นายวิรพล สุขผล ณ เณรคำ เก็บกระเป๋าเตรียมขึ้นเครื่องบิน ถึงเมืองไทยพรุ่งนี้ ห้าทุ่มตรงครับ

กระทู้ข่าว
ท่านใดคิดถึงเชิญครับ

สำหรับคดีอาญาของ ‘เณรคำ’ นั้น อัยการได้รับสำนวนคดีจากดีเอสไอ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 2556 ซึ่งมีเอกสารหลักฐานร่วม 216 หน้า
ประกอบความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ทั้งข้อหาพรากผู้เยาว์, อนาจารผู้เยาว์ และกระทำชำเราผู้เยาว์

นอกจากนี้ ยังมีคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีเจ้าทุกข์ร้องเรียนต่อดีเอสไอกว่า 10 รายด้วยกัน
‘เณรคำ’ ยังโดนคดีฟอกเงินอีกด้วย โดยคดีดังกล่าวอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ทรัพย์สินของนายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก
กับพวกรวม 8 คน หลายรายการรวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

คดีนี้เกิดขึ้นเนื่องจากหลวงปู่เณรคำถูกตั้งข้อกล่าวหา ฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน และพรากผู้เยาว์ ทำให้ดีเอสไอ แจ้งดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับกฎหมายการฟอกเงินด้วย ซึ่งคณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ส่งสำนวนให้อัยการ ยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ประกอบด้วย ที่ดิน บ้าน บัญชีเงินฝาก และรถยนต์ หลายสิบล้านบาท ที่ ปปง.อ้างว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด

และยังมีคดีที่หญิงสาวอ้างว่า เป็นอดีตภรรยาของนายวิรพล หรืออดีตพระวิรพล ยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ
ในคดีแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายและค่าเลี้ยงดูจากนายวิรพล เป็นเงินกว่า 40 ล้านบาทอีกด้วย

สำหรับนายวิรพลหรืออดีตพระเณรคำ เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันอายุ 38 ปี อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ที่วัดศรีนวล ได้ฉายาว่า “พระวิรพล ฉัตติโก” จากนั้นไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เองคือจุดกำเนิดของ “หลวงปู่เณรคำ” สำนักสงฆ์ดังกล่าวตั้งอยู่ในจังหวัดศรีษะเกษ
ซึ่งเรียกกันติดปากว่า “วัดป่าขันติธรรม” โดยสร้างชื่อเป็นพระที่วัตรปฏิบัติเคร่งครัด เดินทางจาริกธุดงค์


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่