อ้างอิง
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9600000073778
----
“วิรพล สุขผล” หรือ อดีตพระเณรคำ ถอดผ้าเหลืองแล้ว หลังห่มจีวรมาจากอเมริกา อ้างยังไม่รู้ถูกสึกจากความเป็นพระ แต่สุดท้ายต้องยอม เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ อ่านคำสั่งปรับอาบัติปาราชิกให้ฟัง ดีเอสไอเตรียมนำตัวส่งอัยการคดีพิเศษเพื่อส่งฟ้องต่อศาล
เช้าวันนี้(20 ก.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวนายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ที่ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐอเมริกา มายังสนามบินสุวรรณภูมิ และนำมาสอบสวนต่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนเจ้งวัฒนะตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดบนายวิรพลยังคงห่มจีวรผ้าเหลือง โดยอ้างว่าตนเองอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานานไม่ทราบว่าถูกคณะสงฆ์ไทยสั่งให้สึกจากความเป็นพระแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้อ่านคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษเรื่องการปรับอาบัติปาราชิกให้ฟัง นายวิรพลจึงยอมสละผ้าเหลือง ล่าสุด มีภาพนายวิรพล ถอดผ้าเหลืองออกแล้ว โดยเปลี่ยนมาสวมชุดขาว ขณะที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เตรียมนำตัวส่งอัยการคดีพิเศษเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลภายในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากนำตัวมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้นำตัวนายวิรพลไปที่ห้องประชุมชม 3 ชั้น 1 เพื่อทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจร่างกาย และแจ้งข้อกล่าวหา ว่าจะรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนกฎหมาย เนื่องจากได้รวบรวมสำนวนคดีต่างๆและได้ส่งให้พนักงานอัยเสร็จสิ้นกระบวนการไปก่อนหน้านี้แล้ว
โดยมีเจ้าหน้าที่ พศ.ร่วมสอบปากคำ และแจ้งให้นายวิรพลทราบว่า เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ มีคำสั่งที่ประชุมคณะสงฆ์ผู้พิจารณาอธิกรณ์ได้มีมัติปรับอาบัติให้พระวิรพล(ขณะนั้น) ขาดจากความเป็นพระภิกษุสงฆ์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ มาตร 26 คือ พระภิกษุรูปใดล่วงละเมิดพระธรรมวินัย และได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุด ให้ได้รับนิคหกรรมให้สึก ต้องสึกภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ได้ทราบคำวินิจฉัยนั้นตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.2556 แล้ว หากนายวิรพลยังฝ่าฝืนแต่งกายสงฆ์ จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์ มาตรา 43 คือ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 15 จัตวา วรรคสอง มาตรา 26 มาตรา 27 วรรคสาม หรือมาตรา 28 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า หลังการสอบปากคำเณรคำเสร็จ ได้นำตัวเข้าห้องขังชั้น 7 โดยมีเจ้าหน้าที่ รปภ.เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อรอนำตัวส่งให้พนักงานอัยการดำเนินคดีส่งฟ้องส่งศาลตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
### “วิรพล สุขผล” (อดีตพระเณรคำ) ดีเอสไอเตรียมนำตัวส่งฟ้อง###
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9600000073778
----
“วิรพล สุขผล” หรือ อดีตพระเณรคำ ถอดผ้าเหลืองแล้ว หลังห่มจีวรมาจากอเมริกา อ้างยังไม่รู้ถูกสึกจากความเป็นพระ แต่สุดท้ายต้องยอม เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ อ่านคำสั่งปรับอาบัติปาราชิกให้ฟัง ดีเอสไอเตรียมนำตัวส่งอัยการคดีพิเศษเพื่อส่งฟ้องต่อศาล
เช้าวันนี้(20 ก.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวนายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ที่ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐอเมริกา มายังสนามบินสุวรรณภูมิ และนำมาสอบสวนต่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนเจ้งวัฒนะตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดบนายวิรพลยังคงห่มจีวรผ้าเหลือง โดยอ้างว่าตนเองอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานานไม่ทราบว่าถูกคณะสงฆ์ไทยสั่งให้สึกจากความเป็นพระแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้อ่านคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษเรื่องการปรับอาบัติปาราชิกให้ฟัง นายวิรพลจึงยอมสละผ้าเหลือง ล่าสุด มีภาพนายวิรพล ถอดผ้าเหลืองออกแล้ว โดยเปลี่ยนมาสวมชุดขาว ขณะที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เตรียมนำตัวส่งอัยการคดีพิเศษเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลภายในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากนำตัวมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้นำตัวนายวิรพลไปที่ห้องประชุมชม 3 ชั้น 1 เพื่อทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจร่างกาย และแจ้งข้อกล่าวหา ว่าจะรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนกฎหมาย เนื่องจากได้รวบรวมสำนวนคดีต่างๆและได้ส่งให้พนักงานอัยเสร็จสิ้นกระบวนการไปก่อนหน้านี้แล้ว
โดยมีเจ้าหน้าที่ พศ.ร่วมสอบปากคำ และแจ้งให้นายวิรพลทราบว่า เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ มีคำสั่งที่ประชุมคณะสงฆ์ผู้พิจารณาอธิกรณ์ได้มีมัติปรับอาบัติให้พระวิรพล(ขณะนั้น) ขาดจากความเป็นพระภิกษุสงฆ์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ มาตร 26 คือ พระภิกษุรูปใดล่วงละเมิดพระธรรมวินัย และได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุด ให้ได้รับนิคหกรรมให้สึก ต้องสึกภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ได้ทราบคำวินิจฉัยนั้นตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.2556 แล้ว หากนายวิรพลยังฝ่าฝืนแต่งกายสงฆ์ จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์ มาตรา 43 คือ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 15 จัตวา วรรคสอง มาตรา 26 มาตรา 27 วรรคสาม หรือมาตรา 28 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า หลังการสอบปากคำเณรคำเสร็จ ได้นำตัวเข้าห้องขังชั้น 7 โดยมีเจ้าหน้าที่ รปภ.เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อรอนำตัวส่งให้พนักงานอัยการดำเนินคดีส่งฟ้องส่งศาลตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป