานขยันขันแข็งเพื่อรอวันหยุด ที่จะได้มารับลูกเมียผมมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา จนวันที่พ่อแฟนผมป่วยหนักจากโรคมะเร็ง เธอก้อเลยต้อง อยู่ดูและพ่อ แต่เราก้อคุยกันตลอดนะว่าจะกลับมาอยู่เป็นครอบครัวกันในเร็วๆนี้ สัญญากันเราไม่ค่อยเจอกัน ได้แต่โทรหากัน ผมก้อแวะไปเยี่ยมหาลูก ภรรยาและครอบครัวภรรยาบ้าง จนวันที่พ่อภรรยาผมสิ้นมา ผมก้อลางานไปอยู่ช่วยงานตลอด เราก้อเลยไม่ได้คุยเรื่องที่จะย้ายมาสร้างอนาคตด้วยกันต่อ เนื่องจากช่วงนั้นไม่เหมาะสมที่จะคุย ผมก้ออดทนทำงานยอม กล้ำกลืน เหนื่อยกับการอยู่ตามลำพัง จนเวลาผ่านไปหลายเดือน ผมได้ถามเธอแต่ได้คำตอบว่า ขอรอลูกเรียนจบอนุบาลก่อนได้ไหม 3ปี เพราะต้องดูแลแม่ต่ออีก ผมพูดอาจดูเห็นแก่ตัว ทั้งๆที่ ภรรยาผมเป็นพี่คนโตและยัง มีน้องๆ อีก
3 คนทั้งๆที่ทุกคนโตทำงานกันหมดแล้ว และที่สำคัญก้อยังอยู่ดูแลแม่ได้เหมือนกัน ผมจึงเผลอปากออกไปว่า ต้องให้แม่ตายก่อนไหม ถึงจะค่อยมาสร้างอนาคตกันได้ ทั้งๆที่ทุกวันนี้ผมทำงาน เงินเดือนยังไม่พอกินเลยแต่ละเดือน ไหนๆ ต้องมาใช้หนี้สินที่เราทั้ง 2 ร่วมสร้างไว้ก่อนหน้านี้ ทุกสิ่งอย่างผมรับผิดชอบอยู่คนเดียว เคยเห็นใจผมบ้างไหม จะกินอยู่อย่างไร คิดง่ายๆเอาแต่สบาย หลังๆผมโทรไปก้อไม่ค่อยรับ โทรไปไม่ว่า เหมือนไม่อยากคุย จนผมถามว่าเหตุผลเธอก้อไม่บอก ในช่วงที่เล่ามานี้ 4 ปี ที่ผมต้องทนกลับสภาพตัวคนเดียวพร้อมกับหนี้สิ้นมากมายที่ต้องสะสาง จนสุดท้ายตัดสินใจที่จะถอยออกมา และให้คำถามภรรยาว่าจะพร้อมและอยากกลับมาสร้างอนาคตเพื่อลูกด้วยกันไหม ก่อนที่อะไรๆ มันจะสายเกินแก้ ก่อนที่มันสายเกินไป ผมเป็นห่วงลูกมาไม่อยากให้ต้องมาขาดพ่อ ขาดแม่ ไม่อยากให้เป็นเด็กมีปัญหา และผมสมควรไหมที่ต้องมาเจอกับสิ่งเหล่านี้....????
ถ้าเราอยู่กินกับแฟนแล้ว อยู่มาวันหนึ่ง แฟนคิดจะกลับไปอยู่ดูแลพ่อแม่ โดยให้เหตุผลว่าอยากกลับไปดูแลท่านทั้ง 2คน จะผิดไหม??
เรื่องมีอยู่ว่าผมกับแฟนคนกันได้ 10ปี เราเริ่มจากเพื่อนรุ่นน้องของผมแนะนำให้เราได้รู้จักกัน และเราก้อเริ่มคบหาดูใจกันตอนนั้นผมเรียนปี 4 ส่วนแฟนผมนั้นเรียนปี3 เราห่างกันปีนึง ความสัมพันธ์ของเราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนวัน เราทั้งคู่ตัดสินใจที่จะคบกันและย้ายมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นแฟนผมตัดสินใจ หนีออกจากบ้านและย้ายมาอยู่กินฉันสามีภรรยากับผม อืมลืมบอกไปแฟนผมเป็นเด็กเรียบร้อย ขยันทำงานงาน รักครอบครับ ออกใสซื่อนิสๆ ส่วนผมเป็นคนเนื้อหอมมีสาวๆเข้ามาคุยๆอยู่หลายคนในขณะนั้น แต่สุดท้ายผมก้อเลือกที่จะหยุด และปักหลักกับเธอคนนี้ ด้วยเหตุผลอะไรก้อไม่ทราบ ด้วยความน่ารักใสซื่อ เหมือนมีมนต์สะกด เราทั้ง2ตั้งน่าตั้งตาขยันทำมาหากิน เพื่อจะสร้างอนาคตด้วยกัน จนเราอยู่กินกันได้8ปี เราก้อมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกัน 1 คน เป็นลูกผู้ชายน่ารักและเป็นที่เอ็นดูต่อทางพ่อ-แม่แฟน ถึงท่านจะยังโกรธที่เราหนีออกมาอยู่กินด้วยกัน ลืมบอกไปผมทำงานเป็นช่างไฟฟ้า ส่วนแฟนทำงานเป็น PC ตามห้างสรรพสินค้า