ถ้าเรารู้ธรรมได้
เราจะเข้าใจคำว่า ปาฏิหาริย์ เป็นอย่างไร
ปาฏิหาริย์นั้นก็คือ เรานั้นเอง
เราเกิดมาแล้วก็ต้องชดใช้กรรมที่ทำใว้
แต่ ปาฏิหาริย์ เกิดทุกขณะหรือทุกช่วงของเวลา
จะเป็น การพรัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือจะมีความสุขและทุกข์
หรือจะเคยทำผิดแล้วสำนึกผิด
ปาฏิหาริย์ ไม่ได้สวดอ้อนวอนอะไร
แต่แท้ที่จริงแล้ว ปาฏิหาริย์ คือการเรียนรู้สิ่งต่างๆจากความผิดพลาดแล้วแก้ไขจนเกิดประโยนช์ตนเองและผู้อื่น และเข้าใจโลกอย่างที่เป็น เป็นกฏไตรลักษณ์ของธรรมชาติ
แท้ที่จริงแล้ว สัมมสัมพุทธเจ้า สอนให้เราเข้าใจโลก ทุกอย่างล้วนแล้วต้องมีพรัดพรากจากสิ่งที่รัก วันใดวันนึงเราต้องพบเจอ และสอนให้เราอยู่เหนือโลก คือ ใจ เราจะกล้าเผชิญความจริงของสิ่งทั้งปวง แม้ความตายก็ไม่หวั่นไหวหรือการสูญเสีย
เป็นคำตอบคือ สัมมาสัมนพุทธเจ้า ให้ทุกคนรักกัน
ไม่ได้สอนให้ทุกคนรักกันนะ
แต่ ให้ทุกคนรักกัน เหมือนทิ้งเส้นทางนี้ใว้คือคำสอน
แล้วให้เราพบคำตอบ ( ให้ทุกคนรักกัน ) แต่อย่าไปหมายรู้ว่าความรักในศาสนาคริสต์ นะ แต่เป็นความรักที่ไม่เจื่อด้วย ราคะ โทสะ โมหะ
เป็นความรักเมตตาของปัญญา
แล้วเราจะ ร่าเริง เบิกบาน อยู่กับโลกแต่เราไม่จมไปพร้อมโลก
ปฏิบัติธรรมมะเหมือนทิ้งโลกไปเลย 55+ แต่ พลิกล็อค
แล้วแต่เส้นทางที่จะเลือกนะ
ถ้าใครเข้าใจที่ผมเขียน นั้นและคือ ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นแล้ว
เพราะคือการ เรียนรู้สิ่งที่ผิดและแก้ไขไปทางที่ดี สันติ ไม่จองเวรต่อกัน
นั้นและ ปาฏิหาริย์ เพราะมีกันอยู่ทุกคนคือ ใจ
ปาฏิหาริย์ ศาสนาพุทธ
เราจะเข้าใจคำว่า ปาฏิหาริย์ เป็นอย่างไร
ปาฏิหาริย์นั้นก็คือ เรานั้นเอง
เราเกิดมาแล้วก็ต้องชดใช้กรรมที่ทำใว้
แต่ ปาฏิหาริย์ เกิดทุกขณะหรือทุกช่วงของเวลา
จะเป็น การพรัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือจะมีความสุขและทุกข์
หรือจะเคยทำผิดแล้วสำนึกผิด
ปาฏิหาริย์ ไม่ได้สวดอ้อนวอนอะไร
แต่แท้ที่จริงแล้ว ปาฏิหาริย์ คือการเรียนรู้สิ่งต่างๆจากความผิดพลาดแล้วแก้ไขจนเกิดประโยนช์ตนเองและผู้อื่น และเข้าใจโลกอย่างที่เป็น เป็นกฏไตรลักษณ์ของธรรมชาติ
แท้ที่จริงแล้ว สัมมสัมพุทธเจ้า สอนให้เราเข้าใจโลก ทุกอย่างล้วนแล้วต้องมีพรัดพรากจากสิ่งที่รัก วันใดวันนึงเราต้องพบเจอ และสอนให้เราอยู่เหนือโลก คือ ใจ เราจะกล้าเผชิญความจริงของสิ่งทั้งปวง แม้ความตายก็ไม่หวั่นไหวหรือการสูญเสีย
เป็นคำตอบคือ สัมมาสัมนพุทธเจ้า ให้ทุกคนรักกัน
ไม่ได้สอนให้ทุกคนรักกันนะ
แต่ ให้ทุกคนรักกัน เหมือนทิ้งเส้นทางนี้ใว้คือคำสอน
แล้วให้เราพบคำตอบ ( ให้ทุกคนรักกัน ) แต่อย่าไปหมายรู้ว่าความรักในศาสนาคริสต์ นะ แต่เป็นความรักที่ไม่เจื่อด้วย ราคะ โทสะ โมหะ
เป็นความรักเมตตาของปัญญา
แล้วเราจะ ร่าเริง เบิกบาน อยู่กับโลกแต่เราไม่จมไปพร้อมโลก
ปฏิบัติธรรมมะเหมือนทิ้งโลกไปเลย 55+ แต่ พลิกล็อค
แล้วแต่เส้นทางที่จะเลือกนะ
ถ้าใครเข้าใจที่ผมเขียน นั้นและคือ ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นแล้ว
เพราะคือการ เรียนรู้สิ่งที่ผิดและแก้ไขไปทางที่ดี สันติ ไม่จองเวรต่อกัน
นั้นและ ปาฏิหาริย์ เพราะมีกันอยู่ทุกคนคือ ใจ