วันนี้เราจะมาบุกแหล่งของน่ารักๆและมาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน ∩ω∩
Day 1 : 20 June 2017 >> เริ่มเดินทางจากดอนเมือง > นาริตะ > Ueno (ที่พัก) >>
https://ppantip.com/topic/36669145
Day 2 : 21 June 2017 >> Kawagoe > Ikebukoro >>
https://ppantip.com/topic/36672120
Day 3 : 22 June 2017 >> Kawaguchigo > Shibuya >>
https://ppantip.com/topic/36680610
Day 4 : 23 June 2017 >> Tokyo Disneysea > Ueno >>
https://ppantip.com/topic/36684800
Day 5 : 24 June 2017 >> Tsukiji Fish Market > Imperial palace > Shibuya >>
https://ppantip.com/topic/36705059
Day 7-8 : 26-27 June 2017 >> Asakusa > Tokyo Skytree > Akihabara > Narita Airport >>
https://ppantip.com/topic/36711601
-----------------------------------------------------------------------------
วันที่ 6 : Ginza > Tokyo Station > Harajuku
8:30น. วันนี้ตอนเช้ามีฝนตก ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของเราสองคนล่าช้ากว่าปกติ จากที่พักเดินไป Tokyo station (ใช้บัตร Suica)
สถานีต้นทาง : Ueno (G16) ใช้สาย Tokyo metro Ginza line Shibuya เวลาเดินทาง 11 นาที (ราคา 170¥)
สถานีปลายทาง : Ginza (G9)
8:41น. ถึงสถานีกินซ่า...ฝนหยุดตกแล้ว อากาศชื้นๆ แต่ลมเย็นสบายย มาถึงก็ถ่ายรูปหอนาฬิกา Seiko (อยู่ตรงห้าง Wako Department Store) เก็บไว้เป็นที่ระลึก ว่านี่คือมาถึง Ginza แล้ว 55+
ถ่ายรูปเสร็จก็รู้สึกได้ถึงเสียงท้องเรียกร้องความสนใจให้หาอาหารเช้ากิน เราจึงเดินหาร้านอาหารบนถนน Chuo-dori Street แม้ว่าในใจลึกๆจะไม่อยากหาอะไรกินแถวนี้ก็ตาม.. เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ค่ะ!! แถวนี้เป็นแบรนด์เนมทั้งหมด ดั้งนั้นราคาอาหารที่นี่อาจจะสูงกว่าปกติ ..แต่คือหิวมาก ก็ต้องยอมจำนนต่อกระเพาะ
ร้านแรกในมื้อเช้า คือ “
คิมุระยะ” ชั้นด้านล่างเป็นเบเกอรี่ที่หอมมมากก ซึ่งเราพึ่งรู้ว่า เบเกอรี่ของร้านนี้ดังและเป็นต้นตำรับขนมปังของญี่ปุ่น แต่เรารีบเดินผ่านและขึ้นไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็น คาเฟ่ กริลล์ เรสเตอรอง ของร้านคิมุระยะ เราสองคนสั่ง ข้าวห่อไข่คนละจาน แต่ที่พิเศษอีกอย่างคือ ที่นี่มีขนมปังมาเสริฟให้เราเลือกกินฟรี ซึ่งบอกกได้คำเดียวว่า อร่อยมาก หวานกำลังดี กลิ่นหอมสุดๆ นอกจากนี้ เรายังสามารถมองวิว ถนน Chuo-dori Street ได้ชัดเจนด้วย (เสียทรัพย์ 1,700¥)
ร้านคิมุระยะ
ข้าวห่อไข่ รสชาติเปรี้ยวหวาน แต่ถ้าคนไม่ชอบไข่แบบออมเลตอาจเลี่ยนได้
กินอิ่มก็เดินย่อยกันต่อ.. เราแวะร้านเครื่องเขียน
Itoya เพื่อดูโปสการ์ด ซองจดหมายสวยๆ ไว้ซื้อเป็นของฝาก รวมถึงงานแฮนเมดต่างๆที่นี่ก็สวย แถมที่นี่ยังมีหลายชั้น จนเดินกันเมื่อยเลยค่ะ
ซื้อของเสร็จก็..เดินทางต่อไปยังสถานที่ถัดไป คือ “
Tokyo Station”…
สถานีต้นทาง : Ginza (M16) ใช้สาย Tokyo metro Marunouchi Line for Ikebukoro เวลาเดินทาง 3 นาที (ราคา 170¥)