นี้แหละเหตุมันเกิดตอนที่ภรรยาผมท้องนี้เอง สืบเนื่องจากภาระหน้าที่การทำงานของผมที่ไม่เป็นเวลา เธอเลยตัดสินใจขอย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อ-แม่ด้วยเหตุผลที่ว่า หากมีอะไีรฉุกเฉินจะได้มีคนพาไป รพ. ได้ทันท่วงที จนลูกชายตัวน้อยผมคลอด เธอก้อไปๆมาๆ ระหว่างบ้านผมกับบ้านพ่อ-แม่เธอ เราคุยกันเรื่องจะเลี้ยงลูกของเราให้ดีที่สุดผมขณะนั้นผมสอบบรรจุเข้าราชการได้ โอ้สบายและลูกเรา มีสวัสดิการดูแลเจ้าตัวน้อยของเราแล้ว แฟนผมก้อหยุดพักการทำงานมาเป็นแม่บ้านดูแลลูกน้อย ไปๆมาๆ ทั้ง 2บ้าน และด้วยหน้าที่การทำงานอีกนั่นแหละที่ทำให้เราไม่ค่อยมีเวลา เนื่องจากผมต้องปฏิบัติงานช่วงกลางคืน เลิกงานมาก้อมาช่วยเธอเลี้ยงลูก จนเธอบอกรุสึกสงสารผมที่วันๆเวลาพักผ่อนแทบไม่มี เลยขอไปอยู่บ้านพ่อ-แม่ จะได้มีคนคอยช่วยดูและอีกทางนึก แรกๆผมก้อไปรับกลับบ้านทุก ส-อา แต่ทุกครั้งที่ผมไปรักก็จะได้รับความรู้สึกของทางบ้านแฟน ที่ไม่อยากให้กลับมาอยู่กับผม ต้องคอยโทรตามโทรถาม ตลอดเวลาจะกลับเมื่อไหร่ ให้ไปรับไหม แรกๆผมคิดว่า ผู้ใหญ่เขาคิดถึงหลานเพราะท่านก้อมีอายุและได้อยู่เล่นกับหลายๆคงมีความสุข จนเวลาผ่านไปล่วงเลยจากอาทิตย์ได้กลับบ้านที มาเป็นเดือนละครับและทุกครั้งก้อจะเป็นเหมือนเคย ทั้งๆที่ผมก้อตั้งใจทำงานขยันขันแข็งเพื่อรอวันหยุด ที่จะได้มารับลูกเมียผมมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา จนวันที่พ่อแฟนผมป่วยหนักจากโรคมะเร็ง เธอก้อเลยต้อง อยู่ดูและพ่อ แต่เราก้อคุยกันตลอดนะว่าจะกลับมาอยู่เป็นครอบครัวกันในเร็วๆนี้ สัญญากันเราไม่ค่อยเจอกัน ได้แต่โทรหากัน ผมก้อแวะไปเยี่ยมหาลูก ภรรยาและครอบครัวภรรยาบ้าง จนวันที่พ่อภรรยาผมสิ้นมา ผมก้อลางานไปอยู่ช่วยงานตลอด เราก้อเลยไม่ได้คุยเรื่องที่จะย้ายมาสร้างอนาคตด้วยกันต่อ เนื่องจากช่วงนั้นไม่เหมาะสมที่จะคุย ผมก้ออดทนทำงานยอม กล้ำกลืน เหนื่อยกับการอยู่ตามลำพัง จนเวลาผ่านไปหลายเดือน ผมได้ถามเธอแต่ได้คำตอบว่า ขอรอลูกเรียนจบอนุบาลก่อนได้ไหม 3ปี เพราะต้องดูแลแม่ต่ออีก ผมพูดอาจดูเห็นแก่ตัว ทั้งๆที่ ภรรยาผมเป็นพี่คนโตและยัง มีน้องๆ อีก
3 คนทั้งๆที่ทุกคนโตทำงานกันหมดแล้ว และที่สำคัญก้อยังอยู่ดูแลแม่ได้เหมือนกัน ผมจึงเผลอปากออกไปว่า ต้องให้แม่ตายก่อนไหม ถึงจะค่อยมาสร้างอนาคตกันได้ ทั้งๆที่ทุกวันนี้ผมทำงาน เงินเดือนยังไม่พอกินเลยแต่ละเดือน ไหนๆ ต้องมาใช้หนี้สินที่เราทั้ง 2 ร่วมสร้างไว้ก่อนหน้านี้ ทุกสิ่งอย่างผมรับผิดชอบอยู่คนเดียว เคยเห็นใจผมบ้างไหม จะกินอยู่อย่างไร คิดง่ายๆเอาแต่สบาย หลังๆผมโทรไปก้อไม่ค่อยรับ โทรไปไม่ว่า เหมือนไม่อยากคุย จนผมถามว่าเหตุผลเธอก้อไม่บอก ในช่วงที่เล่ามานี้ 4 ปี ที่ผมต้องทนกลับสภาพตัวคนเดียวพร้อมกับหนี้สิ้นมากมายที่ต้องสะสาง จนสุดท้ายตัดสินใจที่จะถอยออกมา และให้คำถามภรรยาว่าจะพร้อมและอยากกลับมาสร้างอนาคตเพื่อลูกด้วยกันไหม ก่อนที่อะไรๆ มันจะสายเกินแก้ ก่อนที่มันสายเกินไป ผมเป็นห่วงลูกมาไม่อยากให้ต้องมาขาดพ่อ ขาดแม่ ไม่อยากให้เป็นเด็กมีปัญหา และผมสมควรไหมที่ต้องมาเจอกับสิ่งเหล่านี้....????