พ่อเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หลังจากเสียเวลารักษาผิดมา 2 ปี ตอนนี้อยากให้พ่ออาการดีขึ้น มีที่ไหนช่วยได้บ้าง

พ่อมีอาการท้องตึง ทานอะไรก็อาเจียน ท้องผูก จนเป็นริดสีดวง พาไปหาหมอมา 4 รพ.เจาะเลือด ผลตรวจเลือดดี ไม่มีอะไรผิดปกติ หมอวินิจฉัยตรงกันว่าเป็นกรดไหลย้อน โรคกระเพาะ รักษามาเรื่อย ๆ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนต้นเดือน ก.ค.60 พ่ออาเจียนหนักมาก น้ำหนักลด ซูบผอม ไม่มีแรง
จึงตัดสินใจไป รพ.เอกชน เจาะเลือดผลตรวจดีเหมือนเดิม แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าพ่อเป็นอะไร จึงขอให้หมอส่องกล้อง แต่หมอขอเข้าอุโมงค์ฉีดสีก่อน พอฉีดสีพบว่ามีจุดตรงปอด แล้วก็ขอส่องกล้องต่ออีกวัน ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
ช่วงเวลาที่รอก็ขอให้มีปาฎิหารย์ แต่แล้วปาฎิหารย์ก็ไม่มีจริง ผลตรวจบอกว่าพ่อเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร ลามไปลำไส้และปอดแล้ว
รักษาได้แต่คีโม โอกาส 50% ไม่มีวิธีอื่น ครอบครัวพ่อกับแม่ฉันไม่มีใครเป็นมะเร็ง ฉันเลยคิดว่ามะเร็งยังไกลตัวครอบครัวเรามาก
ฉันมีพี่น้อง 3 คน เคยถามพ่อว่าถ้ารู้ว่าเป็นมะเร็งพ่อจะทำไง พ่อบอกถ้าเป็นตายซะดีกว่า อยู่ทำไม อย่างไงก็ต้องตาย เรา 3 คนพี่น้องจึงตกลงกันว่ายังไม่บอกพ่อ กลัวพ่อทรุด ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผิด เพราะเป็นร่างกายของพ่อ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้บอกแม่ เพราะกลัวแม่จะเครียดหนัก แล้วแม่มีความเชื่อเรื่องยาต้มมาก ถ้ายาต้มดี พ่อกินมาตั้งนานทำไมถึงเป็นมะเร็งได้ แล้วก็ชอบเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง ก็กลัวเพื่อนบ้านนี่แหล่ะตัวดีจะไปบอกพ่อซะเอง
ผ่านมา 3 อาทิตย์ เรา 3 คนช่วยกันสรรหา ว่าวิธีไหนช่วยพ่อได้ เพราะรู้ว่าคีโม พ่อทรมาน พ่อไม่เข้มแข็งพอ จนอาการพ่อทรุด ทานอะไรไม่ได้ อาเจียน แต่โชคดีตรงที่พ่อไม่เคยปวดท้อง มีแต่อาการตึงท้อง
จนในที่สุดก็ตกลงกันว่าต้องบอกแม่ เพราะแม่กับพ่อก็บ่นว่าไปหาหมอไม่ดีขึ้น ยิ่งวันยิ่งแย่ พ่อบอกก่อนไปหาหมอยังไม่แย่ขนาดนี้ หมอรักษาอย่างไง เรากับน้องก็เครียด ก็เลยบอกแม่ไปว่าพ่อเป็นอะไร แล้วกำชับเรื่องนี้ว่าอย่าไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง เพื่อที่แม่จะได้ดูแลพ่อให้ดี ก่อนที่พ่อจะเสีย
พอบอกแม่ แม่ก็เอาแต่ร้องไห้ แล้วก็บ่นว่าทำไมต้องโกหกว่าพ่อเป็นกระเพาะเรื้อรัง เราก็บอกสาเหตุไป เพราะเราคิดว่าพ่อต้องดีขึ้น แต่ตอนนี้แม่ก็ดูแลพ่อทุกอย่าง ดูแลอย่างดี แต่พ่อยิ่งวันก็ยิ่งทรุด
ถ้าฉันไม่ลาออกจากงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มาลงทุนทำธุรกิจจนขาดทุน พอเปิดร้านก็โดนโกง เรียกว่าแทบหมดตัว คงจะสามารถหาเงิน หาทางรักษาพ่อได้ดีกว่านี้ ฉันรู้สึกผิดมาก ที่เป็นลูกคนโต แต่น้อง 2 คนต้องรับภาระในค่าใช้จ่ายพวกนี้แทน
คนอื่นให้กำลังใจว่าฉันต้องสู้ ฉันยอมรับเลยว่าสู้ จนหมดแรงแล้ว เรื่องของตัวเองก็แย่เรียกว่าแทบล้มละลายกันเลย แล้วมาเจอเรื่องพ่ออีก
อยากรู้ว่ามีที่ไหนที่สามารถรักษาพ่อให้ดีขึ้นบ้าง แต่ไม่ขอคีโมนะคะ พ่อฉันอ่อนแอเกินค่ะ แค่ฉีดยาเข้าในน้ำเกลือยังบ่นว่าปวด ต่อไปไม่เอาอีกแล้ว ตอนนี้พ่อก็เอาแต่เหม่อลอย ทานอะไรก็ไม่ได้ เหมือนหมดอาลัยตายอยากในชีวิตแล้วค่ะ หมอบอกว่าพ่ออยู่ได้อีกเป็นปี แต่ดูอาการแล้วไม่รู้จะนานถึงขนาดนั้นหรือเปล่าค่ะ
ตอนนี้พ่ออายุ 59 ปีค่ะ ยังไม่เคยสบาย ทำงานหนักมาตลอด อยากให้เค้าสบายบ้างค่ะ รู้สึกเหมือนอกตัญญูเลย พ่ออายุขนาดนี้ยังต้องทำงาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่