สถานีปลายทาง : Tokyo (M17) ออกทาง Yaesu North Exit For Nihombashi ลงบันไดเลี้ยวซ้าย เจอสามแยกเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ทะลุร้าน Rilakkuma เจอ Tokyo Character Street
Tokyo Character Street >> แหล่งรวมการ์ตูน น่ารักๆ ของกระจุกกระจิก มีทั้ง Kitty, Rilakkuma , Pokemon , Nameko , Miffy , Snoopy and friends , Ultraman เป็นต้น
แต่ร้านที่ทำให้เราสองคนหมกมุ่นมากที่สุดคือ.. “Sirotan” แมวน้ำที่ใส่ชุดต่างๆกันตามเทศกาล มันน่ารักมากจริงๆ ... เราเลยกดกาชาปองแมวน้ำไปคนละ 2 ลูก
ได้ช็อปของน่ารักๆ ให้รู้สึกฟินๆแล้ว..ก็ไปถ่ายรูป สถานีโตเกียวกัน >0<
เป็นสถานีที่เก่าแก่ แต่สวยงามมากจริงๆ
หลังจากชื่นชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว.. ได้เวลาหาแหล่งช็อปและแหล่งสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือ “
Harajuku”
สถานีต้นทาง : JR Tokyo station ใช้สาย Yamanote Line for Shibuya/Shinjuku เวลาเดินทาง 28 นาที (ราคา 200¥)
สถานีปลายทาง : Harajuku Station
ถึง Harajuku.. เราก็ควรเริ่มต้นกันด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคล เพื่อให้ชีวิตมีแต่สิ่งดีๆ ที่นั่นคือ
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)
เห็นแค่ทางเข้า..ความรู้สึกแรกคือ ดูเหมือนศาลเจ้าอื่นๆ แต่พอเริ่มเดินเข้าไปข้างใน...บอกได้เลยว่า เหมือนอยู่คนละโลกกับก่อนหน้านี้ ข้างในอากาศเย็นบริสุทธิ์ สองข้างทางล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ร่มเย็น สบายใจ มีความสุข เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนสักครั้ง...
ไหว้พระ ทำนายเซียมซี อิ่มบุญกันแล้ว..ได้เวลาอิ่มท้องต่อ ที่ Harajuku ร้านที่เราคัดสรรมาแล้วว่าต้องอร่อย (ที่มาก็คือ พันทิป 55) คือ “
kyushu jangara ramen” บอกเลยว่า..ร้านนี้คนแน่นตลอด ต้องต่อคิวนะจ๊ะ (เสียทรัพย์ 1,080¥)
เซต 1-A รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม หวานมันหมู
กินเสร็จ ได้เวลาเดินแหล่งช็อปปิ้งยามเย็นของเรา... “
Takeshita street” ถนนแห่งแฟชั่นของญี่ปุ่นที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารสำหรับวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน เสื้อผ้าแฟชั่นมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ แต่พอเดินๆไป เพื่อนๆจะสังเกตและรู้สึกเหมือนเราสองคนว่า ... นี่คือประเทศญี่ปุ่นรึเปล่า ?? นึกว่าอยู่เกาหลี !! เพราะคนที่เดินบนถนนเส้นนี้ ร้อยละ 80 ส่วนใหญ่ได้ยินแต่สำเนียงเกาหลี จนตอนเดินก็คิดว่านี่มาผิดประเทศรึเปล่า 55
เราแวะร้าน Daiso ได้ของมาหลายชิ้นแต่ก็ไม่มาก..จนรู้สึกเสียดายว่าของบางอย่างที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ น่าจะมาซื้อที่ Daiso เพราะราคาถูก แถมมีให้เลือกเยอะจนตาลาย.. แต่ด้วยความที่ งบช็อปเราจะหมดแล้ว เลยต้องตัดใจเลือกเฉพาะสิ่งที่ชอบจริงๆ (╥﹏╥)
หลังจากนั้นก็แวะ Matsumoto Kiyoshi ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงลดราคาเครื่องสำอาง Kate ... รออะไรหล่ะจ้ะ..ควักเงินเลยสิ 55+ ร้านนี้สามารถขอ Tax Refund ได้นร้า ~ อย่าลืม!!
