สวัสดีคะ นี่เป็นกระทู้แรกของจขกท. ถ้าผิดพลาดอะไรต้องขอโทษด้วยล่วงหน้าไว้ด้วยคะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Day 2 : 21 June 2017 >> Kawagoe > Ikebukoro >>
https://ppantip.com/topic/36672120
Day 3 : 22 June 2017 >> Kawaguchigo > Shibuya >>
https://ppantip.com/topic/36680610
Day 4 : 23 June 2017 >> Tokyo Disneysea > Ueno >>
https://ppantip.com/topic/36684800
Day 5 : 24 June 2017 >> Tsukiji Fish Market > Imperial palace > Shibuya >>
https://ppantip.com/topic/36705059
Day 6 : 25 June 2017 >> Ginza > Tokyo Station > Harajuku >>
https://ppantip.com/topic/36705828
Day 7-8 : 26-27 June 2017 >> Asakusa > Tokyo Skytree > Akihabara > Narita Airport >>
https://ppantip.com/topic/36711601
มาเริ่มกันเลยดีกว่าา >>> จขกท.กับเพื่อนวางแพลนว่าจะไปเที่ยวหลังจบปี4ในรั้วมหาลัย ซึ่งประเทศที่เราอยากจะไปคือ "ญี่ปุ่น"
และบังเอิญว่าช่วงนั้น แอร์เอเชียมีโปรตั๋วถูกคือ โปร 0 บาท (Airasia Big Sale) จขกท.เลยรีบจองอย่างทันทีทันใด
วันที่เดินทาง : 20 - 27 มิย. 2560
จำนวนผู้เดินทาง : 2 คน
เรทเงินที่แลก : 1 ¥ = 0.3065 ฿
งบ 30,000 ฿ รวมค่าเครื่องบิน + ที่พัก + ค่าเดินทาง + ค่ากินแต่ละวันแบบเต็มที่
การเตรียมตัว
✿ จองตั๋ว : ไป-กลับ 8,030฿ (น้ำหนักกระเป๋าขาไป 20 kg ขากลับ 25 kg) + โปรเสริมที่ซื้อภายหลัง คือ ค่าเลือกที่นั่งขากลับ 400฿,ค่าอาหารขาไป 150฿,ค่าน้ำหนักกระเป๋าขากลับจาก25kg เป็น 30kg 940฿ (รวมเสียทรัพย์เพิ่มอีก 1,490฿)
เวลาเดินทาง : ขาไป 11:15น. ถึงญี่ปุ่น 19:40น. ขากลับ 9:15น. ถึงไทย 13:45น.
Recommend เนื่องจาก จขกท.รีบซื้อตั๋วและเป็นครั้งแรกที่เดินทางไปต่างประเทศเอง ทำให้จขกท.คิดว่า มีความผิดพลาดเรื่องการซื้อตั๋ว คือ เรื่องของเวลาเดินทาง ทำให้เสียวันเที่ยวไป 2 วัน ถ้าเป็นไปได้ การที่จะซื้อตั๋วให้คุ้มค่า ควรซื้อขาไปตอนดึกเพื่อให้ไปถึงที่ญี่ปุ่นตอนเช้าแล้วเที่ยวได้ ส่วนขากลับก็ควรทำแบบเดียวกับขาไป จะได้ประหยัดค่าที่พักมากขึ้น
✿ จองที่พัก : Agoda
1. Centurion Ladies Hostel Ueno Park 6 คืน 6,150฿
2. Nine hours Narita Airport Hotel 1 คืน 1,332฿ (รวมเสียทรัพย์ค่าที่พักทั้งหมด 7,482฿)
✿ จองตั๋ว Highwaybus ไป Kawaguchigo : คนละ 1,095฿ จากเว็บ
https://highway-buses.jp/
✿ เช่า PocketWifi : JAPAN wifi 7 วัน วันละ 130฿ วันที่8 100฿ รวม 1,010฿ + ค่าประกันเครื่องวันละ 40฿ รวม 320฿ + โปรเสริมเน็ตรายวันความเร็วไม่จำกัด 4G วันละ 20฿ รวม 160฿ (เสียทรัพย์ค่า pocketwifi ทั้งหมดคนละ 745฿)
✿ ข้อมูลที่ศึกษาก่อนไป : Pantip,Youtube,หนังสือ
✿ แอปที่ใช้หลักๆ :
วันที่ 1 : เริ่มเดินทางจากดอนเมือง > นาริตะ > Ueno (ที่พัก)
เราสองคนไปที่สนามบินดอนเมือง ขาออกระหว่างประเทศ Terminal 1 แรกๆก็งงว่าจะต้องเข้าทางเคาเตอร์ไหน ทำอะไรยังไงก่อน เราสองคนเลยเดินไปถามเคาเตอร์แอร์เอเชียว่าจะไปญี่ปุ่น พนักงานก็จะบอกว่าต้องไปเช็คอินที่เคาเตอร์ที่เท่าไหร่ ??
