<<< ปล่อยตัว 'นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี'1ในผู้ผลักดัน 30บาทรักษาทุกโรค ได้พักโทษชั่วคราว>>>

กระทู้คำถาม
เข้าเกณฑ์พักโทษหลังได้รับการลดวันต้องโทษ 2 เดือน แต่ต้องรายงานตัวจนกว่าจะครบกำหนดโทษ

วันนี้ (5 ก.ค.)นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้รับเอกสารการปล่อยตัว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ "หมอเลี้ยบ" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศเนื่องจากได้รับการพิจารณาพักการลงโทษ เพราะถือว่าเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม โดยนพ.สุรพงษ์ ได้รับการพิจารณาลดวันต้องโทษและพักการลงโทษตามระเบีบบกรมราชทัณฑ์ เมื่อเอกสารมาถึงเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจเอกสารตามขั้นตอน และปล่อยตัว น.พ.สุรพงษ์ออกไปจากเรือนจำเมื่อเวลา 18.00 น. วานนี (4ก.ค.)

สำหรับ นพ.สุรพงษ์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาใน คดีหมายเลขดำ อม.66/2558 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.สุรพงษ์ อดีต รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ต่อมาศาลฎีกาฯ ได้อ่านคำพิพากษา จำคุก นพ.สุรพงษ์ เป็นเวลา 1 ปีไม่รอลงอาญา หลังศาลฎีกาฯอ่านคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัว นพ.สุรพงษ์ เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2559

"หมอเลี้ยบ" กับการเป็นหนึ่งในผู้ผลักดัน 30 บาทรักษาทุกโรค

นพ.สุรพงษ์ หรือ "หมอเลี้ยบ" ที่สื่อมวลชนรู้จักนั้นเคยรับราชการเป็นอาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยคณบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนการบริหารโรงพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และในสมัยเป็นนักศึกษาถือว่าเป็นนักกิจกรรมในรุ่น 6 ตุลาฯ2519 เมื่อสมัยเป็นนักศึกษาแพทย์


ผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ของ นพ.สุรพงษ์คือ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุขในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ก่อนที่จะขยับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีฯ แต่ที่เป็นที่จดจำคือเป็นกำลังสำคัญในการร่วมผลักดันนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค

สำนักข่าว HFocus เคยสัมภาษณ์ถึงต้นกำเนิดโดยนพ.สุรพงษ์ ย้อนความกลับไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2544 หลังจากที่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง เมื่อได้เจอกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ดร.ทักษิณก็บอกเลยว่า “หมอเตรียมทำ 30 บาท” เพราะโครงการดังกล่าวเป็น 1 ใน 3 นโยบายที่ประกาศต่อประชาชนระหว่างหาเสียง

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าเป็น passion ของท่าน เพราะตั้งแต่เสนอโครงการนี้ขึ้นมา เวลาท่านไปที่ไหนท่านจะพูดแต่เรื่อง 30 บาท ไปที่ประชุมที่ไม่ใช่การปราศรัยหาเสียงก็พูดเรื่อง 30 บาท และพูดอยู่เสมอว่านี่คือความตั้งใจ ความฝันที่อยากทำให้สำเร็จ”  โดยทางนพ.สุรพงษ์ ได้ชักชวนนพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ตามหลักปรัชญา "เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข" ทำให้ประชาชนเข้าถึงการบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำระหว่าง "คนจน" และ "คนรวย" ถือเป็นการปฏิรูประบบสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก จนได้รับเสียงชื่นชมว่าไทยเป็นประเทศทีมีสวัสดิการสาธารณสุขที่ดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก


http://news.voicetv.co.th/thailand/504901.html

ยินดีกับหมอเลี๊ยบด้วย โอปป้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่