แล้วเราก็เจอ ร้านของหวานที่เป็นเป้าหมายอีกหนึ่งสิ่งในวันนี้ “เครปเย็น” >> “
Marion crepes” จัดไปจร้า~ อย่าได้แคร์น้ำหนัก ที่กำลังขึ้นอย่างรวดเร็วว (¯▽¯;)
รสชาติปกติเหมือนเครปเย็นทั่วไป (เสียทรัพย์ 600¥)
แต่มีร้านเครปที่น่าตา น่ากินมากก ซึ่งเราไม่ได้ลองชิม คือ ร้านฝั่งตรงข้ามกัน >> angel crepes
เสร็จสิ้นภารกิจของวันนี้ ได้เวลาหอบร่างกาย กลับที่พักค่ะ
สถานีต้นทาง : JR Harajuku Station ใช้สาย Yamanote Line for Shinjuku/Ikebukoro เวลาเดินทาง 30 นาที (ราคา 200¥)
สถานีปลายทาง : Ueno Station
------------------------------------------------ おやすみなさい。--------------------------------------------------------
สรุปยอดค่าใช้จ่าย Day 6 : ค่าเดินทาง 570 ¥ (174 ฿) ค่ากิน 3,380 ¥ (1,035 ฿)
[CR] *:✿Day 6 : JAPAN 2017 " โตเกียว 8 วันกินอยู่สบาย งบไม่เกิน 30,000 บาท "*✿
Day 1 : 20 June 2017 >> เริ่มเดินทางจากดอนเมือง > นาริตะ > Ueno (ที่พัก) >> https://ppantip.com/topic/36669145
Day 2 : 21 June 2017 >> Kawagoe > Ikebukoro >> https://ppantip.com/topic/36672120
Day 3 : 22 June 2017 >> Kawaguchigo > Shibuya >> https://ppantip.com/topic/36680610
Day 4 : 23 June 2017 >> Tokyo Disneysea > Ueno >> https://ppantip.com/topic/36684800
Day 5 : 24 June 2017 >> Tsukiji Fish Market > Imperial palace > Shibuya >> https://ppantip.com/topic/36705059
Day 7-8 : 26-27 June 2017 >> Asakusa > Tokyo Skytree > Akihabara > Narita Airport >> https://ppantip.com/topic/36711601
วันที่ 6 : Ginza > Tokyo Station > Harajuku
8:30น. วันนี้ตอนเช้ามีฝนตก ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของเราสองคนล่าช้ากว่าปกติ จากที่พักเดินไป Tokyo station (ใช้บัตร Suica)
สถานีต้นทาง : Ueno (G16) ใช้สาย Tokyo metro Ginza line Shibuya เวลาเดินทาง 11 นาที (ราคา 170¥)
สถานีปลายทาง : Ginza (G9)
8:41น. ถึงสถานีกินซ่า...ฝนหยุดตกแล้ว อากาศชื้นๆ แต่ลมเย็นสบายย มาถึงก็ถ่ายรูปหอนาฬิกา Seiko (อยู่ตรงห้าง Wako Department Store) เก็บไว้เป็นที่ระลึก ว่านี่คือมาถึง Ginza แล้ว 55+
ถ่ายรูปเสร็จก็รู้สึกได้ถึงเสียงท้องเรียกร้องความสนใจให้หาอาหารเช้ากิน เราจึงเดินหาร้านอาหารบนถนน Chuo-dori Street แม้ว่าในใจลึกๆจะไม่อยากหาอะไรกินแถวนี้ก็ตาม.. เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ค่ะ!! แถวนี้เป็นแบรนด์เนมทั้งหมด ดั้งนั้นราคาอาหารที่นี่อาจจะสูงกว่าปกติ ..แต่คือหิวมาก ก็ต้องยอมจำนนต่อกระเพาะ
ร้านแรกในมื้อเช้า คือ “คิมุระยะ” ชั้นด้านล่างเป็นเบเกอรี่ที่หอมมมากก ซึ่งเราพึ่งรู้ว่า เบเกอรี่ของร้านนี้ดังและเป็นต้นตำรับขนมปังของญี่ปุ่น แต่เรารีบเดินผ่านและขึ้นไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็น คาเฟ่ กริลล์ เรสเตอรอง ของร้านคิมุระยะ เราสองคนสั่ง ข้าวห่อไข่คนละจาน แต่ที่พิเศษอีกอย่างคือ ที่นี่มีขนมปังมาเสริฟให้เราเลือกกินฟรี ซึ่งบอกกได้คำเดียวว่า อร่อยมาก หวานกำลังดี กลิ่นหอมสุดๆ นอกจากนี้ เรายังสามารถมองวิว ถนน Chuo-dori Street ได้ชัดเจนด้วย (เสียทรัพย์ 1,700¥)
กินอิ่มก็เดินย่อยกันต่อ.. เราแวะร้านเครื่องเขียน Itoya เพื่อดูโปสการ์ด ซองจดหมายสวยๆ ไว้ซื้อเป็นของฝาก รวมถึงงานแฮนเมดต่างๆที่นี่ก็สวย แถมที่นี่ยังมีหลายชั้น จนเดินกันเมื่อยเลยค่ะ
ซื้อของเสร็จก็..เดินทางต่อไปยังสถานที่ถัดไป คือ “Tokyo Station”…
สถานีต้นทาง : Ginza (M16) ใช้สาย Tokyo metro Marunouchi Line for Ikebukoro เวลาเดินทาง 3 นาที (ราคา 170¥)
