คิงพาวเวอร์แถลงเปิดตัว “OHL” ทีมลีกเบลเยี่ยม,เพิ่มโอกาสแข้งไทยลุยลีกยุโรป

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ณ โรงแรมพูลแมน ได้มีการเปิดโครงการ “King Power Thai Power พลังคนไทย” เพื่อพัฒนานักกีฬาฟุตบอลไทยทุกระดับ โดยเริ่มโครงการแรก คือ การมุ่งเน้นส่งเสริมเยาวชนไทยในด้านฟุตบอลในทุกภูมิภาคของประเทศไทย

โดยงานในครั้งนี้มี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมเปิดงาน พร้อมด้วย คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ผมในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต้องขอขอบคุณ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และคุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ทำให้มีโครงการดีๆ เกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลไทย”

“อย่างที่ผมพูดเสมอนะครับว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่สามารถพัฒนาฟุตบอลให้มีความเป็นเลิศได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงแฟนฟุตบอลชาวไทย พี่น้องสื่อมวลชน ทุกอย่างล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในพัฒนาวงการฟุตบอลของประเทศไทย”

“วันนี้สิ่งที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ทำ ถือว่าเป็นการสร้างคุณประโยชน์ให้กับวงการฟุตบอลไทยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากการเป็นเจ้าของทีม เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ทำให้ทั่วโลกรู้จักประเทศไทยแล้ว คิง เพาเวอร์ ยังสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาฟุตบอล โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งถ้าเราไม่พัฒนาเด็กและเยาวชน วันข้างหน้าเราจะไม่มีทรัพยากรทางกีฬามาต่อยอดความสำเร็จในอนาคต”

“สิ่งที่ทาง คิง เพาเวอร์ ทำเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชน มีความหวังในการเล่นฟุตบอลที่ตัวเองรัก และมีโอกาสไปเล่นในต่างประเทศ”

“หากเยาวชนของไทย สามารถไปเล่นหรือฝึกฟุตบอลในต่างประเทศ และเมื่อเขากลับมาเล่นในประเทศไทย จะเป็นการต่อยอดให้กับทีมชาติไทย และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย”

“ต้องขอชื่นชมในวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของ กลุ่ม คิง เพาเวอร์ นะครับ เพราะทุกอย่างที่ คิง เพาเวอร์ ได้ทำ ล้วนเกิดประโยชน์แก่ฟุตบอลไทยทั้งสิ้น นอกจากนี้ในอนาคตเราก็มีโอกาสเห็นคนไทยไปค้าแข้งในลีกของประเทศเบลเยี่ยม ซึ่ง กลุ่ม คิง เพาเวอร์ ได้ไปซื้อสโมสรเอาด์ เฮเวเลย์ เลอเวิน (Oud-Heverlee Leuven หรือ OHL) ในเบลเยี่ยมแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะมีนักเตะไทยจะไปเล่นอยู่ที่นั่น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้กับวงการฟุตบอลไทย และทีมชาติไทยในอนาคต”

“นอกจากนี้ทาง คิง เพาเวอร์ ยังเตรียมที่จะสร้างสนามฟุตบอล 7 คน มอบให้โรงเรียนทั่วประเทศไทย 100 สนาม ภายใน 5 ปี และมอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูก นี่ก็เป็นการสร้างหรือปูพื้นฐานสำหรับการเล่นฟุตบอลของเด็กๆ ซึ่งตรงกับโครงการของสมาคมฯ และ เอเอฟซี นะครับ”

“สนามฟุตบอล 7 คน สำคัญมาก หากท่านใดศึกษาประวัติของนักกีฬาระดับโลก อาทิ คริสเตียโน โรนัลโด, ลีโอเนล เมสซี, เนย์มาร์ และ อันเดรส อิเนียสต้า ล้วนแจ้งเกิดจากการแข่งขันในสนามฟุตบอล 7 คนแทบทั้งสิ้น ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่ดีของกลุ่ม คิง เพาเวอร์ ที่มองเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาฟุตบอลอยากแท้จริงครับ”

สำหรับ “King Power Thai Power” มีโครงการต่างๆ ในการพัฒนาฟุตบอลไทย อย่างต่อเนื่อง อาทิ Fox Hunt รุ่นที่ 1 ที่มีนักเตะไทย ร่วมโครงการดังนี้ กัณตพัชห์ มันปาติ, จักรกฤษณ์ วิเศษรัตน์, ธวัชชัย คำมุงคุณ,ณัฐชนน สร้อยจิตร, วรภพ ทวีสุข, อภิวิชญ์ ทราบรัมย์,พัสกร เชาวนะ, อนันต์ สุรัตนศิลป,อนนต์ สมากร, ฐาป์นพัต วงศ์เพ็ชรพูน, จิรัฐติกาล วาพิลัย, ธาวิน มหจินดาวงษ์, สมประสงค์ พรมศร, ราชัน ประสิทธิทอง,ภูวนาถ คำแก้ว และภควัตร เมฆวัน

นอกจากนี้ยังมีโครงการ Leicester City Football Clinic, King Power’s Cup, โครงการสานฝันน้องพี สู่นักบอลอาชีพ, โครงการฮีโร่สานฝันปันรักเพื่อน้อง 5 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นต้น


เครดิตข่าว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่