อานนท์ ! ส่วนภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ปฏิบัติอย่างนั้นแล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา ว่า
“ถ้าไม่ควรมี และไม่พึงมีแก่เรา, ก็ต้องไม่มีแก่เรา;
สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดมีแล้ว, เราจะละสิ่งนั้นเสีย” ดังนี้.
ภิกษุ (บางรูป) นั้น ย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ
ไม่เมาหมกอยู่ ซึ่งอุเบกขานั้น, เมื่อไม่เพลิดเพลิน
ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมกอยู่ ซึ่งอุเบกขานั้น,
วิญญาณของเธอก็ไม่เป็นธรรมชาติอาศัยซึ่งอุเบกขานั้น
ไม่มีอุเบกขานั้นเป็นอุปาทาน.
อานนท์ !
ภิกษุผู้ไม่มีอุปาทาน ย่อมปรินิพพานแล.
อุปริ. ม. ๑๔/๗๙/๙๑.
นิพพานเพราะไม่ยึดถือธรรมที่ได้บรรลุ(พระสูตร)
เป็นผู้ปฏิบัติอย่างนั้นแล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา ว่า
“ถ้าไม่ควรมี และไม่พึงมีแก่เรา, ก็ต้องไม่มีแก่เรา;
สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดมีแล้ว, เราจะละสิ่งนั้นเสีย” ดังนี้.
ภิกษุ (บางรูป) นั้น ย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ
ไม่เมาหมกอยู่ ซึ่งอุเบกขานั้น, เมื่อไม่เพลิดเพลิน
ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมกอยู่ ซึ่งอุเบกขานั้น,
วิญญาณของเธอก็ไม่เป็นธรรมชาติอาศัยซึ่งอุเบกขานั้น
ไม่มีอุเบกขานั้นเป็นอุปาทาน.
อานนท์ !
ภิกษุผู้ไม่มีอุปาทาน ย่อมปรินิพพานแล.
อุปริ. ม. ๑๔/๗๙/๙๑.