อวสานดราม่าหนุ่มลูกจ้างฝากเงิน 8 หมื่น แต่เงินเข้าแค่ 4 หมื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องไปตามคำยืนยันของทางผู้เสียหาย ส่วนเงิน 4 หมื่น เจ้าของร้านได้รับเป็นเงินเยียวยา จากทางแบงก์ จากกรณีที่นางสายสุนีย์ อู๋เพชร อายุ 55 ปี เจ้าของร้านขายอาหารสัตว์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เข้าแจ้งความที่ สภ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2560 ในข้อหาลักทรัพย์ ภายหลังจากให้นายวชิระ อริยะพงศ์กรณ์ อายุ 41 ปี ลูกจ้างในร้านนำเงินสด จำนวน 80,000 บาทของตน มาเข้าบัญชีที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาวัดสิงห์ โดยมีนางสาวจุฑารัตน์ เอี่ยมจุ้ย อายุ 30 ปี พนักงานสาวเป็นผู้รับฝาก ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.2560 แต่เงินกลับเข้าบัญชีเพียง 40,000 บาท จนกลายเป็นเรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์ และอยากรู้คำตอบว่า ใครกันแน่ที่โกหก เพราะทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์
ล่าสุด (21 ก.ค.60)
พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผู้กำกับการ สภ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า เมื่อสองวันก่อน ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ส่งผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดมาให้ สภ.วัดสิงห์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “โดยผลที่ทางกองพิสูจน์หลักฐานส่งมาเป็นหนังสือนั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครเอาเงินไป หรือเงินหายไปไหน ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงจะต้องสรุปสำนวน เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องไปตามคำยืนยันของทางผู้เสียหาย” พ.ต.อ.เชษฐชัย กล่าว
“ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดสิงห์ ได้พูดคุยกับทางหนุ่มผู้เสียหาย
ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ธนาคารและหัวหน้าฝ่าย ได้นำเงิน 4 หมื่นไปเยียวยา ให้แก่หนุ่มลูกจ้างและเจ้าของร้าน พร้อมเซ็นเอกสารว่า ต้องงดให้ข่าวกับสื่อ และถอนแจ้งความ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และล่าสุดเงิน 4 หมื่นนี้ก็อยู่กับทางผู้เสียหาย นั่นก็คือ ทางเจ๊เจ้าของร้านส่วนหนุ่มลูกจ้างก็ยังคงทำงานอยู่ที่ร้านขายอาหารสัตว์ตามปกติ และในท้ายที่สุด เรื่องนี้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป เพราะคดีลักทรัพย์เป็นคดีความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ถึงแม้ทางผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความ คดีก็จะไม่ยุติ ต้องดำเนินคดีฟ้องร้องผู้กระทำผิดจนถึงที่สุด” พ.ต.อ.เชษฐชัย กล่าว
อ้างอิง :
http://www.thairath.co.th/content/1011830
อวสานดราม่า แบงค์สีเขียว : กรณี หนุ่มลูกจ้างฝากเงิน 8 หมื่น เข้า 4 หมื่น ผกก.คลายปม : แบบนี้ก็ชัดหรือปล่าวครับ ?
ล่าสุด (21 ก.ค.60) พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผู้กำกับการ สภ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า เมื่อสองวันก่อน ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ส่งผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดมาให้ สภ.วัดสิงห์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “โดยผลที่ทางกองพิสูจน์หลักฐานส่งมาเป็นหนังสือนั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครเอาเงินไป หรือเงินหายไปไหน ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงจะต้องสรุปสำนวน เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องไปตามคำยืนยันของทางผู้เสียหาย” พ.ต.อ.เชษฐชัย กล่าว
“ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดสิงห์ ได้พูดคุยกับทางหนุ่มผู้เสียหาย ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ธนาคารและหัวหน้าฝ่าย ได้นำเงิน 4 หมื่นไปเยียวยา ให้แก่หนุ่มลูกจ้างและเจ้าของร้าน พร้อมเซ็นเอกสารว่า ต้องงดให้ข่าวกับสื่อ และถอนแจ้งความ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และล่าสุดเงิน 4 หมื่นนี้ก็อยู่กับทางผู้เสียหาย นั่นก็คือ ทางเจ๊เจ้าของร้านส่วนหนุ่มลูกจ้างก็ยังคงทำงานอยู่ที่ร้านขายอาหารสัตว์ตามปกติ และในท้ายที่สุด เรื่องนี้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป เพราะคดีลักทรัพย์เป็นคดีความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ถึงแม้ทางผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความ คดีก็จะไม่ยุติ ต้องดำเนินคดีฟ้องร้องผู้กระทำผิดจนถึงที่สุด” พ.ต.อ.เชษฐชัย กล่าว
อ้างอิง : http://www.thairath.co.th/content/1011830