สถานีปลายทาง : Tokyo (M17) ออกทาง Yaesu North Exit For Nihombashi ลงบันไดเลี้ยวซ้าย เจอสามแยกเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ทะลุร้าน Rilakkuma เจอ Tokyo Character Street
Tokyo Character Street >> แหล่งรวมการ์ตูน น่ารักๆ ของกระจุกกระจิก มีทั้ง Kitty, Rilakkuma , Pokemon , Nameko , Miffy , Snoopy and friends , Ultraman เป็นต้น
แต่ร้านที่ทำให้เราสองคนหมกมุ่นมากที่สุดคือ.. “Sirotan” แมวน้ำที่ใส่ชุดต่างๆกันตามเทศกาล มันน่ารักมากจริงๆ ... เราเลยกดกาชาปองแมวน้ำไปคนละ 2 ลูก
ได้ช็อปของน่ารักๆ ให้รู้สึกฟินๆแล้ว..ก็ไปถ่ายรูป สถานีโตเกียวกัน >0<
หลังจากชื่นชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว.. ได้เวลาหาแหล่งช็อปและแหล่งสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือ “Harajuku”
สถานีต้นทาง : JR Tokyo station ใช้สาย Yamanote Line for Shibuya/Shinjuku เวลาเดินทาง 28 นาที (ราคา 200¥)
สถานีปลายทาง : Harajuku Station
ถึง Harajuku.. เราก็ควรเริ่มต้นกันด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคล เพื่อให้ชีวิตมีแต่สิ่งดีๆ ที่นั่นคือ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)
เห็นแค่ทางเข้า..ความรู้สึกแรกคือ ดูเหมือนศาลเจ้าอื่นๆ แต่พอเริ่มเดินเข้าไปข้างใน...บอกได้เลยว่า เหมือนอยู่คนละโลกกับก่อนหน้านี้ ข้างในอากาศเย็นบริสุทธิ์ สองข้างทางล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ร่มเย็น สบายใจ มีความสุข เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนสักครั้ง...
ไหว้พระ ทำนายเซียมซี อิ่มบุญกันแล้ว..ได้เวลาอิ่มท้องต่อ ที่ Harajuku ร้านที่เราคัดสรรมาแล้วว่าต้องอร่อย (ที่มาก็คือ พันทิป 55) คือ “kyushu jangara ramen” บอกเลยว่า..ร้านนี้คนแน่นตลอด ต้องต่อคิวนะจ๊ะ (เสียทรัพย์ 1,080¥)
กินเสร็จ ได้เวลาเดินแหล่งช็อปปิ้งยามเย็นของเรา... “Takeshita street” ถนนแห่งแฟชั่นของญี่ปุ่นที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารสำหรับวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน เสื้อผ้าแฟชั่นมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ แต่พอเดินๆไป เพื่อนๆจะสังเกตและรู้สึกเหมือนเราสองคนว่า ... นี่คือประเทศญี่ปุ่นรึเปล่า ?? นึกว่าอยู่เกาหลี !! เพราะคนที่เดินบนถนนเส้นนี้ ร้อยละ 80 ส่วนใหญ่ได้ยินแต่สำเนียงเกาหลี จนตอนเดินก็คิดว่านี่มาผิดประเทศรึเปล่า 55
เราแวะร้าน Daiso ได้ของมาหลายชิ้นแต่ก็ไม่มาก..จนรู้สึกเสียดายว่าของบางอย่างที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ น่าจะมาซื้อที่ Daiso เพราะราคาถูก แถมมีให้เลือกเยอะจนตาลาย.. แต่ด้วยความที่ งบช็อปเราจะหมดแล้ว เลยต้องตัดใจเลือกเฉพาะสิ่งที่ชอบจริงๆ (╥﹏╥)
หลังจากนั้นก็แวะ Matsumoto Kiyoshi ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงลดราคาเครื่องสำอาง Kate ... รออะไรหล่ะจ้ะ..ควักเงินเลยสิ 55+ ร้านนี้สามารถขอ Tax Refund ได้นร้า ~ อย่าลืม!!
แล้วเราก็เจอ ร้านของหวานที่เป็นเป้าหมายอีกหนึ่งสิ่งในวันนี้ “เครปเย็น” >> “Marion crepes” จัดไปจร้า~ อย่าได้แคร์น้ำหนัก ที่กำลังขึ้นอย่างรวดเร็วว (¯▽¯;)
แต่มีร้านเครปที่น่าตา น่ากินมากก ซึ่งเราไม่ได้ลองชิม คือ ร้านฝั่งตรงข้ามกัน >> angel crepes
สถานีต้นทาง : JR Harajuku Station ใช้สาย Yamanote Line for Shinjuku/Ikebukoro เวลาเดินทาง 30 นาที (ราคา 200¥)
สถานีปลายทาง : Ueno Station