Step 1 >> ยกกระเป๋าไปแสกน
Step 2 >> เดินไปเคาเตอร์ airasia ลำดับที่XX ตามที่พนักงานบอก เพื่อโหลดสำภาระลงเครื่อง (ใครเช็คอินมาล่วงหน้าแล้ว จะรวดเร็วมากขึ้น) เมื่อเช็คอินเสร็จ เราก็เดินไปรับ Pocket wifi ที่ Terminal 2 ซึ่งจะมีเคาเตอร์สีส้มๆ อยู่ชั้นล่างสุดของสนามบินดอนเมือง ระหว่างประตู11-12
Step 3 >> เข้าช่องที่เขียนว่า “Thai passport” กรอกรายละเอียดตม.ขาออก แล้วจึงแสกนลายนิ้วมือ ถ่ายภาพ หลังจากนั้นก็ลัลล้าา~เดินไปยัง GATE ที่จะขึ้นเครื่องบิน
อาหารที่จขกท.สั่งมา คือ ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ กับ น้ำเปล่า ถือว่าอร่อยกว่าที่คิด!! รสชาติหวานเนื้อไก่
เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่น : สนามบินนาริตะ Terminal 2 เราผ่านด่านตม.+รับกระเป๋า หลังจากนั้นก็หาทางออกมาชั้นล่างของสนามบินเพื่อมาซื้อตั๋ว Narita Sky Access ในราคา 1,240¥ (อยู่ตรงเคาเตอร์เดียวกับ Narita skyliner) โดย Sky Access ใช้เวลาเข้าเมืองนานกว่า Skyliner แต่Sky Access ราคาตั๋วถูกกว่า!!!
ถึงสถานี "Keisei Ueno" แร้วว~ ก็หาทางออก. หลังจากนั้นเดินไปยังที่พัก ซึ่งไม่ไกลกับสถานี และอยู่ตรงกันข้ามกับ Ueno park บอกได้เลยว่า บรรยากาศคือดีย์ ดึกๆก็ยังมีผู้คน ไม่เปลี่ยวเลย เมื่อเดินมาถึง Centurion Ladies Hostel บอกได้เลยว่า “ที่พักสวยมาก พนักงานพูดภาษาอังกฤษชัดเจน เข้าใจง่าย”
ข้อดี : ที่พักสะอาด เป็นไปตามรูปที่รีวิวในอโกด้าเป๊ะ ภายในแคปซูล มีกระจกและโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆให้ด้วย ดีย์อ่ะแกร๊ !!! นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์ให้ดูพร้อมหูฟัง และที่ดีที่สุดคือ ที่นี่มีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดตัว,แปรงสีฟัน,ยาสีฟัน,ไดร์,ครีมอาบน้ำ,แชมพู,ครีมนวด เป็นต้น เรียกง่ายๆว่า "ไม่ต้องเอาอุปกรณ์อาบน้ำไปเลย" นอกจากนี้ยังสามารถฝากของหลังเช็คเอ้า ได้ถึง 6 โมงเย็น!!
ข้อเสีย : แปรงสีฟันขนาดเล็กไปหน่อย,ล็อคเกอร์เก็บของมีขนาดเล็ก ที่เหลือดีงามทั้งหมด
ก่อนจะพักผ่อนจากการเดินทางในวันแรก เราก็ควรไปสำรวจบริเวณใกล้เคียง และ หาของกินให้อุ่นท้องสักนิด ออกจากที่พักเปิดแอพgoogle map เพื่อหาร้าน Ichiran ramen หรือ "ราเม็งข้อสอบ" สาขาอุเอะโนะเปิด 24Hr. เมื่อมาถึงก็ต่อคิวจร้าา~ โดยระหว่างต่อคิวรอกดตู้อัตโนมัติ จะมีพนักงานให้ใบมากรอกรายละเอียดของราเม็งต้องวงกลม ตามความชอบของเรา
หลังจากนั้นเดินไปสั่งราเม็งผ่านตู้กด พอเสร็จแล้วเมื่อมีที่นั่งว่างพนักงานก็จะมาเรียก รอสักพักก็ได้ราเม็งที่น่ากินน~ เอาคะแนนไปเล๊ยย 10/10 กินช่วงดึกๆอุ่นท้อง อิ่มสบาย รสชาติกลมกล่อม โออิชิม๊ากกก!! (เสียทรัพย์ 890 ¥)
กินของคาวเสร็จ ก็ต้องกินของหวานกันต่อ...เลยแวะ Family Mart ซื้อเยลลี่ผลไม้ พุดดิ้ง น้ำพีช ไปลองชิมซะหน่อย
(เสียทรัพย์ 288 ¥)
สรุปที่อร่อยสุดสำหรับจขกท.คือ.. พุดดิ้งคัสตาร์ด หวานนุ่ม ละมุนลิ้น ส่วนน้ำพีช เหมาะกับคนชอบกลิ่นพีชๆที่ชัดมาก แต่ จขกท.ไม่ชอบกลิ่นพีช เยลลี่ผลไม้ก็ปกติเหมือนเยลลี่ทั่วไป จขกท.ชอบเยลลี่ของยี่ห้อ meiji มากกว่า
--------------------------- รีวิววันแรกหมดเท่านี้ ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีคะทุกคน ---------------------------------------
สรุปยอดค่าใช้จ่าย Day 1 : ค่าเดินทาง 1,240 ¥ ( 380 ฿) ค่ากิน 1,178 ¥ ( 361 ฿)
[CR] *:✿Day 1 : JAPAN 2017 " โตเกียว 8 วันกินอยู่สบาย งบไม่เกิน 30,000 บาท "*✿
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Day 2 : 21 June 2017 >> Kawagoe > Ikebukoro >> https://ppantip.com/topic/36672120
Day 3 : 22 June 2017 >> Kawaguchigo > Shibuya >> https://ppantip.com/topic/36680610
Day 4 : 23 June 2017 >> Tokyo Disneysea > Ueno >> https://ppantip.com/topic/36684800
Day 5 : 24 June 2017 >> Tsukiji Fish Market > Imperial palace > Shibuya >> https://ppantip.com/topic/36705059
Day 6 : 25 June 2017 >> Ginza > Tokyo Station > Harajuku >> https://ppantip.com/topic/36705828
Day 7-8 : 26-27 June 2017 >> Asakusa > Tokyo Skytree > Akihabara > Narita Airport >> https://ppantip.com/topic/36711601
มาเริ่มกันเลยดีกว่าา >>> จขกท.กับเพื่อนวางแพลนว่าจะไปเที่ยวหลังจบปี4ในรั้วมหาลัย ซึ่งประเทศที่เราอยากจะไปคือ "ญี่ปุ่น"
และบังเอิญว่าช่วงนั้น แอร์เอเชียมีโปรตั๋วถูกคือ โปร 0 บาท (Airasia Big Sale) จขกท.เลยรีบจองอย่างทันทีทันใด
วันที่เดินทาง : 20 - 27 มิย. 2560
จำนวนผู้เดินทาง : 2 คน
เรทเงินที่แลก : 1 ¥ = 0.3065 ฿
งบ 30,000 ฿ รวมค่าเครื่องบิน + ที่พัก + ค่าเดินทาง + ค่ากินแต่ละวันแบบเต็มที่
การเตรียมตัว
✿ จองตั๋ว : ไป-กลับ 8,030฿ (น้ำหนักกระเป๋าขาไป 20 kg ขากลับ 25 kg) + โปรเสริมที่ซื้อภายหลัง คือ ค่าเลือกที่นั่งขากลับ 400฿,ค่าอาหารขาไป 150฿,ค่าน้ำหนักกระเป๋าขากลับจาก25kg เป็น 30kg 940฿ (รวมเสียทรัพย์เพิ่มอีก 1,490฿)
เวลาเดินทาง : ขาไป 11:15น. ถึงญี่ปุ่น 19:40น. ขากลับ 9:15น. ถึงไทย 13:45น.
Recommend เนื่องจาก จขกท.รีบซื้อตั๋วและเป็นครั้งแรกที่เดินทางไปต่างประเทศเอง ทำให้จขกท.คิดว่า มีความผิดพลาดเรื่องการซื้อตั๋ว คือ เรื่องของเวลาเดินทาง ทำให้เสียวันเที่ยวไป 2 วัน ถ้าเป็นไปได้ การที่จะซื้อตั๋วให้คุ้มค่า ควรซื้อขาไปตอนดึกเพื่อให้ไปถึงที่ญี่ปุ่นตอนเช้าแล้วเที่ยวได้ ส่วนขากลับก็ควรทำแบบเดียวกับขาไป จะได้ประหยัดค่าที่พักมากขึ้น
✿ จองที่พัก : Agoda
1. Centurion Ladies Hostel Ueno Park 6 คืน 6,150฿
2. Nine hours Narita Airport Hotel 1 คืน 1,332฿ (รวมเสียทรัพย์ค่าที่พักทั้งหมด 7,482฿)
✿ จองตั๋ว Highwaybus ไป Kawaguchigo : คนละ 1,095฿ จากเว็บ https://highway-buses.jp/
✿ เช่า PocketWifi : JAPAN wifi 7 วัน วันละ 130฿ วันที่8 100฿ รวม 1,010฿ + ค่าประกันเครื่องวันละ 40฿ รวม 320฿ + โปรเสริมเน็ตรายวันความเร็วไม่จำกัด 4G วันละ 20฿ รวม 160฿ (เสียทรัพย์ค่า pocketwifi ทั้งหมดคนละ 745฿)
✿ ข้อมูลที่ศึกษาก่อนไป : Pantip,Youtube,หนังสือ
✿ แอปที่ใช้หลักๆ :
วันที่ 1 : เริ่มเดินทางจากดอนเมือง > นาริตะ > Ueno (ที่พัก)
เราสองคนไปที่สนามบินดอนเมือง ขาออกระหว่างประเทศ Terminal 1 แรกๆก็งงว่าจะต้องเข้าทางเคาเตอร์ไหน ทำอะไรยังไงก่อน เราสองคนเลยเดินไปถามเคาเตอร์แอร์เอเชียว่าจะไปญี่ปุ่น พนักงานก็จะบอกว่าต้องไปเช็คอินที่เคาเตอร์ที่เท่าไหร่ ??
Step 1 >> ยกกระเป๋าไปแสกน
Step 2 >> เดินไปเคาเตอร์ airasia ลำดับที่XX ตามที่พนักงานบอก เพื่อโหลดสำภาระลงเครื่อง (ใครเช็คอินมาล่วงหน้าแล้ว จะรวดเร็วมากขึ้น) เมื่อเช็คอินเสร็จ เราก็เดินไปรับ Pocket wifi ที่ Terminal 2 ซึ่งจะมีเคาเตอร์สีส้มๆ อยู่ชั้นล่างสุดของสนามบินดอนเมือง ระหว่างประตู11-12
Step 3 >> เข้าช่องที่เขียนว่า “Thai passport” กรอกรายละเอียดตม.ขาออก แล้วจึงแสกนลายนิ้วมือ ถ่ายภาพ หลังจากนั้นก็ลัลล้าา~เดินไปยัง GATE ที่จะขึ้นเครื่องบิน
เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่น : สนามบินนาริตะ Terminal 2 เราผ่านด่านตม.+รับกระเป๋า หลังจากนั้นก็หาทางออกมาชั้นล่างของสนามบินเพื่อมาซื้อตั๋ว Narita Sky Access ในราคา 1,240¥ (อยู่ตรงเคาเตอร์เดียวกับ Narita skyliner) โดย Sky Access ใช้เวลาเข้าเมืองนานกว่า Skyliner แต่Sky Access ราคาตั๋วถูกกว่า!!!
ถึงสถานี "Keisei Ueno" แร้วว~ ก็หาทางออก. หลังจากนั้นเดินไปยังที่พัก ซึ่งไม่ไกลกับสถานี และอยู่ตรงกันข้ามกับ Ueno park บอกได้เลยว่า บรรยากาศคือดีย์ ดึกๆก็ยังมีผู้คน ไม่เปลี่ยวเลย เมื่อเดินมาถึง Centurion Ladies Hostel บอกได้เลยว่า “ที่พักสวยมาก พนักงานพูดภาษาอังกฤษชัดเจน เข้าใจง่าย”
ข้อดี : ที่พักสะอาด เป็นไปตามรูปที่รีวิวในอโกด้าเป๊ะ ภายในแคปซูล มีกระจกและโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆให้ด้วย ดีย์อ่ะแกร๊ !!! นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์ให้ดูพร้อมหูฟัง และที่ดีที่สุดคือ ที่นี่มีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดตัว,แปรงสีฟัน,ยาสีฟัน,ไดร์,ครีมอาบน้ำ,แชมพู,ครีมนวด เป็นต้น เรียกง่ายๆว่า "ไม่ต้องเอาอุปกรณ์อาบน้ำไปเลย" นอกจากนี้ยังสามารถฝากของหลังเช็คเอ้า ได้ถึง 6 โมงเย็น!!
ข้อเสีย : แปรงสีฟันขนาดเล็กไปหน่อย,ล็อคเกอร์เก็บของมีขนาดเล็ก ที่เหลือดีงามทั้งหมด
ก่อนจะพักผ่อนจากการเดินทางในวันแรก เราก็ควรไปสำรวจบริเวณใกล้เคียง และ หาของกินให้อุ่นท้องสักนิด ออกจากที่พักเปิดแอพgoogle map เพื่อหาร้าน Ichiran ramen หรือ "ราเม็งข้อสอบ" สาขาอุเอะโนะเปิด 24Hr. เมื่อมาถึงก็ต่อคิวจร้าา~ โดยระหว่างต่อคิวรอกดตู้อัตโนมัติ จะมีพนักงานให้ใบมากรอกรายละเอียดของราเม็งต้องวงกลม ตามความชอบของเรา
หลังจากนั้นเดินไปสั่งราเม็งผ่านตู้กด พอเสร็จแล้วเมื่อมีที่นั่งว่างพนักงานก็จะมาเรียก รอสักพักก็ได้ราเม็งที่น่ากินน~ เอาคะแนนไปเล๊ยย 10/10 กินช่วงดึกๆอุ่นท้อง อิ่มสบาย รสชาติกลมกล่อม โออิชิม๊ากกก!! (เสียทรัพย์ 890 ¥)
กินของคาวเสร็จ ก็ต้องกินของหวานกันต่อ...เลยแวะ Family Mart ซื้อเยลลี่ผลไม้ พุดดิ้ง น้ำพีช ไปลองชิมซะหน่อย
(เสียทรัพย์ 288 ¥)
สรุปที่อร่อยสุดสำหรับจขกท.คือ.. พุดดิ้งคัสตาร์ด หวานนุ่ม ละมุนลิ้น ส่วนน้ำพีช เหมาะกับคนชอบกลิ่นพีชๆที่ชัดมาก แต่ จขกท.ไม่ชอบกลิ่นพีช เยลลี่ผลไม้ก็ปกติเหมือนเยลลี่ทั่วไป จขกท.ชอบเยลลี่ของยี่ห้อ meiji มากกว่า